รีเทนเนอร์ เป็นอุปกรณ์คงสภาพฟันที่ทุกคนต้องใส่หลังจากจัดฟันเสร็จแล้ว มีรูปแบบหลักๆ คือ แบบใสกับแบบลวด หลายคนอาจมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการสวมใส่ การใช้ รวมถึงผลที่อาจเกิดขึ้นถ้าไม่ใส่รีเทนเนอร์อยู่บ้าง HDmall ลิสต์เป็นคำถาม-คำตอบ 13 มาตามด้านล่าง ดังนี้
สารบัญ
- 1. รีเทนเนอร์กับเหล็กดัดฟัน ต่างกันอย่างไร?
- 2. รีเทนเนอร์ มีประเภทไหนบ้าง?
- 3. การใส่รีเทนเนอร์ ส่งผลต่อชีวิตประจำวันอย่างไรบ้าง?
- 4. ต้องใส่รีเทนเนอร์บ่อย (และนาน) แค่ไหน?
- 5. รีเทนเนอร์ สามารถถอดออกได้หรือไม่?
- 6. ใช้เวลานานไหม ถึงจะชินกับการใส่รีเทนเนอร์?
- 7. จำเป็นต้องทำความสะอาดรีเทนเนอร์เป็นประจำหรือไม่?
- 8. หากไม่เคยดัดฟันมาก่อน จะใส่รีเทนเนอร์ได้หรือไม่?
- 9. รีเทนเนอร์ ช่วยแก้ไขความผิดปกติของการพูดได้หรือไม่?
- 10. รีเทนเนอร์ ช่วยลดคราบฟัน และแก้ปัญหาฟันผุได้หรือไม่?
- 11. หากไม่ใส่รีเทนเนอร์ จะเป็นอย่างไร?
- 12. การจัดฟันแบบใส (Invisalign) คืออะไร เหมือนรีเทนเนอร์ใสหรือไม่?
- 13. รีเทนเนอร์ กับอุปกรณ์จัดฟันแบบใส ต่างกันอย่างไร?
1. รีเทนเนอร์กับเหล็กดัดฟัน ต่างกันอย่างไร?
รีเทนเนอร์ เป็นอุปกรณ์ที่ช่วยยึดพยุงฟันที่ผ่านการจัดเรียงแล้วให้เข้าที่ ไม่ล้มหรือเคลื่อนจากตำแหน่ง ซึ่งโดยทั่วไปจะใส่หลังจากการจัดฟัน ไม่ว่าจะจัดแบบใส่เหล็กดัดฟันหรือแบบใสก็ตาม ตัวรีเทนเนอร์จึงไม่ได้มีหน้าที่ช่วยจัดเรียงฟันโดยตรง เนื่องจากวัสดุที่ใช้ทำรีเทนเนอร์ไม่ได้แข็งแรงมากพอที่จะขยับหรือเคลื่อนฟันได้เช่นเดียวกับอุปกรณ์จัดฟัน
2. รีเทนเนอร์ มีประเภทไหนบ้าง?
รีเทนเนอร์มีอยู่ด้วยกันหลายประเภท ตัวอย่างเช่น
- รีเทนเนอร์แบบถอดได้ เป็นรีเทนเนอร์ที่เห็นได้ทั่วไป ทำจากลวดและอะคริลิกย้อมสี ซึ่งมีหลากสีหลายรูปลักษณ์ให้เราเลือกใช้ตามความต้องการ
- รีเทนเนอร์ใส 3 มิติ รีเทนเนอร์ประเภทนี้ทำจากพลาสติกใสและมีขนาดพอดีกับฟันของเรา ซึ่งนอกจากจะช่วยยึดฟันให้เข้าที่แล้ว ยังช่วยปกป้องผิวฟันสำหรับคนที่มีนิสัยชอบนอนกัดฟันด้วย
- รีเทนเนอร์แบบติดแน่น รีเทนเนอร์แบบติดแน่นจะประกอบด้วยลวดขนาดเล็ก ไว้สำหรับยึดติดกับด้านหลังของฟันซี่หน้า
3. การใส่รีเทนเนอร์ ส่งผลต่อชีวิตประจำวันอย่างไรบ้าง?
