รู้ได้อย่างไร? ว่าเราเป็น “แผลริมอ่อน”

แผลริมอ่อน (Chancroid หรือ Soft Chancre) เป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ จากการติดเชื้อแบคทีเรียชื่อว่า ฮีโมฟิลุส ดูเครย์ (Haemophilus Ducreyi) ทำให้เกิดแผลบริเวณอวัยวะเพศ หรือบริเวณที่สัมผัสเชื้อ เช่น ทวารหนัก ช่องปาก

โรคแผลริมอ่อนพบได้ทั้งในเพศชาย และเพศหญิง มีลักษณะเป็นแผลตุ่มพองนิ่ม ผู้ป่วยจะรู้สึกเจ็บปวด รักษาได้ด้วยการกินยาปฏิชีวนะ ส่วนวิธีป้องกันโรคแผลริมอ่อนไม่ต่างจากโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อื่นๆ

แผลริมอ่อนติดต่อได้ทางไหน?

แผลริมอ่อนเป็นโรคที่ติดต่อได้จากการมีเพศสัมพันธ์ และการสัมผัสบาดแผลที่ติดเชื้อโดยตรงโดยไม่รู้ตัว

เชื้อแบคทีเรีย ฮีโมฟิลุส ดูเครย์ (Haemophilus Ducreyi) อยู่ในแผลถลอก แผลสด ตามอวัยวะเพศ ช่องคลอด ทวารหนัก ช่องปาก หรือแม้แต่เยื่อบุตา

ถ้าเรามีไปสัมผัสบาดแผลนั้น ก็มีโอกาสที่จะได้รับเชื้อนี้เข้าสู่กระแสเลือด และพัฒนากลายเป็นโรคแผลริมอ่อนในที่สุด

การมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ป้องกัน ไม่สวมถุงยางอนามัย การเปลี่ยนคู่นอนบ่อย การมีเพศสัมพันธ์ที่รุนแรง โดยเฉพาะทางทวารหนักทำให้เกิดบาดแผล เหล่านี้คือพฤติกรรมเสี่ยงที่อาจทำให้ได้รับเชื้อ “โรคแผลริมอ่อน” ได้

อาการของโรคแผลริมอ่อน

แผลริมอ่อนมีระยะฟักตัวประมาณ 3-7 วัน อาจเร็วช้ากว่านั้นแล้วแต่บุคคลซึ่งถือว่าเป็นโรคที่แสดงอาการได้รวดเร็วหากเทียบกับโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อื่นๆ

อาการของแผลริมอ่อน จะเกิดตุ่มแผลบริเวณที่ติดเชื้อ ส่วนมากจะเกิดที่อวัยวะเพศ ขนาดแผลประมาณ 3-5 มิลลิเมตร รู้สึกเจ็บปวด แม้ไม่สัมผัส

ในผู้หญิงจะเกิดแผลริมอ่อนบริเวณแคมเล็ก ฝีเย็บ ขณะที่ผู้ชายมีแผลขึ้นบริเวณ ปลายองคชาต ลำองคชาต ตลอดจนอัณฑะ หรือในบางรายอาจมีแผลบริเวณทวารหนัก และช่องปากร่วมด้วย

ใน 1-2 วันหลังจากมีอาการของแผลริมอ่อน ตุ่มแผลจะเปื่อยนุ่ม ขอบบาง แค่สัมผัสก็อาจทำให้เลือดไหลได้ เป็นหนอง หากเสียดสีอาจแตกออก และสร้างความเจ็บปวดให้แก่ผู้ป่วยได้ อาจแสบขัดระหว่างปัสสาวะ ในผู้หญิงอาจมีตกขาวมามากผิดปกติ หรือส่งกลิ่นเหม็น

แผลริมอ่อน ซิฟิลิส เริม ต่างกันอย่างไร?

“แผลริมอ่อน” ถูกเรียกว่า “ซิฟิลิสเทียม” เพราะมีอาการใกล้เคียงกับโรคซิฟิลิสมาก ซึ่งโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ บางโรคมีลักษณะอาการบางอย่างที่เหมือนกันหรือใกล้เคียงกัน

การวินิจฉัยโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่ถูกต้องมีทางเดียวคือต้องพบแพทย์ เพื่อให้การรักษาตรงตามโรคที่เกิดขึ้น แต่เหล่านี้คือข้อมูลเบื้องต้น ที่จะช่วยให้ผู้ป่วย สังเกตอาการตนเองว่าเข้าข่ายโรคใดกันแน่

จุดเด่นของอาการแผลริมอ่อน (Chancroid)

  • ติดเชื้อแบคทีเรีย ฮีโมฟิลุส ดูเครย์ (Haemophilus Ducreyi)
  • จำนวนแผลเกิดขึ้นหลายแผล
  • ขอบแผลอ่อน ขอบไม่เรียบ แผลลึก
  • พื้นแผลค่อนข้างดูสกปรก
  • เป็นหลังจากติดเชื้อ 3-5 วัน
  • มีอาการเจ็บ

จุดเด่นของอาการซิฟิลิส (Syphilis)

