4 วิธีรักษารอยสิวที่หลัง ใช้ยา ยิงเลเซอร์ ฉายแสง ทรีตเมนต์ เลือกแบบไหนดี

นอกจากปัญหาสิวที่ใบหน้าแล้ว หลายคนยังเผชิญกับปัญหาสิวที่แผ่นหลังซึ่งทำให้เสียความมั่นใจเวลาสวมใส่เสื้อผ้าที่เปิดหลัง หรือเวลาใส่ชุดว่ายน้ำ เพราะปัญหานี้ทำให้ผิวมีแต่รอยดำหรือรอยแดงเป็นจุดๆ อยู่เต็มแผ่นหลังไปหมด

แล้วในปัจจุบัน บริการเกี่ยวกับความงามตามสถานพยาบาลต่างๆ ไม่ว่าจะคลินิกหรือโรงพยาบาล เรามีแนวทางการรักษารอยสิวที่หลังได้อย่างไร HDmall.co.th ขอรวบรวมให้ผ่านบทความนี้

รักษารอยสิวที่หลังมีกี่วิธี?

ปัจจุบันแนวทางการรักษารอยสิวที่หลังในสถานพยาบาลต่างๆ สามารถแบ่งออกได้ 4 วิธีใหญ่ๆ ได้แก่

1. การใช้ยารักษารอยสิวที่หลัง

การใช้ยารักษารอยสิว จัดเป็นวิธีรักษาพื้นฐานและในราคาที่ประหยัด โดยแพทย์จะมีการตรวจดูลักษณะรอยสิว รวมถึงปัญหาสิวในปัจจุบันที่เกิดที่ผิวแผ่นหลังของผู้เข้ารับบริการเสียก่อน จากนั้นจะสั่งจ่ายยาซึ่งอาจมีทั้งยากินและยาทาผิวกลับไปให้ผู้เข้ารับบริการใช้ แล้วจะนัดหมายกลับมาติดตามความคืบหน้าของรอยสิวที่เกิดขึ้นอยู่เรื่อยๆ

โดยตัวอย่างยาและสารประกอบในผลิตภัณฑ์รักษาผิวซึ่งแพทย์มักสั่งจ่ายเพื่อใช้รักษารอยสิว รวมถึงเพื่อรักษาปัญหาสิว ณ ปัจจุบันให้ลดจำนวนลง เพื่อป้องกันโอกาสเกิดรอยสิวที่หลังเพิ่มในอนาคต ได้แก่

  • ยาเบนโซอิลเพอร์ออกไซด์ (Benzoyl peroxide)
  • ยาคลินดาไมซิน (Clindamycin)
  • ยาเตตราไซคลิน (Tetracycline)
  • กรดซาลิไซลิก แอซิด (Salicylic Acid)
  • กรดอัลฟาไฮดรอกซี (Alpha Hydroxy Acid: AHA)
  • กรดเบตาไฮดรอกซี (Beta Hydroxy Acids: BHA)
  • กรดโพลีไฮดรอกซี (Poly Hydroxy Acids: PHA)
  • กรดเบตาไลโพไฮดรอกซี (Beta-Lipohydroxy Acid: LHA)
  • กรดอะซีลาอิก (Azelaic Acid)
  • ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของไฮโดรควิโนน (Hydroquinone)

ข้อดีของการรักษารอยสิวที่หลังด้วยยา

การรักษารอยสิวที่หลังด้วยยาเป็นการรักษาที่มักมีค่าใช้จ่ายไม่แพงมากนัก เมื่อเทียบกับการรักษาด้วยวิธีอื่นๆ โดยเฉพาะหากไปรับบริการที่แผนกผิวหนังของโรงพยาบาลรัฐ ก็จะยิ่งมีราคาถูกกว่าการไปใช้บริการที่สถานพยาบาลเอกชน นอกจากนี้การรักษารอยสิวด้วยยายังไม่ทำให้รู้สึกเจ็บผิวเหมือนกับการรักษาสิวด้วยการยิงเลเซอร์ด้วย

