ปัญหาสุขภาพเป็นเรื่องที่ไม่เข้าใครออกใครจริงๆ นะคะ ทุกวันนี้เราเห็นข่าวคนดังเป็นโรคต่างๆ กันเยอะมาก แต่ส่วนใหญ่ก็จะรักษาได้ทัน เหตุผลหนึ่งเป็นเพราะว่าเค้าตรวจสุขภาพกันเป็นประจำค่ะ เลยทำให้เจอความผิดปกติเร็วและรักษาหายได้
เราเองก็เป็นคนนึงที่ตรวจสุขภาพเป็นประจำทุกปี ยิ่งตอนนี้ที่อายุเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ก็ยิ่งต้องคอยเช็กอัพกันอยู่ตลอด โดยปีนี้เราก็เลือกมาตรวจสุขภาพ ที่ โรงพยาบาลเจ้าพระยาค่ะ
ด้วยความที่เกิดและโตมากับโรงพยาบาลเจ้าพระยา ครอบครัวของเราเองก็ใช้บริการกับที่นี่มาตลอด พอนึกถึงเรื่องสุขภาพ แน่นอนว่าเราก็ต้องนึกถึงที่นี่อยู่แล้ว
โดยโปรแกรมตรวจสุขภาพที่เราเลือกใช้บริการในครั้งนี้ก็คือ Smile Healthy Program ค่ะ ซึ่งมีรายการตรวจถึง 22 รายการ ถือว่าเป็นโปรแกรมที่ตอบโจทย์กับเราสุดๆ ตรวจทีนึงเอาให้ครบจัดเต็มไปเลยค่ะ
สารบัญ
การเตรียมตัวก่อนตรวจสุขภาพ
ก่อนที่จะเข้าไปตรวจสุขภาพ เราก็ต้องเตรียมตัวให้พร้อมด้วยการงดน้ำและอาหารอย่างน้อยประมาณ 8 ชั่วโมง งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อย่างน้อย 24 ชั่วโมงก่อนตรวจ นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ และสำหรับผู้หญิงก็แนะนำให้ตรวจสุขภาพหลังจากหมดประจำเดือนไปแล้วอย่างน้อย 7 วัน รวมถึงใครที่สงสัยว่าจะตั้งครรภ์ก็ควรแจ้งให้เจ้าหน้าที่ทราบก่อนด้วยนะคะ
รีวิวตรวจสุขภาพ 22 รายการ ที่ โรงพยาบาลเจ้าพระยา
สำหรับการตรวจสุขภาพในครั้งนี้ เราก็จองแพ็กเกจผ่าน HDmall.co.th ค่ะ บอกเลยว่าจองในนี้สะดวกสบายและราคาดีมากๆ เค้ามีแอดมินคอยให้บริการตลอด แถมยังมีโปรโมชั่นดีๆ อยู่เพียบ ใครที่กำลังจะตรวจสุขภาพก็แนะนำให้เข้าไปดูแพ็กเกจในนี้เลยนะคะ
พอถึงวันนัดหมาย เราก็เดินทางมาที่โรงพยาบาลแล้วเข้าไปติดต่อเจ้าหน้าที่หน้าเคาร์เตอร์พร้อมกับยื่นคูปองยืนยันการจองจาก HDmall.co.th ให้เจ้าหน้าที่ดูได้เลย
จากนั้นใครที่ยังไม่เคยมีประวัติกับทางโรงพยาบาล เจ้าหน้าที่ก็จะให้ลงทะเบียนคนไข้ใหม่ก่อน เสร็จแล้วก็ไปที่ศูนย์ตรวจสุขภาพกันเลยค่ะ
ศูนย์ตรวจสุขภาพของโรงพยาบาลเจ้าพระยา ที่นี่ก็เป็นศูนย์ตรวจสุขภาพแบบ One Stop Service เลยค่ะ ทุกขั้นตอนการตรวจสุขภาพจะรวมอยู่ตรงนี้หมด ทำให้เราไม่ต้องเดินไปไหนไกลและใช้เวลาไม่นาน
พอมาถึงที่ศูนย์ตรวจสุขภาพแล้ว พี่พยาบาลก็จะพาไปตรวจคัดกรองเบื้องต้นด้วยการชั่งน้ำหนัก วัดความดัน วัดส่วนสูง และวัดชีพจร เสร็จแล้วก็ไปเจาะเลือดกันต่อค่ะ
ขั้นตอนการเจาะเลือด
ขั้นตอนการเจาะเลือดก็ไม่มีอะไรมากค่ะ พี่พยาบาลจะพาเราเข้าไปในห้องสำหรับเจาะเลือดโดยเฉพาะ เสร็จแล้วก็ให้นั่งพร้อมกับนำแขนขึ้นมาวางไว้บนเบาะรอง จากนั้นพี่พยาบาลก็จะนำสายมารัดที่ต้นแขนเพื่อหาเส้นเลือด หลังจากเจอเส้นเลือดแล้วก็จะเช็ดทำความสะอาดข้อพับแขนและเริ่มเจาะเลือดเลยทันที
