lemon balm

สะระแหน่ (Lemon Balm)

สะระแหน่ (Lemon balm) พืชยืนต้นที่อยู่ในตระกูลเดียวกับมิ้นท์ ใบสะระแหน่มีกลิ่นเลม่อนอ่อนๆ นำไปทำยาได้ สะระแหน่เพียงอย่างเดียวหรือที่ผสมร่วมกับสมุนไพรอื่นๆ นำไปใช้ในผลิตภัณฑ์สมุนไพรต่างๆ มากมาย

ประโยชน์ของสะระแหน่

  • สะระแหน่ประกอบด้วยเคมีที่มีฤทธิ์เป็นยากล่อมประสาท ช่วยผ่อนคลาย และลดการเจริญเติบโตของไวรัสบางประเภทได้อีกด้วย
  • สะระแหน่รักษาปัญหาการย่อยอาหารอย่างอาการปวดท้อง ท้องอืด อาเจียน และโคลิก รวมถึงรักษาอาการเจ็บปวด อย่างปวดประจำเดือน ปวดศีรษะ และปวดฟัน อีกทั้งภาวะผิดปกติทางจิตอย่างฮิสเทอเรีย (hysteria) และโรคซึมเศร้ารุนแรง (melancholia)
  • หลายคนนำสะระแหน่ไปใช้บรรเทาอาการอย่างภาวะวิตกกังวล ปัญหาการนอนหลับ และอยู่ไม่สุข มีการนำสมุนไพรชนิดนี้ไปใช้รักษาโรคอัลไซเมอร์ (Alzheimer’s disease) โรคสมาธิสั้น (attention deficit-hyperactivity disorder (ADHD)) โรคภูมิคุ้มกันทำลายตนเองที่เกี่ยวกับไทรอยด์ (Graves’ disease) หลอดลมบวม หัวใจเต้นเร็วเนื่องจากความตื่นเต้น ความดันโลหิตสูง อาการปวด เนื้องอก และแมลงกัดต่อย เป็นต้น
  • สำหรับการรักษาโรคอัลไซเมอร์นั้นจะนำสะระแหน่ไปใช้ในสุคนธบำบัด (aromatherapy) บางคนใช้วิธีทาสะระแหน่บนผิวเพื่อบรรเทาอาการจากโรคเริมที่ริมผีปาก (herpes labialis)
  • สารสกัดและน้ำมันจากสะระแหน่ยังถูกใช้ประกอบอาหารและผสมในเครื่องดื่มมากมายเพื่อแต่งกลิ่นให้น่าดึงดูดมากขึ้น

