การกำจัดขนด้วยเลเซอร์ เป็นวิธีที่หลายๆ คนเลือกใช้ เพราะทำง่าย สะดวก รวดเร็ว แถมยังให้ผลลัพธ์ที่ยาวนานกว่าวิธีอื่นๆ และไม่ก่อให้เกิดปัญหาสภาพผิวหนังเปลี่ยนตามมา เช่น ผิวหนังไก่
Nd YAG laser หรือที่คุ้นเคยกันในชื่อ “Gentle Yag” เป็นเลเซอร์ชนิดหนึ่งที่นิยมมากในปัจจุบัน แต่สำหรับใครที่ยังไม่แน่ใจว่า วิธีนี้จะเหมาะกับตัวเองหรือเปล่า มีขั้นตอน หรือมีข้อจำกัดอะไรบ้างในการทำ บทความนี้มีคำตอบมาฝาก
สารบัญ
- Gentle Yag คืออะไร?
- ใครบ้างที่เหมาะกับการกำจัดขนด้วย Gentle Yag?
- ข้อจำกัดของการกำจัดขนด้วย Gentle Yag
- เลเซอร์ขนด้วย Gentle Yag เจ็บไหม?
- เตรียมตัวอย่างไรก่อนเริ่มกำจัดขนด้วย Gentle Yag?
- ขั้นตอนกำจัดขนด้วยเลเซอร์ Gentle Yag
- ผลลัพธ์การเลเซอร์ ทำกี่ครั้งจึงจะเห็นผล?
- ดูแลตัวเองอย่างไร หลังการกำจัดขนด้วย Gentle Yag?
- กำจัดขนแบบ Gentle Yag มีผลข้างเคียงที่ต้องระวังหรือไม่?
- ค่าใช้จ่ายในการกำจัดขนด้วย Gentle Yag
Gentle Yag คืออะไร?
การเลเซอร์ขนแบบ Gentle Yag เป็นนวัตกรรมการใช้คลื่นแสงพลังงานสูง ความยาว 1,064 นาโนเมตร ช่วยกำจัดเส้นขนที่ไม่พึงประสงค์ออกไปจากร่างกาย
เลเซอร์จะผ่านชั้นผิวหนังเข้าไปจับเม็ดสีเมลานิน (Melanin) ในเส้นขน และทำลายเส้นขนลึกถึงรากขนด้วยพลังงานความร้อนจากเลเซอร์ ส่งผลให้การเจริญเติบโตของเส้นขนบริเวณที่รักษาค่อยๆ ลดน้อยลง จนเส้นขนบางลงอย่างเห็นได้ชัด
หากทำต่อเนื่องก็จะหยุดการเกิดใหม่ของเส้นขนไปในที่สุด โดยที่ไม่กระทบ หรือเป็นอันตรายต่อเนื้อเยื่อผิวหนังบริเวณข้างเคียงแต่อย่างใด
เลเซอร์ Gentle Yag เป็นเลเซอร์ที่สามารถใช้กำจัดขนที่ไม่พึงประสงค์ได้ทั่วร่างกาย ทั้งตามบริเวณใบหน้า คอ หน้าอก หลัง แขน ใต้วงแขน แขน ขา หรือแม้แต่เส้นขนบริเวณบิกินี่ หรือขนในที่ลับ
ใครบ้างที่เหมาะกับการกำจัดขนด้วย Gentle Yag?
เลเซอร์ Gentle yag เหมาะสำหรับการกำจัดเส้นขนที่ไม่พึงประสงค์ในคนทุกเพศทุกวัย และมีความปลอดภัยสูง สามารถใช้ได้กับผิวทุกชนิดทุกสีผิว
นอกจากนี้การกำจัดขนด้วยเลเซอร์ Gentle Yag ยังเป็นวิธีที่นิยมใช้กับผู้ที่มีสีผิวเข้ม เพราะเลเซอร์จะดูดซับเม็ดสีเมลานินในผิวหนังได้น้อย ทำให้มีผลข้างเคียงอย่างอาการแสบร้อน บวม หรือรอยแดงหลังการทำน้อยกว่าการใช้เลเซอร์กำจัดขนชนิดอื่นๆ
ข้อจำกัดของการกำจัดขนด้วย Gentle Yag
เนื่องจากเลเซอร์ Gentle Yag มีกลไกการทำงานโดยพุ่งเป้าไปที่เม็ดสีในเส้นขนและทำลายรากขน
วิธีนี้จึงเหมาะกับคนที่มีเส้นขนสีดำ หรือสีน้ำตาล โดยยิ่งเส้นขนมีสีเข้มมาก การกำจัดขนก็จะยิ่งเห็นผลดี แต่ในคนที่มีเส้นขนสีอ่อน เลเซอร์จะไม่สามารถจับสีของเส้นขนได้ดีเท่าที่ควร ทำให้ประสิทธิภาพในการกำจัดขนน้อยกว่า
หากมีเส้นขนสีอ่อนเกินไป กำจัดขนด้วยเลเซอร์ชนิดอื่นอาจจะเห็นผลดีกว่า
อีกข้อจำกัดของ Gentle Yag คือ การที่เลเซอร์จะดูดซับเม็ดสีในผิวหนังได้น้อย ซึ่งแม้จะทำให้ผลข้างเคียงต่อคนที่มีผิวสีเข้มลดน้อยลง แต่ก็อาจส่งผลให้ต้องทำการรักษาหลายครั้งกว่าจะเห็นผลลัพธ์ที่พอใจ
เส้นขนหนา ยังมักเห็นผลลัพธ์ที่ดีกว่าและรู้สึกเจ็บน้อยกว่าคนที่มีเส้นขนบาง
เลเซอร์ขนด้วย Gentle Yag เจ็บไหม?
