การนวด ไม่ว่าจะเป็นนวดแผนโบราณ หรือนวดแผนปัจจุบัน ล้วนได้รับความนิยมจากคนไทยมาอย่างยาวนาน เนื่องจากช่วยคลายความเหนื่อยล้าจากการทำงานเป็นเวลานานๆ ได้เป็นอย่างดี และยังช่วยรักษาอาการของโรคบางอย่างได้อีกด้วย โดยเฉพาะปัญหาที่เกี่ยวกับกล้ามเนื้อและเส้นเอ็น
การนวดที่ถูกต้องนั้น จะช่วยเพิ่มการไหลเวียนของโลหิต และช่วยผ่อนคลายความตึงเครียดทั้งจิตใจและร่างกายได้ แต่รู้หรือไม่ว่า ไม่ใช่ทุกคนที่จะสามารถนวดได้ ยิ่งถ้าหากว่าบางคนเป็นโรคประจำตัวอยู่แล้ว หากนวดผิดวิธี ก็มีโอกาสส่งผลถึงขั้นช็อกและเสียชีวิตได้ทันที
สารบัญ
- ผู้ที่มีอาการอะไรบ้าง ที่ไม่ควรนวด?
- 1. ผู้ที่เป็นโรคเลือดผิดปกติ
- 2. ผู้ที่มีปัญหากับกระดูกสันหลังและไขสันหลัง
- 3. ผู้ป่วยเบาหวาน
- 4. ผู้ที่เป็นโรคกระดูกพรุน รวมถึงผู้ที่มีปัญหากระดูกเปราะ
- 5. ผู้ที่เป็นโรคติดต่อทางผิวหนัง
- 6. ผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับกล้ามเนื้ออักเสบ รวมถึงปัญหาข้ออักเสบ
- 7.ผู้ที่เพิ่งผ่าตัดมา
- 8. ผู้ที่เพิ่งรับประทานยาแก้ปวด
- 9. ผู้ที่เป็นโรคมะเร็งทุกชนิด
- ไม่สบายเป็นไข้ตัวร้อน สามารถนวดได้หรือไม่?
- ผู้หญิงเป็นประจำเดือนนวดได้ไหม ?
ผู้ที่มีอาการอะไรบ้าง ที่ไม่ควรนวด?
การนวด เป็นศาสตร์ของแพทย์ไทยมาช้านาน ช่วยรักษาโรคได้จริง ซึ่งไม่ใช่แค่โรคทางกล้ามเนื้อหรือเส้นเอ็นเท่านั้น อีกทั้งยังช่วยเพิ่มความผ่อนคลาย ลดความเมื่อยล้าของร่างกายได้ด้วย แต่ในขณะเดียวกัน การนวดก็มีข้อยกเว้นในโรคหรืออาการบางอย่าง ที่ไม่แนะนำให้นวด ดังนี้
1. ผู้ที่เป็นโรคเลือดผิดปกติ
หรือผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับความผิดปกติในการแข็งตัวของเลือด เพราะการนวด เป็นการเพิ่มการไหลเวียนของโลหิต ถ้าหากมีอาการของทั้ง 2 โรคนี้ อาจพบอาการเลือดออกใต้ผิวหนัง รวมทั้งเกิดเลือดออกในอวัยวะต่างๆ และกล้ามเนื้อ
ถ้าหากมีเลือดออกมากก็มีโอกาสที่จะทำให้เกิดการช็อค และเสียชีวิตตามมาภายหลังได้ หรือถ้ามีลิ่มเลือดอุดตัน จะสามารถทำให้ลิ่มเลือดหลุดไปอุดตันตามเส้นเลือดฝอยได้ และหากไปอุดที่ปอดอาจทำให้เสียชีวิตได้เช่นกัน
2. ผู้ที่มีปัญหากับกระดูกสันหลังและไขสันหลัง
โดยเฉพาะผู้ที่เป็นโรคหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท จริงอยู่ว่าวิธีการรักษา สามารถใช้วิธีการนวดเป็นทางเลือกได้ แต่ต้องมั่นใจว่าผู้นวดมีความเชี่ยวชาญ หรือความชำนาญในการรักษาจริงๆ เพราะถ้าหากนวดผิดจุด ก็อาจทำให้กระดูกสันหลังมีการเคลื่อนตัว หรือยุบตัวลงไป ทำให้เกิดความเจ็บปวดและอันตรายที่รุนแรงขึ้น
