สรุปการรีวิว
ปิด
ปิด
- ดูรายละเอียด โปรแกรม All You Can Be Chic Phase 3 (A) ที่ โรงพยาบาลพญาไท 2
- ดูรายละเอียด โปรแกรม All You Can Be Chic Phase 3 (B) ที่ โรงพยาบาลพญาไท 2
- สอบถามแอดมินเพิ่มเติมเกี่ยวกับแพ็กเกจได้ที่ไลน์ @HDcoth
ผิวหน้าที่ไม่กระชับทำให้เวลาครีมถ่ายรูปก็จะไม่ค่อยเห็นกรอบหน้าตัวเองค่ะ บวกกับครีมเป็นคนที่หน้ากลมอยู่แล้ว ก็เลยอยากยกกระชับผิวหน้าให้เห็นเป็นกรอบชัดขึ้นกว่าเดิมหน่อย
ก่อนหน้านี้ครีมก็ยังไม่เคยใช้บริการทำอะไรกับหน้ามาก่อนเลย แต่ครีมมาเห็นว่าที่โรงพยาบาลพญาไท 2 มีโปรแกรม All You Can Be Chich ที่เราเลือกได้ระหว่างทำเลเซอร์ใบหน้า หรือเปลี่ยนรายการอื่นได้ ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือนวัตกรรมยกกระชับใบหน้าที่เรียกว่า Sygmalift พอดูรายละเอียดของโปรแกรมก็สนใจมากๆ เพราะตัวนี้มันมีประโยชน์หลักคือการยกกระชับกรอบหน้าโดยเฉพาะ ซึ่งก็ตรงกับปัญหาผิวของครีมพอดีเลยค่ะ
อีกหนึ่งสาเหตุที่ครีมเลือกใช้บริการนี้ที่โรงพยาบาลพญาไท 2 เพราะว่า ในระยะหลังครีมเห็นข่าวหมอปลอมตามคลินิกต่างๆ เยอะมาก แต่กับโรงพยาบาลครีมคิดว่ามีการตรวจคัดกรองที่ละเอียดกว่า แถมครีมเลือกจองคิวทำนัดผ่าน HDmall.co.th ซึ่งเค้าก็มีมาตรฐานการคัดกรองอยู่แล้ว แถมยังใช้งานง่ายสะดวกสบายมากๆ ค่ะ
รีวิว Sygmalift ยกกระชับใบหน้า ที่ โรงพยาบาลพญาไท 2
หลังจากนี้ครีมจะรีวิว Sygmalift และกระบวนการยกกระชับกรอบหน้าให้ฟังนะคะ สำหรับสถานที่ยกกระชับกรอบหน้าจะอยู่ที่ศูนย์ผิวหนัง เลเซอร์ และศัลยกรรมตกแต่งเสริมสร้าง บนชั้น 2 ของอาคาร A ที่โรงพยาบาลพญาไท 2 ค่ะ
เมื่อเดินทางมาถึงชั้นนี้ ครีมก็ยื่นคูปองจาก HDmall.co.th ให้กับทางเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลก่อนค่ะ หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่จะทำประวัติพร้อมกับพาไปชั่งน้ำหนัก วัดส่วนสูง และวัดความดันข้างๆ ทางเข้าศูนย์ผิวหนังค่ะ
จากนั้นเจ้าหน้าที่ก็พาเข้าไปด้านในศูนย์ผิวหนังเพื่อรอพบคุณหมอ เพื่อให้คุณหมอตรวจดูปัญหากรอบหน้าและวางแผนในการยกกระชับใบหน้าด้วยเครื่อง Sygmalift ได้พอดีกับปัญหาผิวของเรา
นอกจากปรึกษาปัญหาผิวเราเอง ครีมก็ขอให้คุณหมออธิบายจุดเด่นของเครื่อง Sygmalift ให้ฟังหน่อย เพราะจากที่ผ่านมา ครีมไม่เคยใช้เทคโนโลยีตัวนี้รักษาผิวค่ะ เคยแต่ฉีดโบท็อกซ์อะไรแบบนั้น แล้วก็มีรู้จักเครื่องทำ HIFU ยี่ห้อดังๆ บ้าง แต่ก็ไม่รู้ว่า Sygmalift จะเป็นเครื่องแบบเดียวกันด้วยมั้ย
Sygmalift คืออะไร?
