รวมข้อมูลเลเซอร์รักษาหลุมสิว ปรับผิวที่เป็นหลุมบ่อให้เรียบเนียนด้วยพลังงานเลเซอร์

หลุมสิว เป็นอีกปัญหาที่ทำให้ผิวหน้าของใครหลายคนไม่เรียบเนียน แถมหากหลุมสิวมีระดับความรุนแรงมากๆ ก็ยังสามารถมองเห็นได้แม้ในระยะไกลจนเสียความมั่นใจได้

ซึ่งในปัจจุบันก็จะเห็นได้ว่า การรักษาหลุมสิวนั้นมีอยู่หลายวิธี ตั้งแต่การทำหัตถการแบบฉีด การกรอผิวด้วยเกล็ดอัญมณี การทายาที่สั่งจ่ายโดยแพทย์ผิวหนัง การผ่าตัดเพื่อดึงเนื้อผิวที่เป็นหลุมบ่อให้กลับมาเสมอกัน หรือการยิงเลเซอร์รักษาหลุมสิว ซึ่งเป็นอีกวิธีรักษาที่ได้รับความนิยมและมักเห็นผลลัพธ์ได้ดีอีกด้วย

หลุมสิวคืออะไร?

หลุมสิว (Acne Scars) คือ รอยแผลจากสิวที่ผิวหนังไม่สามารถซ่อมแซมสร้างเซลล์คอลลาเจนขึ้นมาทดแทนเซลล์ผิวส่วนที่เสียหายได้ จนเกิดเป็นเนื้อเยื่อพังผืดที่ดึงรั้งให้ผิวยุบตัวลงกลายเป็นแอ่งหรือหลุม

ปัญหาหลุมสิวนั้นแบ่งออกได้ 3 ระดับซึ่งก็จะมีความรุนแรงของอาการที่ไม่เหมือนกัน ได้แก่

  • Rolling Scar เป็นปัญหาหลุมสิวในระดับเริ่มต้น จะยังมีความตื้นและไม่เป็นแอ่งลึกมากนัก หากมองผิวเผิน อาจสังเกตเห็นเหมือนเป็นเพียงผิวที่ไม่เรียบเนียนเท่านั้น
  • Box Scar เป็นปัญหาหลุมสิวที่จะมีขนาดกว้างขึ้นและเห็นเส้นขอบของหลุมได้อย่างชัดเจน
  • Ice Pick Scar เป็นปัญหาหลุมสิวที่รุนแรงที่สุด โดยจะมีขนาดลึกและปากหลุมแคบ มักมีอยู่หลายตำแหน่งบนผิวหน้าจนทำให้เกิดเป็นรอยหมองคล้ำเป็นจุดๆ

เลเซอร์รักษาหลุมสิวคืออะไร?

เลเซอร์รักษาหลุมสิว คืออีกชนิดของพลังงานเลเซอร์สำหรับรักษาปัญหาผิวหน้าที่ยังสามารถรักษาปัญหาหลุมสิวได้ด้วย โดยส่วนมากเลเซอร์ที่รักษาหลุมสิวได้จะมีคุณสมบัติช่วยกระตุ้นการสร้างเซลล์คอลลาเจนผิวใหม่ เพื่อเสริมให้ผิวที่ยุบตัวกลายเป็นหลุมกลับมาตื้นเท่ากันกับชั้นผิวส่วนอื่นมากขึ้น

เลเซอร์รักษาหลุมสิวมีกี่แบบ?

ปัจจุบันมีนวัตกรรมเลเซอร์รักษาหลุมสิวหลายตัวที่น่าสนใจ แต่เลเซอร์ส่วนที่นิยมใช้กันมากในการรักษาหลุมสิว ได้แก่

1. เลเซอร์หลุมสิวด้วย Picosecond Laser

พลังงาน PicoSecond Laser เป็นคลื่นพลังงานเลเซอร์ที่มีการปล่อยพลังงานลงชั้นผิวได้รวดเร็วถึง 1 ล้านล้านวินาทีต่อ 1 หน่วย Picosecond ทำให้ช่วยกระตุ้นเซลล์คอลลาเจนที่หลุมสิวได้อย่างรวดเร็วและละเอียดถึงที่สุด นอกจากนี้ยังช่วยแตกเม็ดสีเมลานินที่ทำให้ผิวหมองคล้ำจากหลุมสิวได้อย่างละเอียดอีกด้วย

