ส่วนหนึ่งของการมีความสุข คือ การรู้สึกเป็นสุขในแต่ละช่วงเวลาในชีวิต แต่ที่จริงแล้วการรู้สึกมีความสุขนั้นหมายถึงอะไรกันแน่ มันเป็นความรู้สึกที่เกิดขึ้นขณะที่เรากำลังกินไอศกรีมในช่วงฤดูร้อนที่ร้อนระอุหรือเปล่า ? หรือเป็นความรู้สึกที่เกิดขึ้นเมื่อเรานั่งข้างคนที่เรารัก ? หรือเป็นความรู้สึกที่เกิดขึ้นเมื่ออะไรก็ตามเป็นไปตามที่เราต้องการ ?
หากเราไม่เข้าใจความละเอียดอ่อนของคำว่า “รู้สึกมีความสุข” เราจะพลาดอารมณ์เชิงบวกในชีวิตของเราไปอีกมากมาย ในหนังสือเรื่อง positivity นักจิตวิทยา Barbara Fredrickson แนะนำว่าเราควรมีทางอารมณ์ในเชิงบวกที่หลากหลาย ซึ่งแต่ละอารมณ์ก็จะช่วยให้เรามีประสบการณ์ หรือมีแง่มุมที่เป็นประโยชน์มากขึ้น มาดูอารมณ์ในเชิงบวกสิบประการต่อไปนี้อย่างคร่าว ๆ กันว่ามันจะทำอะไรให้เราได้บ้าง
สารบัญ
ความรู้สึกดีใจ (joy)
เมื่อเรารู้สึกประหลาดใจหรือพึงพอใจกับสิ่งดี ๆ ที่เกิดขึ้นโดยที่ไม่ได้คาดคิด เราก็จะเกิดความรู้สึกดีใจ คิดถึงช่วงเวลาที่คุณกำลังเพลิดเพลินกับมื้ออาหารดี ๆ ที่ร้านอาหารแห่งใหม่ หรือเมื่อคุณวางแผนจะไปเที่ยวกับเพื่อน ความรู้สึกดีใจนี้เป็นสัญญาณว่าสถานการณ์นั้นปลอดภัย และสนับสนุนให้เราเข้าไปมีส่วนร่วมกับประสบการณ์นั้น
ความรู้สึกรู้คุณ (gratitude)
เราจะเกิดความรู้สึกขอบคุณขึ้นเมื่อเราตระหนักถึงความพยายามของคนที่ทำประโยชน์ให้กับเรา เรารู้สึกขอบคุณสำหรับของขวัญที่ได้รับ ความใจดีที่มีคนหยิบยื่นให้และเสียสละให้เรา และความรู้สึกรู้คุณนี้จะเป็นแรงบันดาลใจให้เราในแง่ที่ว่าเราต้องส่งต่อสิ่งดี ๆ ด้วยการแสดงความเอาใจใส่แก่ผู้อื่นด้วย
ความรู้สึกภาคภูมิใจ (pride)
เมื่อเราทำงานได้สำเร็จตามเป้าหมายหรือเป็นผู้มีส่วนร่วมที่สำคัญ เราจะรู้สึกภาคภูมิใจในความสามารถของเรา ไม่ว่าจะเป็นการเลื่อนขั้นที่คุณทำงานอย่างหนักเพื่อให้ได้มา หรือการทำตามแผนการออกกำลังกายได้เป็นเวลาหกสัปดาห์ การตระหนักรู้ถึงความสามารถของเราเองจะทำให้เรามีแรงบันดาลใจที่จำเป็นต่อการตั้งเป้าหมายและการบรรลุถึงเป้าหมายในอนาคต
ความรู้สึกสงบ (serenity)
เราจะรู้สึกสงบสุขหรือพึงใจ เมื่อเราอยู่ในสถานการณ์ที่เรารู้สึกว่าถูกต้องและง่ายดาย คิดถึงช่วงเวลาเช้าวันอาทิตย์ที่สบาย ๆ กับครอบครัว หรือเวลาที่กำลังเพลิดเพลินกับการเดินเล่นในสวนอย่างเงียบ ๆ และผ่อนคลาย Frederickson กล่าวว่าความรู้สึกสงบจะส่งเสริมให้เราดื่มด่ำกับช่วงเวลาปัจจุบัน และประเมินลำดับความสำคัญของเราเองโดยทำความเข้าใจเกี่ยวกับตนเองให้มากขึ้น
ความรู้สึกสนใจ (interest)
