รู้จักการกำจัดขนรักแร้ด้วยเลเซอร์ และ IPL

ขนรักแร้ มีวิธีกำจัดหลายวิธี แต่ละวิธีมีข้อดีข้อเสียแตกต่างกันไป วิธีการกำจัดขนรักแร้ที่สามารถทำได้ง่ายๆ ด้วยตัวเองที่บ้าน ราคาไม่แพง ได้แก่ การถอน โกน แวกซ์ และใช้ครีมกำจัดขน ซึ่งอาจทำให้เกิดผลข้างเคียงอย่างการระคายเคือง ขนคุด หรือตุ่มหนังไก่ได้

อีกหนึ่งวิธีที่สามารถกำจัดขนด้วยตัวเอง เสี่ยงต่อการเกิดขนคุดหรือตุ่มหนังไก่น้อย คือการใช้เครื่องกำจัดขนด้วยแสง IPL แบบพกพา แต่มีข้อเสียคือ ราคาเครื่องค่อนข้างสูง มีจำนวนช็อตจำกัด และต้องทำถี่กว่าการไปทำที่คลินิก

ส่วนวิธีการกำจัดขนในคลินิกเสริมความงาม หรือโรงพยาบาลที่นิยมทำกัน คือการกำจัดขนด้วยเลเซอร์ชนิดต่างๆ และการกำจัดขนด้วยแสง IPL ซึ่งในปัจจุบันสามารถเข้าถึงได้ง่าย ราคาไม่แพง มีให้เลือกทั้งแบบจำนวนครั้ง และแบบเหมาเป็นรายเดือน หรือรายปี

เลเซอร์กำจัดขน คืออะไร?

เลเซอร์กำจัดขน (Hair Removal Laser) เป็นวิธีกำจัดขนโดยใช้พลังงานความร้อนจากแสงเลเซอร์เข้าไปทำลายรากขน

บริเวณรากขนจะมีเม็ดสีหรือเซลล์สร้างสี ที่ชื่อว่า เมลาโนไซต์ (Melanocyte) เป็นตัวนำแสง หรือดูดพลังงานจากแสงเลเซอร์ จนเกิดเป็นความร้อนเพื่อทำลายรากขนโดยเฉพาะ

หลังจากที่รากขนถูกทำลาย เส้นขนจะค่อยๆ ถูกดันให้หลุดออกจากผิวหนังภายใน 1-2 สัปดาห์

เลเซอร์กำจัดขน มีกี่ชนิด?

เลเซอร์กำจัดขนมีหลายชนิด แต่ละชนิดจะมีตัวกลางในการผลิตแสง และความยาวคลื่นที่แตกต่างกัน ดังนี้

  • Ruby laser คือเลเซอร์ที่ใช้ตัวกลางในการผลิตแสงเป็นผลึกทับทิม มีความยาวคลื่นอยู่ที่ 694 นาโนเมตร
  • Alexandrite laser คือเลเซอร์ที่ใช้ตัวกลางในการผลิตแสงเป็นผลึกอเล็กแซนไดร์ มีความยาวคลื่นอยู่ที่ 755 นาโนเมตร
  • Nd:YAG laser คือเลเซอร์ที่ใช้ตัวกลางในการผลิตแสงเป็นผลึก Yttrium-aluminum garnet ที่มีสารเจือปน Neodymium มีความยาวคลื่นอยู่ที่ 1064 นาโนเมตร
  • Diode laser คือเลเซอร์ที่ใช้ตัวกลางในการผลิตแสงเป็นสารกึ่งตัวนำ มีความยาวคลื่นอยู่ที่ 800-810, 940, 1,350-1,064 นาโนเมตร

จะเลือกใช้เลเซอร์กำจัดขนชนิดใดดี?

เนื่องจากเม็ดสีจะดูดพลังงานแสงเลเซอร์จากความยาวคลื่นที่ต่ำได้ดีกว่า

Ruby laser และ Alexandrite laser จึงไม่เหมาะกับชาวเอเชียที่มีสีผิวค่อนข้างคล้ำ เพราะเม็ดสีอาจดูดพลังงานแสงเลเซอร์มากเกินไปจนทำให้ผิวไหม้ได้

ดังนั้นชาวเอเชียจึงเหมาะกับ Nd:YAG laser และ Diode laser มากกว่า

IPL กำจัดขน คืออะไร?

