ตอนนี้เราก็อายุขึ้นเลข 3 แล้วค่ะ ตั้งแต่เป็นคุณแม่ลูกสองก็เริ่มมีความกังวลเรื่องสุขภาพมากขึ้นตามไปด้วย โดยเฉพาะโรคหัวใจและหลอดเลือดที่ปัจจุบันเห็นข่าวคนเป็นเยอะมาก
ถึงแม้ที่ผ่านมาเราจะไม่เคยเจ็บป่วยเป็นอะไรหนักๆ แต่พอเป็นคุณแม่แล้วก็เลยอยากวางแผนดูแลสุขภาพของตัวเองบ้าง จะได้มีสุขภาพที่แข็งแรง อยู่กับลูกต่อไปได้นานๆ เราเลยตัดสินใจที่จะตรวจคัดกรองไว้ก่อนดีกว่าค่ะ
เราเลือกใช้บริการโปรแกรมตรวจสุขภาพหัวใจ Heart Screening ที่ โรงพยาบาลพญาไท 1 เพราะมีรายการตรวจที่ครบครัน จัดเต็มกว่า 16 รายการ หนึ่งในนั้นคือมีตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ EKG เอกซเรย์ปอด และตรวจหัวใจด้วยคลื่นสะท้อนความถี่สูง Echo
นอกจากนี้โรงพยาบาลพญาไท 1 ยังเป็นโรงพยาบาลที่มีชื่อเสียง ตั้งอยู่ในทำเลที่เดินทางสะดวก ไม่ว่าจะขับรถไปเองหรือนั่งรถไฟฟ้า BTS ก็สะดวกสุดๆ เราเลยรู้สึกมั่นใจและตัดสินใจเข้ามาใช้บริการที่นี่ทันทีค่ะ
สารบัญ
รีวิวตรวจสุขภาพหัวใจ ที่ โรงพยาบาลพญาไท 1
ก่อนที่จะเข้ามาตรวจสุขภาพหัวใจ เราก็ต้องพักผ่อนให้เพียงพอและงดอาหารก่อนตรวจประมาณ 8-12 ชั่วโมงค่ะ โดยเรายังสามารถดื่มน้ำเปล่าได้อยู่นะคะ
เมื่อถึงวันนัดหมายก็เข้ามาที่ โรงพยาบาลพญาไท 1 และติดต่อเจ้าหน้าที่หน้าเคาน์เตอร์ลงทะเบียนว่ามาใช้บริการตรวจสุขภาพหัวใจได้เลย
จากนั้นเจ้าหน้าที่จะขอบัตรประชาชนเพื่อนำไปลงทะเบียนทำประวัติคนไข้ใหม่ก่อน เสร็จแล้วก็ไปที่ศูนย์โรคหัวใจและหลอดเลือด อาคาร 1 ชั้น 1 กันค่ะ
พอขึ้นมาที่ศูนย์โรคหัวใจและหลอดเลือดแล้ว พี่พยาบาลจะพาเราไปชั่งน้ำหนัก วัดส่วนสูง วัดความดัน วัดไข้ พร้อมกับซักประวัติเกี่ยวกับโรคประจำตัวและประวัติการแพ้ยาเล็กน้อยก่อน เสร็จแล้วก็ไปเจาะเลือดและเก็บปัสสาวะกันต่อเลย
ขั้นตอนการเจาะเลือดและเก็บปัสสาวะ
ขั้นตอนการเจาะเลือด เริ่มแรกพี่พยาบาลจะให้ยื่นแขนมาวางไว้บนหมอนรอง จากนั้นก็นำสายมารัดที่ต้นแขนเพื่อให้เห็นเส้นเลือดชัดขึ้น
พอพี่พยาบาลเห็นเส้นเลือดแล้ว ขั้นตอนถัดไปก็จะนำสำลีชุบแอลกอฮอล์มาเช็ดทำความสะอาดที่ข้อพับแขนและเริ่มทำการเจาะเลือดเลยค่ะ
ใครที่กลัวเข็ม กลัวเจ็บ บอกเลยว่าพี่พยาบาลที่นี่มือเบามากๆ ไม่รู้สึกเจ็บเลยค่ะ แถมระหว่างเจาะเลือดยังคอยชวนคุยให้รู้สึกผ่อนคลายมากขึ้นด้วย โดยรวมใช้เวลาไม่ถึง 5 นาทีก็เสร็จแล้วค่ะ
หลังจากเจาะเลือดเสร็จแล้ว ต่อมาก็จะเป็นขั้นตอนการเก็บปัสสาวะ โดยพี่พยาบาลจะให้กระบอกเก็บตัวอย่างมาพร้อมกับแนะนำขั้นตอนการเก็บปัสสาวะให้