การใช้และประสิทธิภาพของสะระแหน่

ภาวะที่อาจใช้สะระแหน่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

  • ภาวะวิตกกังวล  (Anxiety) งานวิจัยบางชิ้นได้แสดงให้เห็นว่าการรับประทานผลิตภัณฑ์จากสะระแหน่บางประเภท (Cyracos by Naturex SA) สามารถลดอาการวิตกกังวลของผู้ป่วยบางรายได้บ้าง อีกทั้งงานวิจัยยังได้แสดงให้เห็นว่าการรับประทานผลิตภัณฑ์ที่มีสะระแหน่ รวมกับส่วนผสมอื่น 12 ชนิด (Klosterfrau Melissengeist by Klosterfrau) สามารถลดอาการวิตกกังวลได้อย่างความตื่นเต้นหรือกระสับกระส่าย เป็นต้น
  • โคลิก (colic) ในทารกที่ยังไม่หย่านม งานวิจัยบางชิ้นแสดงถึงการทดลองที่ให้ทารกที่ยังไม่หย่านมซึ่งมีอาการโคลิก รับผลิตภัณฑ์ที่ประกอบด้วยเฟนเนล (fennel) สะระแหน่ และดอกคาโมมายล์สายพันพันธุ์เยอรมัน (ColiMil by Milte Italia SPA) เป็นเวลา 2 ครั้งต่อสัปดาห์ ช่วยลดระยะเวลาร้องไห้ของเด็กได้ งานวิจัยอื่นยังแสดงให้เห็นอีกว่า การรับประทานผลิตภัณฑ์ที่ประกอบด้วยสะระแหน่ ดอกคาโมมายล์สายพันธุ์เยอรมัน และแลคโตบาซิลลัส แอซิโดฟิลลัส (Lactobacillus acidophilus (ColiMil Plus by Milte Italia SPA)) กับเด็กทารกที่มีอาการโคลิก 2 ครั้งต่อ 4 สัปดาห์ สามารถลดระยะเวลาร้องไห้ได้ในความถี่เท่ากับการใช้โปรไบโอติก Lactobacillus reuteri DSM 17938 ต่อวัน นอกจากนี้ งานวิจัยอื่นยังแสดงผลของการให้ทารกดื่มชาที่ผสมดอกคาโมมายล์สายพันพันธุ์เยอรมัน, เวอร์บีนา หรือชื่อสามัญว่า เวอร์เวน (vervain), ชะเอมเทศ (licorice), เฟนเนล และสะระแหน่ (Calma-Bebi by Bonomelli) มากถึงสามครั้งต่อวันจะช่วยลดอาการโคลิกของเด็กทารกลงได้
  • สมองเสื่อม (Dementiaงานวิจัยบางชิ้นแสดงให้เห็นว่าการรับประทานสะระแหน่ทุกวันนาน 4 เดือนจะลดความอยู่ไม่สุขและลดอาการของโรคอัลไซเมอร์ชนิดเบาถึงปานกลางได้ อีกทั้งยังมีการศึกษาในประเทศอังกฤษว่าการทาโลชั่นที่ประกอบด้วยน้ำมันสะระแหน่ที่ใบหน้าและมือของผู้ป่วยสมองเสื่อมสามารถลดความอยู่ไม่สุขของพวกเขาได้ 35% แม้ว่าข้อมูลจากการศึกษาชิ้นเก่าจะไม่พบว่าสะระแหน่มีสรรพคุณเช่นนี้ก็ตาม
  • ปวดท้องอาหารไม่ย่อย (dyspepsiaการใช้ผลิตภัณฑ์ที่ประกอบด้วยสะระแหน่ ใบเปปเปอร์มิ้นท์ ดอกคาโมมายล์สายพันธุ์เยอรมัน ยี่หร่า (caraway) ชะเอมเทศ คลาวน์ส มัสตาร์ด (clown’s mustard) เซแลนดีน (celandine) ตังกุย (angelica) และ milk thistle (Iberogast by Steigerwald Arzneimittelwerk GmbH) อาจช่วยลดอาการกรดไหลย้อน (GERD) อาการปวดท้อง ปวดบิด คลื่นไส้ และอาเจียนได้ อีกทั้งการใช้ผลิตภัณฑ์ที่ประกอบด้วยใบเปปเปอร์มิ้นท์ คลาวน์ส มัสตาร์ด ดอกคาโมมายล์สายพันพันธุ์เยอรมัน ยี่หร่า รากชะเอมเทศ และสะระแหน่ (STW 5-II by Steigerwald Arzneimittelwerk GmbH) อาจช่วยลดอาการจากโรคทางกระเพาะและลำไส้ของผู้ที่มีอาการปวดท้องอาหารไม่ย่อยได้เช่นกัน
  • การติดเชื้อไวรัส Herpes simplex การทาลิปมันที่ประกอบด้วยสะระแหน่ (LomaHerpan by Infectopharm) ณ บริเวณที่ติดเชื้ออาจช่วยเร่งระยะเวลาฟื้นตัวและลดอาการของการติดเชื้อซ้ำซากได้หากใช้ในระยะแรกของการติดเชื้อ
  • นอนไม่หลับ (Insomniaการรับประทานสะระแหน่ (Cyracos by Naturex SA) 2 ครั้งต่อวันนาน 15 วันจะช่วยลดอาการนอนไม่หลับลงได้ อีกทั้งการรับประทานสะระแหน่ร่วมกับส่วนผสมอื่นช่วยเพิ่มคุณภาพการนอนหลับของผู้ที่มีปัญหาการนอนได้อีกด้วย โดยมีการศึกษาในปี 2006 ในเด็กที่ได้รับสะระแหน่และสารสกัดจากรากวาเลเรียนพบว่า อาการนอนไม่หลับดีขึ้น 70-80%
  • ความเครียด งานวิจัยแสดงให้เห็นว่าการรับประทานสะระแหน่เพียงโดสเดียวสามารถเพิ่มความตื่นตัวและความสงบใจในช่วงการสอบครั้งใหญ่ได้ โดยงานวิจัยบางชิ้นกล่าวเสริมว่าการเติมสะระแหน่ในอาหารหรือเครื่องดื่มจะช่วยลดความกังวล กระตุ้นความจำและความตื่นตัวช่วงประสบภาวะเครียด การใช้สะระแหน่ยังช่วยลดความกังวลของเด็กก่อนเข้ารับการทำฟันได้ด้วย แต่การใช้สะระแหน่ในปริมาณมากกลับทำให้ความเครียดที่เกิดจากภาวะวิตกกังวลมีมากขึ้น