ผลกระทบนั้นขึ้นอยู่กับประเภทรีเทนเนอร์ที่ใส่ ซึ่งโดยทั่วไปแล้ว รีเทนเนอร์จะเป็นที่สังเกตเห็นน้อยกว่าเหล็กดัดฟันมาก จึงไม่ค่อยส่งผลต่อการยิ้มและความมั่นใจมากนัก แต่คนไข้อาจต้องใช้เวลาสัก 2 – 3 วัน จึงจะชินกับการใส่รีเทนเนอร์
สำหรับคนที่ใส่รีเทนเนอร์แบบติดแน่น จะต้องแปรงฟันทำความสะอาดให้ถี่ถ้วน และเรียนรู้วิธีใช้ไหมขัดฟันกับบริเวณรอบๆ รีเทนเนอร์อย่างถูกต้องด้วย
4. ต้องใส่รีเทนเนอร์บ่อย (และนาน) แค่ไหน?
จุดประสงค์ของการใส่รีเทนเนอร์ คือเพื่อประคองฟันให้อยู่ในตำแหน่งที่ควรจะเป็น โดยเราอาจเจอปัจจัยที่ทำให้ฟันล้มหรือกลับมาเบียดซ้อนกันได้เรื่อยๆ ตลอดชีวิต และเมื่ออายุมากขึ้น ฟันก็มีโอกาสจะเคลื่อนได้อีกเช่นกัน
ดังนั้น ทางที่ดีที่สุดเราจึงควรใส่รีเทนเนอร์เพื่อประคองฟันไปตลอด โดยแนะนำให้สวมเป็นประจำทุกคืน
5. รีเทนเนอร์ สามารถถอดออกได้หรือไม่?
รีเทนเนอร์แบ่งได้เป็น 2 แบบ คือแบบที่ติดแน่นถาวร ถอดออกไม่ได้ กับแบบที่สามารถถอดออกและใส่ใหม่ได้ ซึ่งเรามักจะใส่ไว้เฉพาะตอนกลางคืน
รีเทนเนอร์แบบติดแน่นจะใส่ติดไว้กับด้านหลังของฟัน ซึ่งมองจากด้านนอกไม่เห็น และสามารถใส่คงไว้อย่างนั้นได้เป็นเวลาหลายปี ส่วนรีเทนเนอร์แบบถอดได้จะทำจากพลาสติกหล่อชนิดใส หรือลวดกับขอเกี่ยว โดยทันตแพทย์จะเป็นคนช่วยแนะนำและเลือกรีเทนเนอร์แบบที่เหมาะสมกับคนไข้แต่ละคนให้
6. ใช้เวลานานไหม ถึงจะชินกับการใส่รีเทนเนอร์?
คนใส่รีเทนเนอร์อาจรู้สึกแปลกๆ ในช่วงแรก แต่เมื่อใส่ไปเรื่อยๆ ก็จะคุ้นชินมากขึ้น หากรีเทนเนอร์ที่ใส่เป็นลักษณะครอบหรือบีบกระชับกับฟัน ก็อาจทำให้รู้สึกรำคาญหรือเจ็บได้บ้าง แต่เมื่อผ่านไป 2 – 3 วัน คนไข้ส่วนใหญ่จะเริ่มชินและไม่รู้สึกเคืองอีกต่อไป
7. จำเป็นต้องทำความสะอาดรีเทนเนอร์เป็นประจำหรือไม่?
เราจำเป็นต้องทำความสะอาดรีเทนเนอร์ทุกวัน เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการสะสมของแบคทีเรียอันเป็นสาเหตุของการติดเชื้อในช่องปาก การทำความสะอาดง่ายๆ สามารถทำได้โดยใช้แปรงสีฟันแปรงเบาๆ เหมือนเวลาแปรงฟัน และควรแช่รีเทนเนอร์ไว้ในน้ำยาบ้วนปากหลังถอดออกด้วย
8. หากไม่เคยดัดฟันมาก่อน จะใส่รีเทนเนอร์ได้หรือไม่?
ทันตแพทย์อาจแนะนำให้คนไข้บางคนใส่รีเทนเนอร์ แม้จะไม่เคยดัดฟันมาก่อนก็ตาม เช่น ใส่เพื่อแก้ไขปัญหาฟันบนยื่นออกมาเกินฟันล่าง หรือใส่เพื่อจัดแนวขากรรไกร เป็นต้น
9. รีเทนเนอร์ ช่วยแก้ไขความผิดปกติของการพูดได้หรือไม่?
