review fillers in the cheek and under eye at anjali clinic by chatwatsaya suphasirichatthana15 scaled

รีวิวปรับรูปหน้าให้มีมิติ ด้วยโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ ที่ Anjali Clinic

พออายุมากขึ้น ปัญหาต่างๆ บนใบหน้าก็เริ่มตามมา โดยเฉพาะบริเวณร่องแก้มที่มองเห็นได้ชัด รวมถึงบริเวณใต้ตาที่ดูอิดโรย เป็นร่องลึก ทำให้ใบหน้าของเราไม่ดูสดใส ไม่อิ่มฟู แถมยังดูแก่กว่าวัยอีก

ด้วยความที่เราไม่อยากปล่อยให้ปัญหานี้หนักขึ้นเรื่อยๆ เลยมองหาตัวช่วยดีๆ ที่จะทำให้ใบหน้าดูมีมิติและดูเด็กลงได้ จนเราได้มาเจอกับโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ ที่ Anjali Clinic

ซึ่งจากที่ดูรีวิวของ Anjali Clinic มาแล้ว รีวิวแต่ละเคสของที่นี่ก็ออกมาดูดีมากๆ แถมทุกคนยังบอกเป็นเสียงเดียวกันอีกว่าคุณหมอมือเบา ตอนฉีดไม่รู้สึกเจ็บ ที่สำคัญคือไว้ใจเรื่องคุณภาพได้เลย เพราะคุณหมอจะแกะกล่องฟิลเลอร์ให้ดูต่อหน้าพร้อมกับให้ตรวจเช็กของก่อนว่าฟิลเลอร์ที่ใช้เป็นของแท้ 100%

พอเห็นรีวิวแบบนี้แล้วก็ทำให้เรารู้สึกมั่นใจมากขึ้นและไม่ลังเลที่จะใช้บริการที่นี่ เราเลยตัดสินใจจองเข้าไปปรึกษาคุณหมอทันทีค่ะ

Anjali Clinic

การเตรียมตัวก่อนใช้บริการ

ก่อนที่จะเข้าไปใช้บริการโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ เราก็ต้องเตรียมตัวให้พร้อมกันก่อนเพื่อที่จะได้ผลลัพธ์ออกมาดีและไม่มีผลข้างเคียง โดยการเตรียมตัวก่อนฉีดฟิลเลอร์ที่ทางคลินิกแนะนำมาก็มีดังนี้ค่ะ

  • พักผ่อนให้เพียงพอ ไม่ควรอดนอน
  • ห้ามกินยาหรือผลิตภัณฑ์เสริมอาหารบางชนิด 1 สัปดาห์ก่อนทำ เช่น แอสไพริน ไอบูโพรเฟน ไดโคลฟีแนค พอนสแตน วิตามินอี น้ำมันปลา ใบแปะก๊วย โสม St. John’s wort น้ำมันกระเทียม เพราะมีผลต่อยาต้านการแข็งตัวของเลือด (ควรปรึกษาแพทย์ที่รักษาก่อนหยุดยา)
  • งดทายาที่ช่วยผลัดเซลล์ผิว เช่น Tretinoin (Retin-A) Retinols Retinoids Glycolic Acid หรือครีมในกลุ่ม Anti-Aging อย่างน้อย 3 วันก่อนทำ
  • งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ งดสูบบุหรี่ 24 ชั่วโมงก่อนทำ
  • งดกิจกรรมที่ส่งผลให้มีการสูบฉีดไหลเวียนของเลือดมากขึ้น เช่น การออกกำลังกาย ซาวน่า ในช่วง 24 ชั่วโมงก่อนทำ

รีวิวปรับรูปหน้าให้มีมิติ ด้วยโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ ที่ Anjali Clinic

พอถึงวันนัดหมายก็มาที่ Anjali Clinic แล้วเข้าไปติดต่อเจ้าหน้าที่หน้าเคาน์เตอร์ว่ามาใช้บริการฉีดฟิลเลอร์ได้เลยค่ะ โดยครั้งนี่เราเลือกเข้ามาใช้บริการที่ Anjali Clinic สาขาราชพฤกษ์

จากนั้นเจ้าหน้าที่จะให้ลงทะเบียนทำประวัติกับทางคลินิกก่อน ระหว่างที่กรอกข้อมูลต่างๆ เจ้าหน้าที่ก็จะอธิบายข้อมูลเกี่ยวกับโปรแกรมให้ฟังคร่าวๆ ไปด้วย พอลงทะเบียนเสร็จแล้วก็เข้าไปพบคุณหมอเพื่อประเมินปัญหาต่อเลย

ฉีดฟิลเลอร์ ที่ไหนดี?

