โปรแกรมตรวจตา ตรวจอะไรบ้าง?

การตรวจสุขภาพตามักเริ่มตั้งแต่วัยเด็กก่อนเข้าโรงเรียนอนุบาล หรืออายุ 3-5 ปี และยังคงต้องเข้ารับการตรวจเช็กทุก 1-2 ปีเพื่อดูความเรียบร้อย

ในวัยผู้ใหญ่เองก็ได้รับคำแนะนำว่าควรเข้ารับการตรวจทุก 5-10 ปีเช่นกัน โดยเฉพาะผู้สูงวัยที่มีโอกาสเกิดความผิดปกติที่ดวงตามากขึ้น ซึ่งแพทย์อาจแนะนำให้ตรวจอย่างน้อยปีละครั้ง

โปรแกรมตรวจตาคืออะไร?

โปรแกรมตรวจตาทั่วไป คือการพูดคุย ทำการทดสอบ และประเมินโดยจักษุแพทย์ (Ophthalmologist) ผู้เชี่ยวชาญเรื่องสุขภาพตา

การทดสอบโดยทั่วไปมีจุดประสงค์เพื่อประเมินการทำงานของตาทั้ง 2 ข้าง การมองเห็น อวัยวะอื่นๆ รอบดวงตา เช่น เบ้าตา เปลือกตา เนื้อเยื่อดวงตา

นอกจากนี้ ในโปรแกรมตรวจตาทั่วไปยังช่วยให้จักษุแพทย์ประเมินโอกาสเสี่ยงในการเป็นโรคเกี่ยวกับดวงตาได้ด้วย เช่น ต้อเนื้อ ต้อหิน

โปรแกรมตรวจตาตรวจอะไรบ้าง?

รายการที่อาจพบในโปรแกรมตรวจสุขภาพตาทั่วไปมีความหลากหลาย ขึ้นอยู่กับสถานที่ ราคา และแพ็กเกจที่ใช้บริการ แต่รายการตรวจมาตรฐานที่พบได้บ่อย อาจมีดังนี้

1. ซักประวัติสุขภาพตา

แพทย์หรือพยาบาลอาจสอบถามข้อมูลทั่วไปเกี่ยวกับดวงตา และการมองเห็นของคุณ เช่น ภาพที่เห็นมีปัญหาไหม สายตาปกติ สั้น ยาว หรือเอียงไหม ใส่คอนแทคเลนส์หรือแว่นตาไหม?

บางรายอาจสอบถามถึงประวัติครอบครัวและสุขภาพโดยรวมด้วย นอกจากนี้สิ่งที่ควรเตรียมไปในการตอบคำถามแพทย์รวมถึงยาที่ใช้เป็นประจำ ทั้งยาหยอดตาและยากินด้วย

2. การมองเห็นระยะใกล้และไกล

การวัดการมองเห็นระยะใกล้และไกลจะทดสอบโดยการใช้ Snellen chart ที่เป็นแผ่นสีขาวมีตัวอักษรเรียงกัน 8 แถว ในแต่ละแถวจะมีขนาดอักษรเล็กลงเรื่อยๆ

จักษุแพทย์จะให้ผู้ใช้บริการยืนห่างจากแผ่นป้ายประมาณ 6 เมตร และอ่านตัวอักษรไล่ไปทีละแถวตั้งแต่ด้านบนลงด้านล่างจนครบ

โดยด้านหลังของแต่ละแถวมักมีตัวเลขกำกับระยะเอาไว้ว่าขนาดตัวอักษรในแถวนั้น สามารถมองเห็นได้จากระยะเท่าไร

3. การทดสอบลานสายตา

การวัดลานสายตา (Visual field test) เป็นการตรวจพื้นฐานในโปรแกรมตรวจตาที่พบบ่อย เพื่อวัดลานสายตา หรือระยะการมองเห็นว่าเป็นปกติหรือไม่ มีส่วนใดที่มีปัญหา

จักษุแพทย์จะนั่งหันหน้าเข้าหาผู้ใช้บริการห่างประมาณ 1 เมตร โดยให้ผู้ใช้บริการหลับตา 1 ข้าง และใช้ตาข้างที่เหลือมองไปยังจมูกของจักษุแพทย์

จากนั้นจักษุแพทย์จะอ้าแขนออก 2 ข้าง และสุ่มขยับนิ้วทั้ง 2 ข้างไปมา หากผู้ใช้บริการเห็นจักษุแพทย์ขยับนิ้วก็ให้แจ้งกับจักษุแพทย์ว่าเห็น โดยจักษุแพทย์จะเคลื่อนมือไปมาทั้งด้านข้าง ด้านบน ด้านล่าง เมื่อทำครบแล้วจึงเปลี่ยนเป็นตาอีกข้างแทน

การทดสอบลานสายตาสามารถช่วยให้จักษุแพทย์ช่วยวินิจฉัย โรคระบบประสาท โรคเส้นประสาทตา โรคจอประสาทตาลอกหลุด และต้อหินได้

