remedies for snoring treatment how to

6 เคล็ด (ไม่) ลับ ปรับพฤติกรรม ลดอาการนอนกรน

เคยไหม? ตื่นมาแล้วรู้สึกไม่สดชื่น มีอาการคอแห้ง ปวดหัว หรือง่วงซึมระหว่างวัน บ้างก็มีคนใกล้ตัวบอกว่า คุณนอนกรนเสียงดัง จนรู้สึกเขินที่จะนอนร่วมกับคนอื่น เหล่านี้เป็นสัญญาณที่บอกว่าคุณกำลังนอนกรน

นอนกรนอาจเป็นเรื่องธรรมชาติที่เกิดขึ้นได้กับทุกคน แต่เชื่อว่าคงไม่มีใครอยากนอนกรน เพราะส่งผลกระทบกับคนใกล้ตัว และสุขภาพของคุณเอง การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในชีวิตบางอย่าง อาจจะช่วยลดปัญหาการนอนกรนลงไปได้

นอนกรน เกิดจากอะไร

ก่อนอื่นมาทำความเข้าใจกันก่อนว่า ทำไมถึงนอนกรน?

นอนกรนเกิดจากการที่เนื้อเยื่อและกล้ามเนื้อบริเวณทางเดินหายใจส่วนบน ได้แก่ ลิ้นไก่ เพดานอ่อน คอหอย โคนลิ้น มีการหย่อนคล้อยลงมาปิดกั้นระบบทางเดินหายใจจนตีบแคบ ลมที่ผ่านจึงเกิดแรงสั่นสะเทือกมากกว่าปกติ เกิดเป็นเสียงกรน 

การนอนกรนเกิดขึ้นได้กับคนทุกเพศ ทุกวัย แต่มักพบในผู้ชายบ่อยกว่าผู้หญิง และพบบ่อยในคนอายุ 30 ปีขึ้นไป โดยสาเหตุและปัจจัยที่ก่อให้เกิดการนอนกรนมีอยู่หลายอย่าง เช่น  

  • โครงสร้างช่องปาก คนที่มีเพดานอ่อนที่ต่ำและหนา หรือมีช่องคอแคบแต่กำเนิด ทำให้ทางเดินหายใจตีบและแคบกว่าปกติ 
  • ภาวะอ้วน คนที่น้ำหนักตัวเยอะหรือมีน้ำหนักเกินเกณฑ์ จะมีไขมันแทรกในเนื้อเยื่อช่วงคอส่วนบนหนากว่าปกติ ทำให้กระทบต่อทางเดินหายใจตอนนอนหลับ
  • การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และการสูบบุหรี่ ส่งผลให้กล้ามเนื้อและเนื้อเยื่อส่วนต่าง ๆ หย่อนคล้อยมากกว่าปกติ 
  • ปัญหาเกี่ยวกับจมูกหรือโพรงจมูก เช่น โรคภูมิแพ้เรื้อรัง ไซนัสอักเสบ หรือผนังกั้นจมูกคด จะส่งผลกระทบต่อทางเดินหายใจ
  • การอดนอน การนอนหลับไม่เพียงพอ จะส่งผลให้ช่วงลำคอเกิดการหย่อนตัวมากขึ้น
  • การใช้ยาบางประเภท เช่น ยาคลายกล้ามเนื้อหรือยาที่มีฤทธิ์กดประสาท 
  • อายุ ยิ่งอายุมากขึ้นจะทำให้กล้ามเนื้อบริเวณทางเดินหายใจส่วนบนยิ่งหย่อนมากขึ้น จนเสี่ยงต่อการนอนกรนได้มากขึ้นด้วย 

แก้อาการนอนกรน แค่ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม 

สาเหตุและปัจจัยที่ทำให้เรานอนกรนเกิดได้จากหลายอย่าง  ส่วนนึงเกิดจากพฤติกรรมบางอย่างที่หลาย ๆ คนมองข้าม การแก้อาการนอนกรน อาจเริ่มจากการปรับพฤติกรรมในชีวิตประจำวันต่าง ๆ ดังนี้ 

1. ปรับท่าทางการนอน 

การนอนกรนเกิดจากการหย่อนตัวของกล้ามเนื้อและเนื้อเยื่อในทางเดินหายใจส่วนบน เมื่ออยู่ในท่านอนหงายจะทำให้โคนลิ้นและเพดานอ่อนยิ่งลงมาปิดกั้นระบบทางเดินหายใจให้แคบลง จึงเป็นท่านอนที่ทำให้เกิดเสียงกรนมากที่สุด 

ดังนั้น ลองปรับเปลี่ยนท่านอนเป็นการนอนตะแคง และเลือกนอนบนหมอนที่สูงขึ้นสัก 4 นิ้ว จะช่วยป้องกันไม่ให้ลิ้นหรือกล้ามเนื้อส่วนต่าง ๆ ลงไปอุดกั้นทางเดินหายใจ และอาจช่วยแก้อาการนอนกรนได้ 

2. ไม่ดื่มแอลกอฮอล์และบุหรี่ 

การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นสาเหตุให้กล้ามเนื้อและเนื้อเยื่อในช่วงคอส่วนบนหย่อยคล้อย ส่วนการบุหรี่เองก็ทำให้ช่องทางเดินหายใจอักเสบและหนาตัวขึ้น จนกระตุ้นให้เกิดการนอนกรนขึ้นได้ 

