สรุปการรีวิว
ปิด
ปิด
- ส้มเคยจัดฟันแบบโลหะมาก่อนค่ะ หลังจัดฟันเสร็จก็ไม่ได้ใส่รีเทนเนอร์ตามคำแนะนำของคุณหมอ ทำให้ฟันบนห่างออกจากกัน ส้มเลยอยากกลับไปจัดฟันอีกครั้ง
- ส้มเลือกจัดฟันใส Selfie Extra เพราะเป็นแพ็กเกจที่เหมาะสำหรับคนมีปัญหาฟันไม่เยอะมากและเคยจัดฟันมาก่อนค่ะ
- ขั้นตอนการจัดฟันใส Selfie Extra ส้มเลือกไปพิมพ์ฟันและตรวจฟันกับคลินิกพาร์ทเนอร์ของ Selfie ก่อน จากนั้น Selfie ก็สรุปแผนการรักษาและส่งชุดอุปกรณ์จัดฟันใส Selfie Extra มาให้ที่บ้าน
- หลังจากจัดฟันใสเสร็จ ส้มพอใจกับผลลัพธ์ที่ได้มากๆ ค่ะ ฟันที่เคยห่างกลับมาดันชิดติดกันเหมือนเดิม และทำให้ยิ้มหรือพูดออกกล้องได้อย่างมั่นใจอีกครั้ง
- รีวิวนี้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการ #HDreview ได้รับการสปอนเซอร์จากทาง HDmall.co.th และ Selfie
- ดูรายละเอียด ราคาจัดฟันใส Selfie Extra บน HDmall.co.th
- ดูโปรแกรมทั้งหมดจาก Selfie บน HDmall.co.th
- สอบถามแอดมินเพิ่มเติมเกี่ยวกับแพ็กเกจได้ที่ไลน์ @HDcoth
เลือกหัวข้อที่สนใจได้ที่นี่
ส้มเคยจัดฟันแบบโลหะมาก่อนค่ะ แต่ช่วงที่ใกล้จะจัดฟันเสร็จ ส้มมีแพลนไปเรียนต่อต่างประเทศ เลยทำให้ต้องถอดเครื่องมือจัดฟันออกก่อนกำหนด
ตอนนั้นคุณหมอก็ย้ำว่าหลังจากถอดเครื่องมือจัดฟันออกแล้วให้ใส่รีเทนเนอร์อยู่ตลอด เพราะไม่อย่างนั้นจะทำให้ฟันล้มและกลับมามีปัญหาได้
ด้วยความที่ตอนนั้นส้มดื้อมากเลยไม่ได้ใส่รีเทนเนอร์ตามคำแนะนำของคุณหมอ ทำให้ผลที่ตามมาคือฟันบนใกล้ๆ กับฟันหน้าของส้มห่างออกจากกันค่ะ
ซึ่งตอนนี้ส้มทำอาชีพเป็นอินฟลูเอนเซอร์ต้องออกหน้ากล้อง และถ่ายรีวิวสินค้าอยู่บ่อยๆ ส้มเลยรู้สึกไม่มั่นใจกับปัญหาฟันห่างที่เกิดขึ้น ถึงแม้ว่าจะไม่ใช่ฟันที่อยู่ด้านหน้าสุด แต่ระหว่างพูด ระหว่างยิ้มก็ยังเห็นได้อยู่ดี
ส้มเลยอยากกลับไปจัดฟันอีกครั้งเพื่อแก้ปัญหาฟันห่าง แต่จะให้จัดฟันด้วยวิธีแบบเดิมก็คงไม่ได้ เพราะการที่ยิ้มแล้วเห็นอุปกรณ์จัดฟันก็จะทำให้เสียบุคลิกภาพ ส้มเลยเลือกจัดฟันใส เพราะเวลาเรายิ้มหรือพูดคนจะได้มองไม่เห็นอุปกรณ์จัดฟันของเราค่ะ
หลังจากที่ตัดสินใจจะจัดฟันใส ส้มเลยเสิร์ชหาแบรนด์จัดฟันใสหลายๆ ยี่ห้อเพื่อเปรียบเทียบดูค่ะ
