“ฮอร์โมน” เป็นสารเคมีในร่างกายซึ่งพบในคนทุกเพศทุกวัย ฮอร์โมนมีหลายกลุ่ม หลายชนิด ซึ่งแต่ละกลุ่มก็มีบทบาทความสำคัญแตกต่างกันไป
อาจกล่าวได้ว่า ร่างกายจะทำงานอย่างมีประสิทธิภาพได้หรือไม่นั้น จิตใจจะเบิกบาน ไม่หดหู่ หรือเครียด นั้น ส่วนหนึ่งก็มาจาก “ความสมดุลของฮอร์โมนภายในร่างกาย” ด้วย ฮอร์โมนน้อยเกินไปก็ไม่ดี มากเกินไปก็ไม่ได้ ต้องอยู่ในระดับสมดุลจึงจะดีที่สุด
สารบัญ
ฮอร์โมนคืออะไร สำคัญอย่างไรต่อร่างกาย
ฮอร์โมน (Hormone) คือ สารเคมีที่ร่างกายสร้างขึ้นจากส่วนต่างๆ ได้แก่
- ต่อมไร้ท่อ (endrocrine gland) ซึ่งเป็นแหล่งผลิตฮอร์โมนที่ใหญ่ที่สุด
- เนื้อเยื่อต่างๆ ของร่างกาย (tissue) เช่น เนื้อเยื่อชั้นในของกระเพาะอาหาร ลำไส้เล็กส่วนต้น
- เซลล์ประสาท (neuron)เช่น เซลล์ประสาทในสมองส่วนไฮโพทาลามัส
ฮอร์โมนทำหน้าที่สื่อสารระหว่างเซลล์และควบคุมการทำงานของอวัยวะต่างๆ ด้วยการเดินทางไปตามกระแสเลือดเพื่อไปยังอวัยวะเป้าหมาย
ดังนั้นหากไม่มีฮอร์โมน เซลล์ เนื้อเยื่อ หรืออวัยวะบางอย่างอาจทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ เช่น นอนไม่หลับ มีความเครียดสูง หิวบ่อย สิวเยอะ หน้ามัน
ประเภทของฮอร์โมน แบ่งได้หลายอย่าง เช่น
แบ่งตามสารตั้งต้น หรือองค์ประกอบทางเคมีที่ใช้ในการสร้างฮอร์โมน ได้แก่
- ฮอร์โมนประเภทโปรตีน (Peptide Hormone) เช่น โกรทฮอร์โมน
- ฮอร์โมนประเภทสเตลอยด์ (Steriod Hormone) เช่น ฮอร์โมนเพศ ฮอร์โมนคอร์ติซอล
- ฮอร์โมนประเภทเอมีน (Amine Hormone) เช่น ฮอร์โมนไทรอกซิน ฮอร์โมนซีโรโทนิน
แบ่งตามการทำงานของฮอร์โมน ได้แก่
- ฮอร์โมนประเภทเผาผลาญ เช่น ฮอร์โมนอินซูลิน ฮอร์โมนอดิโพรเนคติน ฮอร์โมนไทรอยด์
- ฮอร์โมนประเภทสร้างภูมิคุ้มกัน เช่น ฮอร์โมนไทโมซิน
- ฮอร์โมนเพศ เช่น ฮอร์โมนเอสโตรเจน ฮอร์โมนโปรเจสโตรโรน
อย่างไรก็ตาม ระดับของฮอร์โมนแต่ละชนิดจะแตกต่างไปในแต่ละช่วงวัย สำหรับผู้หญิง ช่วงอายุ 20-25 ปี ร่างกายจะผลิตฮอร์โมนเพศได้มากที่สุด ส่วนผู้ชาย ร่างกายจะผลิตฮอร์โมนเพศได้มากที่สุดช่วงอายุ 25 ปี
ยิ่งอายุมากขึ้นระดับฮอร์โมนก็จะยิ่งลดลงตามลำดับ เช่นเดียวกับอวัยวะอื่นๆ ของร่างกายที่เสื่อมลง รวมทั้งการได้รับปัจจัยภายนอกต่างๆ เช่น การทำงานหนัก การรับมลพิษ ก็สามารถให้ระดับฮอร์โมนลดลงได้เช่นกัน
นั่นทำให้ระดับฮอร์โมนไม่สมดุลและเกิดปัญหาสุขภาพต่างๆ ตามมา
ฮอร์โมนสำคัญที่ควรรู้จักมีอะไรบ้าง?
