การฟอกสีฟัน หรือที่คนส่วนใหญ่นิยมเรียกว่า ฟอกฟันขาว เป็นการฟอกฟันด้วยน้ำยา หรือเจลฟอกสีฟันเพื่อเปลี่ยนฟันเหลือง ฟันหมอง หรือฟันที่เป็นคราบคล้ำให้ดูขาวสว่างขึ้น โดยสามารถทำที่คลินิกทันตกรรม หรือซื้อชุดฟอกสีฟันมาฟอกสีฟันด้วยตัวที่บ้านก็ได้
สารบัญ
การฟอกสีฟันด้วยตัวเอง แตกต่างจากฟอกสีฟันที่คลินิกอย่างไร?
การฟอกสีฟันด้วยตัวเองคล้ายกับการฟอกสีฟันที่คลินิก คือการฟอกสีฟันด้วยน้ำยา หรือเจลฟอกสีฟันที่มีส่วนผสมของสารฟอกสีฟันอย่างไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ (Hydrogen peroxide) หรือคาร์บาไมด์เปอร์ออกไซด์ (Carbamide peroxide)
อย่างไรก็ตาม การฟอกสีฟันด้วยตัวเองจะใช้น้ำยาฟอกสีฟันที่มีความเข้มข้นต่ำ ประมาณ 10-20% ทำให้ต้องฟอกสีฟันหลายครั้งถึงจะได้ผลลัพธ์ที่พึงพอใจ
ในขณะที่การฟอกสีฟันที่คลินิกจะใช้น้ำยาฟอกสีฟันที่มีความเข้มข้นสูงประมาณ 35% และใช้เทคโนโลยีต่างๆ มากระตุ้นประสิทธิภาพของน้ำยาฟอกสีฟันให้ทำงานได้ดีขึ้น เช่น แสงเย็น (Cool light) แสงแอลอีดี (LED) หรือแสงเลเซอร์ (Laser) ทำให้ฟันขาวสว่างขึ้นหลายระดับในครั้งเดียว
ข้อดีของการฟอกสีฟันด้วยตัวเอง
แม้ว่าการฟอกสีฟันด้วยตัวเองจะเห็นผลช้ากว่าการฟอกสีฟันที่คลินิกทันตกรรม แต่ก็มีข้อดีหลายอย่าง ดังนี้
- สะดวกกว่า สามารถทำได้ด้วยตัวเองที่บ้าน
- มีโอกาสเสียวฟันน้อยกว่า เพราะใช้สารฟอกสีฟันที่มีความเข้มข้นน้อยกว่า
- ฟันขาวและยาวนานมากกว่า เพราะสามารถฟอกสีฟันด้วยตัวเองซ้ำจนกว่าจะได้ผลลัพธ์ที่พึงพอใจ
- ค่าใช้จ่ายถูกกว่า โดยชุดฟอกสีฟันจากคลินิกทันตกรรม ราคาเริ่มต้นประมาณ 1,999 บาท ในขณะที่การฟอกสีฟันที่คลินิกราคาเริ่มต้นประมาณ 2,900 บาท อีกทั้งถาดครอบฟันยังใช้ซ้ำได้ ส่วนน้ำยา หรือเจลฟอกสีฟันสามารถซื้อแยกได้
- สามารถเลือกฟอกสีฟันซ้ำเฉพาะซีกได้
ข้อเสียของการฟอกสีฟันด้วยตัวเอง
การฟอกสีฟันด้วยตัวเองแม้จะมีข้อดีหลายอย่าง แต่ก็มีข้อเสียด้วยเช่นกัน ดังนี้
- ต้องฟอกสีฟันหลายครั้ง และใช้ระยะเวลานานกว่า ถึงจะเห็นผลลัพธ์ชัดเจน โดยการฟอกสีฟันด้วยตัวเองครั้งแรกอาจต้องใช้น้ำยาฟอกสีฟัน 2-3 หลอด
- เสี่ยงต่อการเกิดการระคายเคืองที่เนื้อเยื่ออ่อนในช่องปาก หากใช้ถาดครอบฟันที่ไม่ได้มาตรฐาน ไม่พอดีกับรูปฟัน หรือใช้ถาดครอบฟันสำเร็จรูป ทำให้น้ำยาฟอกสีฟันซึมออกจากถาดครอบฟันไปสัมผัสกับเนื้อเยื่ออ่อนในช่องปาก
ฟอกสีฟันด้วยตัวเองที่บ้านอย่างปลอดภัย ทำอย่างไร?