เราจะรู้สึกสงสัยใคร่รู้เกี่ยวกับโลกเมื่อเรากำลังประสบกับบางสิ่งที่เป็นเรื่องใหม่ และรู้สึกปลอดภัยที่จะค้นหามัน ไม่ว่าจะเป็นการอ่านบทความในเรื่องที่คุณสนใจ หรือการค้นพบเพื่อนบ้านคนใหม่ในเมือง ความรู้สึกสนใจจะเชิญชวนให้เราเข้าไปค้นหาและเรียนรู้เพื่อให้เกิดความรู้
ความรู้สึกขบขัน (amusement)
ไม่ว่าจะเป็นอารมณ์ขันแบบผู้ดีจนถึงมุกตลกตบหัวด้วยถาด อารมณ์ขันเป็นความรู้สึกที่ผูกติดกับการหัวเราะเสมอ นักจิตวิทยากล่าวอ้างอิงว่า “ความไม่เข้ากันในสังคมที่ไม่รุนแรง” เป็นแหล่งอารมณ์ขันของเรา เมื่อเรามองสถานการณ์จากแง่มุมต่างกัน (ลองคิดถึงมุกตลกร้ายที่คุณชื่นชอบสิ) ไม่ว่าอะไรก็ตามที่คุณหัวเราะได้ หากคุณเล่าให้คนอื่นฟังต่อ คุณก็จะสร้างความสัมพันธ์กับคนเหล่านั้นได้มากขึ้น
ความหวัง (hope)
ความหวังเป็นอารมณ์เชิงบวกที่เรารู้สึกเมื่อเราเห็นอนาคตที่สดใส และช่วยให้เราผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากไปได้ ถึงแม้ว่าอาจจะมีความหวาดกลัวหรือความเศร้าปะปนอยู่ด้วย แต่ความหวังจะผลักดันให้เราก้าวต่อไปข้างหน้าเพื่อวันพรุ่งนี้ที่ดีกว่าเดิม โดยยังคงเข้มแข็งและมองโลกในแง่ดี
แรงบันดาลใจ (inspiration)
เมื่อเราเห็นคนอื่นทำได้ดีที่สุด เราจะเกิดแรงบันดาลใจที่จะทำให้สุดความสามารถของเราบ้าง ไม่ว่าเราจะได้เห็นความมีคุณธรรมสูงส่ง หรือการแสดงให้เห็นถึงความเชี่ยวชาญอย่างสูงที่สุด แรงบันดาลใจจะช่วยให้เราเชื่อมโยงความสุดยอดของผู้อื่นกับความสามารถที่เราอาจจะบรรลุถึงจุดสูงสุดในตัวเราเองได้
ความรู้สึกเกรงขาม (awe)
มีบางสิ่งที่ลึกซึ้งและดึงดูดเรา ทำให้เรารู้สึกเชื่อมโยงกับอะไรบางอย่างที่ยิ่งใหญ่กว่าเราได้ ความดีที่ยิ่งใหญ่ หรือความงาม เช่น การมองท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยแสงดาวจากที่ห่างไกลสามารถหยุดความคิดของเรา ทำให้เราเต็มไปด้วยความรู้สึกสงสัยและเกิดความเคารพได้ ความรู้สึกดังกล่าวจะเปลี่ยนมุมมองของเราต่อโลกใบนี้ได้
ความรัก (love)
นี่เป็นความรู้สึกทางบวกที่เกิดได้บ่อยที่สุด Frederickson ให้นิยามความรักว่าเป็นประสบการณ์ที่ได้แบ่งปันความรู้สึกเชิงบวกใด ๆ ก็ตามที่ได้กล่าวมากับคนที่คุณเอาใจใส่ ช่วงเวลาดังกล่าวจะทำให้เรารู้จักกันดีมากขึ้น และให้ความสนใจในความเป็นไปของเขา ช่วงเวลาเหล่านี้จะทำให้เกิดความสัมพันธ์ที่เอาใจใส่ซึ่งกันและกัน ทำให้เกิดความใกล้ชิดและเชื่อใจกัน
คุณรู้สึกถึงอารมณ์ใดน้อยที่สุดในชีวิตของคุณ ? เลือกมาหนึ่งอย่าง และพยายามสร้างโอกาสที่จะมีประสบการณ์ดังกล่าวในช่วงหนึ่งถึงสองอาทิตย์นี้ และเพลิดเพลินไปกันแง่มุมใหม่ของความสุขดูสิ