ยา เด็กซ์แลนโซพราโซล (dexlansoprazole) ใช้สำหรับรักษาโรคเกี่ยวกับกระเพาะอาหารและหลอดอาหารบางประเภท เช่น โรคกรดไหลย้อน (acid reflux) ยาจะออกฤทธิ์ลดการสร้างกรดในกระเพาะอาหาร ซึ่งจะช่วยบรรเทาอาการแสบร้อนยอดอก (heartburn), อาการกลืนลำบาก และอาการไอเรื้อรัง ได้ นอกจากนี้ยายังช่วยรักษาแผลในกระเพาะอาหารและหลอดอาหารซึ่งเกิดจากกรดมาทำลาย, ช่วยป้องกันการเกิดแผลใหม่ และอาจช่วยป้องกันมะเร็งหลอดอาหาร ยา dexlansoprazole เป็นยาในกลุ่ม proton pump inhibitors (PPIs)
สารบัญ
สรรพคุณและข้อบ่งใช้ dexlansoprazole
- รักษาโรคกรดไหลย้อน: ลดอาการแสบร้อนกลางอกและความเสียหายของเยื่อบุหลอดอาหารที่เกิดจากกรดไหลย้อน
- รักษาแผลในกระเพาะอาหารและลำไส้เล็ก: ช่วยรักษาแผลที่เกิดจากการหลั่งกรดมากเกินไปในกระเพาะอาหารและลำไส้เล็ก
- รักษาโรคอักเสบของหลอดอาหาร: ช่วยบรรเทาอาการอักเสบของหลอดอาหารที่เกิดจากกรดในกระเพาะอาหาร
- ป้องกันการกลับเป็นซ้ำของแผลในกระเพาะอาหารและลำไส้เล็ก: ใช้ในการป้องกันการเกิดแผลในกระเพาะอาหารและลำไส้เล็กหลังจากการรักษาเสร็จสิ้น
กลไกการออกฤทธิ์
dexlansoprazole ทำงานโดยการยับยั้งการทำงานของเอนไซม์ที่มีชื่อว่า H+/K+ ATPase (Proton Pump) ในเซลล์เยื่อบุกระเพาะอาหาร ซึ่งเป็นเอนไซม์ที่ทำหน้าที่ในการผลิตกรด การยับยั้งการทำงานของเอนไซม์นี้จะทำให้การผลิตกรดในกระเพาะอาหารลดลง ส่งผลให้ลดอาการที่เกิดจากกรดในกระเพาะอาหาร
วิธีใช้ยา dexlansoprazole
- อ่านคำแนะนำในการใช้ยาที่ได้รับจากเภสัชกรก่อนใช้ยานี้ และในทุกครั้งที่มารับยาซ้ำ หากมีคำถามใดๆ ให้สอบถามจากแพทย์หรือเภสัชกร
- รับประทานยานี้ตามแพทย์สั่ง โดยทั่วไปจะรับประทานวันละ 1 ครั้ง ก่อนหรือหลังอาหาร ถ้าคุณมักมีอาการหลังอาการ แพทย์อาจสั่งให้คุณรับประทานยาทุกวันก่อนอาหารมื้อเดิมเพื่อให้ได้ผลจากการรักษาดีที่สุด ขนาดยาและระยะเวลาในการใช้ยาจะขึ้นกับสภาวะโรคและการตอบสนองต่อการรักษา
- ไม่บดหรือเคี้ยวแคปซูลยา โดยให้กลืนทั้งเม็ด ถ้าคุณประสบปัญหาในการกลืนแคปซูลทั้งเม็ด คุณอาจเปิดแคปซูลออก และโรยผงยาลงในซอสแอปเปิ้ล 1 ช้อนโต๊ะ (15 มิลลิลิตร) และให้กลืนสิ่งที่ผสมนี้ทันทีโดยไม่เคี้ยว ห้ามผสมยานี้ล่วงหน้าก่อนรับประทานเพราะอาจทำให้ยาถูกทำลาย
- หากคุณจำเป็นต้องใช้ยานี้โดยการใช้กระบอกฉีดยา ฉีดเข้าปาก หรือแพทย์สั่งยานี้ให้คุณทางสายยางให้อาหารเพื่อเข้าสู่กระเพาะอาหาร ให้ปรึกษาบุคลากรทางการแพทย์ที่ดูแลคุณเกี่ยวกับวิธีในการผสมยาและการรับประทานยาด้วยวิธีดังกล่าว