4. ตรวจการขยายของรูม่านตา

แพทย์จะทดสอบการขยายของรูม่านตาด้วยการหยอดยาขยายม่านตา (Dilating drops) ทำให้ม่านตาขยายเต็มที่ภายใน 20-30 นาที และอาจใช้เวลานาน 4-6 ชั่วโมงกว่าที่จะกลับมาเป็นปกติ

ในระหว่างนี้แพทย์จะส่องไฟและใช้เลนส์ขยายเพื่อตรวจดูด้านในดวงตาของเรา เนื่องจากกลไกธรรมชาติของม่านตาจะค่อยๆ เล็กลงเมื่อเจอกับแสงจ้า แพทย์จึงต้องหยอดยาขยายม่านตาเพื่อเวลาส่องไฟดูแล้วม่านตาไม่หด

แพทย์อาจตรวจดูสิ่งต่อไปนี้ระหว่างที่ม่านตาขยาย

  • จอประสาทตา (Retina)
  • เส้นประสาทตา (Optic nerve)
  • เส้นเลือด
  • ภาพรวมของดวงตา

การส่องดูรูม่านตานี้สามารถช่วยให้แพทย์วินิจฉัยอาการผิดปกติ ดังต่อไปนี้

  • ต้อหิน (Glaucoma)
  • จอประสาทตาลอก (Retinal detachment)
  • โรคจุดภาพชัดที่จอตาเสื่อมตามสูงอายุ (Age-related macular degeneration)
  • เบาหวานขึ้นตา (Diabetic retinopathy)

แต่ผลข้างเคียงของรูม่านตาขยายอาจทำให้ตาสู้แสงได้น้อยลง เห็นภาพเบลอ หากคุณเป็นคนใส่คอนแทคเลนส์จะต้องรอให้ม่านตากลับมาเป็นปกติก่อน จึงจะใส่กลับไปเหมือนเดิมได้ .

5. วัดความดันลูกตา (Tonometry)

การวัดความดันลูกตาจะช่วยให้คุณทราบถึงความดันที่เปลี่ยนแปลงภายในตั้งแต่คุณยังไม่รู้ตัว ก่อนจะเริ่มการทดสอบแพทย์อาจหยอดยาระงับความรู้สึก

จากนั้นแพทย์จะให้วางคางไว้บริเวณเครื่องตรวจ Slit-lamp จากนั้น Tonometer จะเคลื่อนเข้ามาสัมผัสกระจกตาเล็กน้อย เครื่องจะเริ่มวัดความดันดวงตา

เครื่องวัดความดันดวงตาในปัจจุบันมีความปลอดภัยสูงมาก ถึงแม้จะมีการขีดข่วนดวงตาเล็กน้อย ก็จะไม่รู้สึกเจ็บจากผลของยาระงับความรู้สึก และรอยขีดนั้นจะหายเป็นปกติได้เองในไม่กี่วัน นอกจากนี้ในบางสถานที่ให้บริการอาจใช้เครื่องวัดความดันดวงตาได้แบบไม่ต้องสัมผัสดวงตา

6. ตรวจความหนาของจอประสาทตา

การตรวจความหนาของจอประสาทตาจะใช้เครื่อง Optical Coherence Tomography: OCT เป็นการใช้แสงเลเซอร์ถ่ายภาพข้างในดวงตาและประมวลผลด้วยคอมพิวเตอร์ คล้ายกับการอัลตราซาวด์ (Ultrasound)

แพทย์สามารถตรวจดูส่วนต่างๆ ได้ดังนี้

  • ตรวจดูชั้นต่างๆ ของจอประสาทตา
  • ตรวจความลึกของขั้วประสาทตา
  • ตรวจวัดความหนาของจอประสาทตา
  • ตรวจหาซีสต์หรือรอยบวมผิดปกติภายในดวงตา

โปรแกรมตรวจตาราคาเท่าไร?

ราคาโปรแกรมตรวจสุขภาพตาที่ HDmall รวบรวมมาให้ อาจมีดังนี้

  • ตรวจสุขภาพตาเด็ก ราคาอยู่ที่ประมาณ 950-1,300 บาท
  • ตรวจสุขภาพตาผู้ใหญ่ ราคาอยู่ที่ประมาณ 450-3,000 บาท
  • ตรวจสุขภาพตาพร้อมตัดแว่นให้เหมาะสมกับสุขภาพตา ราคาอยู่ที่ประมาณ 1,990-4,800 บาท

โดยสรุปแล้ว โปรแกรมตรวจสุขภาพตาเป็นสิ่งที่ทำได้ง่าย เพราะสามารถตรวจได้จากภายนอก ไม่ต้องเจาะเลือดและอดอาหารเหมือนการตรวจสุขภาพ แถมยังช่วยให้สามารถดูแลสุขภาพตาได้เหมาะสมยิ่งขึ้น

Scroll to Top