ข้อดีของการเลเซอร์หลุมสิวด้วย Picosecond Laser

  • เนื่องจากมีการปล่อยพลังงานลงเนื้อผิวที่รวดเร็วมาก Picosecond Laser จึงจะไม่ทิ้งความรู้สึกแสบร้อนไว้ที่ผิวหนังระหว่างทำหัตถการเลย
  • เป็นคลื่นพลังงานที่รักษาหลุมสิวได้ทุกสีผิว
  • เห็นผลลัพธ์ได้ค่อนข้างรวดเร็วและเห็นได้ชัด แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับระดับความรุนแรงของปัญหาหลุมสิวในผู้เข้ารับบริการแต่ละท่าน

ข้อเสียของการเลเซอร์หลุมสิวด้วย Picosecond Laser

  • อาจทำให้รู้สึกเจ็บระหว่างรับบริการได้ แต่โดยทั่วไปทางสถานพยาบาลจะมีการทายาชาให้ก่อนรับบริการอยู่แล้ว
  • ผิวอาจเป็นรอยแดงช้ำหรือผิวตกสะเก็ดหลังการรักษาได้ แต่ประมาณ 1-3 สัปดาห์ รอยก็จะค่อยๆ หายไป
  • ราคามักค่อนข้างสูง เมื่อเทียบกับพลังงานเลเซอร์ชนิดอื่น
  • เหมาะกับปัญหาหลุมสิวระดับ Rolling Scar จนถึง Box Scar ในส่วนของหลุมสิวที่อยู่ในระดับรุนแรงมากอาจต้องรับบริการหลายครั้งจึงจะเห็นผล หรือเห็นผลลัพธ์ได้ในระดับปานกลางเท่านั้น

เลเซอร์หลุมสิวด้วย Picosecond Laser เหมาะกับใคร

  • ผู้ที่มีปัญหาหลุมสิว รวมถึงผู้ที่มีปัญหาผิวส่วนอื่นๆ ที่ต้องการรักษานวัตกรรมเดียว เช่น ผิวหน้าหมองคล้ำ มีรอยดำจากสิว อยากลบรอยสัก อยากลดรอยฝ้า ปาน กระ ริ้วรอยแห่งวัยต่างๆ
  • ผู้ที่มีปัญหาหลุมสิวในระดับเริ่มต้นถึงปานกลาง
  • ผู้ที่มีเวลาฟื้นฟูผิวที่อาจตกสะเก็ดเป็นรอยแดงเข้มหลังยิงเลเซอร์
  • ผู้ที่ต้องการเห็นผลลัพธ์หลังรับบริการค่อนข้างเร็ว

2. เลเซอร์หลุมสิวด้วย Fractional CO2

พลังงานเลเซอร์ Fractional CO2 สามารถรักษาหลุมสิวได้ด้วยการปล่อยคลื่นพลังงานที่มีลักษณะเป็นจุดเล็กๆ แต่มีการกระจายตัวได้หลายตำแหน่งลงไปที่เนื้อผิว จากนั้นคลื่นพลังงานจะเปลี่ยนเป็นพลังงานความร้อนเพื่อเข้าไปฟื้นฟูหลุมสิวตามตำแหน่งที่กำหนด โดยจะทำให้เซลล์ผิวที่เสียหายหลุดออกไป แล้วกระตุ้นการผลัดเซลล์ผิวขึ้นมาใหม่ ทำให้หลุมสิวตื้นขึ้น โดยไม่ไปส่งผลกระทบต่อเซลล์เนื้อเยื่อที่อยู่ข้างเคียง

ข้อดีของการเลเซอร์หลุมสิวด้วย Fractional CO2

  • ทำให้รู้สึกเจ็บน้อยกว่า และอาจไม่จำเป็นต้องทายาชาก่อนทำหัตถการ
  • ราคาค่อนข้างถูก
  • เนื่องจากเป็นเลเซอร์ลำแสงขนาดเล็ก จึงมีความแม่นยำในการยิงพลังงานลงที่เนื้อผิว