ภาวะที่ยังคงขาดหลักฐานว่าใช้สะระแหน่รักษาได้หรือไม่

  • ความสามารถทางจิต งานวิจัยกล่าวว่าการรับประทานสะระแหน่ 1,600 mg จะช่วยเพิ่มความสามารถทางจิตขึ้นได้
  • โรคลำไส้อักเสบ (Colitisงานวิจัยกล่าวว่าการรับประทานส่วนผสมของแดนดิไลออน (dandelion) เซนต์จอห์นเวิร์ต(St. John’s wort) สะระแหน่ ดอกดาวเรือง และเฟนเนลเป็นเวลา 15 วัน จะช่วยลดอาการเจ็บปวดและเพิ่มการทำงานของลำไส้ในผู้ป่วยโรคลำไส้อักเสบได้
  • ภาวะซึมเศร้า (Depressionงานวิจัยกล่าวว่าการรับประทานสะระแหน่ร่วมกับผงไข่ที่ผสมแล้วไม่อาจช่วยลดอาการของภาวะซึมเศร้าได้แม้จะเทียบกับการใช้ผงไข่ที่ผสมแล้วเพียงอย่างเดียว
  • ภาวะนอนหลับผิดปกติ (dyssomniaมีหลักฐานกล่าวว่าการรับประทานยาเม็ดที่มีส่วนประกอบของสารสกัดจากใบสะระแหน่ 80 mg และสารสกัดจากรากวาเลเรียน 160 mg (Euvegal forte, Schwabe Pharmaceuticals) 1-2 เม็ดอาจลดอาการของเด็กที่อายุต่ำกว่า 12 ปีที่มีอาการกระสับกระส่ายตอนนอนรุนแรงจนต้องพึ่งยา
  • กลุ่มอาการลำไส้แปรปรวน (Irritable bowel syndrome (IBS)มีหลักฐานกล่าวว่าการหยดผลิตภัณฑ์ที่ประกอบด้วยสะระแหน่ สเปียร์มินท์ (spearmint) และผักชี (coriander) 30 หยด 3 ครั้งต่อวันหลังอาหารแต่ละมื้อ นาน 8 สัปดาห์ ร่วมกับการรักษาตามปกติจะช่วยลดอาการปวดท้องของผู้ป่วย IBS ได้
  • อาการป่วยทางจิตที่ทำให้เกิดความเจ็บปวดทางร่างกาย (somatization disorderการใช้ผลิตภัณฑ์ที่ประกอบด้วยวาเลเรียน ดอกเสาวรส และสะระแหน่อาจช่วยลดอาการซึมเศร้าและวิตกกังวลในผู้ป่วยทางจิตที่มีอาการเจ็บปวดทางร่างกายได้
  • ไม่อยากอาหาร
  • ไม่สบายท้องและลำไส้จากอาการท้องอืดและแก๊ส
  • ชักกระตุก (Spasms)
  • ภาวะไทรอยด์ที่เรียกว่า Graves’ disease
  • เร่งการไหลของประจำเดือน
  • ปวดในผู้หญิง
  • ปวดบิด
  • ปวดศีรษะ
  • ปวดฟัน
  • ปวดเมื่อย
  • เนื้องอก
  • แมลงกัดต่อย
  • เครียดลงกระเพาะ
  • ฮิสเทเรีย (Hysteria)
  • โรคสมาธิสั้น (Attention deficit-hyperactivity disorder (ADHD))
  • ภาวะสุขภาพอื่น

จำเป็นต้องรวบรวมหลักฐานให้มากขึ้นเพื่อให้ข้อมูลด้านประสิทธิผลของสะระแหน่เพิ่มเติม