สำหรับขั้นตอนการเก็บปัสสาวะที่พี่พยาบาลแนะนำมาก็คือ ให้เลือกเก็บปัสสาวะเฉพาะช่วงกลางและปล่อยปัสสาวะช่วงแรกกับช่วงท้ายทิ้งไป
พอเก็บปัสสาวะเสร็จแล้ว ก็นำกระปุกเก็บตัวอย่างมาส่งคืนพี่พยาบาล จากนั้นก็ไปตรวจเอกซเรย์ปอดและตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ EKG กันต่อได้เลยค่ะ
ขั้นตอนการตรวจเอกซเรย์ปอด
ขั้นตอนการตรวจเอกซเรย์ปอด ก่อนอื่นเราจะต้องไปเปลี่ยนเป็นชุดของทางโรงพยาบาลและมัดผมให้เรียบร้อยก่อนค่ะ
จากนั้นนักรังสีเทคนิคจะให้ไปยืนหน้าเครื่องเอกซเรย์พร้อมกับจัดท่าทางให้ลำตัวแนบชิดกับเครื่อง เสร็จแล้วก็หายใจเข้าลึกๆ และกลั้นหายใจไว้แป๊บนึง ระหว่างที่กลั้นหายใจ นักรังสีเทคนิคก็จะถ่ายฟิล์มเอกซเรย์เลยทันที
โดยรวมขั้นตอนนี้ใช้เวลาไม่ถึง 5 นาทีก็เสร็จแล้วค่ะ ต่อไปเราก็ไปตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ EKG กันต่อเลย
ขั้นตอนการตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ EKG
ขั้นตอนการตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ เป็นการตรวจคัดกรองเบื้องต้นเพื่อดูอัตราการเต้นของหัวใจและจังหวะการเต้นของหัวใจแล้วนำมาวิเคราะห์ตรวจหาความผิดปกติ
โดยขั้นตอนนี้ก็ไม่มีอะไรมากค่ะ เพียงแค่นอนเฉยๆ บนเตียงแล้วพี่พยาบาลจะติดจุดรับสัญญาณบริเวณหน้าอก ข้อมือ และข้อเท้าทั้งสองข้าง จากนั้นก็เปิดเครื่องเพื่อรับสัญญาณจากคลื่นหัวใจของเรา ขั้นตอนนี้ใช้เวลาแค่ 5 นาทีก็เสร็จแล้วค่ะ
ขั้นตอนการตรวจหัวใจด้วยคลื่นสะท้อนความถี่สูง Echo
มาถึงขั้นตอนสุดท้ายนั่นก็คือการตรวจหัวใจด้วยคลื่นสะท้อนความถี่สูง Echo โดยขั้นตอนนี้คุณหมอจะให้เราขึ้นไปนอนบนเตียงและปิดไฟในห้องให้เหลือแสงสลัวๆ
จากนั้นคุณหมอจะให้นอนตะแคงซ้าย พร้อมกับทาเจลใสๆ บริเวณหน้าอกเพื่อเป็นสื่อนำคลื่นสะท้อนความถี่สูง
สำหรับใครที่เขินคุณหมอเราบอกเลยว่าไม่ต้องเขินค่ะ เพราะคุณหมอจะเอาผ้ามาคลุมหน้าอกไว้ให้ส่วนนึง แถมแสงไฟในห้องก็สลัวมากด้วย ไม่ต้องกังวลเลย
หลังจากทาเจลเสร็จแล้ว ต่อมาคุณหมอจะใช้อุปกรณ์ปล่อยคลื่นสะท้อนความถี่สูงมาวนๆ บริเวณหน้าอกของเรา ซึ่งการทำงานของตัวคลื่นที่ปล่อยไปนั้นจะเข้าไปรับสัญญาณการบีบตัวและขนาดของหัวใจพร้อมกับแปลผลออกมาเป็นภาพอยู่บนหน้าจอให้เราเห็นทันที
ดังนั้นคุณหมอเลยสามารถเห็นภาพการทำงานของหัวใจและอธิบายผลให้ฟังได้เลยว่าหัวใจของเราเป็นยังไงบ้าง ทำงานปกติมั้ย และมีจุดไหนที่น่ากังวลรึเปล่า