ในระหว่างที่เลเซอร์คุณอาจรู้สึกเจ็บและร้อนเล็กน้อยคล้ายถูกหนังยางดีดผิวหนัง แต่บางคนแทบไม่รู้สึกเจ็บเลยก็มี เนื่องจากก่อนเลเซอร์จะมีการทาเจลเย็นบริเวณที่จะรักษา
นอกจากนี้ Gentle Yag ยังมีความพิเศษตรงที่ตัวยิงเลเซอร์จะมี Dynamic Cooling Device (DCD) ซึ่งเป็นแก๊สที่มีความเย็นออกมาควบคู่กับแสงเลเซอร์ด้วย จึงช่วยลดความเจ็บปวดของผิวหนังบริเวณที่ถูกเลเซอร์และทำให้รู้สึกเย็นสบายขึ้นมาก
การเลเซอร์บางจุดที่บอบบางอาจต้องทายาชาชนิดครีมบนผิวหนังเป็นเวลา 30 นาทีก่อนการเลเซอร์ให้ด้วย ซึ่งจะช่วยลดความรู้สึกเจ็บและแสบร้อนในระหว่างการทำไปได้มาก
เตรียมตัวอย่างไรก่อนเริ่มกำจัดขนด้วย Gentle Yag?
การกำจัดขนด้วย Gentle Yag มีคำแนะนำและข้อห้ามก่อนการทำดังต่อไปนี้
- หลีกเลี่ยงการกำจัดขนด้วยวิธีแวกซ์ ถอน และการใช้ไฟฟ้า รวมถึงไม่ย้อมสีขนบริเวณที่ต้องการเลเซอร์เป็นเวลา 4-6 สัปดาห์ก่อนทำ ให้ใช้วิธีเล็ม หรือโกนขนแทน
- หลีกเลี่ยงไม่ให้ผิวหนังบริเวณที่จะกำจัดขนถูกแสงแดดเป็นเวลา 4-6 สัปดาห์ก่อนทำ และทาครีมกันแดดทุกครั้งเมื่อต้องอยู่กลางแจ้ง
- งดการใช้ยาที่มีผลข้างเคียงทำให้ผิวหนังไวต่อแสงเป็นเวลา 3-5 วันก่อนการทำเลเซอร์
ขั้นตอนกำจัดขนด้วยเลเซอร์ Gentle Yag
กระบวนการกำจัดขนโดยใช้เลเซอร์ Gentle Yag ในบริเวณต่างๆ ของร่างกายอาจแตกต่างกันไป แต่โดยทั่วไปแล้วจะเริ่มจากการให้ผู้เข้ารับการเลเซอร์สวมใส่แว่นที่ช่วยป้องกันดวงตาจากลำแสงเลเซอร์
ขั้นตอนต่อไปคือ การทาเจลเย็นบริเวณที่จะรักษาและเริ่มยิงเลเซอร์ไปยังเส้นขนทีละส่วนจนทั่วบริเวณ โดยระหว่างที่ทำจะรู้สึกได้ถึงความเย็นที่ผิวหนังจากเครื่องผลิตแก๊สเย็น ซึ่งจะทำงานไปพร้อมๆ กับหัวยิงเลเซอร์ ช่วยลดความเจ็บปวดและการระคายเคืองจากการเลเซอร์ไปได้มาก
ในระหว่างการเลเซอร์หากได้กลิ่นไหม้อ่อนๆ ก็ไม่ต้องตกใจไป เพราะเป็นกลิ่นของเส้นขนที่ถูกความร้อนจากเลเซอร์ทำลายนั่นเอง
ขั้นตอนในการเลเซอร์ทั้งหมดอาจใช้เวลาเพียงประมาณ 10 นาที หรือนานถึง 1 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับบริเวณและขนาดของพื้นที่ที่ต้องการกำจัดขน เช่น ขนบริเวณเหนือปากอาจใช้เวลาเพียงประมาณ 2-3 นาที ขนรักแร้อาจใช้เวลา 5-10 นาที
ผลลัพธ์การเลเซอร์ ทำกี่ครั้งจึงจะเห็นผล?
