compare thermage hifu 1 scaled

เปรียบเทียบ Thermage กับ HIFU ต่างกันอย่างไร

ปัญหาเรื่องผิวหน้าหย่อนคล้อย มีริ้วรอย ผิวหน้าไม่เต่งตึง เป็นสิ่งที่สาวๆ หลายคนเป็นกังวล แต่เนื่องจากเทคโนโลยีด้านความงามในปัจจุบันที่ก้าวกระโดดพัฒนาไปไกล จึงมีการคิดค้นเครื่องมือและหัตถการเพื่อช่วยปรับสภาพผิวให้กระชับ ริ้วรอยดูลดลง ดูเต่งตึงขึ้น โดยไม่ต้องพึ่งการผ่าตัด

หนึ่งในวิธีที่ว่าคือ การทํา Thermage กับ HIFU เพียงแต่ทั้ง Thermage และ HIFU ต่างก็ช่วยลดความหย่อนคล้อยได้ หลายคนจึงอาจสงสัยเพิ่มว่าแล้วจะรู้ได้อย่างไรว่าแบบไหนดีกว่า หรือเหมาะกับสภาพผิวของตัวเองมากกว่ากัน HDmall จึงอาสาพาไปถามคุณหมอให้ เพื่อช่วยคลายข้อสงสัยให้รู้กันจะจะไปเลย

Thermage กับ HIFU ทําให้ผิวกระชับได้อย่างไร?

แม้ว่าทั้ง Thermage และ HIFU จะมีจุดประสงค์หลักคือทําให้ผิวกระชับขึ้นเช่นเดียวกัน แต่หลักการทํางานของสองอย่างนี้แตกต่าง ปล่อยคลื่นคนละชนิด และลงสู่ชั้นผิวลึกไม่เท่ากัน

Thermage เป็นการปรับผิวให้ตึงกระชับด้วยเครื่องที่ปล่อยคลื่นคลื่นวิทยุความถี่สูง (radio frequency: RF) ลงสู่ผิวหนัง ตัวคลื่น RF ที่ใช้เป็น Monopolar RF หรือคลื่นวิทยุแบบขั้วเดียว เป็นตัวที่ลงลึกที่สุดในกลุ่ม RF ที่จะลงไปถึงชั้นใต้หนังแท้ (Hypodermis) ซึ่งเป็นชั้นที่อยู่ของคอลลาเจน (collagen) สารตัวนี้จะเป็นตัวที่ทำให้ผิวแน่นกระชับ โดย Thermage จะปล่อยความร้อน ทําให้คอลลาเจนในชั้นผิวเกิดการหดตัว และ กระตุ้นให้คอลเจนสร้างเนื้อเยื่อใหม่ หลังจากทํา Thermage แล้วผิวจึงดูยกกระชับ เรียบเนียนขึ้น

ส่วน HIFU (High Intensity Focused Ultrasound) เป็นนวัตกรรมที่ช่วยยกกระชับผิวหน้าโดยใช้เครื่องปล่อยคลื่นอัลตราซาวด์ ที่มีความเข้มข้นสูงและเฉพาะเจาะจงลงลึกไปยังชั้น SMAS (Superficial Muscular Aponeurotic System) หรือร่างแหของชั้นกล้ามเนื้อซึ่งอยู่ใต้ชั้นหนังแท้พลังงานของคลื่นอัลตราซาวด์จะเปลี่ยนเป็นความร้อนจุดเล็กๆ ไปตามตำแหน่งที่ต้องการ ส่งผลให้เกิดความกระชับ ริ้วรอยลดลง

ทํา Thermage กับ HIFU เจ็บไหม?

หลายคนที่ต้องการกระชับผิว แต่ยังมีความลังเล หรือกลัวว่าทํา Thermage เจ็บไหม เทียบกับทํา HIFU เจ็บมากหรือน้อยกว่ากัน?

แพทย์ผู้ชํานาญการได้อธิบายไว้ว่า การทํา Thermage นั้นความรู้สึกตอนทําจะรู้สึกเจ็บแบบความร้อนที่ลงเป็นแท่งคล้ายธูปจี้ เพราะความร้อนที่ลงลึก ส่วน HIFU ความรู้สึกตอนทําจะเจ็บเหมือนถูกจักรเย็บ นอกจากนี้ความเจ็บ ขึ้นอยู่กับเทคโนโลยีของเครื่องแต่ละรุ่น ที่อาจมีการพัฒนาให้เจ็บน้อยลง แต่คุณภาพของการยกกระชับยังเท่าเดิมหรืออาจจะมากขึ้นได้ ดังนั้นควรสอบถามหรือปรึกษาแพทย์ก่อนทํา เพื่อให้เลือกเทคโนโลยีหรือเครื่องให้เหมาะสําหรับคุณ หรือจะได้ เตรียมตัวเตรียมใจให้พร้อมก่อน

ทํา Thermage กับ HIFU ใช้เวลานานไหม?

Thermage ใช้เวลาทําประมาณ 2-4 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับจํานวนช็อตที่ลง นอกจากนี้ยังมีเรื่องความทน เจ็บของผู้รับบริการ เช่น บางคนอาจมีความอดทนตํ่า เวลาทําจึงต้องมีช่วงพัก ทําให้ใช้เวลานานขึ้นส่วน HIFU จะใช้เวลาทําไม่เกิน 1ชั่วโมง

สภาพผิวแบบไหนกัน เหมาะกับการทํา Thermage และ HIFU?