คุณหมออธิบายให้ครีมฟังว่า Sygmalift เป็นเครื่องปล่อยพลังงานโฟกัสอัลตราซาวด์ (Focus Ultrasound) จะคล้ายกับเครื่องทำ HIFU ที่หลายคนอาจจะได้ยินผ่านหูกันมาบ้าง
ความแตกต่างของเครื่อง Sygmalift จะอยู่ที่การปล่อยพลังงานเป็นแบบแนวเส้นความยาว 10 มิลลิเมตรค่ะ ไม่ใช่เป็นแบบจุดๆ เหมือนกับเครื่อง HIFU แบรนด์อื่น และมีความเร็วในการปล่อยพลังงานมากถึง 1,000 ครั้งต่อวินาทีเลย
การที่ Sygmalift สามารถปล่อยพลังงานออกมาได้เร็วมากๆ ผิวของเราก็จะตรวจจับพลังงานไม่ทันค่ะ ก็เลยไม่รู้สึกในระหว่างทำ และยังปล่อยพลังงานไม่แรงเกินไปทำให้ผลข้างเคียง เช่น อาการบวมหรืออาการเจ็บหลังทำแทบไม่มีเลยค่ะ
จำนวนที่ใช้ยิงเครื่อง Sygmalift จะเรียกว่า “คลิก” ค่ะ 1 คลิกจะใช้เวลาในการทำ 6-8 นาที ซึ่งใบหน้าของแต่ละคนที่มาทำก็จะมีจำนวนคลิกไม่เท่ากัน
อย่างเคสของครีม คุณหมอบอกว่าครีมมีปัญหาผิวตรงกรอบหน้า แต่ก็ไม่ได้เยอะมาก เลยจะปล่อยพลังงานบริเวณข้างแก้มซ้ายกับขวาข้างละ 1 คลิก แล้วจะเสริมอีก 1 คลิกบริเวณใต้คางที่มีเหนียงค่ะ สรุปก็คือ คุณหมอจะปล่อยพลังงานจากเครื่อง Sygmalift เพื่อยกกระชับใบหน้าให้เป็นจำนวน 3 คลิกค่ะ
ขั้นตอนการทำ Sygmalift ที่ โรงพยาบาลพญาไท 2
ที่โรงพยาบาลพญาไท 2 จะมีห้องแต่งหน้าให้ผู้ใช้บริการด้วยนะคะ เป็นห้องรูปตัวยูที่มีกระจกอยู่เต็มเลย มีอ่างล้างมือ และมีตู้ล็อคเกอร์ไว้เก็บของ และยังมีอุปกรณ์แต่งหน้าหลายอย่างให้เราใช้ได้ด้วย เมื่อคุยกับคุณหมอเสร็จ พี่พยาบาลก็พาครีมมาล้างเครื่องสำอางในห้องแต่งหน้าก่อน จากนั้นก็ให้ครีมใส่หมวกคลุมผมเตรียมเอาไว้
การล้างเครื่องสำอางไม่จำเป็นต้องล้างหมดเกลี้ยงนะคะ สามารถเหลือส่วนคิ้วกับแถวๆ ดวงตาไว้ได้ค่ะ เผื่อใครไม่มั่นใจในคิ้วเปลือยๆ ของตัวเอง พอครีมสวมหมวกคลุมผมก็ยิ่งทำให้เห็นโครงหน้าชัดขึ้น ก็เลยเก็บภาพ Before เอาไว้เล็กน้อยค่ะ
การยกกระชับด้วย Sygmalift จะไม่ได้ทายาชานะคะ เพราะตัวนี้คุณหมอบอกว่าไม่ได้ทำให้รู้สึกเจ็บระหว่างทำค่ะ
พอเข้าไปถึงห้องทำหัตถการ พี่พยาบาลก็ให้ขึ้นไปนอนบนเตียง แล้วก็ห่มผ้าให้ จากนั้นคุณหมอก็เข้ามาตั้งค่าเครื่อง Sygmalift ค่ะ
อันดับแรก พี่พยาบาลจะลงเจลใสเย็นๆ ลงไปที่ผิวก่อน จากนั้นค่อยตามด้วยการนวดถูหัวปล่อยพลังงานจากเครื่อง Sygmalift ที่ผิวหน้า