ฮอร์โมนสำคัญที่มีอิทธิพลต่อร่างกาย ซึ่งหากมีระดับไม่สมดุลจะส่งผลต่อการทำงานของร่างกายได้หลายอย่าง
ตัวอย่างฮอร์โมนที่น่าสนใจได้แก่
- ฮอร์โมนไทรอยด์ (Thyroid Hormone) ทำหน้าที่ส่งเสริมการเจริญเติบโตของกระดูก สมอง และระบบประสาท การเผาผลาญพลังงาน หากภาวะฮอร์โมนไทรอยด์ต่ำจะเรียกว่า “ไฮโปไทรอยด์” ทำให้ร่างกายมีการเผาผลาญพลังงานได้ช้า ทำให้น้ำหนักขึ้นง่าย และรวดเร็ว ขี้หนาว
แต่หากเป็นภาวะฮอร์โมนไทรอยด์สูงจะเรียกว่า “ไฮเปอร์ไทรอยด์ หรือไทรอยด์เป็นพิษ” ทำให้ร่างกายมีการเผาผลาญพลังงานรวดเร็ว ทำให้น้ำหนักลดลงรวดเร็ว ขี้ร้อน - โกรทฮอร์โมน (Growth Hormone) ทำหน้าที่ในการช่วยเสริมสร้างร่างกายให้เจริญเติบโตสมวัย ช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงของกล้ามเนื้อและกระดูก ซ่อมแซมเนื้อเยื่อและส่วนที่สึกหรอ ช่วยในการทำงานของสมอง
ฮอร์โมนชนิดนี้จะมีระดับสูงสุดในช่วงวัยเด็ก-วัยรุ่น และค่อยๆ ลดระดับลงในวัยผู้ใหญ่ - ฮอร์โมนเพศ แบ่งเป็นฮอร์โมนเพศชาย ได้แก่ เทสโทสเทอโรน (Testosterone Hormone) และฮอร์โมนเพศหญิงได้แก่ เอสโตรเจน (Estrogen Hormone) และโปรเจสเตอโรน (Progesterone Hormone)
ฮอร์โมนเหล่านี้ทำหน้าส่งเสริมลักษณะประจำเพศนั้นๆ ให้สมบูรณ์ เช่น สะโพกผาย มีเต้านม หนวดเครา ขน เสียงแตก รวมถึงส่งเสริมการเจริญพันธุ์ตามธรรมชาติ รักษาความหนาแน่นของมวลกระดูก - ฮอร์โมนคอร์ติซอล (Cortisol Hormone)ฮอร์โมนความเครียด ร่างกายจะหลั่งออกมาทุกเช้าเพื่อให้สดชื่น มีพลังงาน และจะลดระดับลงเรื่อยๆ นอกจากนี้ยังช่วยควบคุมการทำงานของระบบเผาผลาญในร่างกาย ระดับน้ำตาลในเลือด รวมถึงระดับความดันโลหิต
- ฮอร์โมนอะดรีนาลีน (Adrenaline Hormone) ช่วยกระตุ้นให้หัวใจทำงานหนักขึ้น ทำให้เลือดไหลเวียนได้ดีขึ้น ช่วยให้ร่างกายตื่นตัวตลอดเวลาเพื่อให้พร้อมรับมือสถานการณ์ฉุกเฉิน
- ฮอร์โมน DHEA นอกจากจะเป็นฮอร์โมนตั้งต้นของฮอร์โมนเพศหญิงและเพศชาย แล้วยังเป็นฮอร์โมนต้านความเครียด ช่วยเพิ่มความแข็งแรงให้กับร่างกาย กระตุ้นความรู้สึกทางเพศ และชะลอความเสื่อมของร่างกาย
หากฮอร์โมนไม่สมดุลจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง?