การงดสูบบุหรี่และเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์ โดยเฉพาะช่วงเวลาก่อนเข้านอน จะช่วยให้อาการนอนกรนของคุณดีขึ้น

3. ลดน้ำหนัก 

ภาวะอ้วนหรือน้ำหนักตัวเยอะ เป็นหนึ่งในสาเหตุสำคัญที่ทำให้นอนกรน เพราะไขมันที่เพิ่มขึ้นบริเวณช่วงคอ อก และหน้าท้อง อาจไปเบียดช่องทางการหายใจจนเกิดอาการกรน และทำให้กล้ามเนื้อและเนื้อเยื่อในผนังคอแคบลงด้วย

การลดน้ำหนักจะช่วยลดความเสี่ยงดังกล่าว และยังช่วยให้สุขภาพโดยรวมดีขึ้นด้วย โดยเริ่มจากการเลือกกินอาหารที่มีประโยชน์ และออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ 

สำหรับคนที่มีน้ำหนักเกินเกณฑ์มาก ๆ หรือมีปัญหาในการลดน้ำหนัก สามารถขอคำแนะนำหรือปรึกษาแพทย์ถึงแนวทางการลดน้ำหนักที่เหมาะสม จะช่วยให้ควบคุมน้ำหนักตัวได้ดีขึ้น

4. ดูแลจมูกให้หายใจสะดวกอยู่เสมอ

คนที่มีปัญหาระบบทางเดินหายใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งโรคภูมิแพ้เรื้อรัง ควรหลีกเลี่ยงปัจจัยที่ก่อให้เกิดภูมิแพ้ เช่น ไรฝุ่นตามจุดต่าง ๆ ในห้องนอน ควรทำความสะอาดห้อง หมอน ผ้าห่ม หรือผ้าปูที่นอนอย่างสม่ำเสมอ 

รวมถึงหมั่นดูแลโพรงจมูกไม่ให้อุดตันหรือเกิดการอักเสบ โดยล้างจมูกเป็นประจำ หรือคนที่มีการอักเสบของโพรงจมูกบ่อย ๆ หรือระดับรุนแรง ควรปรึกษาแพทย์ถึงการใช้ยาในการรักษาให้หายขาด 

5. บริหารช่องปากและคอ 

การออกกำลังกายทางเดินหายใจส่วนบนจะช่วยให้กล้ามเนื้อช่องปากและคอตึงตัวมากขึ้น ลดการหย่อนคล้อย ช่วยลดอาการนอนกรน และนอนหลับได้ดียิ่งขึ้น

โดยเริ่มจากวางปลายลิ้นไว้หลังฟันบน จากนั้นค่อย ๆ เลื่อนลิ้นไปตามเพดานปาก เข้าไปด้านในให้มากที่สุด แล้วทำซ้ำประมาณ 510 ครั้ง 

นอกจากนี้ ยังมีท่าบริหารช่องปากและคออื่น ๆ ที่ทำได้ง่าย ๆ เช่น

  • ออกเสียง “อา” หรือจะออกเสียงสระ “A, E, I, O, U” ค้างไว้ 10 วินาที
  • พองแก้มค้างไว้ 10 วินาที แล้วเป่าลมออก
  • แลบลิ้นออกด้านหน้า ค้างไว้ 10 วินาที
  • งับลิ้นแล้วกลืนน้ำลาย

6. นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ ไม่ใช้ยานอนหลับ 

การอดนอนเป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำกล้ามเนื้อช่วงลำคอเกิดการหย่อนตัว เช่นเดียวกับยานอนหลับ เพราะเป็นยาที่มีฤทธิ์กดประสาท ทำให้กล้ามเนื้อคลายตัว ส่งผลให้เกิดอาการกรนได้ง่าย 

จึงควรให้ความสำคัญกับการนอนหลับให้เพียงพอในแต่ละวัน อย่างน้อยวันละ 7 ชั่วโมง และไม่ควรใช้ยานอนหลับช่วยในการนอน 

การรักษาอาการนอนกรนให้หายขาด จำเป็นต้องรู้ว่าสาเหตุที่ก่อให้เกิดอาการนอนกรนมาจากอะไร การปรับพฤติกรรมในชีวิตประจำวันเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยลดอาการนอนกรน 

อย่างไรก็ดี ถ้าลองปรับเปลี่ยนพฤติกรรมแล้ว แต่ยังมีอาการนอนกรน อ่อนเพลีย ง่วงนอน หรือเหมือนนอนไม่พอ ควรไปพบแพทย์เฉพาะทาง เพื่อหาสาเหตุให้แน่ชัด และรักษาให้ตรงจุด 

ปรับพฤติกรรมแล้ว แต่ยังมีอาการนอนกรน? ปรึกษาคุณหมอเฉพาะทางด้านการนอนก่อนเริ่มรักษา HDmall.co.th คัดมาให้แล้ว เปรียบเทียบราคา จองแพ็กเกจรักษานอนกรน 

ขอข้อมูลเพิ่มเติม คุยกับแอดมินทางไลน์ ฟรี! 

Scroll to Top