IPL (Intense Pulsed Light) เป็นหนึ่งในพลังงานแสงที่ไม่ใช่เลเซอร์ มีความยาวคลื่นที่กว้างกว่า ตั้งแต่ 515-1,200 นาโนเมตร โดยลำแสงกระจายตัวได้มากกว่าเลเซอร์ ในขณะที่เลเซอร์จะมีคลื่นความยาวเดียว และโฟกัสแคบกว่า

การกำจัดขนด้วย IPL จะใช้หลักการเดียวกันกับเลเซอร์ คือ ใช้คลื่นแสงความเข้มข้นสูงไปจับกับเม็ดสีบริเวณรากขน และเปลี่ยนเป็นพลังงานความร้อนในการทำลายขน

อย่างไรก็ตาม IPL กระจายตัวกว้างเลเซอร์ อาจทำให้ผิวบริเวณรอบๆ เกิดรอยแดงได้ แต่อาการเหล่านี้จะค่อยๆ หายไปเองใน 1-2 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละบุคคล

ทำไมต้องทำเลเซอร์กำจัดขน หรือ IPL กำจัดขนหลายครั้ง?

เลเซอร์และ IPL สามารถกำจัดขนได้แค่เส้นขนที่อยู่ในระยะเติบโต (Anagen) เท่านั้น ซึ่งใต้ชั้นผิวหนังยังมีเส้นขนใหม่ที่อยู่ในช่วงระยะพักตัว (Telogen) รอขึ้นทดแทนเส้นขนที่ถูกกำจัดออกไปอยู่

การกำจัดขนเลเซอร์ หรือ IPL จึงต้องทำหลายครั้ง โดยควรทำติดต่อกันทุกๆ 4-6 สัปดาห์

ขั้นตอนการกำจัดขนด้วยเลเซอร์ หรือ IPL

การกำจัดขนด้วยเลเซอร์ หรือ IPL มีขั้นตอนที่คล้ายกัน ดังนี้

  • ทำความสะอาดผิวใต้วงแขน และโกนขนรักแร้ในครั้งแรกที่ทำเลเซอร์
  • ประคบเย็นเพื่อบรรเทาอาการเจ็บขณะทำเลเซอร์ หรือ IPL (เครื่องเลเซอร์ หรือ IPL บางชนิด สามารถปล่อยลมเย็นได้เอง)
  • ทำการยิงเลเซอร์ หรือ IPL เพื่อกำจัดขนรักแร้ เป็นอันเสร็จ

คลินิกเสริมความงาม หรือโรงพยาบาลบางแห่ง อาจมีบริการทำทรีตเมนต์รักแร้หลังทำการกำจัดขน เพื่อบำรุงผิวใต้วงแขนให้ชุ่มชื้นและปรับสภาพผิวให้ดูขาวเนียนขึ้นด้วย

ผลข้างเคียงจากการกำจัดขนด้วยเลเซอร์ หรือ IPL เป็นอย่างไร?

การกำจัดขนด้วยเลเซอร์ หรือ IPL อาจทำให้เกิดผลข้างเคียงได้ แต่ไม่อันตราย และสามารถหายได้เองภายในไม่กี่ชั่วโมงหลังทำ ดังนี้

  • มีความรู้สึกเจ็บระหว่างการรับบริการ
  • ผิวหนังอาจมีรอยแดง บวม แสบร้อน
  • อาจทำให้สีผิวเข้มขึ้น หรืออ่อนลงได้
  • อาจเกิดตุ่มพุพองได้ โดยเฉพาะในคนที่ผิวสีเข้มมาก

กำจัดขนรักแร้ด้วยเลเซอร์ หรือ IPL ราคาเท่าไหร่?

ราคาการกำจัดขนรักแร้ด้วยเลเซอร์ หรือ IPL จะแตกต่างกันไปในแต่ละคลินิก หรือโรงพยาบาล ขึ้นอยู่กับชนิดของเครื่อง จำนวนครั้ง และบริการทรีตเมนต์หลังทำ โดยมีราคาเริ่มต้นครั้งละประมาณ 500-3,500 บาท

Scroll to Top