สำหรับความรู้สึกตอนตรวจก็ไม่ได้รู้สึกเจ็บหรือน่ากลัวเลยค่ะ แถมตัวคลื่นที่ปล่อยเข้าไปยังไม่เป็นอันตรายต่อร่างกายด้วย เพราะฉะนั้นสบายใจได้เลย
โดยรวมขั้นตอนนี้ใช้เวลาประมาณ 15 นาทีก็เสร็จแล้ว หลังจากนั้นก็รอฟังผลตรวจประมาณ 1 ชั่วโมง ระหว่างรอฟังผลตรวจก็ไปหาอะไรกินก่อนได้เลยค่ะ จะบอกว่าที่นี่เค้ามีร้านอาหารให้เลือกเยอะมาก
ผลการตรวจสุขภาพ
หลังจากรอผลตรวจไปประมาณ 1 ชั่วโมง เจ้าหน้าที่ก็โทรมาแจ้งให้เข้าไปฟังผลตรวจกับคุณหมอแล้วค่ะ
เริ่มแรกคุณหมอจะอธิบายผลตรวจ Echo ให้ฟังก่อน ซึ่งผลตรวจที่ออกมาหัวใจของเราก็ปกติดี ไม่มีปัญหาอะไรค่ะ ทั้งประสิทธิภาพในการทำงาน ขนาดของหัวใจ และแรงบีบตัวของหัวใจ ทุกอยากดีหมดเลย
ส่วนผลตรวจเลือดและผลตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ EKG สองอย่างนี้ก็ปกติดีเช่นกัน ไม่ได้มีปัญหาหรือมีความเสี่ยงที่ไขมันจะอุดตันในเส้นเลือดค่ะ
แต่ถึงผลตรวจทุกอย่างจะออกมาดี คุณหมอก็ยังแนะนำให้เราดูแลตัวเองต่อไปเรื่อยๆ เพราะค่าดัชนีมวลกาย (BMI) ของเราค่อนข้างสูงจากมาตราฐาน ควรงดของมัน ของทอด ครีม เนย และให้เลือกกินเป็นไขมันดีเท่านั้นค่ะ
บรรยากาศของ โรงพยาบาลพญาไท 1
บรรยากาศของโรงพยาบาลโรงพยาบาลพญาไท 1 ด้านในก็กว้างขวาง สะอาดสะอ้าน ถึงแม้จะมีคนเข้ามาใช้บริการเยอะ แต่ก็ไม่ได้ดูพลุกพล่าน ไม่ทำให้รู้สึกอึดอัดเลยค่ะ แถมที่นี่ยังรวบรวมร้านอาหารต่างๆ เอาไว้ให้เลือกเยอะด้วย ถูกใจสุดๆ ไปเลย
นอกจากบรรยากาศที่ดีแล้ว การเดินทางมาโรงพยาบาลก็สะดวกมาก สามารถนั่งรถไฟฟ้า BTS มาลงสถานีพญาไท ใช้ทางออกที่ 4 และเดินต่อมาอีกนิดนึงได้เลย หรือใครที่ขับรถมาเอง ที่นี่ก็มีที่จอดรถให้บริการเยอะมากๆ สะดวกสบายจริงๆ ค่ะ
ด้านการให้บริการของที่นี่ก็ดีไม่แพ้กัน เจ้าหน้าที่และพี่พยาบาลทุกคนน่ารัก พูดจาไพเราะ คอยช่วยเหลืออำนวยความสะดวกอยู่ตลอด คุณหมอก็เป็นกันเอง อธิบายผลตรวจละเอียด ให้คำแนะนำดี โดยรวมแล้วคิดไม่ผิดจริงๆ ค่ะ ที่เลือกมาใช้บริการที่นี่
จากผลสำรวจ คนไทยส่วนใหญ่เสียชีวิตจากโรคหัวใจและหลอดเลือดเฉลี่ยปีละ 7 หมื่นคนเลยค่ะ เพราะฉะนั้นเราแนะนำให้มาตรวจไว้ก่อนดีกว่า
ถ้าเพื่อนๆ ไม่รู้ว่าจะไปตรวจสุขภาพหัวใจที่ไหนดี? เราแนะนำให้มาใช้บริการโปรแกรมตรวจสุขภาพหัวใจ Heart Screening ที่ โรงพยาบาลพญาไท 1 เลยค่ะ โรงพยาบาลสะอาด มีมาตรฐาน ทันสมัย เดินทางสะดวก แถมการให้บริการก็ดีมากๆ
ที่สำคัญถ้าจองแพ็กเกจผ่าน HDmall.co.th ก็จะได้โปรโมชั่นราคาพิเศษด้วยนะคะ คุ้มค่า คุ้มราคาแบบนี้ห้ามพลาดเด็ดขาดเลยยย