ผลข้างเคียงและความปลอดภัยของสะระแหน่

  • สะระแหน่ค่อนข้างปลอดภัยเมื่อรับประทานในปริมาณเดียวกับที่บริโภคอาหาร อีกทั้งปลอดภัยเมื่อรับประทานหรือทาบนผิวหนังของผู้ใหญ่ในปริมาณเดียวกับที่ทางการแพทย์ใช้ในช่วงสั้นๆ นอกจากนี้ยังพบว่า สะระแหน่สามารถใช้ในงานวิจัยได้อย่างปลอดภัยนานถึง 4 เดือน แต่ ณ ขณะนี้ยังไม่มีข้อมูลเรื่องความปลอดภัยในการใช้สะระแหน่ในระยะยาว
  • เมื่อรับประทานสะระแหน่อาจทำให้เกิดผลข้างเคียงบ้างเล็กน้อย อย่างเช่น ความอยากอาหารเพิ่มขึ้น คลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้อง วิงเวียน และหายใจหวีด
  • เมื่อทาบนผิวหนังสะระแหน่อาจทำให้ผิวหนังระคายเคืองได้บ้างและยังอาจช่วยลดอาการของโรคเริมได้ด้วย

คำเตือนและข้อควรระวังเป็นพิเศษ

  • สตรีมีครรภ์และแม่ที่ต้องให้นมบุตร ณ ขณะนี้ยังคงขาดแคลนข้อมูลที่น่าเชื่อถือเกี่ยวกับความปลอดภัยจากการใช้สะระแหน่ ในกลุ่มผู้หญิงที่ต้องให้นมบุตรกับผู้ตั้งครรภ์ ดังนั้นคนในกลุ่มดังกล่าวควรเลี่ยงใช้สะระแหน่เพื่อความปลอดภัย
  • ทารกและเด็ก สะระแหน่จัดว่าปลอดภัยเมื่อรับประทานในปริมาณที่เหมาะสมนาน 1 เดือน
  • เบาหวาน สะระแหน่อาจลดระดับน้ำตาลในเลือดของผู้ป่วยเบาหวานได้ ดังนั้นควรเฝ้าระวังสัญญาณของภาวะน้ำตาลในเลือด (hypoglycemia) และระวังระดับน้ำตาลในเลือดของตนเองอย่างใกล้ชิดหากตนเองเป็นผู้ป่วยเบาหวานและต้องการใช้สะระแหน่
  • การผ่าตัด สะระแหน่อาจทำให้เกิดอาการง่วงนอนได้หากใช้ร่วมกับยาที่ใช้ระหว่างและหลังการผ่าตัด ดังนั้นควรหยุดใช้สะระแหน่ก่อนเข้ารับการผ่าตัด 2 สัปดาห์
  • โรคไทรอยด์ ไม่ควรใช้สะระแหน่หากคุณเป็นโรคกลุ่มนี้เนื่องจากมีข้อกังวลว่าสะระแหน่อาจเปลี่ยนแปลงการทำงานของไทรอยด์ ลดระดับฮอร์โมนไทรอยด์ และรบกวนการบำบัดชดเชยฮอร์โมนไทรอยด์ได้

การใช้สะระแหน่ร่วมกับยาชนิดอื่น

ใช้สะระแหน่ร่วมกับยาเหล่านี้ด้วยความระมัดระวัง

  • ยากล่อมประสาท (CNS depressants) กับสะระแหน่

สะระแหน่อาจทำให้เกิดอาการง่วงนอนได้ ดังนั้นยาที่ทำให้เกิดอาการง่วงนอนที่เรียกว่ากลุ่มยากล่อมประสาท (sedatives) อาจทำให้ผู้ใช้มีอาการง่วงนอนมากเกินไป

