ถึงแม้จุดซ่อนเร้นจะเป็นบริเวณที่อยู่ใต้ร่มผ้า แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า เมื่อผิวบริเวณนั้นหมองคล้ำ ความมั่นใจก็สามารถหดหายไปได้เช่นกัน
คุณผู้หญิงหลายคนจึงพยายามมองหาวิธีปรับสีผิวจุดซ่อนเร้นให้กลับมาสว่างขึ้นอีกครั้ง และหนึ่งในวิธีที่ได้รับความนิยมในการแพ้ปัญหานี้ก็คือ การเลเซอร์ หรือถ้าให้เรียกแบบเฉพาะเจาะจงในการแก้ปัญหาจุดซ่อนเร้นโดยเฉพาะ ก็จะเรียกว่า “เลเซอร์จิมิขาว”
ใครที่กำลังเผชิญปัญหาจุดซ่อนเร้นหมองคล้ำ และอยากเปลี่ยนแปลงผิวส่วนนั้นด้วยการยิงเลเซอร์ แต่ยังไม่มีข้อมูลมากพอที่จะศึกษาก่อนตัดสินใจใช้บริการ ทาง HDmall.co.th รวบรวมข้อมูลที่จำเป็นเกี่ยวกับการเลเซอร์จิมิขาวมามอบให้กับคุณผ่านเนื้อหาในบทความนี้
สารบัญ
- จุดซ่อนเร้นคล้ำ จิมิคล้ำ เกิดจากอะไร?
- จิมิคล้ำเกิดจากการมีเพศสัมพันธ์ด้วยหรือไม่?
- เลเซอร์จิมิขาวคืออะไร?
- เลเซอร์จิมิขาวมีกี่แบบ?
- เลเซอร์จิมิขาวเหมาะกับใคร?
- เลเซอร์จิมิขาวกี่ครั้งเห็นผล?
- เลเซอร์จิมิขาวให้ผลลัพธ์ถาวรไหม?
- หลังเลเซอร์จิมิขาวมีเพศสัมพันธ์ได้เลยไหม?
- ข้อดีของการเลเซอร์จิมิขาว
- ข้อเสียของการเลเซอร์จิมิขาว
- การเตรียมตัวก่อนเลเซอร์จิมิขาว
- ขั้นตอนการเลเซอร์จิมิขาว
- การดูแลหลังเลเซอร์จิมิขาว
- ผลข้างเคียงของเลเซอร์จิมิขาว
จุดซ่อนเร้นคล้ำ จิมิคล้ำ เกิดจากอะไร?
ก่อนจะไปลงลึกเรื่องเทคโนโลยีเลเซอร์จิมิขาว ทุกคนควรทำความเข้าใจก่อนว่า ผิวจุดซ่อนเร้นที่หมองคล้ำลงไม่ใช่ความผิดปกติเสมอไป และเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้ตามกลไกธรรมชาติของผิวมนุษย์
โดยสาเหตุที่ทำให้ผู้หญิงเรามีจุดซ่อนเร้นที่ดูคล้ำลงและพบได้บ่อยๆ ได้แก่
- การเสียดสี ผ่านการใส่กางเกงในรัดรูปหรือขนาดเล็กเกินไป รวมไปถึงการเดินหรือเคลื่อนไหวร่างกาย ซึ่งจุดซ่อนเร้นเป็นตำแหน่งที่จำเป็นต้องรับแรงเสียดสีจากต้นขาอยู่ตลอดเวลา รวมถึงมักไม่ค่อยมีช่องให้ผิวได้ระบายอากาศ จึงส่งผลให้มีการผลิตเซลล์เม็ดสีที่เข้มขึ้น และอาจหนาตัวกว่าปกติ เพื่อให้ชั้นผิวสามารถรับแรงเสียดสีได้ดีขึ้นกว่าเดิม