ข้อเสียของเลเซอร์หลุมสิวด้วย Fractional CO2

  • ต้องทำหลายครั้งจึงจะเห็นผล โดยอาจอยู่ที่ 3-5 ครั้งขึ้นไป
  • อาจต้องทำร่วมกับการทำ Subcision หรือการใช้เข็มเลาะเนื้อเยื่อพังผืดที่ใต้หลุมสิวก่อน แล้วจึงค่อยยิงเลเซอร์กระตุ้นการฟื้นฟูผิวซ้ำ จึงจะเห็นผลลัพธ์ได้ดี
  • อาจทำให้เกิดปัญหาผิวไหม้หลังทำหัตถการได้
  • ไม่เหมาะกับปัญหาหลุมสิวที่รุนแรง โดยแพทย์อาจแนะนำให้เปลี่ยนไปใช้วิธีฉีดฟิลเลอร์หรือวิธีผ่าตัดแทน ขึ้นอยู่กับลักษณะปัญหาหลุมสิวของผู้เข้ารับบริการ
  • คนเชื้อสายเอเชียมีโอกาสเกิดรอยดำจากการยิงเลเซอร์ได้มากกว่าคนเชื้อสายตะวันตกที่มีผิวขาว

เลเซอร์หลุมสิวด้วย Fractional CO2 เหมาะกับใคร?

  • ผู้ที่มีปัญหาหลุมสิวในระยะเริ่มต้นหรือในระดับไม่รุนแรงมาก
  • ผู้ที่มีผิวขาว เนื่องจากมีโอกาสเกิดรอยคล้ำหลังรับบริการได้น้อยกว่า แต่ทั้งนี้ในผู้ที่มีผิวคล้ำ แพทย์อาจพิจารณายิงพลังงานในระดับที่ไม่แรงจนเกินไปเพื่อรักษาหลุมสิวได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการเลือกใช้พลังงานเลเซอร์ในแต่ละสถานพยาบาล
  • ผู้ที่มีเวลากลับมายิงเลเซอร์ซ้ำตามจำนวนครั้งที่แพทย์แนะนำ มิเช่นนั้นอาจไม่เห็นผลลัพธ์ในการรักษา

3. เลเซอร์หลุมสิวด้วย Fractional Radio Frequency

คลื่นพลังงาน Fractional Radio Frequency ไม่จัดเป็นพลังงานเลเซอร์เสียทีเดียว แต่ก็จัดเป็นอีกคลื่นพลังงานที่หลายสถานพยาบาลนิยมใช้เพื่อรักษาหลุมสิวเช่นกัน

โดยคลื่นพลังงาน Fractional Radio Frequency มีชื่อย่ออีกชื่อว่า “Fractional RF” เป็นคลื่นพลังงานวิทยุความถี่สูงที่มีคุณสมบัติกระตุ้นการสร้างเซลล์คอลลาเจนผิวใหม่ และทำให้เนื้อผิวเกิดการซ่อมแซมตนเองอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ทำให้หลุมสิวตื้นขึ้นนั่นเอง

เครื่องปล่อยพลังงาน Fractional Radio Frequency ยังแบ่งออกเป็น 2 รูปแบบ คือ

  • เครื่องปล่อยพลังงาน Fractional Radio Frequency แบบไม่มีหัวเข็ม เป็นเครื่องที่มุ่งเน้นการใช้คลื่นพลังงาน RF ในการรักษาหลุมสิวอย่างเดียว
  • เครื่องปล่อยพลังงาน Fractional Radio Frequency แบบมีหัวเข็ม โดยที่หัวยิงพลังงานของเครื่องแบบนี้จะติดตั้งเข็มขนาดเล็กประมาณ 0.5-3.5 มิลลิเมตรซึ่งสามารถปล่อยพลังงาน RF ออกมาได้ โดยในระหว่างทำหัตถการแพทย์จะใช้เข็มที่หัวปล่อยพลังงานเจาะลงไปใต้ผิวบริเวณที่มีหลุมสิวลึกถึงชั้นหนังแท้ (Dermis) เพื่อทำลายพังผืดที่ก้นหลุมสิว และขณะเดียวกันตัวเข็มก็จะปล่อยคลื่นพลังงาน RF ที่ทำให้เกิดกระบวนการสร้างคอลลาเจนผิวใหม่ที่ล้ำลึกขึ้นไปพร้อมๆ กัน