ทำไมถึงเลือกจัดฟันใสกับ Selfie
ช่วงที่เสิร์ชหาข้อมูล ส้มก็ไปสะดุดตากับแบรนด์จัดฟันใส Selfie ซึ่งภาพลักษณ์ของแบรนด์นี้ก็นำเสนอออกมาได้ดูดี สวยงาม และมินิมอลมากๆ
ส้มเลยลองทักไปสอบถามข้อมูลการจัดฟันใสกับเจ้าหน้าที่ของ Selfie และได้ข้อมูลที่น่าสนใจมาหลายอย่างดังนี้เลยค่ะ
1. จ่ายเงินครั้งเดียวแล้วจบ ไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม
จากประสบการณ์การจัดฟันของส้มแล้ว คลินิกทำฟันมักจะบอกรายละเอียดค่าใช้จ่ายไม่ครบ ตอนแรกบอกราคาเท่านี้ แต่หลังจากนั้นก็มักจะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมมาอีก
แต่การจัดฟันใสกับ Selfie เราจ่ายเงินแค่ครั้งเดียวแล้วจบเลยค่ะ ราคาที่เค้าแจ้งมาจะครอบคลุมทั้งอุปกรณ์จัดฟันทุกชุด รวมไปถึงรีเทนเนอร์ที่ต้องใส่หลังจัดฟันเสร็จด้วยค่ะ
2. ไม่จำเป็นต้องเข้าคลินิกเพื่อพบคุณหมอบ่อยๆ ทุกเดือน
การจัดฟันเป็นที่รู้กันว่าเราจะต้องเข้าไปพบคุณหมอที่คลินิกเป็นประจำทุกเดือน แต่การจัดฟันใสกับ Selfie แทบไม่จำเป็นต้องเข้าไปพบคุณหมอเลยค่ะ
สำหรับส้มคือเข้าไปตรวจและพิมพ์ฟันที่พาร์ทเนอร์คลินิกเพียงแค่ครั้งเดียว เนื่องจากไม่ได้ตรวจสุขภาพฟันในรอบ 18 เดือนก่อนเริ่มรักษา
นอกจากนั้นขั้นตอนการพิมพ์ฟัน ทาง Selfie จะมีตัวเลือกให้สำหรับคนที่ไม่สะดวกเข้าคลินิกเพื่อไปพบคุณหมอนั่นก็คือการสั่งชุดพิมพ์ฟันที่บ้านจาก Selfie เพื่อพิมพ์ฟันด้วยตัวเองและส่งกลับมาให้ทาง Selfie นั่นเอง ซึ่งชุดพิมพ์ฟันนี้ผ่านการรับรองแล้วว่าปลอดภัยแน่นอน
ส่วนใครที่สะดวกเดินทาง Selfie เค้าก็มีอีก 2 ทางเลือกให้นั่นก็คือ การเข้าไปที่ Selfie Studio เพื่อสแกนฟันฟรีโดยผู้เชี่ยวชาญ ในกรณีที่มีการตรวจสุขภาพฟันในรอบ 18 เดือนแล้ว หรือไปที่คลินิกพาร์ทเนอร์ของ Selfie เพื่อตรวจสุขภาพฟันและพิมพ์ฟันสำหรับจัดฟันใสได้เลยหากไม่ได้มีการตรวจสุขภาพฟันมาก่อน
ส่วนอุปกรณ์จัดฟันใสต่างๆ ทาง Selfie ก็จะส่งมาให้ที่บ้านของเรา รวมถึงการติดตามผลการจัดฟันใส เค้าก็จะติดตามผ่านช่องทางออนไลน์ทั้งหมด เพราะฉะนั้นทุกขั้นตอนจึงแทบไม่ต้องเดินทางไปพบคุณหมอเลยค่ะ
3. การแจ้งเตือนเปลี่ยนอุปกรณ์จัดฟัน