เราจะบอกว่าพี่พยาบาลที่นี่มือเบามากกก ตอนเจาะเลือดไม่รู้สึกเจ็บเลยค่ะ เพราะฉะนั้นใครที่กลัวการเจาะเลือด กลัวว่าจะเจ็บก็หายห่วงได้เลย ไม่เจ็บจริงๆ ค่ะ
ขั้นตอนการตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ (EKG)
ขั้นตอนต่อมาจะเป็นการตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ (EKG) ค่ะ โดยขั้นตอนนี้จะเป็นการตรวจดูจังหวะการเต้นของหัวใจว่ามีความผิดปกติมั้ย กล้ามเนื้อหัวใจทำงานได้ดีรึเปล่า รวมถึงเป็นการตรวจคัดกรองโรคหลอดเลือดหัวใจตีบ โรคกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ โรคเยื่อหุ้มหัวใจอักเสบ และภาวะเกลือแร่ผิดปกติด้วยค่ะ
ซึ่งขั้นตอนการตรวจก็ง่ายมากๆ พี่พยาบาลจะให้ขึ้นไปนอนบนเตียง จากนั้นก็ติดตั้งอุปกรณ์ที่บริเวณข้อมือและข้อเท้าทั้งสองข้าง จากนั้นเราก็แค่นอนเฉยๆ ให้เครื่องตรวจวัดคลื่นไฟฟ้าหัวใจอัตโนมัติ ขั้นตอนนี้ใช้เวลาไม่ถึง 5 นาทีก็เสร็จแล้ว
ขั้นตอนการตรวจเอกซเรย์ปอด
หลังจากตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ (EKG) เสร็จแล้ว ต่อมาพี่พยาบาลก็จะให้เราไปเปลี่ยนเป็นชุดของทางโรงพยาบาลพร้อมกับถอดเครื่องประดับออกจากตัวเพื่อตรวจเอกซเรย์ปอดต่อค่ะ
พอเปลี่ยนชุดเสร็จแล้ว นักรังสีเทคนิคจะพาเราเข้าไปในห้องเอกซเรย์ จากนั้นก็ให้ไปยืนหน้าเครื่องเอกซเรย์พร้อมกับจัดท่าทางให้ หลังจากจัดท่าทางเรียบร้อยแล้วก็จะเริ่มกดถ่ายฟิล์มเอกซเรย์เลยค่ะ รวดเร็วสุดๆ
ขั้นตอนการตรวจอัลตราซาวด์ช่องท้อง
ขั้นตอนต่อมาจะเป็นการตรวจอัลตราซาวด์ช่องท้องค่ะ ซึ่งโปรแกรมนี้จะได้ตรวจอัลตราซาวด์ทั้งช่องท้องส่วนบนและส่วนล่างเลย
สำหรับการตรวจอัลตราซาวด์ช่องท้องส่วนบน เราก็จะได้ตรวจดูตับ ตับอ่อน ม้าม ถุงน้ำดี ท่อน้ำดีส่วนต้น ไต และหลอดเลือดแดงใหญ่ ส่วนช่องท้องส่วนล่างก็จะได้ตรวจดูมดลูก รังไข่ และก็กระเพาะปัสสาวะค่ะ
โดยขั้นตอนการตรวจ คุณหมอจะให้เราขึ้นไปนอนบนเตียงพร้อมกับเปิดเสื้อบริเวณหน้าท้องขึ้น จากนั้นก็จะลงเจลใสๆ เพื่อเป็นสื่อนำพลังงานที่บริเวณหน้าท้องและก็เริ่มตรวจอัลตราซาวด์กันเลย
ระหว่างที่คุณหมอตรวจอัลตราซาวด์ช่องท้องก็จะมีภาพแสดงผลขึ้นมาบนจอมอนิเตอร์ด้วย ซึ่งคุณหมอก็จะคอยอธิบายให้ฟังไปพร้อมๆ กับภาพว่าจุดนี้คืออะไร ปกติดีมั้ย มีอะไรน่ากังวลรึเปล่า โดยรวมใช้เวลาไม่เกิน 10 นาทีก็เสร็จแล้วค่ะ
ขั้นตอนการเก็บปัสสาวะ
หลังจากตรวจอัลตราซาวด์ช่องท้องเสร็จแล้ว เราก็ไปเปลี่ยนชุดพร้อมกับเก็บตัวอย่างปัสสาวะต่อได้เลยค่ะ โดยขั้นตอนนี้พี่พยาบาลจะนำกระปุกเก็บตัวอย่างปัสสาวะมาให้พร้อมกับแนะนำว่าให้เก็บเฉพาะปัสสาวะช่วงกลาง ส่วนช่วงแรกกับช่วงท้ายให้ทิ้งไป
พอเข้าไปเก็บตัวอย่างปัสสาวะเรียบร้อยแล้ว เราก็นำกระปุกมาวางคืนที่ตะกร้าส่งตัวอย่างปัสสาวะได้เลย จากนั้นก็ไปตรวจวัดสายตากันต่อค่ะ