อันดับแรกคุณหมอจะสอบถามความกังวลของเราก่อนว่ากังวลเรื่องอะไร? อยากแก้ปัญหาตรงจุดไหน? จากนั้นคุณหมอก็จะประเมินใบหน้าพร้อมกับแนะนำฟิลเลอร์และปริมาณที่ต้องใช้ให้

ซึ่งก่อนที่คุณหมอจะประเมินและแนะนำการฉีดฟิลเลอร์ เราก็เตรียมคำถามเกี่ยวกับการฉีดฟิลเลอร์มาด้วยค่ะ คิดว่าคำถามเหล่านี้เพื่อนๆ ก็น่าจะอยากรู้อยู่เหมือนกัน

แต่ละจุดบนใบหน้าใช้ฟิลเลอร์เนื้อเดียวกันได้มั้ย?

คุณหมออธิบายให้ฟังว่า ปัจจุบันเนื้อของฟิลเลอร์จะมีทั้งหมด 3 แบบ คือ ฟิลเลอร์เนื้อนิ่ม ฟิลเลอร์เนื้อละเอียด และฟิลเลอร์เนื้อแข็ง ซึ่งแต่จุดบนใบหน้าจะใช้เนื้อฟิลเลอร์ที่แตกต่างกันไป

เพราะฉะนั้นก่อนฉีดฟิลเลอร์ เราจึงควรเข้ามาปรึกษาปัญหากับคุณหมอก่อน เพื่อให้คุณหมอประเมินใบหน้าและแนะนำฟิลเลอร์ที่เหมาะสมให้ รวมถึงแต่ละจุดก็จะใช้ปริมาณฟิลเลอร์ที่แตกต่างกันด้วย ขึ้นอยู่กับปัญหาของแต่ละคน

การปรับรูปหน้าด้วยฟิลเลอร์กับเครื่องยกกระชับ แตกต่างกันอย่างไร?

จากที่คุณหมออธิบายให้ฟัง ฟิลเลอร์ จะเป็นการฉีดสารเติมเต็มที่มีส่วนประกอบของไฮยาลูโรนิก แอซิด (HA) เข้าไปเติมเต็มส่วนที่ขาดหายหรือโครงสร้างใบหน้าที่เริ่มยุบตัว เช่น บริเวณใต้ตา ร่องแก้ม และขมับ

ส่วนการใช้เครื่องยกกระชับ จะเป็นการปล่อยพลังงานในรูปแบบต่างๆ ลงไปใต้ชั้นผิว เพื่อกระตุ้นการเรียงตัวของคอลลาเจน ทำให้ผิวยกกระชับขึ้น

ดังนั้นคุณหมอเลยสรุปให้ฟังง่ายๆ ว่า ใครที่มีปัญหาใบหน้าขาดวอลลุ่ม ใต้ตาลึก ร่องแก้มลึก ขมับตอบ ก็ควรจะเลือกฉีดฟิลเลอร์เพื่อเข้ามาเติมเต็ม แต่ถ้ามีปัญหาผิวหย่อนคล้อย ต้องการยกกระชับ ก็ให้เลือกเป็นเครื่องยกกระชับค่ะ หรือใครที่อยากจะทำทั้ง 2 อย่าง คุณหมอก็แนะนำให้ใช้เครื่องยกกระชับก่อนแล้วค่อยมาฉีดฟิลเลอร์นะคะ

ฉีดฟิลเลอร์ตรงไหนได้บ้าง

หลังจากคุณหมออธิบายข้อมูลต่างๆ ให้ฟังแล้ว คุณหมอก็จะเริ่มประเมินปัญหาผิวหน้าพร้อมกับแนะนำฟิลเลอร์และปริมาณที่ใช้ให้เลยค่ะ

ซึ่งจากการประเมิน ส่วนใหญ่เราจะมีปัญหาเรื่องของใต้ตายุบตัวลงและมีร่องแก้มลึก เป็นสาเหตุที่ทำให้ใต้ตาดูดำคล้ำ ใต้ตาโหล ใบหน้าโทรม และหน้าดูแก่กว่าวัย

คุณหมอเลยแนะนำให้ฉีดฟิลเลอร์ที่บริเวณใต้ตา หน้าแก้ม และร่องแก้ม จำนวน 3 ซีซี โดยแต่ละบริเวณคุณหมอจะเลือกเนื้อฟิลเลอร์ที่หลากหลายตามความเหมาะสมกับบริเวณของใบหน้า เพื่อเติมเต็มส่วนที่ลึกให้ดูตื้นขึ้น ทำให้ใต้ตาดูเต็ม อิ่มฟู และช่วยปรับรูปหน้าให้ดูมีมิติค่ะ