เมื่อเริ่มใส่อุปกรณ์จัดฟันและถึงเวลาต้องเปลี่ยนอุปกรณ์ชุดต่อไป จะมีแอดมินของทาง Selfie แจ้งเตือนว่าถึงเวลาเปลี่ยนเซตอุปกรณ์แล้วนะ ถือว่าเหมาะมากๆ สำหรับคนขี้ลืมอย่างส้มเลยค่ะ
นอกจากนี้ยังมีแอปฯ ที่ให้เราสามารถบันทึกข้อมูลเพื่อติดตามการรักษาได้ด้วย
ส่วนตัวแล้วส้มเป็นคนที่เดินไปทางต่างประเทศบ่อย และอาศัยอยู่ต่างจังหวัดเลยไม่ค่อยสะดวกที่จะเดินทางไปพบคุณหมอ
พอได้ทราบข้อมูลเกี่ยวกับการจัดฟันใสกับ Selfie ก็ทำให้ตัดสินใจได้ทันทีว่าจะจัดฟันใสกับ Selfie เพราะว่าสะดวกสบาย ตอบโจทย์ และตรงกับไลฟ์สไตล์ของส้มสุดๆ
รีวิวจัดฟันใส Selfie Extra
หลังจากที่ตัดสินใจจะจัดฟันใสกับ Selfie ส้มก็เลยติดต่อปรึกษากับเจ้าหน้าที่ของ Selfie ให้เค้าช่วยนำเสนอแพ็กเกจที่เหมาะสมกับไลฟ์สไตล์ของส้มให้
ทางนั้นเค้าก็จะอธิบายให้ฟังก่อนว่าแพ็กเกจจัดฟันใสของ Selfie จะมีให้เลือกอยู่ 2 แบบ คือ
- จัดฟันใส Selfie Express เหมาะสำหรับผู้ที่เคยจัดฟันมาแล้วหรือต้องการความรวดเร็ว
- จัดฟันใส Selfie Extra เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการแผนการรักษาที่ครอบคลุม โดยมีการรับประกันอุปกรณ์ให้ และมาพร้อมกับโฟมฟอกฟันขาวด้วย
ซึ่งสำหรับส้ม ส้มเลือกเป็นตัวแพ็กเกจ จัดฟันใส Selfie Extra ค่ะ เพราะเหมาะกับไลฟ์สไตล์ของส้มที่ต้องการแพ็กเกจที่ครอบคลุม มีการรับประกัน และมาพร้อมอุปกรณ์เสริมไวท์เทนนิ่งโฟมด้วย ครบจบที่แพ็กเกจเดียวเลย
ขั้นตอนการณ์พิมพ์ฟันกับคลินิกพาร์ทเนอร์ของ Selfie
หลังจากเลือกแพ็กเกจจัดฟันใส Selfie Extra แล้ว ขั้นตอนแรกก็จะต้องพิมพ์ฟันหรือสแกนฟันกันก่อนค่ะ
ตอนแรกส้มจะเลือกวิธีการสั่งชุดพิมพ์ฟันที่บ้านมา แต่พอดีส้มยังไม่ได้ตรวจสุขภาพฟันในรอบ 18 เดือนและมีธุระต้องเดินทางเข้ากรุงเทพฯ ส้มเลยติดต่อทาง Selfie เพื่อทำนัดเข้าไปตรวจและพิมพ์ฟันกับคุณหมอที่คลินิกพาร์ทเนอร์ของ Selfie ค่ะ
ส้มเลือกคลินิกที่อยู่แถว รัชดาภิเษก เพราะอยู่ใกล้ที่พัก และเดินทางสะดวกดี หลังจากลงทะเบียนต่างๆ เสร็จแล้วก็เข้าไปพบคุณหมอเพื่อตรวจฟันและพิมพ์ฟัน หลังจากนั้นก็เดินทางกลับบ้านได้เลยค่ะ