หลังจากการเลเซอร์ เส้นขนจะเริ่มหลุดร่วงออกไป และเส้นขนที่ขึ้นใหม่ก็จะบางลง ทั้งนี้แสงเลเซอร์จะทำลายเฉพาะเส้นขนส่วนที่งอกตัวออกมาจากรากขนแล้วเท่านั้น
การรักษาที่ได้ผลจึงต้องทำมากกว่า 1 ครั้ง โดยเพื่อผลลัพธ์ที่ชัดเจนอาจต้องทำต่อเนื่องประมาณ 6-8 ครั้ง โดยเว้นระยะห่างประมาณ 1 เดือน หรือเมื่อเส้นขนเริ่มงอกขึ้นมาใหม่
จำนวนครั้งที่ต้องเข้ารับการเลเซอร์ยังแตกต่างกันไปในแต่ละคน รวมถึงบางคนอาจมีปัจจัยบางอย่างที่ส่งผลให้ไม่สามารถกำจัดเส้นขนได้อย่างถาวร แต่ที่มั่นใจได้ก็คือ เมื่อทำอย่างต่อเนื่องเส้นขนบริเวณดังกล่าวจะลดลงไปมากในระดับที่น่าพึงพอใจทีเดียว
ดูแลตัวเองอย่างไร หลังการกำจัดขนด้วย Gentle Yag?
หลังกำจัดขนด้วย Gentle Yag ไม่ว่าจะบริเวณใบหน้า รักแร้ หรือบริเวณอื่นๆ คุณควรปฏิบัติตัวดังนี้
- งดการถอน หรือแวกซ์ขนบริเวณที่เลเซอร์ เพื่อคงรากขนไว้สำหรับการเลเซอร์ครั้งต่อไป
- หากเป็นการเลเซอร์บริเวณใบหน้า ให้หลีกเลี่ยงการใช้เครื่องสำอางภายใน 24 ชั่วโมงหลังจากการเลเซอร์
- หลีกเลี่ยงการเผชิญแสงแดด และปกป้องผิวด้วยการทาครีมกันแดดทุกครั้งก่อนออกจากบ้านตลอดระยะเวลาที่เข้ารับการเลเซอร์ขน เพราะแสงแดดเป็นตัวการที่อาจกระตุ้นให้เกิดรอยด่างดำบริเวณผิวหนังที่มีการเลเซอร์ได้
- หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายที่หนักหน่วงในช่วง 1-2 วันหลังจากการเลเซอร์
- ในช่วงสัปดาห์แรกหลังจากทำเลเซอร์ขน ควรงดใช้ครีม หรือผลิตภัณฑ์ทาผิวที่อาจก่อให้เกิดการระคายเคืองได้ง่าย เช่น ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของเรตินอยด์ กรดไกลโคลิก และกรดซาลิไซลิก
- อาจใช้เจลว่านหางจระเข้ทาผิวหนังบริเวณที่รักษาบ่อยๆ เพื่อลดรอยแดงและการระคายเคืองของผิวหนังที่จะเกิดขึ้นในช่วง 2-3 วันหลังจากการทำเลเซอร์
- ไม่แกะ หรือเกาผิวหนังบริเวณที่เลเซอร์
- ทำความสะอาดผิวหนังบริเวณที่ทำเลเซอร์ด้วยคลีนเซอร์ที่อ่อนโยนต่อผิวเป็นพิเศษในช่วง 1 สัปดาห์หลังทำเพื่อลดการระคายเคือง
กำจัดขนแบบ Gentle Yag มีผลข้างเคียงที่ต้องระวังหรือไม่?
ในช่วงประมาณครึ่งชั่วโมงหลังการรักษา ผิวหนังบริเวณที่ได้รับเลเซอร์อาจระคายเคือง บวม และเกิดเป็นรอยแดงขึ้นมา คล้ายๆ กับอาการผิวไหม้แดด ซึ่งอาจต้องใช้เวลาตั้งแต่ 2-3 ชั่วโมงถึงหลายชั่วโมง หรือบางทีก็นานเป็นวันกว่าจะรู้สึกดีขึ้น
อาการเหล่านี้สามารถบรรเทาได้ด้วยการประคบเย็นด้วยน้ำแข็ง
นอกจากนี้ยังควรระวังไม่ให้ผิวบริเวณที่เลเซอร์ถูกแสงแดด มิฉะนั้นอาจเสี่ยงทำให้เกิดจุดด่างดำขึ้นได้ แต่รอยด่างดำที่ว่านี้มักเกิดขึ้นเพียงไม่นาน และจะหายไปได้เองเมื่อเวลาผ่านไป
ค่าใช้จ่ายในการกำจัดขนด้วย Gentle Yag
ค่าใช้จ่ายในการกำจัดขนด้วยเลเซอร์ Gentle Yag นั้นขึ้นอยู่กับบริเวณที่ทำ ความกว้างของพื้นที่ผิวหนังที่ต้องการกำจัดขน และสถานบริการที่คุณเลือกใช้