- การโกนขน ซึ่งมีส่วนทำให้ผิวหนังส่วนที่มีตอขนอักเสบ จนเกิดเป็นรอยด่างคล้ำลง
- การติดเชื้อที่ผิวจุดซ่อนเร้น ซึ่งอาจมีต้นเหตุมาจากความอับชื้นหรือการทำความสะอาดผิวจุดซ่อนเร้นไม่ดีพอ ส่งผลให้เกิดการติดเชื้อแบคทีเรียซึ่งกระตุ้นให้เซลล์ผิวผลิตเม็ดสีที่เข้มขึ้นออกมา
- ฮอร์โมนไม่สมดุล จนทำให้เซลล์ผิวถูกกระตุ้นให้ผลิตเม็ดสีผิวที่เข้มคล้ำขึ้นกว่าปกติ โดยอาจเป็นผลมาจากระดับฮอร์โมนเอสโตรเจน (Estrogen) ซึ่งเป็นฮอร์โมนเพศหญิงที่สูงเกินไป พบได้กับผู้หญิงแทบทุกวัย แต่มักจะพบได้มากที่สุดในผู้หญิงวัยหมดประจำเดือน และผู้หญิงที่มีโรคประจำตัวเกี่ยวกับฮอร์โมนหรือระบบสืบพันธุ์
- อายุที่มากขึ้น ยิ่งเราอายุเท่าไร การทำงานของเซลล์ผิวก็มีแนวโน้มจะเสื่อมสภาพลง ทำให้ในบางครั้งร่างกายก็ผลิตเซลล์เม็ดสีที่คล้ำขึ้นออกมา และมักไม่ได้พบแค่ที่จุดซ่อนเร้นบริเวณเดียว แต่ผิวบริเวณอื่นหรือที่รูปร่างส่วนอื่นๆ ก็มีแนวโน้มที่จะเกิดปัญหาผิวเข้มขึ้นจากอายุที่มากขึ้นได้ เช่น รักแร้ดำ เกิดฝ้าหนา หรือเม็ดกระที่ผิวหน้า
จิมิคล้ำเกิดจากการมีเพศสัมพันธ์ด้วยหรือไม่?
ผิวจุดซ่อนเร้นที่หมองคล้ำลงแทบไม่เกี่ยวข้องกับการมีเพศสัมพันธ์แต่อย่างใด ความจริงแล้วการมีเพศสัมพันธ์ซึ่งจัดเป็นกิจกรรมที่มีการออกแรงยิ่งเป็นปัจจัยเสริมการไหลเวียนเลือดของร่างกายและผิวด้วยซ้ำไป
นอกเสียจากว่า ในระหว่างมีเพศสัมพันธ์คุณมีปัญหาโรคประจำตัว โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ปัญหาฮอร์โมนเพศ หรือเงื่อนไขด้านสุขภาพที่อาจทำให้เซลล์เม็ดสีผลิตเม็ดสีที่เข้มขึ้นกว่าเดิม ซึ่งปัจจัยเหล่านี้ก็อาจทำให้ผิวจุดซ่อนเร้นหมองคล้ำลงได้
เลเซอร์จิมิขาวคืออะไร?
เลเซอร์จิมิขาว คือ นวัตกรรมเครื่องปล่อยพลังงานเลเซอร์สำหรับรักษาปัญหาผิวจุดซ่อนเร้นหมองคล้ำ หรือเป็นรอยดำปื้นโดยเฉพาะ ส่วนมากเป็นเครื่องเลเซอร์ที่ใช้สำหรับรักษาปัญหาผิวทั่วไป ไม่ว่าจะเป็นใบหน้า รักแร้ หัวเข่า หรือส่วนอื่นๆ ของร่างกาย แต่สามารถนำมาปรับใช้กับบริเวณจุดซ่อนเร้นได้อีกส่วนด้วย
เลเซอร์จิมิขาวมีกี่แบบ?
