ไกวเฟเนซิน (Guaifenesin) หรือชื่อทางเคมีอีกชื่อหนึ่งคือ กลีเซอริล ไกวอะโคเลท (glyceryl guaiacolate) เป็นยาที่มีฤทธิ์ในการขับเสมหะ มักเป็นส่วนผสมในตำรับยาแก้ไอ รักษาอาการหวัดหลายตำรับ โดยไกวเฟเจซินจะช่วยเพิ่มการหลั่งของเมือกที่บริเวณทางเดินหายใจ และออกฤทธิ์กับตัวรับแกสติรก วากัส (gastric vagaries receptor) กระตุ้นการเกิดเอฟเฟอเรนท์พาราซิมพาเธติก (efferent parasympathetic)
ไกวเฟเนซินลดความหนืดของเมือกโดยลดความสามารถในการยึดติดของเยื่อเมือก ลดแรงตึงผิว และเพิ่มการดูดน้ำเข้าสู่เยื่อเมือก ซึ่งทำให้เยื่อเมือกมีความหนืดลดลงได้ ไกวเฟเนซินช่วยส่งเสริมประสิทธิภาพของกลไก mucociliary ซึ่งเป็นกลไกที่สำคัญในการขับเมือกที่สะสมอยู่บริเวณทางเดินหายใจส่วนบน และทางเดินหายใจส่วนล่าง
สารบัญ
- สรรพคุณของยา Glyceryl Guaiacolate
- กลไกการออกฤทธิ์ของยา Glyceryl Guaiacolate
- ข้อบ่งใช้ของยา Glyceryl Guaiacolate
- ข้อปฏิบัติเมื่อลืมรับประทานยา Glyceryl Guaiacolate
- ข้อควรระวังของการใช้ยาไกวเฟเนซิน
- ประเภทของยาตามองค์การอาหารและยา ประเทศไทย
- ข้อมูลการเก็บรักษายาไกวเฟเนซิน
- ข้อควรระวังในการใช้ยาไกวเฟเนซิน
- สิ่งที่ควรแจ้งแพทย์ เภสัชกร และพยาบาลในการสั่งใช้ยา
สรรพคุณของยา Glyceryl Guaiacolate
- ช่วยขับเสมหะ: ทำให้เสมหะที่เหนียวข้นในระบบทางเดินหายใจกลายเป็นเสมหะที่เหลวและง่ายต่อการขับออกจากร่างกายด้วยการไอหรือการระบายออกทางจมูก
- บรรเทาอาการไอที่เกิดจากเสมหะ: ใช้เพื่อบรรเทาอาการไอที่เกิดจากเสมหะในโรคหวัด หลอดลมอักเสบ หรือโรคทางเดินหายใจอื่นๆ ที่ทำให้เกิดเสมหะสะสม
ไกวเฟเนซิน เคยมีการใช้ในการรักษาไฟโบรไมอัลเจีย (fibribromyalgia) แต่ปัจจุบันยังไม่มีการรับรองในการใช้ไกวเฟเนซินสำหรับข้อบ่งใช้นี้ เนื่องจากการศึกษาแบบ double-blinded พบว่าไกวเฟเนซินไม่ได้ให้ผลการรักษาที่ดีไปกว่ายาหลอก
กลไกการออกฤทธิ์ของยา Glyceryl Guaiacolate
ไกวเฟเนซินออกฤทธิ์แบบ systemic โดยเชื่อว่าฤทธิ์ในการขับเสมหะเกิดจากความสามารถในการเพิ่มปริมาตรของเมือกโดยเพิ่มปริมาณของเหลว ร่วมกับการลดความหนืดของเมือกที่หลั่งจากหลอดลมและถุงลม ไกวเฟเนซินอาจมีฤทธิ์ที่เกี่ยวข้องกับการเพิ่มประสิทธิภาพการขับเสมหะจากการไอ อย่างไรก็ตามการศึกษาที่แน่ชัดของกลไกการออกฤทธิ์ของไกวเฟเนซินยังมีอยู่จำกัด
ข้อบ่งใช้ของยา Glyceryl Guaiacolate
ข้อบ่งใช้สำหรับบรรเทาอาการไอ ขับเสมหะ ยาในรูปแบบยาเตรียมสำหรับรับประทาน ขนาดการใช้ยาในผู้ใหญ่ ขนาด 200-400 มิลลิกรัม ทุก 4 ชั่วโมง ยาในรูปแบบยาเม็ดออกฤทธิ์นาน (extended- release tablet) ขนาด 600-1200 มิลลิกรัม ทุก 12 ชั่วโมง ขนาดยาสูงสุดต่อวัน 2400 มิลลิกรัม
ขนาดการใช้ยาในเด็ก อายุ 6-12 ปี ขนาด 100 มิลลิกรัม วันละ 4 ครั้ง ขนาดยาสูงสุดต่อวัน 400 มิลลิกรัม ใช้ยาต่อเนื่องได้นานที่สุด 5 วัน
ขนาดการใช้ยาในเด็กอายุมากกว่า 12 ปี ให้ใช้ขนาดยาเดียวกันกับในผู้ใหญ่
ข้อปฏิบัติเมื่อลืมรับประทานยา Glyceryl Guaiacolate
