คุยกับ “หมอณัฐ” ศัลแพทย์ด้านการผ่าตัดส่องกล้อง และการส่องกล้องทางเดินอาหาร

เปิดเรื่องราวน่าประทับใจของหมอผ่าตัดส่องกล้อง กับหมอณัฐ นพ. ณัฐพล อภิกิจเมธา ศัลยแพทย์ด้านการผ่าตัดส่องกล้อง เป็นอาจารย์แพทย์และแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์ด้านการผ่าตัดส่องกล้อง การส่องกล้องทางเดินอาหารมามากกว่า 2,500 เคส

หมอเป็นศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการผ่าตัดส่องกล้องนะครับ จบการศึกษาด้านการผ่าตัดส่องกล้องขั้นสูง มีประสบการณ์ผ่าตัดส่องกล้องและส่องกล้องทางเดินอาหารมามากกว่า 2,500 เคสแล้ว และปัจจุบันหมอก็เป็นอาจารย์แพทย์ด้านการผ่าตัดส่องกล้องด้วยครับ

เล่าจุดเริ่มต้นของการเป็นหมอผ่าตัดหน่อย

เริ่มจากตอนเด็กๆ หมอได้เห็นผู้ใหญ่ในบ้าน ผู้สูงอายุในบ้านที่มีอาการเจ็บป่วย บ้างก็เจ็บหนักจนต้องนอนโรงพยาบาลเลยครับ ซึ่งทำให้หมอมองเห็นความสำคัญของคนที่ทำอาชีพคุณหมอ ว่าคุณหมอเนี่ยเป็นที่พึ่งสำคัญของครอบครัวของเรามาก คอยช่วยเหลือญาติผู้ใหญ่ในบ้านเราให้หายป่วยได้

ประกอบกับคุณพ่อของหมอเคยเล่าให้ฟังว่าตอนที่ท่านยังเด็ก ท่านก็อยากเรียนหมอ แต่ตอนนั้นไม่มีโอกาสได้เรียน เลยทำให้หมอรู้สึกว่า การทำอาชีพหมอมันน่าจะทำให้เราได้ช่วยเหลือคนในครอบครัว เป็นที่พึ่งของครอบครัวได้ นี่คือความคิดของหมอตอนเด็กๆ นะครับ 

จนเมื่อเราโตขึ้น เราก็ได้เห็นว่าการเป็นหมอเนี่ย นอกจากจะได้ดูแลคนในครอบครัวแล้ว เรายังมีส่วนช่วยคนที่เขากำลังลำบาก คนที่เขากำลังเจ็บป่วยให้กลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติด้วย 

ส่วนถ้าถามว่าทำไมถึงอยากเป็นศัลยแพทย์ หมอคิดว่าการเป็นหมอผ่าตัดจะทำให้เราได้เห็นอวัยวะของคนไข้จริงๆ ทำให้เราได้ผ่า ได้เข้าไปจับอวัยวะ เช่น จับลำไส้ ถ้าเจอเนื้องอกก็ได้เห็นด้วยตาตัวเองและได้ตัดออก เราได้จับทุกอย่างกับมือเราเอง ซึ่งหมอคิดว่ามันเป็นการรักษาที่เป็นรูปธรรมที่หมอน่าจะมีความสุขกับการทำงานตรงนั้น หมอเลยเลือกมาเป็นหมอผ่าตัดครับ

ผ่าตัดส่องกล้อง กับ ผ่าตัดส่องกล้องชั้นสูง ต่างกันยังไง?

ถ้าเป็นการผ่าตัดส่องกล้องทั่วไป ศัลยแพทย์ทั่วไปก็อาจทำได้ครับ เช่น ผ่าตัดส่องกล้องไส้ติ่งอักเสบ ซึ่งปัจจุบันหลายๆ โรงพยาบาลแม้แต่ในต่างจังหวัด หมอศัลยกรรมทั่วไปก็สามารถทำได้ แต่ในการผ่าตัดส่องกล้องขั้นสูง เราจะสามารถผ่าตัดโรคที่ซับซ้อนขึ้นได้มากกว่า เช่น การผ่าตัดไทรอยด์ในช่องปาก การผ่าตัดกระเพาะเพื่อรักษาโรคอ้วน การผ่าตัดรักษาโรคเหงื่อออกที่มือมากผิดปกติ ซึ่งโรคเหล่านี้จะมีการทำหัตถการที่ซับซ้อนขึ้น และควรปรึกษาแพทย์เฉพาะทางเท่านั้น

การผ่าตัดส่องกล้องมีข้อดียังไง?