ข้อเสียของการรักษารอยสิวที่หลังด้วยยา

อย่างไรก็ตาม การรักษารอยสิวที่หลังก็มีจุดด้อยตรงที่มักมีระยะเวลาในการรอผลลัพธ์ค่อนข้างนาน หากยาที่รักษาไม่ได้ผล หรือผู้เข้ารับบริการเกิดภาวะดื้อยา ก็จำเป็นต้องลองเปลี่ยนยารักษาตัวใหม่ ซึ่งก็จะยิ่งประวิงเวลาในการเรียกคืนความมั่นใจของผิวที่เนียนขึ้นช้าออกไปอีกได้

2. การยิงเลเซอร์รักษารอยสิวที่หลัง

ปฏิเสธไม่ได้ว่า วิธีการยิงเลเซอร์เป็นวิธีรักษารอยสิวที่หลังได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในปัจจุบัน เพราะจุดเด่นด้านการรักษานอกจากเรื่องของรอยสิวแล้ว การยิงเลเซอร์โดยส่วนมากยังช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ใต้ผิว ทำให้ผิวหลังการรักษาด้วยวิธีนี้มีความกระจ่างใสเรียบเนียนมากขึ้นอีกด้วย

โดยนวัตกรรมเครื่องยิงเลเซอร์รักษารอยสิวที่ผิว รวมถึงผิวบริเวณแผ่นหลังซึ่งกำลังได้รับความนิยมกันอยู่ในขณะนี้ ได้แก่

  • เครื่อง Dual Yellow Laser เป็นเครื่องยิงพลังงานเลเซอร์ที่สามารถปล่อยพลังงานได้ 2 สี ได้แก่ แสงสีเหลือง ความยาวคลื่น 578 นาโนเมตร สำหรับรักษารอยแดง และพลังงานแสงสีเขียว ความยาวคลื่น 511 นาโนเมตร สำหรับรักษารอยดำต่างๆ ไม่ว่าจะรอยสิว รอยฝ้า รอยกระ ก็สามารถใช้เครื่องยิงเลเซอร์ตัวนี้รักษาได้ทั้งหมด
  • เครื่อง Picosecond เป็นเครื่องยิงพลังงานเลเซอร์ชนิด Picosecond laser ซึ่งมีจุดเด่นด้านการปล่อยพลังงานที่มีความรวดเร็วมาก โดย 1 หน่วย Picosecond จะมีความเร็วในระดับ 1 ในล้านล้านวินาที จึงช่วยเข้าไปรักษาความผิดปกติของเม็ดสีบริเวณรอยสิวได้อย่างละเอียด ส่งผลให้ผิวได้รับการฟื้นฟูอย่างเต็มประสิทธิภาพ และภายในเวลาอันรวดเร็ว นอกจากการรักษารอยด่างดำ เทคโนโลยีเครื่อง Picosecond laser ยังโด่งดังในฐานะเลเซอร์ลบรอยสักอีกด้วย
  • เครื่อง IPL หรือเครื่องยิงพลังงาน Intense Pulsed Light Laser เป็นเครื่องยิงพลังงานแสงซึ่งสามารถช่วยเข้าฟื้นฟูความเสียหายของผิวจากการเกิดสิว ฝ้า กระ หรือรูขุมขนที่กว้างให้จางและกระชับลงได้ รวมถึงช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและความยืดหยุ่นของอิลาสตินได้ผิวได้เป็นอย่างดี