คําถามที่หลายคนมักจะสงสัยและสอบถามเกี่ยวกับการทํา Thermage และ HIFU เช่น อายุเท่านี้ควรทําทรีทเมนต์อะไร สภาพผิวแบบไหนควรทํา Thermage แบบไหนควรเลือก HIFU

คําถามที่ค่อนข้างตอบยาก เพราะขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายประการ ได้แก่ ลักษณะของผิวหนัง (skin texture) ความหย่อนคล้อย ของแต่ละคนที่ไม่เหมือนกันเลย การใช้ชีวิต ไลฟ์ สไตล์ที่แตกต่างกัน การทนความเจ็บก็มีผลเช่นกัน ซึ่งในคนช่วงอายุเดียวกัน เพศเดียวกัน ก็มีปัจจัยข้างต้นแตกต่างกันได้

ดังนั้นจึงควรให้แพทย์ประเมินก่อนทํา Thermage หรือ HIFU เพื่อดูสภาพผิวของแต่ละคนอย่างละเอียดโดยเฉพาะ

นอกจากนี้ยังมีเรื่อง ราคาและความคุ้มค่าระหว่างการทํา Thermage กับ HIFU ซึ่งการเลือกทําจะขึ้นอยู่กับปัญหาของคนไข้เอง เพื่อให้แพทย์วินิจฉัย และแนะนําให้ได้ และขึ้นอยู่กับจํานวนครั้งของช็อตที่ยิง

ผลลัพธ์ของ Thermage Vs HIFU

เนื่องจากใช้เทคโนโลยีแตกต่างกันอย่างที่อธิบายข้างต้น ผลลัพธ์ของ Thermage กับ HIFU จึงมีรายละเอียดที่แตกต่างกันออกไปด้วย โดย Thermage นั้นสามารถทําได้ทุกส่วนบริเวณในร่างกาย เช่น ใบหน้า ลําคอ หน้าท้อง แขน ต้นขา ลดริ้วรอย รักษาผิวหลวม ไม่กระชับบนใบหน้า รอบดวงตา และตามตัวได้ ทั้งยังสามารถช่วยลดเซลลูไลท์ รวมไปถึงแก้ปัญหาหน้าท้องหย่อนคล้อยจากการคลอดบุตรได้

ในคนที่มีพื้นผิวหนา แต่ความหย่อนคล้อยน้อย เหมาะกับการทํา Thermage นอกเหนือจากนี้ยังช่วยในการกระชับรูขุมขนได้ด้วย

หลังจากทํา Thermage จะเห็นผลได้ชัดขึ้นภายใน 3-6 เดือน นับจากวันที่ทำ และผลจะอยู่ได้นานประมาณ 1 ปี ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล

ส่วนผลของการทํา HIFU นั้น บริเวณที่จะเห็นผลดีเป็นพิเศษ คือ ช่วงล่างของหน้า (lower face) และยกคิ้วได้ดี นอกจากจะช่วยกระชับผิว ยังช่วยลดริ้วรอย และช่วยปรับผิวให้ดูเรียบเนียน ดูกระจ่างใสขึ้น

คนที่มีปัญหาในเรื่องของความหย่อนคล้อย ผิวไม่กระชับ หน้าตอบ หรือ โครงลักษณะเนื้อผิว (skin texture) บาง การทํา HIFU จะเหมาะกว่า เพื่อให้ได้ใบหน้าดูเรียว กรอบหน้าชัดยิ่งขึ้น กลุ่มที่เหมาะสําหรับการทํา HIFU คือผู้ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อยเล็กน้อยถึงปานกลาง เช่น กลุ่มคนที่อายุมากกว่า 30 ปี

จะเห็นผลชัดขึ้นหลังทํา HIFU ประมาณ 1-2 เดือน และควรทำต่อเนื่องทุก 1-2 เดือน สำหรับผู้ที่มีปัญหามาก หรือ 3-6 เดือน สำหรับผู้ที่มีปัญหาน้อยหรือต้องการบำรุงป้องกัน

ข้อจํากัดและผลข้างเคียงของการทํา Thermage และ HIFU

หลังทําทั้ง Thermage และ HIFU อาจมีผลข้างเคียงเล็กน้อย เช่น รอยแดง การบวมของผิว แต่อาการจะหายไปภายใน 24 ชั่วโมง และไม่แนะนําให้ทํากับผู้ที่มีแผลบริเวณผิวหนัง เป็นสิวอักเสบเรื้อรัง หรือเป็นผู้ปลูกถ่ายโลหะในร่างกาย ไม่แนะนำให้ทำ Thermage บนบริเวณที่ทําการรักษา

เพราะฉะนั้นแล้วการเลือกทํา Thermage กับ HIFU ควรศึกษาข้อมูลให้ดีอย่างละเอียด หรือควรปรึกษาแพทย์ผู้ชํานาญการทางด้านความงาม เพื่อรับข่าวสารที่ถูกต้อง เพราะต่างคนต่างมีปัจจัยการรักษาที่ไม่เหมือนกัน

Scroll to Top