การเตรียมตัวฟอกสีฟันด้วยตัวเองที่บ้านอย่างปลอดภัย ทำได้ง่ายๆ ดังนี้
- ตรวจสุขภาพช่องปากให้เรียบร้อย ไม่ว่าจะเป็นการอุดฟัน รักษาอาการผิดปกติของฟัน หรือจัดฟันให้เสร็จก่อน
- ขูดหินปูนก่อนทำการฟอกสีฟัน เพราะคราบหินปูนที่หนาเตอะอาจทำให้ประสิทธิภาพในการฟอกสีฟันดีเท่าที่ควร
- ซื้อชุดฟอกสีฟันจากคลินิกทันตกรรมที่ได้มาตรฐาน โดยทันตแพทย์จะจัดทำถาดครอบฟันเฉพาะบุคคล สำหรับฟันบนและฟันล่าง และแนะนำการฟอกสีฟันด้วยตัวเองอย่างถูกวิธี
ชุดฟอกสีฟันด้วยตัวเอง มีอะไรบ้าง?
ชุดฟอกสีฟันด้วยตัวเอง ประกอบด้วย
- ถาดครอบฟัน หากเป็นถาดครอบฟันจากคลินิกทันตกรรม ทันตแพทย์จะพิมพ์ถาดที่รับกับรูปฟันของแต่ละคนพอดี ทำให้น้ำยาฟอกสีฟันไม่ซึมออกไปสัมผัสกับเนื้อเยื่ออ่อนในช่องปากจนเกิดการระคายเคือง และทำให้น้ำยาฟอกสีฟันสัมผัสกับผิวฟันได้อย่างมีประสิทธิภาพมากกว่า
- น้ำยา หรือเจลฟอกสีฟัน จะมีส่วนผสมของไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ หรือคาร์บาไมด์เปอร์ออกไซด์ ความเข้มข้นขึ้นอยู่กับแต่ละยี่ห้อ โดย 1 หลอดจะใช้ได้ประมาณ 7 ครั้ง ทั้งฟันบนและฟันล่าง
- ไซริงค์ สำหรับฉีดน้ำยาฟอกสีฟัน
ขั้นตอนการฟอกสีฟันด้วยตัวเอง
หลังจากที่ตรวจสุขภาพช่องฟัน และซื้อชุดฟอกสีฟันด้วยตัวเองเรียบร้อยแล้ว คุณก็สามารถฟอกสีฟันด้วยตัวเองเมื่อไรก็ได้ ด้วยขั้นตอนง่ายๆ ดังนี้
- แปรงฟันให้สะอาด แนะนำให้ใช้ยาสีฟันสูตรลดและป้องกันอาการเสียวฟันโดยเฉพาะ จะช่วยลดอาการเสียวฟันที่อาจเกิดขึ้นจากการฟอกสีฟันได้
- ทำความสะอาดถาดครอบฟัน เช็ดให้แห้งสนิท และใช้ไซริงค์ฉีดน้ำยาฟอกสีฟันลงบนถาดครอบฟันให้ทั่ว หรือเฉพาะด้านหน้าก็ได้ ปริมาณประมาณ 1 หัวไม้ขีด
- ใส่ถาดครอบฟันให้เข้ากันพอดีกับรูปฟัน ทิ้งไว้ประมาณ 1-4 ชั่วโมง ตามคำแนะนำของทันตแพทย์ หรือคำแนะนำบนฉลากผลิตภัณฑ์
- หลังจากฟอกสีฟันเสร็จเรียบร้อย สามารถบ้วนน้ำสะอาดได้เลย ไม่ต้องแปรงฟันใหม่ ส่วนถาดครอบฟันให้ใช้แปรงสีฟันขัดล้างให้สะอาดใหม่ และแช่น้ำเก็บไว้ในกล่อง
- ทำการฟอกสีฟันอย่างสม่ำเสมอจนกว่าจะได้ผลลัพธ์ที่พึงพอใจ และสามารถทำซ้ำได้เพื่อรักษาระดับความขาวของฟัน
การฟอกสีฟันด้วยตัวเองมีผลข้างเคียงไหม?