การเลเซอร์จิมิขาวมีด้วยกันหลายแบบ และในบางสถานที่ให้บริการก็อาจมีชื่อแพ็กเกจแตกต่างกัน แต่เครื่องยิงเลเซอร์จิมิขาวที่มีชื่อเสียง และนิยมใช้ในหลายสถานพยาบาล จะมีด้วยกันหลักๆ 2 แบบ ดังนี้
- เครื่อง Fractional Co2 เป็นเครื่องยิงเลเซอร์ที่ใช้ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในการผลิตพลังงาน มีคุณสมบัติช่วยปรับสภาพเซลล์ผิวที่เสื่อมสภาพกลับมาผลัดเซลล์ใหม่เป็นผิวที่แข็งแรง ส่งผลให้เนื้อผิวที่เคยหมองคล้ำกลับมาเรียบเนียนกระจ่างใสขึ้นอีกได้
- เครื่อง Q-switched: ND YAG เป็นเครื่องเลเซอร์กลุ่มพลังงาน Q-switched ที่มีคุณสมบัติช่วยกำจัดเซลล์เม็ดสีที่เสียหายออกไปจากร่างกายผ่านกระบวนการธรรมชาติ แล้วกระตุ้นให้ผิวผลัดเซลล์ใหม่ที่มีคอลลาเจนแข็งแรงยืดหยุ่นกว่า ส่งผลให้ผิวส่วนที่หมองคล้ำค่อยๆ ปรับสภาพกลายเป็นผิวที่สว่างเรียบเนียนขึ้น
เลเซอร์จิมิขาวเหมาะกับใคร?
เลเซอร์จิมิขาวเหมาะกับคุณผู้หญิงทุกคนที่มีปัญหาผิวจุดซ่อนเร้นด่างดำ หรือมีรอยคล้ำหนาจนเสียความมั่นใจ รวมไปถึงคุณผู้หญิงที่มีแผนการหรือทำอาชีพที่ต้องใส่เสื้อผ้าน้อยชิ้น และอยากให้ผิวรอบจุดซ่อนเร้นไม่หมองคล้ำ ก็เหมาะต่อการเลเซอร์จิมิขาวเช่นกัน
เลเซอร์จิมิขาวกี่ครั้งเห็นผล?
โดยปกติการเลเซอร์จิมิขาวมักไม่เห็นผลในการรักษาเพียงครั้งเดียว และจะต้องมาเลเซอร์อย่างต่อเนื่องหลายครั้งจึงจะช่วยปรับสภาพผิวให้ดูขาวขึ้นได้
ส่วนมากหลายสถานพยาบาลมักแนะนำให้ผู้เข้ารับบริการมายิงเลเซอร์จิมิขาวอย่างต่ำ 3-4 ครั้ง ห่างกันครั้งละ 2-4 สัปดาห์จึงจะเห็นผล แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับลักษณะสภาพผิวแต่ละคนซึ่งแพทย์จะเป็นผู้ประเมิน
เลเซอร์จิมิขาวให้ผลลัพธ์ถาวรไหม?
การเลเซอร์จิมิขาวไม่สามารถคงผลลัพธ์อยู่ได้ตลอดไป ผู้เข้ารับบริการจำเป็นจะต้องดูแลตนเองร่วมไปกับการเลเซอร์จิมิขาวเพื่อให้ผิวที่สว่างขึ้นจากพลังงานเลเซอร์คงอยู่บนผิวได้นานขึ้น
ตัวอย่างเช่น สวมใส่กางเกงในที่ไม่รัดรูปเกินไป ทำความสะอาดผิวจุดซ่อนเร้นให้สะอาดอยู่เสมอ ทาครีมหรือผลิตภัณฑ์เสริมความกระจ่างใส และความชุ่มชื้นให้กับผิว
หลังเลเซอร์จิมิขาวมีเพศสัมพันธ์ได้เลยไหม?