ขั้นตอนต่อไป คุณหมอก็จะประเมินว่าจัดฟันกับทางเซลฟี่ได้หรือไม่ และหลังจากนั้นก็จะเป็นขั้นตอนการออกแบบและวางแผนการรักษาให้เราโดยเฉพาะ
พอวางแผนการรักษาเสร็จแล้วทาง Selfie จะส่งแผนการรักษามาให้เราดูแบบต้นจนจบ พร้อมกับเริ่มสั่งผลิตอุปกรณ์จัดฟันใส และส่งอุปกรณ์จัดฟันใสมาให้เราที่บ้านเลยค่ะ
อุปกรณ์จัดฟันใส Selfie Extra
ผ่านไปประมาณ 4-6 สัปดาห์ หลังจากที่เห็นเเผนการรักษาแล้ว อุปกรณ์จัดฟันใส Selfie Extra ก็มาส่งให้ถึงหน้าบ้านเลยค่ะ
แผนการรักษาของส้มจะได้รับอุปกรณ์จัดฟันใสทั้งหมด 12 ชุดค่ะ ส่วนระยะเวลาในการใส่แต่ละชุดนั้นก็จะอยู่ที่ 2 สัปดาห์ หมายความว่าส้มจะใช้เวลาจัดฟันทั้งหมดประมาณ 6 เดือนนั่นเองค่ะ
นอกจากอุปกรณ์จัดฟันใสทั้ง 12 ชุดแล้ว ภายในกล่องเค้าก็จะมีอุปกรณ์ต่างๆ ที่ใช้คู่กับอุปกรณ์จัดฟันใสมาให้ด้วยดังนี้
- โฟมฟอกฟันขาว
- เคสสำหรับใส่อุปกรณ์จัดฟันใส
- Cheek Retractor
- Aligner Accessories (ประกอบไปด้วยที่ถอดอุปกรณ์จัดฟันใส และ Chewies)
- รีเทนเนอร์
- ลิปบาล์ม
ความรู้สึกระหว่างใส่อุปกรณ์จัดฟันใส Selfie Extra
เนื่องจากส้มต้องใส่อุปกรณ์จัดฟันใส Selfie Extra อย่างน้อย 22 ชั่วโมงต่อวัน ซึ่งถามว่ามีรู้สึกอึดอัดบ้างมั้ย ก็ตอบตรงๆ ว่ามีบ้างค่ะ
เวลาใส่อุปกรณ์จัดฟันใสจะรู้สึกปวดๆ นิดหน่อย เนื่องจากอุปกรณ์จะคอยดันฟันของเราให้เข้าที่ตามแผนการรักษา แต่พอใส่ไปสักครึ่งวันก็จะไม่รู้สึกปวดแล้วค่ะ
ส่วนข้อระวังในการใส่อุปกรณ์จัดฟันใสที่เจ้าหน้าที่ของ Selfie แนะนำมานั่นก็คือเรื่องการกินน้ำหวานหรือชากาแฟค่ะ เจ้าหน้าที่แนะนำมาว่าถ้าจะกินน้ำหวานไม่ว่าจะมีสีหรือไม่มีสี ให้ถอดอุปกรณ์จัดฟันออกก่อน
เนื่องจากเวลาที่เรากินน้ำหวานหรือชากาแฟทั้งๆ ที่ยังใส่อุปกรณ์จัดฟันใสอยู่ จะทำให้น้ำหวานบางส่วนตกค้างอยู่ในอุปกรณ์จัดฟันแล้วกลายเป็นคราบฝังลึกในอุปกรณ์ซึ่งอาจทำให้เปลี่ยนสี หรือทำให้เกิดปัญหาฟันผุตามมาได้
การติดตามผลระหว่างจัดฟันใส Selfie Extra
ในทุกๆ 6 สัปดาห์ระหว่างใส่อุปกรณ์จัดฟัน ส้มจะต้องถ่ายรูปฟันของตัวเองส่งกลับไปให้ทาง Selfie เพื่อให้คุณหมอติดตามผลการเปลี่ยนแปลงของฟัน ซึ่งเค้าจะมีแอดมินคอยทักมาเตือนอยู่ตลอดว่าถึงเวลาติดตามผลกับคุณหมอแล้วนะ