ข้อดีของการเลเซอร์หลุมสิวด้วย Fractional Radio Frequency

  • สามารถเข้าไปฟื้นฟูความเสียหายของผิวจากหลุมสิวได้อย่างละเอียด โดยเฉพาะในกรณีเลือกใช้เครื่องที่มีหัวเข็ม
  • เป็นคลื่นพลังงานทำให้ผิวหนังกำพร้าหลุดลอกออกได้น้อยกว่า จึงมีโอกาสทำให้ผิวแสบร้อนหรือเกิดปัญหาผิวไหม้ได้น้อยกว่าพลังงานเลเซอร์ Fractional CO2 รวมถึงเลเซอร์ตัวอื่นๆ
  • เห็นผลข้างเคียงได้ค่อนข้างน้อย หรือในระดับเพียงเล็กน้อยซึ่งเพียง 1-3 วันก็หายเป็นปกติ เช่น อาการบวมผิว ผิวมีรอยแดง

ข้อเสียของการเลเซอร์หลุมสิวด้วย Fractional Radio Frequency

  • ในกรณีที่ใช้เครื่องแบบไม่มีหัวเข็ม ซึ่งจะเป็นการยิงพลังงานลงไปที่ชั้นผิวจากหัวปล่อยพลังงานโดยตรง ผู้เข้ารับบริการอาจรู้สึกเจ็บผิวในระหว่างรับบริการได้บ้าง
  • ต้องรับบริการหลายครั้งจึงจะเห็นผลลัพธ์ โดยเฉลี่ยประมาณ 4 ครั้งขึ้นไป การรับบริการเพียงครั้งเดียวมักไม่สามารถเห็นการเปลี่ยนแปลงได้

เลเซอร์หลุมสิวด้วย Fractional Radio Frequency เหมาะกับใคร?

  • ผู้ที่ต้องการขจัดเซลล์พังผืดใต้หลุมสิวไปพร้อมๆ กับฟื้นฟูเนื้อผิวส่วนที่เสียหายจากหลุมสิว
  • ผู้ที่มีปัญหาหลุมสิวทุกระดับตั้งแต่ระยะเริ่มต้นจนถึงรุนแรง แต่ทั้งนี้ควรให้แพทย์เป็นผู้ประเมินวิธีรักษาที่เหมาะสมอีกครั้ง เนื่องจากหลุมสิวที่มีระดับความรุนแรงมากๆ การรักษาด้วยการยิงเลเซอร์ยังอาจไม่เพียงพอ

เลเซอร์รักษาหลุมสิวกี่ครั้งหาย?

การยิงเลเซอร์รักษาหลุมสิวเป็นรูปแบบการรักษาที่ต้องทำหลายครั้งจึงจะเห็นผล โดยส่วนมากต้องรับบริการอย่างต่ำ 3-5 ครั้งจึงจะเห็นการเปลี่ยนแปลง ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการตอบสนองของผิวต่อพลังงานเลเซอร์ ร่วมกับระดับปัญหาหลุมสิวที่แพทย์ประเมิน

การเตรียมตัวก่อนเลเซอร์รักษาหลุมสิว

  • เดินทางมาให้แพทย์ตรวจดูปัญหาหลุมสิวล่วงหน้าก่อนวันรับบริการยิงเลเซอร์
  • แจ้งประวัติสุขภาพ ประวัติการใช้ยาประจำตัว วิตามินเสริม อาหารเสริม สมุนไพรเสริมสุขภาพทุกชนิดให้ทางสถานพยาบาลทราบล่วงหน้าก่อน
  • งดการทำหัตถการที่ผิวส่วนที่จะรักษา เช่น สครับผิว ขัดผิว แวกซ์ขน โกนขน ดึงขน ประมาณ 3 วันก่อนรับบริการ
  • งดใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่มีส่วนผสมของสารเรตินอล (Retinol) สารเรตินอยด์ (Retonoid) กรดไกลโคลิก (Glycolid Acid) อย่างน้อย 2-4 สัปดาห์ก่อนรับบริการ
  • งดการออกไปสัมผัสแสงแดดจัดๆ รวมกิจกรรมกลางแจ้งอย่างน้อย 2 เดือนก่อนรับบริการ