ต้องย้อนกลับไปเทคนิคการผ่าตัดสมัยก่อนก่อนครับ เรามีแต่การผ่าตัดแบบเปิดเท่านั้น คือเป็นการผ่าตัดเปิดแผลใหญ่ๆ ทำให้ศัลยแพทย์ได้เอามือล้วงเข้าไปจับอวัยวะนั้นด้วยมือของตัวเอง ซึ่งข้อดีก็คือแพทย์จะได้ใช้มือจับอวัยวะจริงๆ แต่ข้อเสียก็คือ เรื่องของขนาดแผลที่ใหญ่ 

ซึ่งบางคนก็จะมองว่าขนาดแผลที่ใหญ่ก็จะทำให้เกิดปัญหาแค่ด้านความสวยงามเท่านั้น แต่ความจริงมันไม่ได้มีแค่นั้น ผู้ที่มีแผลผ่าตัดใหญ่ก็จะมีผลกระทบอื่นๆ ตามมาได้อีก เช่น ความเจ็บปวดหลังผ่าตัด เมื่อผ่าตัดเสร็จก็จะเจ็บแผลมาก และเมื่อเจ็บแผลมากก็จะทำให้เราฟื้นตัวช้า กว่าจะลุกจากเตียงได้ กว่าจะลุกเดินเองได้ ก็อาจใช้เวลาหลายวัน

ทำให้ในปัจจุบันจึงมีการพัฒนาการผ่าตัดส่องกล้องแผลเล็กขึ้นมา ซึ่งการที่เรามีแผลเล็กก็จะทำให้เกิดข้อได้เปรียบหลายอย่าง อย่างแรกคือความสวยงามแน่นอน แต่จริงๆ มันเป็นประเด็นที่รองลงมา ประเด็นหลักคือแผลผ่าตัดที่เล็กทำให้เราปวดแผลน้อยลง การฟื้นตัวก็จะเร็วขึ้น ส่วนใหญ่หลังผ่าตัดแค่วันเดียวคนไข้ก็ลุกเดินได้แล้ว และการพักฟื้นที่โรงพยาบาลและที่บ้านก็จะสั้นลงด้วย กลับไปใช้ชีวิตหรือกลับไปทำงานได้เร็ว 

นอกจากนี้การผ่าตัดส่องกล้องแผลเล็กยังทำให้ความเสี่ยงเรื่องแผลติดเชื้อลดลงไปอย่างมากด้วยครับ

อย่างการผ่าตัดไทรอยด์ทางช่องปาก ในประเทศไทยเรามีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการผ่าตัดส่องกล้องทางช่องปากเพียงสิบกว่าท่านเท่านั้น และจริงๆ แล้วประเทศไทยยังเป็นประเทศแรกที่คิดค้นเทคนิคการผ่าตัดนี้ขึ้นมาด้วย ทำให้มีแพทย์มาศึกษาดูงานจากทุกทวีปทั่วโลกเลยครับ และการผ่าตัดชนิดนี้ก็เริ่มแพร่หลายไปในหลายๆ ประเทศทั่วโลกแล้วด้วย

เล่าประสบการณ์ผ่าตัดที่ยากและประทับใจ

การผ่าตัดที่หมอประทับใจจะเป็นการผ่าตัดที่สามารถเปลี่ยนชีวิตคนไข้ให้มีคุณภาพดีขึ้นได้ครับ เช่น ผ่าตัดกระเพาะรักษาโรคอ้วน ผ่าตัดไทรอยด์ทางช่องปาก ถามว่าประทับใจยังไงบ้าง อย่างเคสผ่ากระเพาะอาหาร ก่อนผ่าตัดคนไข้ของหมอใช้ชีวิตลำบากมาก ใครที่ไม่เคยหนักร้อยกว่าโลฯ อาจไม่เข้าใจ แต่เขาใช้ชีวิตลำบากหลายอย่าง จะขึ้นรถเมล์หรือรถไฟฟ้าก็ต้องเบียดกับคนอื่น ขึ้นบันไดแค่ขั้นสองขั้นก็หอบแล้ว 

แต่หลังผ่าตัด อย่างแรกเลยคือเลขน้ำหนักเขาลดลง ใครที่เคยน้ำหนักตัวเยอะมาก่อนและลดน้ำหนักได้หมอว่าน่าจะเข้าใจว่าเขาแฮปปี้ยังไง อย่างที่สองเลยคือใช้ชีวิตง่ายขึ้น ไม่เหนื่อยง่าย ขึ้นรถเมล์รถไฟฟ้าก็ไม่ต้องเบียดกับคนอื่น ขึ้นลงบันไดก็ไม่เหนื่อยง่าย ใช้ชีวิตสบายขึ้นเยอะ และอีกผลพลอยได้ก็คือ รูปร่างสัดส่วนที่ดูดีขึ้น ทำให้คนไข้เขามีความสุข แฮปปี้กับตัวเองมากขึ้นไปอีกด้วย