ผู้เข้ารับบริการควรงดมีเพศสัมพันธ์ประมาณ 24-48 ชั่วโมงหลังยิงเลเซอร์ เพราะหลังจากยิงเลเซอร์แล้วอาจมีปัญหาผิวแดงหรือคันระคายเคืองได้ ทำให้ไม่ควรไปแตะต้องสัมผัสผิวประมาณ 2-3 วัน
แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการให้คำแนะนำจากแพทย์อีกครั้ง
ข้อดีของการเลเซอร์จิมิขาว
เลเซอร์จิมิขาวมีส่วนทำให้ความมั่นใจสภาพผิวบริเวณจุดซ่อนเร้นกลับมา ทำให้สามารถสวมใส่เสื้อผ้าได้อย่างอิสระมากขึ้น เช่น กางเกงขาสั้น ชุดบิกินี่ ชุดชั้นใน นอกจากนี้เครื่องยิงเลเซอร์จิมิขาวหลายชนิดยังมีประโยชน์อื่นๆ นอกเหนือจากการปรับสภาพสีผิวจุดซ่อนเร้นด้วย เช่น
- เสริมความชุ่มชื้นให้ช่องคลอด
- กระชับผิวช่องคลอดที่หย่อนยาน
- ลดโอกาสปัสสาวะเล็ดเวลาไอ จาม หรือออกแรง
- ปรับสมดุลระบบสืบพันธุ์
- กำจัดขนบริเวณผิวจุดซ่อนเร้นแบบกึ่งถาวร
อย่างไรก็ตาม ข้อดีอื่นๆ ของเครื่องเลเซอร์จิมิขาวจะแตกต่างกันไปตามคุณสมบัติของแต่ละนวัตกรรม และแต่ละแบรนด์เครื่อง หากผู้เข้ารับบริการต้องการรับประโยชน์จากการยิงเลเซอร์หลายๆ ส่วนตามที่กล่าวไปด้านบน ควรสอบถามเกี่ยวกับคุณประโยชน์ของเครื่องยิงเลเซอร์ที่ใช้ก่อนรับบริการ
ข้อเสียของการเลเซอร์จิมิขาว
นอกจากผลลัพธ์ที่ไม่คงอยู่ได้ตลอดไปตามที่ได้กล่าวไปข้างต้น การเลเซอร์จิมิขาวก็มีข้อเสียหรือข้อควรพิจารณาด้วยเช่นกัน ดังนี้
- อาจสร้างความรู้สึกเจ็บ แสบผิว หรือระคายเคืองผิวระหว่างรับบริการได้ ซึ่งอาจทำให้ผู้เข้ารับบริการบางท่านทนความเจ็บไม่ไหว แต่ส่วนมากความเจ็บจากการยิงเลเซอร์มักจะอยู่ในระดับที่ทนได้ เพราะมีการให้ยาชาก่อนเสมอ
- การเลเซอร์จิมิขาวอาจไม่สามารถช่วยปรับสภาพผิวได้ หรืออาจไม่เห็นผลเลย หากผู้เข้ารับบริการไม่มีการดูแลผิวด้วยวิธีอื่นๆ เพิ่มเติม หรือยังมีลักษณะการใช้ชีวิตประจำตัว โรคประจำตัวที่ส่งผลต่อความคล้ำของผิวอยู่เหมือนเดิม
ดังนั้นถึงแม้วิธีนี้จะได้รับความนิยมในการปรับสภาพผิวจุดซ่อนเร้นเป็นอย่างมาก แต่ก็อาจไม่ใช่คำตอบสุดท้ายในการเปลี่ยนสีจุดซ่อนเร้นให้ขาวขึ้นในผู้เข้ารับบริการบางท่าน
การเตรียมตัวก่อนเลเซอร์จิมิขาว
เพราะเป็นการรักษาที่จุดซ่อนเร้น ผู้เข้ารับบริการจำเป็นต้องเตรียมผิวบริเวณดังกล่าวให้สะอาดและพร้อมต่อการเลเซอร์ ได้แก่
- ตรวจเช็กวันที่มีประจำเดือน โดยควรไปใช้บริการหลังประจำเดือนรอบปัจจุบันหมดประมาณ 7 วัน หรือหากมีรอบเดือนมาก่อนกำหนด ให้เลื่อนวันนัดออกไปก่อน
- รักษาโรคให้หายก่อน หากมีประวัติโรคเริม โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ โรคผิวหนังที่จุดซ่อนเร้นหรือบริเวณใกล้เคียง ควรรักษาให้หายก่อนรับบริการ
- ปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับประวัติแพ้ยา รวมถึงการงดยาที่เกี่ยวกับระบบไหลเวียนเลือด การแข็งตัวของเลือด