อย่างที่กล่าวไปข้างต้นว่า ฮอร์โมนมีหลายประเภท หลายชนิด หลายบทบาทหน้าที่ เช่น เสริมสร้างการเจริญเติบโตของร่างกาย ซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ
ช่วยระบบย่อยอาหาร ช่วยกระบวนการเผาผลาญ เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน เสริมสร้างลักษณะประจำเพศ ควบคุมการนอนหลับ
ดังนั้นหากระดับฮอร์โมนไม่สมดุลย่อมเกิดปัญหาตามมามากมาย ที่สำคัญ ได้แก่
- ผิวพรรณแห้งกร้าน เล็บเปราะ ผมร่วง
- ดูแก่กว่าวัย
- สิวเพิ่มมากขึ้น
- ประจำเดือนมาไม่ปกติ
- นอนไม่ค่อยหลับ นอนหลับยาก นอนหลับไม่สนิท
- เข้าห้องกลางดึกบ่อยๆ
- อารมณ์แปรปรวน
- หงุดหงิดง่าย
- มีความเครียดสูง
- หลงๆ ลืมๆ ความจำไม่ดี
- หิวบ่อย กินจุ
- เหนื่อยและอ่อนเพลีย ไม่สดชื่น
- ความต้องการทางเพศลดลง
เชื่อหรือไม่ว่า เพียงฮอร์โมนไม่สมดุล 1-2 ชนิดก็ก่อให้เกิดปัญหาได้แล้ว ยิ่งหากฮอร์โมนเสียสมดุลหลายๆ ชนิดและเสียสมดุลเป็นระยะเวลานานๆ โดยไม่ได้รับการแก้ไข ฟื้นฟู จะส่งผลให้สุขภาพกายและสุขภาพจิตถดถอยลงเรื่อย
บางครั้งอาจนำไปสู่โรคร้ายที่คุณคาดไม่ถึง เช่น โรคเบาหวาน ไขมันในเลือดสูง โรคหัวใจขาดเลือด
ใครบ้างที่ควรตรวจสมดุลฮอร์โมน?
แน่นอนว่า ไม่จำเป็นต้องตรวจสมดุลฮอร์โมนทุกคน แต่แนะนำสำหรับผู้รักสุขภาพ และแนะนำอย่างยิ่งสำหรับผู้มีปัญหาสุขภาพในหัวข้อที่กล่าวมา รวมทั้ง
- ผู้ที่อยู่ในช่วงวัยทอง
- ผู้มีน้ำหนักเกินมาตรฐาน อ้วนลงพุง
- ผู้ที่มีน้ำหนักน้อยไม่ถึงเกณฑ์
- ผู้เป็นสิวเรื้อรัง
- ผู้ที่มีร่างกายมีภาวะผิดปกติ
- ผู้เป็นโรคเรื้อรัง เช่น ไมเกรน
- ผู้ที่ประกอบอาชีพที่มีความเสี่ยงต่อการสัมผัสมลพิษจากสิ่งแวดล้อม
- ผู้ดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่
- ผู้ที่รับประทานอาหารไม่ถูกสัดส่วนทำให้เกิดภาวะขาดสารอาหารหรือพร่องวิตามิน
- ผู้ที่ขาดการออกกำลังกายที่เหมาะสม
ทั้งนี้เพื่อนำไปสู่การรับคำแนะนำ การวางแผนการรักษาที่ถูกต้องเหมาะสมต่อไป เช่น การใช้ฮอร์โมนบำบัด การรับวิตามินทดแท
รวมทั้งการปรับเปลี่ยนไลฟ์สไตล์ที่เหมาะสม เช่น การรับประทานอาหาร การออกกำลังกาย การพักผ่อนให้เพียงพอ ร่างกายและจิตใจจะได้กลับมาสดใสสมบูรณ์อีกครั้ง