หากต้องการนวดรักษา แนะนำให้ปรึกษากับแพทย์แผนไทย หรือแพทย์แผนไทยประยุกต์ เพราะเป็นผู้เชี่ยวชาญในการรักษาด้วยการนวด เพื่อความปลอดภัยและประสิทธิภาพในการรักษา
3. ผู้ป่วยเบาหวาน
เพราะเป็นผู้ที่มีปัญหาเรื่องของลิ่มเลือดในหลอดเลือด ซึ่งเกิดจากการมีไขมันอุดตันอยู่ในหลอดเลือดจำนวนมาก โดยส่วนใหญ่มักจะพบที่บริเวณน่อง หากมีการกดนวดด้วยความรุนแรง อาจทำให้ลิ่มเลือดหลุดไปอุดตันที่ปอดซึ่งจะเป็นอันตรายต่ออวัยวะต่าง ๆ ของร่างกาย รวมทั้งมีความเสี่ยงที่จะทำให้เสียชีวิตอีกด้วย
4. ผู้ที่เป็นโรคกระดูกพรุน รวมถึงผู้ที่มีปัญหากระดูกเปราะ
ผู้ป่วยในกลุ่มนี้ หากได้รับการนวดที่รุนแรง อาจเป็นเหตุทำให้กระดูกแตกหรือหักได้ ดังนั้น คนที่เป็นโรคดังกล่าวนี้จึงไม่ควรนวด
5. ผู้ที่เป็นโรคติดต่อทางผิวหนัง
เช่น โรคอีสุกอีใส โรคงูสวัด กลาก เกลื้อน หรือโรคอื่นๆ ที่สามารถติดต่อได้จากการสัมผัส เมื่อมานวดก็มีโอกาสที่จะแพร่เชื้อไปสู่ผู้อื่น เนื่องจากอาจมีการใช้อุปกรณ์บางอย่างร่วมกัน เช่น ยานวด หรืออุปกรณ์นวด รวมถึงผู้นวดเองก็มีโอกาสติดเชื้อได้
ดังนั้น ถ้าพบว่าตนเองกำลังป่วยด้วยโรคผิวหนังที่สามารถติดต่อไปสู่กันได้อยู่ ไม่ควรไปนวดเด็ดขาด ควรรักษาให้หายดีก่อน
6. ผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับกล้ามเนื้ออักเสบ รวมถึงปัญหาข้ออักเสบ
ในขณะที่ยังมีอาการอักเสบอยู่ ไม่ควรนวดเป็นอย่างยิ่ง เพราะอาจจะทำให้มีอาการอักเสบและบวมแดงที่มากขึ้นกว่าเดิม ซึ่งอาจส่งผลให้พบอาการไข้ได้ในภายหลัง
7.ผู้ที่เพิ่งผ่าตัดมา
คนที่เพิ่งผ่าตัด แล้วแผลยังปิดไม่สนิท การนวดอาจทำให้แผลปริแตก รวมถึงอาจทำให้แผลมีอาการอักเสบมากกว่าเดิม จึงควรหลีกเลี่ยงการนวดและรอให้แผลหายดีก่อน แล้วถึงจะนวดได้
8. ผู้ที่เพิ่งรับประทานยาแก้ปวด
ตั้งแต่ 1 – 120 นาทีแรกหลังรับประทานยาแก้ปวด ยาจะบดบังอาการปวด ทำให้ทนต่อแรงกด ส่งผลให้ผู้นวดต้องออกแรงกดมากขึ้น คุณถึงจะรู้สึกได้ แต่เมื่อหมดฤทธิ์ยา อาการปวดอาจเป็นมากขึ้นจนถึงขั้นกล้ามเนื้ออักเสบได้ เนื่องจากแรงกดของผู้นวดที่แรงกว่าปกตินั่นเอง
ดังนั้น จึงไม่นวดทันทีหลังจากที่เพิ่งรับประทานยาแก้ปวด และยาแก้ปวดบางอย่างอาจทำให้เลือดไม่แข็งตัวหรือแข็งตัวผิดปกติ ทำให้เกิดปัญหาได้
9. ผู้ที่เป็นโรคมะเร็งทุกชนิด
ไม่ควรนวดในผู้ที่เป็นโรคมะเร็งทุกชนิด เพราะการนวดจะส่งผลให้เชื้อโรคมีการกระจายตัวไปยังอวัยวะอื่นๆ มากยิ่งขึ้น รวมทั้งอาจมีการแพร่กระจายเข้าสู่เส้นเลือดและน้ำเหลือง ซึ่งอาจทำให้อาการรุนแรงมากขึ้นกว่าเดิม
ไม่สบายเป็นไข้ตัวร้อน สามารถนวดได้หรือไม่?