ข้อดีของการรักษารอยสิวที่หลังด้วยการยิงเลเซอร์

การยิงเลเซอร์รักษารอยสิวเป็นวิธีที่ขึ้นชื่อเรื่องผลลัพธ์หลังการรักษาที่ค่อนข้างเห็นได้ชัด และยังช่วยฟื้นฟูผิวได้หลายด้าน ไม่ใช่เพียงรักษารอยดำจากสิวได้อย่างเดียวเท่านั้น เช่น รักษารอยแดง รักษารอยฝ้า รอยกระ รูขุมขนกว้าง ความหมองคล้ำ แม้กระทั่งการกำจัดขน

แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับการตอบสนองของผิวในผู้เข้ารับบริการแต่ละท่านและเครื่องยิงเลเซอร์ที่ทางสถานพยาบาลเลือกใช้ด้วย

ข้อเสียของการรักษารอยสิวที่หลังด้วยการยิงเลเซอร์

การรักษารอยสิวด้วยการยิงเลเซอร์มักมีราคาค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างแพง โดยมักอยู่ที่หลักพันจนถึงหลักหมื่น

ข้อเสียต่อมาที่หลายคนมักไม่ชื่นชอบก็คือ ความรู้สึกเจ็บ ถึงแม้ส่วนมากจะเป็นระดับความเจ็บที่อดทนไหว และบางสถานพยาบาลจะมีการทายาชาหรือประคบเย็นให้ แต่การยิงเลเซอร์ก็ยังสร้างความรู้สึกเจ็บที่ยากจะทนได้กับผู้เข้ารับบริการบางท่านอยู่ดี

นอกจากความรู้สึกเจ็บ หลังจากยิงเลเซอร์เสร็จแล้ว ผู้เข้ารับบริการบางท่านก็อาจเผชิญกับปัญหาผิวแห้ง ผิวลอก รอยแดง หรืออาการเจ็บแสบผิวหลังรับบริการได้ อาการเหล่านี้จะไม่คงทนถาวร แต่ก็อาจเป็นอุปสรรคในการใช้ชีวิตประจำวันในช่วง 3-7 วันหลังรับบริการได้

นอกจากนี้การรักษารอยสิวด้วยการยิงเลเซอร์ยังไม่จบเพียงครั้งเดียว ผู้เข้ารับบริการต้องเข้ามายิงเลเซอร์อย่างน้อย 3-5 ครั้งและอย่างต่อเนื่อง จึงจะเห็นผลลัพธ์ได้ชัดเจนและรวดเร็วขึ้น หากยืดเวลาของความสม่ำเสมอออกไป ก็มีโอกาสที่จะไม่เห็นผลลัพธ์ของการรักษาได้ และเป็นการสิ้นเปลืองค่าใช้จ่ายโดยเปล่าประโยชน์

ขั้นตอนการรักษารอยสิวที่หลังด้วยการยิงเลเซอร์

ขั้นตอนการรักษารอยสิวด้วยการยิงเลเซอร์ ขั้นแรก ผู้เข้ารับบริการจะต้องเข้ามาตรวจประเมินปัญหาสิวที่หลังกับแพทย์เสียก่อน จากนั้นแพทย์จะประเมินนวัตกรรมเลเซอร์ที่เหมาะกับปัญหาผิว จำนวนครั้งในการยิงเลเซอร์ รวมถึงให้คำแนะนำเกี่ยวกับแนวทางการดูแลตนเองเพิ่มเติมในระหว่างยิงเลเซอร์ให้ครบจำนวนครั้งกับผู้เข้ารับบริการ

หลังจากนั้นในขั้นตอนการยิงเลเซอร์ ผู้เข้ารับบริการจะต้องถอดเสื้อออก รวมถึงเสื้อชั้นใน จากนั้นนอนคว่ำกับเตียงนอนให้เจ้าหน้าที่ทำความสะอาดผิวที่หลังให้ แล้วแพทย์จะเริ่มยิงเลเซอร์ลงไปที่ผิวบริเวณแผ่นหลังทีละส่วน ในระหว่างนั้นอาจมีความรู้สึกเจ็บ แสบ หรือระบมผิวได้บ้าง