- งดโกนขน ถอน หรือแว็กซ์ขนก่อนรับบริการประมาณ 7 วันก่อนวันรับบริการ
- งดการใช้ครีมหรือสารทาผิว ที่มีส่วนผสมของสารเรตินอยด์ (Retoniod) รวมถึงแอลกอฮอล์ประมาณ 3 วันก่อนวันรับบริการ
- งดการทำกิจกรรมที่อาจทำให้จุดซ่อนเร้นสัมผัสโดนแสงแดด เช่น ว่ายน้ำ ไปทะเล ชายหาด การใส่บิกินี่ในที่โล่งแจ้งประมาณ 1-2 สัปดาห์ก่อนรับบริการ
- ทำความสะอาดผิว จุดซ่อนเร้นให้สะอาดก่อนมารับบริการ
ขั้นตอนการเลเซอร์จิมิขาว
การเลเซอร์ขนจิมิมีกระบวนการรักษาคล้ายกับการเลเซอร์ปรับสีผิวบริเวณอื่นๆ ของร่างกาย ซึ่งมีขั้นตอนดังต่อไปนี้
- ผู้เข้ารับบริการเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดที่ทางสถานพยาบาลจัดหาไว้ให้ และต้องถอดกางเกงชั้นในออก
- เจ้าหน้าที่ทำความสะอาดผิวจุดซ่อนเร้น อาจมีการกำจัดขนร่วมด้วยบางส่วนตามความเหมาะสมหรือตามการประเมินของแพทย์
- เจ้าหน้าที่ทายาชาทิ้งไว้ที่ผิวประมาณ 30-45 นาที
- เมื่อยาชาออกฤทธิ์ แพทย์จะเริ่มยิงเลเซอร์ปรับสภาพผิวให้ทีละส่วนอย่างละเอียด
- หลังจากเลเซอร์เสร็จหมดทุกจุด พนักงานอาจทายาหรือครีมกันระคายเคืองให้ จากนั้นผู้เข้ารับบริการเปลี่ยนชุด แล้วกลับบ้านได้
การดูแลหลังเลเซอร์จิมิขาว
การดูแลตนเองหลังเลเซอร์จิมิขาวนั้นจะมุ่งไปที่ความสะอาดของผิวเป็นหลัก ซึ่งจะมีรายการคำแนะนำที่ควรปฏิบัติตามดังต่อไปนี้ เพื่อให้ผลลัพธ์จากการรักษาด้วยพลังงานเลเซอร์เห็นผลดีขึ้น
- รักษาความสะอาดของผิวจุดซ่อนเร้นอย่างสม่ำเสมอ และอย่าปล่อยให้อับชื้น
- หลีกเลี่ยงการใส่กางเกงชั้นในที่รัดผิวเกินไป
- งดการมีเพศสัมพันธ์ประมาณ 24 ชั่วโมง หรืออาจนานถึง 7 วันขึ้นอยู่กับคำแนะนำของแพทย์
- งดการทำกิจกรรมที่ต้องเสียดสีหรือเกิดเหงื่อบริเวณผิวที่รักษาประมาณ 3-7 วัน
ผลข้างเคียงของเลเซอร์จิมิขาว
ผลกระทบหลังการรักษาที่พบได้บ่อยจากการเลเซอร์จิมิขาว ได้แก่
- ผิวหนังเกิดรอยแดง แต่ส่วนมากจะเกิดอาการเพียง 2-3 วันหลังรักษาแล้วก็จะค่อยๆ ดีขึ้นเอง
- รู้สึกแสบร้อน คันระคายเคืองที่ผิวจุดซ่อนเร้น มักเกิดอาการเพียง 2-3 วันเช่นกัน จากนั้นก็จะค่อยๆ อาการดีขึ้นเอง
- ผิวหนังติดเชื้อ แต่พบได้น้อย และมักพบในกรณีได้รับบริการจากเครื่องยิงเลเซอร์ที่ไม่สะอาด หรือไม่มีการทำความสะอาดหัวยิงพลังงานก่อนให้บริการ
- ผิวจุดซ่อนเร้นไม่เปลี่ยนแปลงไป ซึ่งก็เป็นผลข้างเคียงที่พบได้ ผู้เข้ารับบริการอาจต้องกลับไปปรึกษาแพทย์อีกครั้งเพื่อหาวิธีรักษาแบบอื่น หรือลองหาต้นตอที่ทำให้การรักษาผิวด้วยการยิงเลเซอร์ไม่ได้ผล
ให้ผิวน้องสาวของคุณได้รับการดูแลผ่านแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อให้เกิดเป็นผลลัพธ์ของผิวจุดซ่อนเร้นที่ดูดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ปลอดภัย สะอาด ปราศจากโอกาสเกิดผลข้างเคียงที่เป็นอันตราย