ตรวจโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์กันเถอะ (STD)


ใครควรตรวจ STD บ้าง? ตรวจ STD คืออะไร? HDmall ตอบให้ก่อนไปตรวจ

HDmall สรุปให้!

ขยาย

ปิด

  • STD ย่อมาจาก Sexually transmitted diseases หมายถึงโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ (กามโรค)
  • โปรแกรมตรวจ STD ส่วนมากมักตรวจ หนองใน หนองในเทียม เริม เอชไอวี ไวรัสตับอักเสบบี ซิฟิลิส
  • โรคเหล่านี้สามารถตรวจได้จากเลือด สารคัดหลั่ง ตรวจภายใน และตรวจร่างกายทั่วๆ ไป
  • เช็กราคาก่อนตัดสินใจซื้อแพ็กเกจ แตะตรงนี้เลย 

เมื่อความรู้ทางการแพทย์และสุขภาพมีมากขึ้น คนก็ตระหนักถึงความสำคัญของการตรวจสุขภาพมากขึ้นด้วยเช่นกัน

แต่นอกจากการตรวจสุขภาพประจำปีทั่วไปแล้ว ปัจจุบันนี้คนยังหันมาสนใจการตรวจอีกประเภทหนึ่งด้วย ซึ่งก็คือการตรวจ STD


เลือกหัวข้อที่สนใจเกี่ยวกับ STD ได้ที่นี่

  • ตรวจ STD คืออะไร ทำไมถึงสำคัญ?
  • เวลาตรวจ STD เขาตรวจโรคอะไรกันบ้าง?
  • ใครควรตรวจ STD?
  • STD ตรวจจากอะไร?

  • ตรวจ STD คืออะไร ทำไมถึงสำคัญ?

    STD ย่อมาจาก Sexually transmitted diseases หมายถึงโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ (กามโรค) เช่น เอดส์ ซิฟิลิส หนองใน เป็นต้น

    การตรวจ STD จึงหมายถึงการตรวจหาเชื้อหรือสัญญาณโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ เพราะบางโรคใช้เวลานานกว่าจะแสดงอาการ กว่าจะรู้ตัวก็ทำให้เชื้อลุกลามจนรักษายากแล้ว

    อ่านเพิ่มเติม: ตรวจมะเร็งสำหรับผู้หญิง สำคัญอย่างไร?

    เวลาตรวจ STD เขาตรวจโรคอะไรกันบ้าง?

    รายการตรวจ STD ของแต่ละคลินิกหรือโรงพยาบาลก็อาจแตกต่างกันไป แต่ส่วนใหญ่โรคที่มักตรวจกันบ่อยๆ คือ

    • หนองใน (Gonorrhea)
    • หนองในเทียม (Chlamydia)
    • มะเร็งปากมดลูก (HPV)
    • ซิฟิลิส (Syphilis)
    • เริม (Herpes)
    • ไวรัสตับอักเสบบี (Hepatitis B)
    • เชื้อเอชไอวี (HIV)

    นอกจากนี้ บางโปรแกรมตรวจอาจมีบริการให้คำปรึกษากับแพทย์ในวันรับผลด้วย อย่าลืมสอบถามรายละเอียดโปรแกรมตรวจก่อนด้วยนะ

    อ่านเพิ่มเติม: ราคาแพ็กเกจ ตรวจสุขภาพก่อนแต่งงาน

    ใครควรตรวจ STD?

    การตรวจ STD มักไม่ได้อยู่ในโปรแกรมตรวจสุขภาพทั่วไป หรืออาจตรวจไม่ครบ ดังนั้นหากใครมีพฤติกรรมเข้าข่ายข้อดังต่อไปนี้ ควรติดต่อขอตรวจ STD ด้วยตัวเอง