หลังจากยิงเลเซอร์เสร็จ ทางสถานพยาบาลอาจทายาหรือครีมเสริมความชุ่มชื้นให้ จากนั้นเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดเดิม และเดินทางกลับบ้านได้

3. การฉาย LED Light รักษารอยสิวที่หลัง

การฉาย LED Light เป็นแนวทางการรักษารอยสิวโดยพึ่งพาพลังงานแสงคล้ายกับการยิงเลเซอร์ แต่จะมีวิธีการรักษาที่แตกต่างกัน

การยิงเลเซอร์จะเป็นการใช้หัวยิงพลังงานยิงลงไปที่ผิวหนังส่วนที่มีปัญหาทีละจุด แต่การทำ LED Light จะเป็นปล่อยให้ผิวได้สัมผัสกับพลังงานแสงบนแผงไฟที่มีความเข้มข้นและสว่างในระดับที่เหมาะสม ไม่ได้ใช้หัวยิงพลังงานเล็กๆ เหมือนการยิงเลเซอร์

โดยหลังจากผิวได้สัมผัสกับพลังงานแสงจากเครื่องปล่อยพลังงาน LED Light แล้ว ตัวพลังงานแสงจะเข้าไปทำปฏิกิริยาบำบัดฟื้นฟูเซลล์ผิวใหม่ ส่งผลให้ปัญหาผิวค่อยๆ สมานตัว กลับกลายเป็นผิวที่เรียบเนียนไร้รอยด่างดำจากสิว

แสง LED Light ที่ใช้รักษาปัญหารอยสิวยังแบ่งออกได้หลายสี แต่ละสีก็จะมีจุดเด่นในการบำรุงและรักษาผิวแตกต่างกัน เช่น

  • แสงสีฟ้า (Blue light) เน้นการยับยั้งเชื้อแบคทีเรียและสิ่งสกปรก ป้องกันการเกิดสิวเม็ดใหม่
  • แสงสีแดง (Red light) เน้นลดเลือนริ้วรอยแห่งวัย ผ่านการเข้าไปปรับสภาพเซลล์คอลลาเจนและเซลล์อิลาสตินใต้ผิวซึ่งมีส่วนสำคัญในการเรียกคืนความกระชับ และลดความหย่อนคล้อยของผิว
  • แสงสีเหลือง (Yellow light) ลดการเกิดเม็ดสีที่ผิดปกติ กระตุ้นระบบไหลเวียนน้ำเหลือง ทำให้รอยดำจากฝ้า กระ หรือความหมองคล้ำจากผิวที่เสื่อมโทรมดูเบาจางลง
  • แสงสีเขียว (Green light) มีกลไกการทำงานคล้ายแสงสีเหลือง แต่จะเน้นรักษารอยดำและรอยแดงจากสิวมากขึ้น ช่วยขับผิวให้กระจ่างใส และยังลดการเกิดปัญหาผิวหนังอักเสบ และปัญหาถุงใต้ตาหย่อนคล้อยได้

ข้อดีของการรักษารอยสิวที่หลังด้วยการฉาย LED Light

การฉาย LED Light เป็นการรักษารอยสิวด้วยพลังงานแสงที่ให้ราคาค่อนข้างถูกกว่าการยิงเลเซอร์ โดยค่าใช้จ่ายมักเริ่มที่ 1,000 บาทต่อครั้งขึ้นไป

การรักษารอยสิวด้วยการฉาย LED Light ยังไม่ให้ความรู้สึกเจ็บหรือแสบผิวในระหว่างรับบริการมากนัก และยังสร้างความผ่อนคลายในระหว่างรับบริการได้ เพราะส่วนมากผู้เข้ารับบริการจะต้องนอนนิ่งๆ และหลับตาให้พลังงานแสงลงไปบำบัดรักษาผิว