ขั้นตอนการตรวจวัดสายตา
สำหรับขั้นตอนการตรวจวัดสายตา เราจะย้ายมาที่ศูนย์จักษุ ชั้น 2 ค่ะ ซึ่งขั้นตอนนี้ก็ไม่มีอะไรมาก พี่พยาบาลจะให้เราอ่านตัวเลขต่างๆ ที่อยู่บน Snellen Chart โดยเราจะต้องปิดตาทีละข้าง หลังจากอ่านตัวเลขครบแล้วก็เป็นอันเสร็จค่ะ ใช้เวลาไม่ถึง 5 นาที แป๊บเดียวเอง
โดยรวมแล้วการตรวจสุขภาพทุกขั้นตอนก็ใช้เวลาไปไม่ถึง 2 ชั่วโมงค่ะ ถือว่าเป็นการตรวจสุขภาพที่รวดเร็วแต่ตรวจได้ครบถ้วนมากๆ
หลังจากตรวจสุขภาพเสร็จแล้ว พี่พยาบาลก็จะให้คูปองอาหารมาด้วย เราสามารถนำไปใช้กินอาหารตามร้านต่างๆ ในโรงพยาบาลได้เลยนะคะ และหลังจากนี้ประมาณ 1 ชั่วโมงก็มาฟังผลตรวจกับคุณหมอกันค่ะ
ผลตรวจสุขภาพ
หลังจากรอผลตรวจประมาณ 1 ชั่วโมง เราก็ได้เข้ามาฟังผลกับคุณหมอแล้วค่ะ แต่ก่อนที่จะเริ่มฟังผลตรวจ คุณหมอจะซักประวัติสุขภาพ อาการผิดปกติ ปัญหาสุขภาพต่างๆ ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน รวมถึงซักประวัติการแพ้ยา ประวัติสุขภาพของคนในครอบครัว และพฤติกรรมในการใช้ชีวิตประจำวันด้วย เช่น การกินอาหาร, การออกกำลังกาย, การสูบบุหรี่, การดื่มแอลกอฮอล์, การนอนหลับ และความเครียด เพื่อนำมาตรวจคัดกรองหาพฤติกรรมเสี่ยงหรือปัจจัยเสี่ยงอื่นๆ ที่อาจทำให้เกิดโรคได้
นอกจากนี้ คุณหมอจะทำการตรวจร่างกายเบื้องต้น เช่น การตรวจดูดวงตา, คลำลำคอ, ฟังเสียงปอดและหัวใจ รวมถึงตรวจตาบอดสีด้วยค่ะ
สำหรับผลตรวจที่ออกมา เราก็มีปัญหาในเรื่องของค่าคอเลสเตอรอลที่สูงกว่าเกณฑ์นิดหน่อยค่ะ ซึ่งจริงๆ ก็แอบรู้ตัวอยู่แล้วว่าค่าคอเลสเตอรอลน่าจะสูง เพราะตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมาเราชอบกินดึก กินจุกจิก และก็กินอาหารที่มีไขมันเยอะ
คุณหมอเลยแนะนำให้เราปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกินใหม่ รวมถึงให้ออกกำลังกายควบคู่ไปด้วยเพื่อสุขภาพที่ดีมากขึ้นค่ะ
ความประทับใจจากการใช้บริการ ที่ โรงพยาบาลเจ้าพระยา
อย่างที่บอกไปตอนต้นว่าเราและครอบครัวใช้บริการที่โรงพยาบาลเจ้าพระยามานานมากๆ แล้ว ซึ่งแต่ละครั้งที่เข้ามาใช้บริการก็รู้สึกประทับใจตลอดเลยค่ะ ด้วยการให้บริการของเจ้าหน้าที่และพยาบาลที่คอยดูแลเราเป็นอย่างดี เอาใจใส่ และจัดการขั้นตอนต่างๆ ได้อย่างรวดเร็ว ทำให้เราไม่ต้องมานั่งคอยอะไรนานๆ เลย
ที่สำคัญคือบรรยากาศของโรงพยาบาลก็ดีมากๆ ด้านในสะอาดสะอ้าน มีพื้นที่กว้างขวาง แต่ละศูนย์ตกแต่งออกมาได้ดูสวยงาม น่าใช้บริการ โดยรวมแล้วประทับใจสุดๆ ค่ะ
สำหรับใครที่สนใจอยากตรวจสุขภาพแบบครบจัดเต็มในราคาสบายกระเป๋าแบบเรา เราก็แนะนำให้มาใช้บริการตรวจสุขภาพ 22 รายการ ที่ โรงพยาบาลเจ้าพระยา โดยจองแพ็กเกจผ่าน HDmall.co.th เลยค่ะ รับรองว่าถูกใจแน่นอนนน