    • กำลังวางแผนมีบุตรหรือแต่งงาน เชื้อโรคที่ติดต่อทางเพศสัมพันธ์บางโรคสามารถส่งต่อไปยังทารกในครรภ์ได้
    • มีเพศสัมพันธ์โดยไม่ใช้ถุงยาง โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์สามารถติดต่อผ่านทางสารคัดหลั่งในช่องคลอด น้ำอสุจิ และเลือด หากไม่ใช้ถุงยางก็มีโอกาสสูงมากที่จะติดโรค
    • เพิ่งเปลี่ยนคู่นอนใหม่ อย่างที่กล่าวไปข้างต้นว่าโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์หลายโรคไม่มีอาการแสดงออกให้รู้ได้เลย ดังนั้นเราไม่อาจแน่ใจได้ว่าคู่นอนของเรามีเชื้อหรือไม่
    • จับได้ว่าแฟนแอบเปลี่ยนคู่นอน เนื่องจากเชื้อสามารถส่งต่อกันได้แม้จะเพิ่งรับเชื้อก็ตาม
    • มีคู่นอนหลายคน หากมีพฤติกรรมเปลี่ยนคู่นอนบ่อย ไม่ว่าในอดีตหรือปัจจุบัน ก็ควรเข้ารับการตรวจ STD ไว้เพื่อความชัวร์
    • ถูกล่วงละเมิดทางเพศ มีโอกาสเสี่ยงอย่างมากที่จะติดโรคจากการถูกล่วงละเมิด เพราะไม่ทราบถึงสุขอนามัยของผู้กระทำ
    • เริ่มมีอาการของโรค โรคบางโรคก็อาจแสดงอาการออกมาให้เห็นชัดเจน เช่น ซิฟิลิส หนองใน อาจมีแผลบริเวณอวัยวะเพศ ปัสสาวะแล้วเจ็บ เป็นต้น

    อย่างไรก็ตาม สำหรับคู่ที่เคยตรวจก่อนแต่งงานกันไปแล้ว โดยไม่เคยมีเพศสัมพันธ์กับคนอื่น อาจยังไม่ต้องรับการตรวจก็ได้ นอกเสียจากตรวจเพื่อความสบายใจ

    STD ตรวจจากอะไร?

    การตรวจ STD ทำได้หลายวิธี แพทย์จะเลือกการตรวจที่เหมาะสมที่สุดจากการซักประวัติ ซึ่งวิธีตรวจหลักๆ จะมีดังนี้

    • ตรวจเลือดหรือปัสสาวะ เป็นการตรวจที่นิยิมที่สุด เพราะสามารถตรวจได้หลายโรค เช่น เชื้อเอชไอวี เริม หนองใน ซิฟิลิส และไวรัสตับอักเสบ
    • ตรวจภายใน (Pap smears) ปกติแล้วการตรวจด้วยวิธีแปป สเมียร์ เป็นการตรวจเพื่อสังเกตอาการเริ่มต้นของมะเร็งปากมดลูก แต่มะเร็งปากมดลูกก็อาจเกิดจากการติดเชื้อ HPV เมื่อมีเพศสัมพันธ์ได้เช่นกัน
    • ตรวจสารคัดหลั่ง ในบางกรณีแพทย์อาจใช้การเก็บตัวอย่างสารคัดหลั่งจากอวัยวะเพศ ปากมดลูก ทางเดินปัสสาวะ หรือทวารหนัก เพื่อนำไปตรวจหาเชื้อได้
    • ตรวจร่างกาย ในกรณีที่อาการเริ่มแสดงออกมาให้เห็นแล้ว การตรวจร่างกายก็สามารถใช้ประกอบการวินิจฉัยได้ เช่น เริม หูด ซิฟิลิส เป็นต้น

    โปรดอย่าลืมว่ายิ่งบอกความจริงกับหมอมากแค่ไหน ยิ่งได้ผลตรวจที่แม่นยำเท่านั้น และการตรวจ STD ก็เป็นหนึ่งในการแสดงถึงว่าเราเป็นผู้ที่มีความรับผิดชอบ ไม่ใช่สิ่งที่น่าอาย

    หากไม่กล้าจองคิวตรวจด้วยตัวเอง สามารถให้แอดมินของ HDmall จองให้ได้ด้วยนะ แอดไลน์ @hdcoth จะมีแอดมินคอยให้บริการตั้งแต่ 9 โมงเช้าถึงตี 1 ทุกวัน


    บทความที่เกี่ยวข้อง


    ที่มาของข้อมูล

    ขยาย

    ปิด

    @‌hdcoth line chat