ตอนที่คุณหมอเริ่มทำ คุณหมอใช้หัวปล่อยพลังงานนวดที่แก้มข้างขวาให้ครีมก่อนค่ะ แล้วค่อยตามด้วยแก้มซีกซ้าย แล้วค่อยปิดท้ายด้วยส่วนคางและเหนียง ซึ่งในระหว่างทำแต่ละส่วน คุณหมอจะให้ครีมส่องกระจกดูการปรับสภาพของผิวไปด้วย เผื่อครีมอยากจะเสริมหรือเก็บความกระชับตรงไหนเพิ่มเติมก็แจ้งคุณหมอได้เลย
ระหว่างทำเราจะได้ยินเสียงติ๊ดๆ ดังมาจากตัวเครื่อง Sygmalift ด้วยค่ะ แต่เป็นแค่เสียงระหว่างเครื่องทำงานเฉยๆ ไม่ต้องตกใจไป
ระยะเวลาในการยกกระชับผิว ถ้ารวมกับช่วงที่ล้างเครื่องสำอางด้วยก็อยู่ที่ประมาณ 30-40 นาทีค่ะ หลังจากทำเสร็จ พี่พยาบาลก็มาเช็ดทำความสะอาดเจลเย็นบนหน้า แล้วคุณหมอก็ให้ครีมส่องกระจกอีกครั้งเพื่อดูผลลัพธ์หลังทำ ซึ่งเห็นได้ชัดทันที
ซึ่งจากที่ครีมดูหน้าตัวเองก่อนทำ เส้นกรอบหน้าของครีมจะไม่ค่อยเห็นชัดค่ะ แต่พอหลังทำ ครีมเห็นเส้นนั้นชัดขึ้นจริงๆ จากนั้นเราก็ถ่ายภาพ After กัน แล้วครีมก็สามารถกลับเข้าไปที่ห้องแต่งหน้าเพื่อแต่งหน้าอีกรอบหลังทำได้เลย
ผลลัพธ์หลังทำ Sygmalift และการดูแลตนเองหลังรับบริการ
ก่อนจะเริ่มแต่งหน้าก่อนกลับบ้าน ครีมก็ส่องดูผลลัพธ์หลังทำอีกครั้ง บอกเลยว่าอึ้งค่ะ เพราะมันเห็นการเปลี่ยนแปลงจริงๆ แต่คุณหมอก็ได้แจ้งด้วยว่าเดี๋ยวผ่านไปสัก 1 เดือนมันจะยิ่งเห็นได้ชัดกว่านี้อีกนะ และจะอยู่ได้ประมาณ 3-6 เดือนเลย
คุณหมอแนะนำว่า ถ้าอยากให้ผลลัพธ์มันคงอยู่ได้นานมากขึ้นกว่าเดิม ให้กลับมาทำซ้ำทุกๆ 2 เดือนก็จะยิ่งดีค่ะ
ในส่วนของการดูแลตนเองหลังทำ คุณหมอบอกให้เลี่ยงพฤติกรรมหรือปัจจัยที่มันกระทบกับคอลลาเจนผิวจะดีที่สุด ไม่งั้นมันจะทำให้ผลลัพธ์อยู่กับเราได้สั้นขึ้น เช่น การนอนน้อย ดื่มเหล้า สูบบุหรี่ การสัมผัสแสงยูวีแรงๆ เนี่ยขอให้เลี่ยงเลย ส่วนอาการบวมหรือแผลหลังทำ ส่วนนี้ไม่มีอยู่แล้ว ใช้ชีวิตได้ตามปกติได้เลยค่ะ
สำหรับการทำ Sygmalift ครีมคอนเฟิร์มเลยว่าไม่เจ็บ ใช้เวลาไม่นาน เห็นผลได้ชัด ครีมขอแนะนำเลยนะคะ ใครมีปัญหาผิวหย่อนคล้อยหรืออยากให้หน้าวีเชพ กรอบหน้าเห็นชัดๆ ลองมาทำ Sygmalift ที่โรงพยาบาลพญาไท 2 ดูค่ะ
ที่สำคัญคือ ที่โรงพยาบาลพญาไท 2 เค้ามีโปรแกรม All You Can Be Chic ที่เราสามารถเลือกใช้บริการอะไรก็ได้ที่ทางโรงพยาบาลกำหนด มีหลายแพ็กเกจเลยค่ะ และที่สำคัญ ถ้าจองผ่าน HDmall.co.th ครีมบอกเลยว่า คุ้มมากๆ ค่า