- ถ้าจำเป็น อาจรับประทานยาลดกรดร่วมกับยา dexlansoprazole ได้
- ถ้าคุณกำลังใช้ยา sucralfate ร่วมด้วย ให้รับประทานยา dexlansoprazole ก่อนยา sucralfate อย่างน้อย 30 นาที
- รับประทานยานี้เป็นประจำเพื่อให้ได้ประโยชน์จากยาเต็มที่ เพื่อไม่ให้ลืมรับประทานยา แนะนำให้รับประทานยาในเวลาเดียวกันของทุกวัน โดยให้รับประทานยาอย่างต่อเนื่องตามระยะเวลาที่แพทย์สั่ง แม้ว่าอาการจะดีขึ้นแล้วก็ตาม
- แจ้งแพทย์หากอาการของคุณไม่ดีขึ้นหรือมีอาการแย่ลง ความเสี่ยงของการเกิดผลข้างเคียงจากยาจะเพิ่มขึ้นเมื่อใช้ยานานขึ้น ดังนั้นให้ปรึกษาแพทย์ว่าควรรับประทานยานี้นานเท่าใด
ผลข้างเคียงของยา dexlansoprazole
อาจเกิดอาการท้องเสียระหว่างใช้ยานี้ ถ้าอาการข้างเคียงไม่ดีขึ้นหรือมีอาการแย่ลง ให้แจ้งแพทย์หรือเภสัชกรทันที
โปรดจำไว้ว่า การที่แพทย์สั่งยานี้ให้กับคุณ เพราะว่าแพทย์ได้ประเมินแล้วว่าคุณจะได้รับประโยชน์จากยานี้มากกว่าความเสี่ยงต่อการเกิดผลข้างเคียง ผู้ป่วยหลายรายที่ใช้ยานี้ไม่เกิดอาการข้างเคียงร้ายแรงจากยา
แจ้งแพทย์ทันทีถ้าคุณมีอาการข้างเคียงที่ร้ายแรง ได้แก่
- มีอาการของระดับแมกนีเซียมในเลือดต่ำ เช่น หัวใจเต้นเร็ว หัวใจเต้นช้า หัวใจเต้นผิดจังหวะ กล้ามเนื้อกระตุกอย่างต่อเนื่อง มีอาการชัก
- มีอาการของโรคลูปัส เช่น มีผื่นบนจมูกและแก้ม มีอาการปวดข้อที่เกิดขึ้นใหม่ หรืออาการปวดข้อแย่ลง
ยานี้อาจเป็นสาเหตุของโรคทางลำไส้ที่ร้ายแรงแต่พบได้น้อย คือมีอาการท้องเสียที่เกิดจากเชื้อ Clostridium difficile (Clostridium difficile-associated diarrhea) ซึ่งเกิดจากเชื้อแบคทีเรีย ให้แจ้งแพทย์ทันทีหากคุณมีอาการเหล่านี้: ท้องเสียต่อเนื่อง, ปวดท้อง เกร็งท้อง, มีไข้, อุจจาระมีมูก/มูกเลือดปน อย่าใช้ยาแก้ท้องเสีย หรือยากลุ่ม opioid ถ้าคุณมีอาการดังกล่าว เนื่องจากอาจทำให้อาการแย่ลงได้
ยาในกลุ่ม proton pump inhibitors เช่น dexlansoprazole อาจเป็นสาเหตุของการขาดวิตามินบี 12 ได้ (พบได้น้อย) โดยความเสี่ยงจะเพิ่มมากขึ้นถ้าคุณรับประทานยานี้ทุกวันเป็นเวลานาน (3 ปีหรือนานกว่านั้น) ให้แจ้งแพทย์ทันทีถ้าคุณมีอาการของการขาดวิตามินบี 12 เช่น อ่อนแรงผิดปกติ, เจ็บลิ้น, ชา หรือเสียวซ่าที่มือ หรือเท้า
ปฏิกิริยาการแพ้ยานี้ เป็นเรื่องที่พบได้น้อย อย่างไรก็ตามถ้าเกิดอาการใดๆ ของการแพ้ยาให้รีบไปพบแพทย์ทันที ได้แก่ ผื่น, คัน บวม (โดยเฉพาะที่หน้า ลิ้น คอ), เวียนศีรษะรุนแรง, หายใจลำบาก, มีอาการของปัญหาที่ไต เช่น ปริมาณปัสสาวะเปลี่ยนแปลง