- หากลืมรับประทานยาตามเวลาปกติที่รับประทาน ถ้าปกติรับประทาน 1 เม็ด ให้รับประทานยาทันทีที่นึกได้จำนวน 1 เม็ดโดยไม่ต้องเพิ่มขนาดยาเป็น 2 เม็ดแทนเม็ดที่ลืมรับประทาน
- ในกรณีลืมรับประทานยาใกล้กับเวลารับประทานถัดไป ให้รับประทานยาในมื้อถัดไปในขนาด 1 เม็ด โดยข้ามยาในมื้อที่ลืมไปและไม่ต้องเพิ่มขนาดยาเป็น 2 เม็ด
ข้อควรระวังของการใช้ยาไกวเฟเนซิน
ผลข้างเคียงอันไม่พึงประสงค์
ยานี้อาจก่อให้เกิดอาการอันไม่พึงประสงค์ ได้แก่ อาการที่เกี่ยวของกับระบบต่อมไร้ท่อ ได้แก่ กรดยูริกในกระแสเลือดต่ำ อาการที่เกี่ยวข้องกับระบบทางเดินอาหาร ได้แก่ ปวดท้อง ท้องเสีย คลื่นไส้ อาเจียน อาการที่เกี่ยวข้องกับระบบประสาท ได้แก่ มึนงง ง่วงนอน ปวดศีรษะ อาการที่เกี่ยวข้องกับระบบผิวหนัง ได้แก่ เกิดผื่น
ข้อมูลการใช้ยาในสตรีมีครรภ์และสตรีให้นมบุตร
สำหรับการใช้ยาในสตรีมีครรภ์ ตัวยาจัดอยู่ในกลุ่ม category C คือ ควรระมัดระวังการใช้ยาในสตรีมีครรภ์ สำหรับสตรีให้นมบุตร ควรระวังการใช้ยา
ประเภทของยาตามองค์การอาหารและยา ประเทศไทย
ยาจัดอยู่ในกลุ่มยาทั่วไป (NDD)
ข้อมูลการเก็บรักษายาไกวเฟเนซิน
เก็บที่อุณหภูมิระหว่าง 20 ถึง 25 องศาเซลเซียส เก็บให้พ้นจากแสง
ข้อควรระวังในการใช้ยาไกวเฟเนซิน
- ไม่ใช้ยานี้ในเด็กอายุต่ำกว่า 6 ปี
- ระวังการใช้ยานี้ในผู้ป่วยที่มีอาการหรือโรคที่เกี่ยวข้องกับอาการเรื้อรัง
- ระวังการใช้ยานี้ในผู้ป่วยโรคไต โรคตับ ระดับรุงแรง
- ระวังการใช้ยานี้ในสตรีมีครรภ์
- ระวังการใช้ยานี้ในสตรีให้นมบุตร
สิ่งที่ควรแจ้งแพทย์ เภสัชกร และพยาบาลในการสั่งใช้ยา
- แพทย์และเภสัชกรสามารถให้ข้อมูลการใช้ยาอย่างปลอดภัย ผู้ป่วยควรแจ้งข้อมูลเหล่านี้แก่แพทย์หรือเภสัชกรเพื่อประโยชน์ต่อผู้ป่วยและลดความเสี่ยงในการเกิดอันตรายจากการใช้ยา
- แจ้งข้อมูลการใช้ยารักษาโรคประจำตัว ยาที่เพิ่งรับประทานก่อนหน้านี้ ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่รับประทาน (รวมถึงวิตามิน และสมุนไพร) ในกรณีมียาประจำตัวจำนวนมาก ให้พกยาเพื่อให้แพทย์หรือเภสัชกรช่วยตรวจสอบก่อนสั่งจ่ายยาใหม่ ไม่ให้เกิดอันตรกิริยาระหว่างยาที่จะได้รับใหม่และยาที่เดิมที่ผู้ป่วยใช้อยู่
- แจ้งประวัติการแพ้ยา หรืออาการแพ้ที่เกิดขึ้นเมื่อใช้ยา ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร หรือแพ้อาหารชนิดใดอยู่ (เนื่องจากยาบางชนิดมีส่วนประกอบของไข่ขาว นม ยีสต์) อาการที่เกิดขึ้น เช่น อาการบวม เกิดผื่น หายใจลำบาก หรือให้นำบัตรแพ้ยา พกติดตัวและแสดงบัตรนี้แก่แพทย์และเภสัชกรก่อนเข้าใช้บริการสุขภาพทุกครั้ง
- แจ้งข้อมูลในกรณีที่มีการตั้งครรภ์ หรือมีแผนที่จะตั้งครรภ์ หรือกำลังให้นมบุตร เนื่องจากยาบางชนิดส่งผลอันตรายต่อเด็กในครรภ์ หรือสามารถขับออกทางน้ำนมได้
- แจ้งข้อมูลที่จะส่งผลต่อการรับประทานยา เช่น มีปัญหาการกลืนลำบาก มีปัญหาด้านการมองเห็นหรืออ่านฉลากยา วิธีการรับประทานยา เพื่อแพทย์หรือเภสัชกรจะได้ช่วยแก้ไขปัญหาได้อย่างถูกต้อง