  • ติดเชื้อแบคทีเรีย ทรีโพนีมา แพลลิดัม (Treponema Pallidum)
  • จำนวนแผลเกิดขึ้นแผลเดียว หรือสองแผลแต่เชื่อมกัน
  • ขอบแผลแข็ง ขอบเรียบ
  • พื้นแผลค่อนข้างดูสะอาด
  • เป็นหลังจากติดเชื้อ 2-8 สัปดาห์
  • ในระยะแรก แผลจากซิฟิลิส ไม่มีอาการเจ็บ จุดนี้เองที่จะทำให้ผู้ป่วยแยกออกระหว่าง ซิฟิลิสและแผลริมอ่อน แต่หากมีการติดเชื้ออักเสบก็อาจรู้สึกเจ็บได้

จุดเด่นของอาการเริม (Herpes simplex)

  • ติดเชื้อไวรัส เฮอร์พีส์ ซิมเพล็กซ์ Herpes Simplex Virus (HSV-2)
  • เป็นตุ่มน้ำใส มักขึ้นเป็นกลุ่ม
  • ถ้าตุ่มแตก จะเกิดอาการแสบ เจ็บ แผลถลอก แผลตก

แผลริมอ่อนทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนอะไรบ้าง?

  • ภาวะต่อมน้ำเหลืองอักเสบ เป็นหนอง
  • มีความเสี่ยงจะที่ติดเชื้อโรคเอดส์ หรือโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อื่น ๆ ได้ง่ายขึ้น
  • พังผืดหดรั้งเนื้อเยื่อ โดยเฉพาะในเพศชาย หนังหุ้มปลายองคชาตอาจตีบตัน (Phimosis)
  • เป็นแผลเป็นบริเวณอวัยวะเพศ เช่น ที่แคมของผู้หญิง หรือ หนังหุ้มปลายองคชาตของผู้ชาย
  • ท่อทางเดินปัสสาวะบาดเจ็บ หรือท่อปัสสาวะรั่ว (Urethral Fistula)
  • อวัยวะเพศผิดรูป

โรคแผลริมอ่อนติดต่อจากแม่สู่ลูก!

หญิงตั้งครรภ์ที่เป็นผู้ป่วยโรคแผลริมอ่อน มีโอกาสที่จะแพร่เชื้อมาสู่ลูกน้อยในครรภ์ได้ด้วย ซึ่งเด็กที่เกิดมาติดเชื้อโรคแผลริมอ่อนแต่กำเนิด (Congenital Chancroid) จะแสดงอาการหลังคลอด ประมาณ 3-8 สัปดาห์ อาจเป็นเพียงตุ่มผื่น ตุ่มแผลตามตัวที่ไม่รุนแรง แต่ในรายที่ติดเชื้อรุนแรง อาจทำให้เด็กเกิดมาพิการ

แผลริมอ่อนรักษาอย่างไร?

หลังจากแพทย์ทำการวินิจฉัย ซักประวัติสุขภาพ และตรวจร่างกายอย่างละเอียด รวมถึงเก็บตัวอย่างหนอง หรือน้ำเหลืองในแผลไปตรวจสอบแล้ว ถ้าพบว่าเป็นโรคแผลริมอ่อนจริง การรักษาทำได้ด้วยการใช้ยาปฏิชีวนะ การใช้ยาต้องทำโดยแพทย์สั่งและขึ้นอยู่กับการวินิจฉัยของแพทย์

วิธีป้องกันเป็นแผลริมอ่อนทำได้อย่างไร?

  • หลีกเลี่ยงการมีเพศสัมพันธ์กับผู้ที่มีบาดแผลบริเวณอวัยวะเพศ
  • สวมใส่ถุงยางอนามัยทุกครั้งเมื่อมีเพศสัมพันธ์ทางช่องคลอด
  • เลี่ยงพฤติกรรมการมีคู่นอนหลายคน หรือเปลี่ยนคู่นอนไปเรื่อย
  • รักษาความสะอาดบริเวณอวัยวะเพศ หลังจากมีเพศสัมพันธ์
  • ตรวจสอบบริเวณอวัยวะเพศสม่ำเสมอ ว่ามีรอยโรค บาดแผล ตุ่มหนอง ตุ่มแดง หรือก้อนนูนผิดปกติหรือไม่ หากมีควรรีบพบแพทย์
  • เข้ารับการตรวจร่างกาย ตรวจภายใน หรือคัดกรองโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อยู่เสมอ
  • สำหรับสตรีมีครรภ์ หรือกำลังวางแผนจะมีลูก แนะนำควรตรวจคัดกรองโรคแผลริมอ่อน เพื่อป้องกันไม่ให้แพร่เชื้อไปสู่ลูกในครรภ์

สำหรับใครที่มี ตุ่ม แผลหลายแผล ขอบแผลอ่อน เจ็บ สงสัยว่า จะโรคแผลริมอ่อน ขอแนะนำให้เข้ารับการรักษาโดยเร็วที่สุด


เปรียบเทียบราคาแพ็กเกจโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์

Scroll to Top