ส่วนการผ่าตัดส่องกล้องไทรอยด์ทางปาก ทำไมหมอถึงบอกว่ามันเปลี่ยนชีวิตคนไข้ สมันก่อนถ้าผ่าตัดไทรอยด์ เราต้องเปิดแผลที่คอประมาณ 5-10 เซนติเมตร ซึ่งเสี่ยงทำให้มีแผลเป็น แต่ปัจจุบันเราพัฒนาเทคนิคการผ่าตัดส่องกล้องทางช่องปาก ทำให้คนไข้ไม่มีรอยแผลเป็นที่คออีก ถามว่าแล้วมันเปลี่ยนชีวิตคนไข้ยังไง 

อย่างบางคนต้องทำงานที่พบปะผู้คน ต้องเข้าสังคมบ่อย การมีรอยแผลเป็นที่คอก็อาจส่งผลต่อหน้าที่การงานเขาได้ ทำให้ขาดความมั่นใจ หมอเคยเจอคนไข้มาบอกว่าขอไม่มีแผลเป็นที่คอนะ ถ้าไม่อย่างนั้นเขาต้องลาออกจากงานแน่นอน หมอเลยรู้สึกว่าการผ่าตัดส่องกล้องมันเป็นวิวัฒนาการที่ไม่ใช่แค่ด้านการรักษาโรคอย่างเดียว แต่มันสามารถช่วยรักษาความมั่นใจของคนไข้ได้มากขึ้นด้วย

มีเคสที่กลับมาหาคุณหมอและฟีตแบคว่าชีวิตแฮปปี้บ้างมั้ย?

เป็นเคสผ่าตัดรักษาโรคเหงื่อออกที่มือผิดปกติครับ บางคนอาจไม่รู้ว่ามันเป็นโรคด้วย และบางคนถ้าไม่เคยเป็นก็จะไม่เข้าใจว่ามันเป็นปัญหายังไง แต่คนที่เขามีปัญหาโรคนี้จะเข้าใจเลยครับว่ามันเป็นอุปสรรคในการใช้ชีวิตมาก แค่นั่งเฉยๆ มือก็เปียกหมดแล้ว บางคนเหงื่อออกมากจนไหลเป็นหยดน้ำเลยก็มี 

ตัวอย่างเช่น คนที่ทำงานเกี่ยวกับเอกสาร ต้องจับกระดาษบ่อยๆ แต่ดันเป็นโรคนี้ก็ทำให้กระดาษเปียก ทำให้เอกสารเสียหาย บางคนเล่นกีฬา เช่น ตีกอล์ฟ ตีเทนนิส หรือเล่นดนตรี พอเหงื่อออกมากก็ทำให้มือลื่น เล่นกีฬาหรือเล่นดนตรีไม่ถนัด 

บางคนมาสารภาพกับหมอโดยตรงด้วยว่าเขาไม่กล้าจับมือแฟนเลย ไม่กล้าจับมือเชคแฮนด์กับลูกค้าหรือคนรอบตัว ซึ่งตอนแรกหมอก็นึกไม่ถึง จนพอมาฟังปัญหาเหล่านี้ก็นึกได้ว่า เออ ปัญหาจากโรคนี้มันใกล้ตัวกว่าที่คิดมากแฮะ

ซึ่งหลังจากผ่าตัดแล้ว คนไข้ก็กลับมามือแห้งเป็นปกติ เขาสามารถกลับไปทำงานได้ตามปกติ เข้าสังคมได้ และตัวเขาก็แฮปปี้ กลับมาบอกหมอว่าชีวิตเขาเปลี่ยนไปมากจริงๆ ครับ

เล่าเทคนิคการทำงานของคุณหมอ

หมอเป็นคนค่อนข้างละเอียดครับ เวลาคุยกับคนไข้ก็จะนึกถึงใจคนไข้ว่าเราอธิบายแบบนี้ อธิบายตัวโรคแบบนี้ คนไข้เข้าใจมั้ย เพราะบางทีถ้าเราเผลอใช้คำศัพท์ทางการแพทย์มากไป คนไข้ก็จะไม่เข้าใจ และหมอจะถามคนไข้กลับเสมอว่า มีอะไรสงสัยมั้ย อยากให้อธิบายอะไรเพิ่มเติมมั้ย 

และหมอจะพยายามฟีตแบคตัวเองตลอดว่าเราทำงานแบบนี้ คนไข้โอเคหรือเปล่า เข้าใจสิ่งที่เราสื่อสารหรือเปล่า ตัวอย่างเช่น การเขียนเอกสารทางการแพทย์ หลายคนบอกว่าหมอมือสวย แต่หมอว่าไม่ขนาดนั้นครับ หมอแค่นึกว่าถ้าเราเขียนแบบนี้ คนอ่านจะอ่านรู้เรื่องมั้ย อันนี้ตัวเลขอะไร ตัวหนังสือนี้มีหัวหรือไม่มีหัว เขียนให้ชัดเจน จะได้ไม่มีข้อผิดพลาดในการรักษาได้