หลังจากพูดคุยกับคุณหมอเสร็จเรียบร้อยแล้ว เจ้าหน้าที่ก็จะพาเราไปที่ห้องทำหัตถการเพื่อเตรียมตัวฉีดฟิลเลอร์ปรับรูปหน้ากันเลย

ขั้นตอนการฉีดฟิลเลอร์

สำหรับขั้นตอนการฉีดฟิลเลอร์ เริ่มแรกเจ้าหน้าที่จะเช็ดทำความสะอาดใบหน้าพร้อมกับทายาชาทิ้งไว้ประมาณ 30 นาทีก่อน ระหว่างที่รอยาชาออกฤทธิ์ก็นอนเล่นโทรศัพท์ไปเพลินๆ ได้เลยค่ะ

ฉีดฟิลเลอร์เจ็บไหม

พอยาชาเริ่มออกฤทธิ์แล้ว เจ้าหน้าที่จะเช็ดยาชาออกและคุณหมอจะฉีดยาชาย้ำให้อีกรอบเพื่อลดความเจ็บปวดระหว่างทำ เพราะฉะนั้นใครที่กลัวเจ็บก็อุ่นใจได้เลยค่ะ ไม่เจ็บแน่นอน

นอกจากนี้ก่อนที่จะเริ่มฉีดฟิลเลอร์ คุณหมอยังนำกล่องฟิลเลอร์ที่จะใช้มาแกะให้ดูตรงหน้าพร้อมกับสอนวิธีเช็กฟิลเลอร์ของแท้ให้ด้วย เห็นแบบนี้แล้วเราก็รู้สึกอุ่นใจมากๆ ทำให้ยิ่งมั่นใจในคุณภาพขึ้นไปอีกค่ะ

วิธีการเช็กฟิลเลอร์

จากที่คุณหมอแนะนำมา การเช็กฟิลเลอร์ของแท้ก็เริ่มจากดูที่กล่องของฟิลเลอร์ก่อนค่ะว่าซีลมาเรียบร้อยดีมั้ย มีส่วนไหนถูกแกะออกมาก่อนรึเปล่า

จากนั้นก็ให้สแกน QR Code บนกล่องของฟิลเลอร์ ซึ่งใน QR Code จะมีเลขทะเบียน อย. เลขระบุวัน-เดือน-ปี ที่หมดอายุไว้อย่างชัดเจน 

นอกจากนี้คุณหมอก็แนะนำให้เช็กชื่อคลินิกที่ทำการสั่งซื้อพร้อมกับเลขล็อตที่ข้างกล่องกับเลขล็อตที่หลอดฟิลเลอร์ข้างในด้วยว่าตรงกันไหม

เพียงแค่เราตรวจเช็กฟิลเลอร์ด้วยวิธีหลักๆ ตามที่คุณหมอแนะนำมาก่อนฉีดฟิลเลอร์ เราก็มั่นใจได้แล้วค่ะว่าฟิลเลอร์ที่ใช้เป็นของแท้แน่นอน

หลังจากที่ยาชาออกฤทธิ์และเช็กฟิลเลอร์เรียบร้อยแล้ว ขั้นตอนต่อมาคุณหมอก็จะเริ่มทำการฉีดฟิลเลอร์ให้เลยค่ะ ซึ่งคุณหมอจะเริ่มฉีดครึ่งหน้าก่อน โดยจะแบ่งฉีดบริเวณใต้ตาข้างละ 0.5 ซีซี และร่องแก้มข้างละ 1 ซีซี

ขั้นตอนการฉีดฟิลเลอร์

ความรู้สึกตอนฉีดเราจะบอกว่าคุณหมอมือเบามาก ตอนฉีดไม่รู้สึกเจ็บเลยสักนิด แถมใช้เวลาไม่นานก็เสร็จเรียบร้อยแล้ว การฉีดฟิลเลอร์ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิดจริงๆ 

หลังจากคุณหมอฉีดเสร็จไปครึ่งหน้า คุณหมอก็จะให้ส่องกระจกเพื่อดูผลลัพธ์ก่อนว่ามีความแตกต่างจากข้างที่ยังไม่ฉีดมากน้อยแค่ไหน

ฉีดฟิลเลอร์กี่วันเข้าที่

ซึ่งจากที่เราเห็นผลลัพธ์ครึ่งหน้า ข้างที่ฉีดก็ดูเต็มขึ้น ใต้ตาและร่องแก้มที่เคยลึกก็ตื้นขึ้นมาทันที ชอบมากๆ ค่ะ หลังจากนั้นคุณหมอก็จะเริ่มฉีดครึ่งหน้าที่เหลือต่อเลย รวมๆ แล้วใช้เวลาไม่ถึง 1 ชั่วโมงก็เสร็จแล้วค่ะ

การดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์

พอฉีดฟิลเลอร์เสร็จเรียบร้อยแล้ว คุณหมอก็ได้แนะนำการดูแลตัวเองหลังทำมาทั้งหมด ดังนี้ค่ะ

  • 1 วันหลังรับบริการ งดแต่งหน้า งดทาครีมบำรุง แต่สามารถล้างหน้าได้ โดยล้างด้วยโฟมล้างหน้าและซับหน้าให้แห้ง
  • 2-3 วันแรกหลังรับบริการ ห้ามนอนราบหรือนอนตะแคง ควรนอนให้ศีรษะสูงกว่าระดับหน้าอก ป้องกันการโดนกดทับบริเวณที่ทำ
  • 3 วันหลังรับบริการ จะมีรอยเข็ม 2-3 จุดบนใบหน้า ซึ่งรอยเข็มจะหายเองได้
  • 14 วันหลังรับบริการ (หรืออย่างน้อย 48 ชั่วโมงแรก) งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด งดสูบบุหรี่ งดการนั่งหน้าเตาร้อนๆ เช่น หมูกระทะ ปิ้งย่าง งดอาหารเผ็ดมาก หวานจัด อาหารหมักดอง อาหารดิบ อาหารไม่สะอาด
  • ห้ามแตะ แกะ เกา กดนวดในจุดที่ทำ
  • ควรดื่มน้ำวันละ 1-2 ลิตร เพื่อให้ฟิลเลอร์ฟูและชุ่มน้ำ
  • งดออกกำลังกายหนักๆ หรือกิจกรรมที่ทำให้เหงื่อออกมาก
  • งดการสัมผัสโดนความร้อน เช่น ซาวน่า ตากเเดดเป็นเวลานาน

ผลลัพธ์หลังฉีดฟิลเลอร์

ผลลัพธ์ที่ได้หลังฉีดฟิลเลอร์ปรับรูปหน้า เราก็เห็นได้ชัดเจนเลยค่ะว่าใต้ตาและร่องแก้มดูเต็มขึ้นมาเยอะมาก ทำให้จากเดิมที่เคยหน้าโทรม หน้าแก่กว่าวัย ตอนนี้กลายเป็นคนที่มีหน้าตาสดใส และช่วยลดอายุลงไปเยอะเลย

ผลลัพธ์หลังฉีดฟิลเลอร์ปรับรูปหน้า

บรรยากาศของ Anjali Clinic

บรรยากาศของ Anjali Clinic สาขาราชพฤกษ์ ด้านในก็มีพื้นที่กว้างขวาง ตกแต่งโทนเรียบๆ ดูสะอาดตา เข้าไปแล้วไม่ทำให้รู้สึกอึดอัด ถือว่าเป็นอีกหนึ่งคลินิกที่น่าใช้บริการมากๆ ค่ะ

บรรยากาศของ Anjali Clinic

ส่วนด้านการให้บริการก็ดีไม่แพ้กัน เจ้าหน้าที่ทุกคนน่ารัก เป็นกันเอง คอยดูแลและให้บริการเป็นอย่างดี ที่สำคัญคือคุณหมอเก่งมาก มีความชำนาญ ให้คำปรึกษาละเอียด โดยรวมแล้วประทับใจสุดๆ ไปเลยค่ะ

ต้องยอมรับจริงๆ นะคะว่าฉีดฟิลเลอร์ ที่ Anjali Clinic แล้วได้ผลลัพธ์ออกมาจึ้งมาก คิดไม่ผิดเลยค่ะที่เลือกเข้ามาใช้บริการที่นี่

สำหรับใครที่มีปัญหาใบหน้า อยากปรับรูปหน้าให้ดูมีมิติมากขึ้น เราก็แนะนำให้เข้ามาใช้บริการโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ ที่ Anjali Clinic เลยค่ะ รับรองไม่ผิดหวังแน่นอน

ตอนนี้ Anjali Clinic เปิดให้บริการอยู่ 3 สาขาด้วยกัน คือ สาขาเกษตร-นวมินทร์, สาขาพระรามเก้า และสาขาราชพฤกษ์ สะดวกที่ไหนเลือกเข้าไปใช้บริการที่นั่นได้เลย
นอกจากนี้เราจะบอกว่า Anjali Clinic เค้ามีโปรโมชั่นร่วมกับ HDpay ที่ให้เราผ่อนชำระค่าบริการได้ 0% นาน 10 เดือนอยู่ด้วย ใครที่สนใจสามารถแจ้งกับเจ้าหน้าที่หน้าเคาน์เตอร์ว่าจะใช้บริการผ่อนผ่าน HDpay ได้เลยค่ะ

Scroll to Top