ขั้นตอนการเลเซอร์รักษาหลุมสิว

กระบวนการรักษาหลุมสิวจะขึ้นอยู่กับขั้นตอนของแต่ละสถานพยาบาล รวมถึงอุปกรณ์ที่ทางสถานพยาบาลเลือกใช้ แต่โดยทั่วไป กระบวนการที่เกิดขึ้นมักเริ่มจากการทำความสะอาดผิวหน้าของผู้เข้ารับบริการ จากนั้นใส่แว่นตากันแสงเลเซอร์ให้กับผู้เข้ารับบริการ แล้วเริ่มการยิงแสงเลเซอร์ลงไปที่ตำแหน่งของหลุมสิวทีละส่วน

หลังจากนั้นทางสถานพยาบาลอาจทาครีมหรือเจลกันระคายเคืองและเสริมความชุ่มชื้นให้ แล้วผู้เข้ารับบริการสามารถเดินทางกลับบ้านได้

การดูแลตัวเองหลังเลเซอร์รักษาหลุมสิว

  • งดการออกไปสัมผัสแสงแดดจัดๆ ในระยะยาว หากจำเป็นต้องออกไปในที่โล่งแจ้ง ควรทาครีมกันแดด SPF 50+ และสวมหมวก กางร่ม หรือแว่นกันแดดเพื่อปกปิดผิวจากแสงแดดให้มากที่สุด
  • หมั่นทาผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่เสริมความชุ่มชื้นให้กับผิวเสมอ
  • ดื่มน้ำให้เพียงพอ เพื่อให้ผิวชุ่มชื้นกว่าเดิม
  • งดการแกะ แคะ หรือสะกิดผิวหากผิวตกสะเก็ดหรือมีแผลจากการยิงเลเซอร์ เนื่องจากอาจทำให้เกิดแผลที่หลุมสิวและทำให้หลุมสิวมีรอยคล้ำหรือเป็นหลุมลึกกว่าเดิมได้
  • หากเป็นสิวเพิ่มหลังจากยิงเลเซอร์ ให้กลับไปพบแพทย์เพื่อรักษาสิว อย่าแกะ แคะหรือบีบสิว เนื่องจากทำให้เกิดหลุมสิวเพิ่มขึ้นกว่าเดิม

การรักษาหลุมสิวด้วยการยิงเลเซอร์เป็นวิธีที่ได้รับความนิยมและแพร่หลายในวงกว้าง อย่างไรก็ตาม ภาพรวมของวิธีรักษาหลุมสิวด้วยวิธีนี้ก็ยังคงเห็นผลได้ดีในหลุมสิวที่อยู่ในระดับเริ่มต้นจนถึงปานกลางเท่านั้น หลุมสิวที่อยู่ในระดับลึกมาก แพทย์มักจะแนะนำให้ใช้วิธีรักษาอื่นๆ เพิ่มเติม ร่วมกับการยิงเลเซอร์ หรือใช้วิธีผ่าตัดเป็นการจบปัญหาหลุมสิวมากกว่า

เพื่อให้การรักษาหลุมสิวของคุณเห็นผล และคุ้มค่าต่อเงินทุกบาทที่จ่าย คุณควรปรึกษาแพทย์อย่างละเอียดเกี่ยวกับวิธีรักษาหลุมสิวของตนเองเสียก่อน เนื่องจากค่าใช้จ่ายในการยิงเลเซอร์รักษาหลุมสิวมักมีราคาไม่ต่ำกว่าหลักพันจนถึงหลักหมื่น ซึ่งอาจเป็นเงื่อนไขที่ทำให้ใครหลายคนไม่สะดวกรับบริการได้


เช็กราคาเลเซอร์รักษาหลุมสิ

Scroll to Top