การฉาย LED Light ยังช่วยรักษาปัญหาผิวได้หลายบริเวณ ไม่ใช่เพียงที่ผิวแผ่นหลังเพียงอย่างเดียว แต่ผู้เข้ารับบริการหลายท่านก็นิยมใช้การฉาย LED Light เป็นตัวช่วยรักษารอยสิวบริเวณใบหน้าด้วย

และการฉาย LED Light ยังสามารถเลือกสีของพลังงานแสงได้ในการรับบริการแต่ละครั้ง ไม่จำเป็นต้องฉายแสงครบทุกสีเสมอไป แต่จะขึ้นอยู่กับความต้องการในการใช้พลังงานร่วมกับปัญหาผิวที่เกิดขึ้นมากกว่า

ข้อเสียของการรักษารอยสิวที่หลังด้วยการฉาย LED Light

การรักษารอยสิวด้วยการฉาย LED Light จะต้องทำอย่างต่อเนื่องหลายครั้งจึงจะเห็นผล โดยส่วนมากแพทย์จะแนะนำให้ฉายแสง 3 ครั้งขึ้นไป มิฉะนั้นก็อาจไม่เห็นการเปลี่ยนแปลงของผิว

และถึงแม้การฉาย LED Light จะดูเป็นขั้นตอนการรักษารอยสิวที่หลังที่ดูง่าย แต่หลังจากฉาย LED Light เสร็จเรียบร้อยแล้ว ผู้เข้ารับบริการก็อาจเผชิญกับอาการข้างเคียงบางอย่างคล้ายกับอาการข้างเคียงหลังยิงเลเซอร์ได้ เช่น อาการเจ็บแสบผิว ผิวลอก หรือผิวระคายเคืองต่อแสงแดดได้ง่ายขึ้น ทั้งนี้อยู่กับลักษณะผิวของแต่ละคน

ขั้นตอนการรักษารอยสิวที่หลังด้วยการฉาย LED Light

ขั้นตอนการรักษารอยสิวที่หลังด้วย LED Light อาจแตกต่างกันไปตามสถานพยาบาล โดยหลักๆ จะเริ่มต้นจากแพทย์ประเมินปัญหารอยสิวที่หลังให้ผู้เข้ารับบริการ จากนั้นจะกำหนดจำนวนครั้งในการรักษา รวมถึงชนิดของสีพลังงานแสงที่จะใช้รักษา

จากนั้นผู้เข้ารับบริการถอดเสื้อออก รวมถึงเสื้อชั้นใน หลังจากนั้นนอนคว่ำ เจ้าหน้าที่อาจกดสิวที่ยังอักเสบหรืออุดตันที่หลังออกให้เรียบร้อยก่อน หลังจากนั้นทาครีมหรือเจลบำรุงผิวลงที่ผิวแผ่นหลังจนทั่ว

เมื่อทาครีมหรือเจลก่อนเริ่มฉายแสงเสร็จแล้ว เจ้าหน้าที่จะให้ผู้เข้ารับบริการใส่แว่นป้องกันพลังงานแสง แล้วเริ่มเปิดเครื่องฉายแสง LED Light ให้ฉายลงไปที่ผิวแผ่นหลัง ระยะเวลาในการฉายแสงส่วนมากจะอยู่ที่ 20-40 นาทีต่อครั้ง

4. การทำทรีตเมนต์ผิวรักษารอยสิวที่หลัง

การทำทรีตเมนต์ผิวตามสถานพยาบาลต่างๆ มักมุ่งเน้นไปที่การบำรุงฟื้นฟูเพื่อเสริมความเรียบเนียนเปล่งปลั่งให้กับผิวของผู้เข้ารับบริการ ดังนั้นถึงแม้วิธีการนี้จะไม่ได้มุ่งเน้นไปที่การรักษารอยสิวเป็นส่วนสำคัญ แต่เป็นวิธีที่ช่วยลดเลือนรอยสิวให้จางลงได้