หลายคนใส่รีเทนเนอร์เพื่อช่วยเรื่องการพูดหรือการออกเสียง เนื่องจากรีเทนเนอร์จะช่วยปรับตำแหน่งและการเคลื่อนไหวของลิ้นในขณะพูด จึงช่วยให้บางคนสามารถออกเสียงได้ชัดเจนและถูกต้องยิ่งขึ้น
10. รีเทนเนอร์ ช่วยลดคราบฟัน และแก้ปัญหาฟันผุได้หรือไม่?
นอกจากรีเทนเนอร์จะช่วยพยุงฟันและเหงือกแล้ว อุปกรณ์ชิ้นนี้ยังช่วยปรับรูปแบบการกัดและการเคี้ยวอาหารให้เหมาะสมด้วย เมื่อเราสามารถบดเคี้ยวอาหารได้ดีขึ้น ก็จะมีการผลิตน้ำลายออกมามากขึ้น ซึ่งช่วยกระตุ้นการย่อยอาหาร และยังช่วยลดคราบแบคทีเรียอันเป็นสาเหตุของฟันผุได้อีกด้วย
11. หากไม่ใส่รีเทนเนอร์ จะเป็นอย่างไร?
ฟันของเรามีโอกาสเคลื่อนที่ไปยังตำแหน่งเดิมก่อนจัดฟันได้ นี่จึงเป็นเหตุผลสำคัญที่เราควรใส่รีเทนเนอร์ตามที่ทันตแพทย์แนะนำ ซึ่งทันตแพทย์มักบอกเสมอว่า การประคองฟันด้วยรีเทนเนอร์ถือเป็นขั้นตอนสำคัญที่สุดในการจัดฟันเลยทีเดียว
12. การจัดฟันแบบใส (Invisalign) คืออะไร เหมือนรีเทนเนอร์ใสหรือไม่?
Invisalign ไม่ใช่รีเทนเนอร์ใส เพียงแต่หน้าตาคล้ายกัน
ความจริง Invisalign คือชื่อแบรนด์อุปกรณ์จัดฟันแบบใส ซึ่งทำจากพลาสติกยืดหยุ่นได้ หรือวัสดุเทอร์โมพลาสติกชนิดพิเศษ ที่เรียกว่า SmartTrack® ผลิตขึ้นมาเพื่อใช้ในการจัดฟันโดยเฉพาะ
อุปกรณ์จัดฟันแบบใสผ่านการรับรองโดยองค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกา (FDA) และปราศจากสาร BPA, BPS หรือกลูเตน ตัวอุปกรณ์ดังกล่าวมีลักษณะบาง ใส และครอบกับซี่ฟันได้แนบชิดพอดี เมื่อใส่แล้วจึงแทบมองไม่เห็นและไม่เป็นที่สังเกต
การจัดฟันแบบใส เป็นกระบวนการที่ต้องใส่อุปกรณ์จัดฟันหลายๆ ชิ้น ซึ่งสามารถถอดเข้าออกได้ และต้องเปลี่ยนเรื่อยๆ ตามรูปฟันที่เปลี่ยนแปลงไป โดยไม่จำเป็นต้องใส่เหล็กดัดฟัน หรือเครื่องมืออื่นๆ ที่เป็นโลหะ
ราคาของการจัดฟันแบบใส จะอยู่ที่ประมาณ 120,000-200,000 บาท
13. รีเทนเนอร์ กับอุปกรณ์จัดฟันแบบใส ต่างกันอย่างไร?
ข้อแตกต่างหลักระหว่างอุปกรณ์ทั้งสองตัวนี้ คือจุดประสงค์ในการใส่ โดยอุปกรณ์จัดฟันแบบใส หรือ Invisalign จะใส่เพื่อจัดฟันให้เรียงตรงสวยงาม ในขณะที่รีเทนเนอร์จะใช้เพื่อพยุงฟันที่ผ่านการจัดแล้วให้อยู่กับที่
หลังเสร็จสิ้นขั้นตอนการจัดฟัน ฟันของเรามีโอกาสจะกลับมาซ้อนเกเหมือนเดิม หรือเคลื่อนจากตำแหน่งที่ควรเป็น หากไม่ใส่รีเทนเนอร์ไว้ตามที่ทันตแพทย์กำหนด โดยในการจัดฟันแบบใส จะเริ่มจากการใส่ Invisalign เพื่อจัดเรียงฟันให้เป็นระเบียบก่อน เมื่อฟันเข้าที่ตามต้องการแล้วจึงเปลี่ยนมาใส่รีเทนเนอร์เพื่อยึดฟันไว้ไม่ให้ล้มนั่นเอง