ส่วนเทคนิคการทำงานเวลาผ่าตัด สไตล์ของหมอคือจะค่อยๆ เป็นค่อยๆ ไปตามขั้นตอนครับ ถ้ามีปัญหาตรงไหนหมอก็จะเคลียร์ปัญหาตรงนั้นก่อน หยุดเลือดก่อน แล้วค่อยผ่าตัดต่อ เพื่อให้การผ่าตัดเป็นไปอย่างราบรื่น และได้ผลการรักษาที่ดีที่สุดสำหรับคนไข้ทุกคน

ทำไมถึงเข้าร่วม HDcare 

สำหรับหมอ HDcare เป็นบริการที่ตอบโจทย์ปัญหาของคนไข้นะครับ โดยก่อนที่หมอจะมาร่วมงานกับ HDcare หมอก็ได้ลองเสิร์ชข้อมูลในเว็บดู และหมอได้เห็นว่า HDcare ให้รายละเอียดตัวโรคต่างๆ ได้ค่อนข้างละเอียด ละเอียดแบบที่หมอรู้สึกว่ายังไม่เคยเห็นข้อมูลแบบนี้ในเว็บไซต์อื่น ซึ่งหมอมองว่าทีมงาน HDcare ทำการมาบ้านมาดีมาก และตอบโจทย์คนไข้ครับ

เพราะคนไข้ส่วนมากที่หมอเจอ เวลาเขารู้สึกมีอาการผิดปกติ มีก้อนเนื้งอก หรือมีอาการต่างๆ ตอนแรกเขามักจะไม่รู้ว่าควรปรึกษาใครก่อน ซึ่งในปัจจุบันสิ่งแรกที่คนส่วนใหญ่นึกถึงก็คือ Google เมื่อมีอาการคนส่วนใหญ่ก็จะเสิร์ชอินเทอร์เน็ตเกี่ยวกับอาการที่ตัวเองเป็น ซึ่งบางทีก็เจอข้อมูลที่ตรงกับอาการบ้าง บางทีก็ไม่เจอบ้าง 

แต่สำหรับ HDcare หมอมองว่าเขาทำการบ้านและเตรียมข้อมูลมาดี มีการเรียบเรียงข้อมูลรู้เรื่อง ได้ใจความด้วย เหมาะให้คนไข้ทั่วไปได้อ่านทำความเข้าใจ และรู้ตัวว่าเขาอาจจะเป็นโรคนี้นะ จำเป็นต้องมาโรงพยาบาลได้แล้วนะ ทำให้กระบวนการรักษาเป็นไปอย่างรวดเร็วและถูกต้องครับ

และอีกข้อดีหลักๆ ของ HDcare เลยก็คือ มีทีมงานที่เป็นมืออาชีพ มีความรู้และความเชี่ยวชาญ คนไข้สามารถทักมาคุยสอบถามรายละเอียดอาการเบื้องต้นได้ก่อนเลย และสามารถนัดพบแพทย์ผ่านช่องทางออนไลน์หรือพบที่โรงพยาบาลก็ได้ แล้วแต่สะดวก ซึ่งตรงนี้ก็ไม่มีค่าใช้จ่ายในการปรึกษาด้วย หมอมองว่ามันตอบโจทย์คนไข้ค่อนข้างดีครับ

สำหรับผม หมอณัฐเองก็ได้เข้าร่วมแพ็กเกจ HDcare ในหลายๆ หัตถการครับ ไม่ว่าจะเป็นการผ่าตัดส่องกล้องถุงน้ำดี ผ่าตัดส่องกล้องไส้เลื่อน ผ่าตัดตัดกระเพาะอาหารรักษาโรคอ้วน ผ่าตัดไทรอยด์ในช่องปาก ผ่าตัดรักษาโรคเหงื่อออกที่มือมากผิดปกติ 

ท่านใดที่รู้สึกว่ามีอาการเจ็บปวดซึ่งสงสัยว่าจะเป็นโรคเหล่านี้ สามารถติดต่อทางทีมงาน HDcare เพื่อเข้ามาปรึกษากันได้ตลอดนะครับ จะผ่านช่องทางออนไลน์หรือจะนัดมาคุยกับหมอโดยตรงที่โรงพยาบาลก็ได้เช่นกันครับสอบถามทุกประเด็นเกี่ยวกับการผ่าตัดที่สงสัย กับทางทีมของ HDcare จนกว่าจะมั่นใจ และหากต้องการผู้ช่วยประสานงานด้านใดในโรงพยาบาล หรืออยากสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับบริการ HDcare สามารถพูดคุยผ่านทางไลน์ @HDcare ได้เลย

Scroll to Top