บางสถานพยาบาลยังเรียกการทำทรีตเมนต์ผิวในอีกชื่อว่า “ทรีตเมนต์ผิวใส” เพราะเป็นแนวทางการการให้บริการที่มีจุดมุ่งหมายเพื่อเพิ่มความกระจ่างใสให้กับผิว

วิธีการทำทรีตเมนต์ผิวส่วนมากมักเป็นการทาครีมหรือทาสารทรีตเมนต์ซึ่งจะแตกต่างกันไปเป็นสูตรเฉพาะลงไปที่ผิวกายของผู้เข้ารับบริการ แต่ในสถานพยาบาลบางแห่งก็มีการให้บริการในรูปแบบการฉีด หรือที่เรียกว่า “การฉีดวิตามิน” หรือ “การดริปวิตามิน” ด้วยเช่นกัน หรือในอีกรูปแบบก็คือ เป็นบริการที่มีทั้งการทาครีมและฉีดสารทรีตเมนต์ผิวควบคู่กันไปทั้ง 2 ส่วน

ข้อดีของการรักษารอยสิวที่หลังด้วยการทำทรีตเมนต์

การรักษารอยสิวด้วยการทำทรีตเมนต์มีข้อดีในส่วนของการบำรุงผิวแบบองค์รวม ไม่ใช่เพียงเปลี่ยนแปลงรอยด่างดำจากสิวให้จางลงเพียงอย่างเดียว แต่ยังทำให้ผิวโดยรวมดูเปล่งปลั่งสดใส ไม่หมองคล้ำ และยังสามารถทำได้หลายบริเวณ เช่น ใบหน้า รักแร้ แผ่นหลัง

การทำทรีตเมนต์ผิวโดยส่วนมากยังมีสูตรให้เลือกได้หลายสูตร ซึ่งแต่ละสูตรก็จะมีจุดเด่นที่แตกต่างกัน เช่น สูตรผิวใส สูตรลดรอยด่างดำ สูตรเพิ่มความขาวให้กับผิว สูตรเพิ่มสารวิตามินที่จำเป็นให้ผิว สูตรปลอบประโลมผิวจากมลภาวะ

การทำทรีตเมนต์ผิวยังเป็นบริการในเชิงสร้างความผ่อนคลายได้ เพราะในระหว่างที่ทาสารทรีตเมนต์ลงไปที่ผิว ส่วนมากทางสถานพยาบาลจะมีการนวดคลึงผิวให้ด้วย ซึ่งก็จะช่วยสร้างความรู้สึกสบายเหมือนกับการนวดบำบัดไปในตัว

ข้อเสียของการรักษารอยสิวที่หลังด้วยการทำทรีตเมนต์

การทำทรีตเมนต์ผิวเป็นบริการที่มุ่งเน้นไปที่ “การบำรุง” มากกว่า “การรักษา” ดังนั้นผลลัพธ์ในส่วนของรอยสิวจึงอาจจางลงในระดับหนึ่ง แต่เมื่อเทียบกับวิธีรักษาอื่นๆ ที่เน้นไปที่การรักษารอยสิวโดยเฉพาะ จึงอาจให้ผลลัพธ์ที่ไม่เป็นไปตามคาดหวังได้ขนาดนั้น ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการตอบสนองของผิวกับวิธีรักษาในผู้เข้ารับบริการแต่ละท่าน

นอกจากนี้หากผู้เข้ารับบริการไม่ทันระวัง หรือไม่ได้สอบถามส่วนประกอบในสูตรทรีตเมนต์ของทางสถานพยาบาล อย่างละเอียดก่อน ก็มีความเสี่ยงที่จะเกิดอาการแพ้หรือดื้อสารประกอบที่แฝงอยู่ในสูตรทรีตเมนต์ได้