การฟอกสีฟันด้วยตัวเอง หากเข้ารับการตรวจสุขภาพช่องปากให้เรียบร้อย และใช้ชุดฟอกสีฟันที่ได้มาตรฐานในการฟอกสีฟัน ย่อมเป็นการฟอกสีฟันที่ปลอดภัย แต่ก็อาจทำให้เกิดผลข้างเคียงได้เช่นกัน
- อาการเสียวฟัน อาจหยุดการฟอกสีฟัน 2-3 วัน เพื่อให้ฟันปรับสภาพ หรือฟอกสีฟันวันเว้นวัน เพื่อลดอาการเสียวฟัน อย่างไรก็ตาม หากมีอาการเสียวฟันอยู่ แนะนำให้ไปพบทันตแพทย์เพื่อเปลี่ยนน้ำยาฟอกสีฟันให้มีความเข้มข้นน้อยลง
- ระคายเคืองเนื้อเยื่ออ่อนในช่องปาก เกิดจากถาดครอบฟันไม่พอดีกับรูปฟัน ทำให้น้ำยาซึมออกมาสัมผัสกับเนื้อเยื่ออ่อน แนะนำให้แจ้งทันตแพทย์เพื่อทำการพิมพ์ถาดครอบฟันใหม่
ข้อควรระวังในการฟอกสีฟันด้วยตัวเอง
หลายคนมักเข้าใจผิดว่า สามารถใช้รีเทนเนอร์แบบใส ซึ่งมีลักษณะคล้ายถาดครอบสีฟันในการฟอกสีฟันแทนได้ นั่นเป็นความคิดที่ผิด
รีเทนเนอร์แบบใส และถอดครอบฟันทำมาจากวัสดุที่ต่างกัน และมีเป้าหมายในการใช้งานที่ต่างกัน โดยถาดครอบฟันจะมีช่องว่างสำหรับใส่น้ำยาฟอกสีฟันโดยเฉพาะ ในขณะที่รีเทนเนอร์แบบใสไม่มี และอาจทำให้น้ำยาฟอกสีฟันซึมออกมาสัมผัสกับเนื้อเยื่ออ่อนในช่องปากจนทำให้เกิดการระคายเคืองและอักเสบได้
การฟอกสีฟันที่คลินิกและการฟอกสีฟันด้วยตัวเองที่บ้าน สามารถทำร่วมกันได้ เพื่อประสิทธิภาพสูงสุด โดยเฉพาะในผู้ที่ฟันเหลืองมาก และต้องการฟันขาวอย่างรวดเร็ว แนะนำให้ฟอกสีฟันครั้งแรกที่คลินิกก่อน หลังจากนั้นให้ซื้อชุดฟอกสีฟันไปฟอกฟันด้วยตัวเองต่อที่บ้าน
อย่างไรก็ตาม หากคุณไม่รีบร้อนก็สามารถซื้อชุดฟอกสีฟันไปฟอกสีฟันด้วยตัวเองที่บ้านเพียงอย่างเดียวได้เช่นกัน แต่อาจจะต้องทำหลายครั้ง และใช้ระยะเวลานานหน่อยกว่าจะได้ผลลัพธ์เทียบเท่ากับการฟอกสีฟันที่คลินิก