สำหรับวิธีการถ่ายรูปติดตามผลการจัดฟันใสกับทาง Selfie เค้าก็จะให้เราใส่ Cheek Retractor เพื่อถ่างช่องปากให้กว้างๆ และให้ถ่ายรูปฟันด้านหน้าทั้งแถวบน แถวล่าง รวมถึงรูปฟันด้านข้างทั้งซ้าย และขวาเลยค่ะ
จากนั้นคุณหมอก็จะอัปเดตผลการจัดฟันมาให้เรา ถ้าผลการจัดฟันโอเคตามแผนก็ใส่อุปกรณ์จัดฟันใสเซตต่อไปได้เลย แต่ถ้าใครใส่อุปกรณ์จัดฟันใสน้อยเกินไป หรือฟันไม่ได้ขยับตามแผนการรักษา คุณหมอก็อาจจะให้ใส่อุปกรณ์จัดฟันชุดเดิมไปก่อน แต่ในเคสของส้มก็ไม่ได้เจอปัญหาอะไรค่ะ
หลังจากผ่านไป 6 เดือน ส้มก็จัดฟันใสเสร็จเรียบร้อยแล้ว แต่หลังจากนี้ก็ยังคงต้องใส่รีเทนเนอร์เพื่อคงสภาพฟันให้เรียงสวยต่อไปด้วยนะคะ โดยการใส่รีเทนเนอร์จะใส่เฉพาะตอนนอนเท่านั้น ส่วนตอนกลางวันไม่จำเป็นต้องใส่ค่ะ
ผลลัพธ์หลังจัดฟันใส Selfie Extra
สำหรับผลลัพธ์หลังจัดฟันใส Selfie Extra เสร็จแล้ว ส้มก็รู้สึกพอใจกับผลลัพธ์ที่ได้มากๆ ค่ะ เพราะจากที่ตอนแรกส้มอยากแค่ให้ฟันขยับเข้าหากันนิดเดียวก็พอ แต่กลายเป็นว่าฟันส้มที่เคยห่างเป็นช่องมันกลับมาดันชิดติดกันเลยค่ะ ทำให้ตอนนี้ส้มสามารถกลับมายิ้ม และพูดออกหน้ากล้องได้อย่างมั่นใจอีกครั้ง
ความประทับใจจากการจัดฟันใส Selfie
สิ่งที่ส้มประทับใจในการจัดฟันใสกับ Selfie เลยก็คือ ความสะดวกสบายค่ะ ตลอดระยะเวลาการจัดฟันใส ส้มเข้าไปหาคุณหมอแค่ครั้งเดียวเท่านั้นคือวันที่เข้าไปพิมพ์ฟันและเคลียร์ช่องปาก นอกจากนั้นก็คือทำผ่านช่องทางออนไลน์ง่ายๆ ที่บ้านได้เลยค่ะ
ส่วนการติดตามผลต่างๆ ก็ทำได้ง่ายมากเพราะสามารถติดตามผล พูดคุยกับผู้เชี่ยวชาญ รวมถึงเช็กข้อมูลต่างๆ เกี่ยวกับการรักษาของเราผ่านช่องทางออนไลน์ได้หมดเลย
สำหรับใครที่สนใจอยากจัดฟันใสแบบส้มอยู่ ก็ขอแนะนำให้เลือกจัดฟันใสกับแบรนด์ Selfie เลยค่ะ รับรองได้เลยว่าสะดวกสบาย ประหยัดเงิน และประหยัดเวลามากๆ ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็สามารถจัดฟันใสได้ทุกที่เลย
เพื่อนๆ สามารถเข้าไปเลือกดูแพ็กเกจต่างๆ ของ Selfie ได้บน HDmall.co.th เลยค่ะ ในนี้เค้ารวบรวมโปรโมชั่นดีๆ ราคาพิเศษของ Selfie ไว้อยู่เพียบ โปรโมชั่นดีๆ แบบนี้ห้ามพลาดเด็ดขาดเลยนะคะ