อาการข้างเคียงที่กล่าวไว้ข้างต้นไม่ใช่อาการข้างเคียงทั้งหมดที่อาจเกิดขึ้นได้ ดังนั้นถ้าคุณมีอาการผิดปกติใดๆ ที่ไม่ได้กล่าวไว้ข้างต้น ให้ปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกร
ข้อควรระวังในการใช้ยา dexlansoprazole
- ถ้าคุณแพ้ยา dexlansoprazole หรือยาที่คล้ายๆ กัน เช่น lansoprazole, omeprazole หรือแพ้สิ่งอื่นๆ ให้แจ้งแพทย์หรือเภสัชกรทราบก่อนได้รับยานี้ ผลิตภัณฑ์ยานี้อาจประกอบด้วยสารไม่ออกฤทธิ์อื่นซึ่งอาจเป็นสาเหตุของการแพ้หรือปัญหาอื่นได้ ให้ปรึกษาเภสัชกรสำหรับข้อมูลเพิ่มเติม
- ก่อนการใช้ยา dexlansoprazole ให้แจ้งแพทย์หรือเภสัชกรทราบเกี่ยวกับประวัติทางการแพทย์ของคุณ โดยเฉพาะถ้าคุณเป็นโรคตับ, โรคลูปัส (lupus)
- อาการบางอย่างอาจเป็นสัญญาณเตือนของโรคร้ายแรง ดังนั้นให้ไปพบแพทย์ทันทีถ้าคุณมีอาการดังนี้ แสบร้อนยอดอกร่วมกับอาการเวียนศีรษะ/หน้ามืด/เหงื่อออก, ปวดเจ็บที่หน้าอก/ขากรรไกร,แขน,หัวไหล่ (โดยเฉพาะถ้ามีอาการหายใจถี่, เหงื่อออกผิดปกติร่วมด้วย), น้ำหนักลดผิดปกติ
- ยาในกลุ่ม proton pump inhibitors เช่น dexlansoprazole อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดกระดูกหัก โดยเฉพาะถ้าใช้ยานี้เป็นเวลานาน, ใช้ยาขนาดสูง และเป็นผู้สูงอายุ ให้ปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรเกี่ยวกับวิธีในการป้องกันการสูญเสียกระดูกหรือกระดูกหัก เช่น โดยการรับประทานแคลเซียมและวิตามินดีเสริม
- ก่อนเข้ารับการผ่าตัด ให้แจ้งแพทย์หรือทันตแพทย์ทราบเกี่ยวกับรายการยา อาหารเสริม และสมุนไพรที่กำลังใช้อยู่
- ระหว่างการตั้งครรภ์ ยานี้ควรใช้เฉพาะในกรณีที่ประเมินแล้วว่ามีความจำเป็นจริงๆ โดยให้ปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับความเสี่ยงและประโยชน์ที่จะได้รับจากยานี้ขณะตั้งครรภ์
- ยังไม่ทราบแน่ชัดว่ายา dexlansoprazole ผ่านไปยังน้ำนมได้หรือไม่ อย่างไรก็ตามยาที่คล้ายกันตัวอื่นสามารถผ่านไปยังน้ำนมได้ ซึ่งผลต่อทารกที่ดูดนมยังไม่ทราบแน่ชัด จึงให้ปรึกษาแพทย์ก่อนการให้นมบุตร
การใช้ยา dexlansoprazole ร่วมกับยาอื่น
การเกิดปฏิกิริยาระหว่างยา (drug interactions) อาจเปลี่ยนแปลงการออกฤทธิ์ของยาหรือเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดผลข้างเคียงร้ายแรง ข้อมูลที่ระบุนี้ไม่ได้ครอบคลุมการเกิดปฏิกิริยาระหว่างยาที่อาจเกิดขึ้นได้ทั้งหมด ดังนั้นคุณต้องแจ้งแพทย์และเภสัชกรทราบทุกครั้งว่าคุณกำลังรับประทานยา อาหารเสริม สมุนไพร ใดอยู่ในขณะนี้ อย่าเริ่มยา หยุดยา หรือเปลี่ยนแปลงขนาดยาต่างๆ เอง โดยไม่ได้ปรึกษาแพทย์