ไม่สบายเป็นไข้ตัวร้อน หากไม่นับเรื่องของอาการอ่อนเพลีย และอุณหภูมิของร่างกายที่สูงกว่าปกติ ร่างกายก็ไม่ได้แตกต่างจากคนทั่วไปเลย แต่ในตำรานวดแผนโบราณ (รวมถึงนวดแผนปัจจุบัน) ได้ระบุไว้อย่างชัดเจนเลยว่า ผู้ที่ไม่สบาย ป่วยเป็นไข้ หรือมีอุณหภูมิร่างกายมากกว่า 38.5 องศาขึ้นไป ไม่ควรนวดเป็นอันขาด เพราะในช่วงนี้ร่างกายจะอ่อนแอลงเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ถ้าหากมีการนวดที่ต้องออกแรงมาก ก็อาจเป็นผลทำให้เกิดการอักเสบของกล้ามเนื้ออย่างรุนแรง ซึ่งจะทำให้ผู้ป่วยมีอาการที่มากขึ้นกว่าเดิม และถ้าหากอาการอักเสบนั้นรุนแรงมาก ก็อาจถึงขั้นต้องไปตรวจร่างกายในโรงพยาบาลกันเลยทีเดียว
ผู้หญิงเป็นประจำเดือนนวดได้ไหม ?
สำหรับผู้หญิงที่เป็นประจำเดือน แล้วเกิดความรู้สึกเมื่อยเนื้อเมื่อยตัว อยากจะนวดนั้น ต้องรอจนกว่าประจำเดือนหมดเสียก่อนถึงจะนวดได้ เพราะถ้าหากนวดในช่วงที่ประจำเดือนมา หรือประจำเดือนใกล้จะหมดนั้น อาจทำให้มีเลือดออกมาผิดปกติ หรือเกิดความแปรปรวนจากปัญหาเลือดลมภายในร่างกาย
บางรายอาจถึงขั้นมีกลิ่นไม่พึงประสงค์ตามมากับประจำเดือนด้วย และถ้าหากว่านวดไม่ถูกต้องหรือนวดอย่างรุนแรงจนกล้ามเนื้ออักเสบ ก็มีโอกาสที่จะทำให้เป็นโรคไข้ทับระดู ที่ก่อให้เกิดอาการปวดกระดูกและเป็นไข้อย่างรุนแรงได้นั่นเอง
ถึงแม้ว่าการนวด จะมีประโยชน์ต่อร่างกายในหลายๆ ด้าน แต่ก็ไม่ใช่ทุกคนที่ควรจะนวด ทางที่ดีหากต้องการนวดรักษาแนะนำให้ปรึกษาแพทย์ก่อนจะดีกว่า เพราะจะได้รับการตรวจ การวินิจฉัย และรักษาได้ตรงกับโรค และยังได้คำแนะนำการดูแลตนเองที่ถูกต้องกลับไปทำต่อที่บ้านด้วย