การดูแลตัวเองหลังรักษารอยสิวที่หลัง

ในระหว่างกระบวนการรักษาและหลังจากรักษารอยสิวที่หลังไม่ว่าจะด้วยวิธีใดก็ตาม ผู้เข้ารับบริการต้องระมัดระวังไม่ให้เกิดสิวเม็ดใหม่ขึ้นที่ผิวแผ่นหลังอีก เพราะนั่นหมายถึงการเกิดรอยสิวใหม่ที่ไม่มีวันสิ้นสุดลงเสียที

ดังนั้นในช่วงที่ยังรักษารอยสิวที่หลังอยู่ และหลังจากรอยสิวที่หลังกับทางสถานพยาบาลครบจำนวนครั้งแล้ว แพทย์มักจะมีการให้คำแนะนำในการปรับปรุงกิจวัตรการดูแลผิวที่หลังเพิ่มเติม เพื่อลดโอกาสเกิดสิวเม็ดใหม่ด้วย เช่น

  • ทาครีมกันแดดเป็นประจำ เพื่อลดโอกาสผิวหนังที่แผ่นหลังเสื่อมตัวจากแสงแดดจนเกิดสิวได้ง่ายขึ้น
  • เปลี่ยนผ้าเช็ดตัวบ่อยๆ เพราะผ้าเช็ดตัวเป็นสิ่งที่สัมผัสกับผิวหนังเราทุกวัน และเป็นอีกแหล่งบ่มเพาะของเชื้อโรคจากในห้องน้ำ ในอากาศ และจากความชื้น ซึ่งอาจไปสร้างความระคายเคืองจนเกิดสิวที่หลังได้
  • ใส่เสื้อผ้าที่สะอาด หากร่างกายชื้นเหงื่อหรือผ่านการทำกิจกรรมหนักๆ มาทั้งวัน ก็ควรอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าโดยเร็ว เพื่อลดการหมักหมมของเหงื่อและสิ่งสกปรกบนผิวกาย
  • สระผมให้สะอาดอยู่เสมอ และหากไว้ผมยาว ก็ควรมัดผม เกล้าผมสูง หรือพยายามให้ผมสยายอยู่ด้านหน้ามากกว่าไปอยู่ที่ด้านหลัง เพราะเส้นผมก็เป็นตัวการทำให้ผิวที่หลังปนเปื้อนสิ่งสกปรกหรือความมันที่ผิวหลังจนเกิดสิวได้
  • อาบน้ำล้างตัวให้สะอาดหมดจด เพราะสิวที่หลังสามารถเกิดได้จากการอุดตันของคราบสบู่ โลชั่น หรือครีมบำรุงผิวที่ล้างออกจากผิวกายไม่หมด ในการอาบน้ำแต่ละครั้งคุณจึงต้องชะล้างผิวกายให้สะอาดอย่างละเอียดและทั่วถึงอยู่เสมอ
  • คุมฮอร์โมนและความเครียดให้ดี เพราะทั้ง 2 อย่างนี้เป็นปัจจัยสำคัญอันดับต้นๆ ที่ทำให้เกิดสิวตามผิวกายได้ ผู้เข้ารับบริการบางท่านที่เป็นสิวจากฮอร์โมนหนักมากๆ อาจได้รับคำแนะนำให้ไปพบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านเวชศาสตร์ชะลอวัยหรือที่เกี่ยวกับการรักษาด้านฮอร์โมนโดยเฉพาะ

การรักษารอยสิวที่หลังเป็นวิธีรักษาความงามที่ต้องอาศัยความต่อเนื่อง และยังต้องมีการรักษาสุขอนามัยของผิวที่แผ่นหลังควบคู่ไปด้วย มิฉะนั้นจำนวนเม็ดสิวใหม่ก็จะยังเกิดขึ้นที่ผิวแผ่นหลังอย่างต่อเนื่อง และทำให้เกิดรอยสิวมากขึ้นอีก แม้จะรักษารอยเก่าให้จางลงได้แล้ว

Scroll to Top