ปริมาณยาที่ใช้

ปริมาณหรือขนาดยาที่ใช้ดังต่อไปนี้ได้รับการศึกษาจากงานวิจัยทางวิทยาศาสตร์

ผู้ใหญ่

รับประทาน

  • สำหรับภาวะวิตกกังวล การใช้สารสกัดสะระแหน่ 300 mg (Cyracos by Naturex SA) 2 ครั้งต่อวัน นาน 15 วัน อีกทั้งสามารถใช้ผลิตภัณฑ์ที่ประกอบด้วยส่วนผสม 13 ชนิดที่มีสะระแหน่รวมอยู่ด้วย 0.23 mL/น้ำหนักร่างกาย (kg) (Klosterfrau Melissengeist, Klosterfrau) 3 ครั้งต่อวันนาน 8 สัปดาห์
  • สำหรับโรคสมองเสื่อม สารสกัดจากสะระแหน่ 60 หยดนาน 4 เดือน
  • สำหรับอาการปวดท้องอาหารไม่ย่อย ผลิตภัณฑ์ที่ประกอบด้วยสะระแหน่ ใบเปปเปอร์มิ้นท์ คลาวน์ส มัสตาร์ด ดอกคาโมมายล์สายพันธุ์เยอรมัน เซแลนดีน ตังกุย และมิลค์ ทิสเซิล (milk thistle (Iberogast by Steigerwald Arzneimittelwerk GmbH)) 1 mL 3 ครั้งต่อวันนาน 4 สัปดาห์ อีกทั้งยังใช้ยาสมุนไพรที่ประกอบด้วยสะระแหน่ คลาวน์ส มัสตาร์ด ดอกคาโมมายล์สายพันธุ์เยอรมัน ใบเปปเปอร์มิ้นท์ ยี่หร่า และรากชะเอมเทศ (STW 5-II by Steigerwald Arzneimittelwerk GmbH) 1 mL 3 ครั้งต่อวันนาน 8 สัปดาห์
  • สำหรับภาวะนอนไม่หลับ สารสกัดจากสะระแหน่ 300 mg (Cyracos by Naturex SA) 2 ครั้งต่อวันนาน 15 วัน อีกทั้งใช้ผลิตภัณฑ์ที่ประกอบด้วยสารสกัดสะระแหน่ 80 mg และสารสกัดจากรากวาเลเรียน (Euvegal forte, Dr. Willmar Schwabe Pharmaceuticals) 2-3 ครั้งต่อวันนาน 30 วัน และยาเม็ดที่ประกอบด้วยรากวาเลเรียน 170 mg, ฮ็อบส์ 50 mg, สะระแหน่ 50 mg และ motherwort 50 mg
  • สำหรับภาวะเครียด มีการศึกษาเรื่องปริมาณยาสำหรับภาวะนี้มากมาย โดยมีการใช้สารสกัดสะระแหน่ 600 mg ระหว่างการทดสอบความเครียด, ใช้สารสกัดสะระแหน่ 300 mg (Bluenesse by Vital Solutions) ในอาหารหรือเครื่องดื่มระหว่างการทดสอบทางจิต, และยาเม็ดที่ประกอบด้วยสารสกัดสะระแหน่ 80 mg และสารสกัดจากรากวาเลเรียน 120 mg (Songha Night by Pharmaton Natural Health Products) สำหรับการทดสอบความเครียด

ทาบนผิวหนัง

  • สำหรับโรคเริม (herpes simplex virus) ครีมที่ประกอบด้วยสารสกัดจากสะระแหน่ 1% (LomaHerpan by Infectopharm) 2-4 ครั้งต่อวัน โดยเริ่มทาตั้งแต่เห็นสัญญาณแรกของอาการไปจนถึงไม่กี่วันหลังร่องรอยของโรคเริมหายไป

สูดดมด้วยสุคนธบำบัด

  • สำหรับโรคสมองเสื่อม โลชั่นที่ประกอบด้วยสะระแหน่ 10% นวดบนมือและต้นแขนเป็นเวลา 1-2 นาที 2 ครั้งต่อวันนาน 4 สัปดาห์

เด็ก

รับประทาน

  • สำหรับภาวะโคลิก สำหรับเด็กทารกให้ใช้ผลิตภัณฑ์สมุนไพรรวมที่ประกอบด้วยเฟนเนล 164 mg, สะระแหน่ 97 mg, และดอกคาโมมายล์สายพันธุ์เยอรมัน 178 mg (ColiMil by Milte Italia SPA) 2 ครั้งต่อวันนาน 1 สัปดาห์ หรือใช้ผลิตภัณฑ์ที่ประกอบด้วยสะระแหน่ 65 mg, ดอกคาโมมายล์สายพันธุ์เยอรมัน 9 mg, และ Lactobacillus acidophilus ที่ถูกฆ่าด้วยความร้อน 1 พันล้านตัว (ColiMil Plus by Milte Italia SPA) 2 ครั้งต่อวันนาน 4 สัปดาห์ และชาสมุนไพรที่ประกอบด้วยดอกคาโมมายล์สายพันธุ์เยอรมัน เวอร์เวน ชะเอมเทศ เฟนเนล และสะระแหน่ 150 mL (Calma-Bebi by Bonomelli) 3 ครั้งต่อวันนาน 7 วัน
  • สำหรับคุณภาพการนอนหลับต่ำ ยาเม็ดที่ประกอบด้วยสารสกัดใบสะระแหน่ 80 mg และสารสกัดจากรากวาเลเรียน 160 mg (Euvegal forte, Dr. Willmar Schwabe Pharmaceuticals) 1 หรือ 2 ครั้งต่อวัน (สำหรับเด็กอายุต่ำกว่า 12 ปี)

Scroll to Top