รายการยาอื่นที่อาจเกิดปฏิกิริยากับยา dexlansoprazole
- methotrexate (โดยเฉพาะเมื่อใช้ยาในขนาดสูง)
- Acalabrutinib
- Ledipasvir; velpatasvir
- Posaconazole suspension
- Capecitabine
- Saquinavir
- ยาในกลุ่ม cephalosporins บางรายการ
- Tacrolimus
- Mycophenolate mofetil
- Raltegravir
ยาบางชนิดต้องอาศัยกรดในกระเพาะอาหารเพื่อช่วยในการดูดซึม เช่น ampicillin, atazanavir, erlotinib, nelfinavir, pazopanib, rilpivirine, azole antifungals (itraconazole, ketoconazole, posaconazole) การใช้ร่วมกับยา dexlansoprazole ซึ่งเป็นยาที่ลดการผลิตกรดในกระเพาะอาหาร จึงอาจส่งผลเปลี่ยนแปลงการออกฤทธิ์ของยาดังกล่าวได้
ยา dexlansoprazole คล้ายกับยา lansoprazole มาก ดังนั้นห้ามใช้ยาที่มีส่วนประกอบของ lansoprazole ขณะใช้ยา dexlansoprazole
ยา dexlansoprazole อาจรบกวนผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการบางชนิด ซึ่งอาจทำให้ผลออกมาผิดพลาด ดังนั้นต้องแจ้งแพทย์และเจ้าหน้าที่ห้องปฏิบัติการทราบว่าคุณกำลังใช้ยานี้อยู่
การได้รับยา dexlansoprazole เกินขนาด
หากมีใครก็ตามที่ได้รับยา dexlansoprazole เกินขนาด จนทำให้เกิดอาการที่ร้ายแรง เช่น หมดสติ หรือหายใจลำบาก ให้รีบเรียกรถพยาบาลทันที โทร 1669
หากลืมรับประทานยา dexlansoprazole
ถ้าคุณลืมรับประทานยานี้ ให้รับประทานทันทีที่นึกได้ หากนึกได้เมื่อใกล้กับเวลาของมื้อถัดไป ให้ข้ามมื้อที่ลืมไป และรับประทานมื้อถัดไปตามปกติ โดยไม่ต้องเพิ่มขนาดยาเป็น 2 เท่า
การเก็บรักษายา dexlansoprazole
- เก็บรักษายาที่อุณหภูมิห้อง ห่างจากแสงแดดและความชื้น ไม่เก็บยาในห้องอาบน้ำ เก็บยาทุกชนิดให้ห่างจากมือเด็กและสัตว์เลี้ยง
- ไม่เทยานี้ทิ้งในห้องน้ำหรือในท่อระบายน้ำ ให้ทิ้งผลิตภัณฑ์ยานี้อย่างเหมาะสมเมื่อยาหมดอายุหรือเมื่อไม่จำเป็นต้องใช้ยานี้อีก Dexlansoprazole (Dexilant)
หมายเหตุ
- ห้ามแบ่งยานี้ให้ผู้อื่นใช้
- ถ้าแพทย์สั่งยานี้ให้คุณใช้เป็นประจำเป็นระยะเวลานาน อาจต้องมีการตรวจทางห้องปฏิบัติการและตรวจทางการแพทย์เป็นระยะเพื่อติดตามอาการและผลข้างเคียงจากยา เช่น ตรวจระดับแมกนีเซียมในเลือด, ตรวจระดับวิตามินบี 12 ซึ่งคุณต้องไปพบแพทย์ตามนัด