รวมข้อมูลจี้ไฝ มีกี่แบบ? ต้องเตรียมตัวอย่างไร? รวมครบที่นี่


จี้ไฝ มีกี่แบบ วิธีรักษา ผลข้างเคียง

ไฝและขี้แมลงวันเป็นปัญหาผิวที่พบได้กับทุกคน ส่วนใหญ่ไม่มีอันตรายหรือข้อกังวลอะไร แต่หากไฝและขี้แมลงวันขึ้นบริเวณนอกร่มผ้าที่สามารถมองเห็นได้ชัด ก็อาจทำให้ใครหลายคนเสียความมั่นใจได้

ปัจจุบันมีวิธีการเลเซอร์จี้ไฝและจี้ขี้แมลงวันหลายวิธี มีความปลอดภัย ไม่ต้องพักฟื้น และมักไม่ก่อให้เกิดผลข้างเคียงอันตรายหากดำเนินการโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ

ในบทความนี้จะพูดถึงการจี้ไฝและขี้แมลงวัน ทั้งการเตรียมตัว ขั้นตอนการจี้ไฝ และการดูแลตัวเองหลังทำ


เลือกหัวข้อเกี่ยวกับการจี้ไฝได้ที่นี่

ขยาย

ปิด


ไฝคืออะไร เกิดจากอะไร?

ไฝและขี้แมลงวันเกิดจากเซลล์เมลาโนไซต์ (Melanocyte) ที่อยู่บริเวณผิวหนังชั้นกำพร้า เกิดการรวมตัวกันสร้างเม็ดสีที่มากจนผิดปกติเกิดเป็นตุ่มสีต่างๆ ตั้งแต่สีน้ำตาลไปจนถึงสีน้ำตาลดำ มักจะเกิดขึ้นกับคนผิวขาวมากกว่าผิวคล้ำ

ไฝอาจเกิดขึ้นได้ตั้งแต่กำเนิดหรือเกิดขึ้นภายหลังได้ โดยไฝที่เกิดขึ้นตั้งกำเนิดจะมีลักษณะเป็นก้อนนูน บางคนอาจมีขนขึ้นบริเวณไฝด้วย

ส่วนไฝที่เกิดขึ้นภายหลังจะเรียกว่าขี้แมลงวัน มักจะมีขนาดเล็ก เรียบไปกับผิวหนัง มีทั้งสีน้ำตาลและสีดำ

ไฝ ขี้แมลงวัน อันตรายไหม?

ปกติแล้วไฝและขี้แมลงวันส่วนมากมักจะไม่มีอันตรายแต่ก็มีโอกาสที่ไฝจะพัฒนาไปเป็นมะเร็งผิวหนังที่เรียกว่า เมลาโนมา (Melanoma) ได้

ไฝที่มีโอกาสเป็นมะเร็งส่วนใหญ่จะเป็นไฝที่มีลักษณะแตกต่างจากไฝทั่วไป หรือเป็นไฝที่เพิ่งเกิดใหม่หลังจากอายุ 30 ปี เพื่อเป็นการป้องกันจึงควรตรวจดูไฝที่เกิดขึ้นใหม่ทุก 2-3 เดือน รวมถึงสังเกตความเปลี่ยนแปลงของไฝที่มีอยู่ก่อนแล้วด้วย

ลักษณะไฝที่ควรระวัง

ลักษณะไฝที่เป็นสัญญาณเตือนของการเกิดโรคมะเร็งมีลักษณะ ดังนี้

  • Asymmetry ครึ่งหนึ่งของไฝมีลักษณะต่างจากบริเวณอื่น
  • Border ขอบเขตของไฝไม่สม่ำเสมอ เส้นขอบผิดปกติ หรือขอบเขตไม่ชัดเจน
  • Color ไฝที่มีสีดำหรือมีหลายสีในไฝเม็ดเดียว เช่น มีทั้งสีแทน สีดำ บางครั้งมีสีน้ำเงินหรือสีแดง
  • Diameter ไฝที่มีขนาดใหญ่กว่า 6 มิลลิเมตร
  • Evolving ไฝที่มีการเปลี่ยนแปลงของสี รูปร่าง ขนาด ที่โตเร็วผิดปกติหรือมีเลือดออก
ลักษณะไฝที่ควรระวัง มะเร็ง

จี้ไฝ มีกี่แบบ

คนส่วนใหญ่มักจะจี้เอาไฝออกเนื่องจากเป็นเรื่องของความสวยงามหรือความเชื่องทางโหราศาสตร์ต่างๆ โดยปัจจุบันการจี้ไฝมีด้วยกันหลายวิธี ดังนี้

1. จี้ไฝด้วยเลเซอร์คาร์บอนไดออกไซด์ (CO2 Laser)

การจี้ไฝด้วยเลเซอร์คาร์บอนไดออกไซด์ เป็นเลเซอร์ที่มีความยาวคลื่น 10,600 นาโนเมตร เป็นคลื่นที่มีความแม่นยำสูงสามารถเลือกตำแหน่งที่ต้องการยิงเลเซอร์ได้เฉพาะเจาะจง และได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน

ข้อดีของการจี้ไฝด้วยเลเซอร์คาร์บอนไดออกไซด์ คือ เป็นวิธีที่ปลอดภัย แผลเล็กมีโอกาสเกิดรอยแผลเป็นได้น้อย สามารถกำจัดไฝหรือขี้แมลงวันได้ถาวร มีประสิทธิภาพที่ดีกว่าวิธีอื่นๆ

2. จี้ไฝด้วยไฟฟ้า (Electrosurgery)

การจี้ไฝด้วยไฟฟ้า (Electrosurgery) เป็นการใช้กระแสไฟฟ้าความถี่สูงเข้าไปทำลายเซลล์ไฝ เหมาะสำหรับผู้ที่มีไฝไม่ใหญ่มาก แต่วิธีนี้เป็นวิธีที่ไม่ได้รับความนิยมในปัจจุบัน เนื่องจากอาจทำให้เกิดรอยแผลเป็นหรือรอยดำได้ชัดกว่าการจี้ไฝด้วยเลเซอร์คาร์บอนไดออกไซด์

3. จี้ไฝด้วยความเย็น (Liquid Nitrogen)

การจี้ไฝด้วยความเย็น (Liquid Nitrogen) เป็นการใช้ไนโตรเจนเหลวที่มีความเย็นจัดอุณหภูมิ -196 องศาจี้หรือพ่นลงไปที่ไฝ ทำให้อุณหภูมิของผิวหนังบริเวณนั้นลดลงอย่างรวดเร็วและเกิดเป็นน้ำแข็งช่วยให้ไฝฝ่อตัวและแห้งเป็นสะเก็ดหลุดออกไปได้

สำหรับวิธีนี้ก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ไม่ได้รับความนิยมในปัจจุบัน เนื่องจากใช้เวลานานกว่าไฝจะหลุดและอาจทำให้เกิดรอยดำได้

การเตรียมตัวก่อนจี้ไฝ

ก่อนทำการจี้ไฝและขี้แมลงวันจะต้องให้แพทย์ผิวหนังประเมินก่อนว่าไฝและขี้แมลงวันบริเวณนั้นไม่ได้เป็นเนื้อร้าย หากประเมินแล้วสามารถจี้ไฝหรือขี้แมลงวันได้ ควรเตรียมตัวก่อนเข้ารับบริการ ดังนี้

  • หลีกเลี่ยงการออกแดดประมาณ 1-2 สัปดาห์ เพราะอาจจะทำให้มีโอกาสเกิดรอยดำหลังทำได้ง่าย หรือผิวเกิดอาการระคายเคืองได้
  • งดแต่งหน้า หรือใช้เครื่องสำอาง เพื่อป้องกันการระคายเคือง

ขั้นตอนการจี้ไฝ

การจี้ไฝและขี้แมลงวัน ขณะยิงเลเซอร์จะไม่รู้สึกเจ็บและไม่มีการเสียเลือดใดๆ ใช้เวลาในการทำประมาณ 15-30 นาที ขึ้นอยู่กับจำนวน ขนาดของไฝและขี้แมลงวันที่ต้องการกำจัด โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้

  1. เจ้าหน้าที่ทำความสะอาดผิวหน้า จากนั้นจะทายาชาบริเวณที่ทำเลเซอร์เพื่อบรรเทาอาการเจ็บระหว่างทำและรอจนกว่ายาชาจะออกฤทธิ์ใช้เวลาประมาณ 45 นาที
  2. หากเลเซอร์บริเวณใบหน้า แพทย์จะปิดตาเพื่อป้องกันแสงจากเลเซอร์ จากนั้นแพทย์จะยิงเลเซอร์บริเวณที่รักษา
  3. หลังยิงเลเซอร์แล้ว ผู้เข้ารับการเลเซอร์สามารถกลับบ้านได้ทันที โดยไม่ต้องพักฟื้น

การดูแลตัวเองหลังจี้ไฝ

หลังจากทำเลเซอร์จี้ไฝและขี้แมลงวันเสร็จแล้วควรปฏิบัติตัวตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด ดังนี้

  • ควรเลี่ยงการโดนน้ำบริเวณแผลประมาณ 24 ชั่วโมง
  • ทาขี้ผึ้งฆ่าเชื้อจนครบ 7 วัน จนสะเก็ดแผลจะหลุดออกเห็นเป็นผิวสีชมพู
  • ให้ทำแผลวันละ 2 ครั้ง โดยใช้น้ำเกลือเช็ดแผลให้สะอาด และทายาที่แพทย์ให้เพื่อป้องกันการอักเสบติดเชื้อประมาณ 7 วัน
  • เมื่อแผลแห้ง แผลเริ่มตกสะเก็ด ควรปล่อยให้แผลหลุดไปเอง ห้ามแกะเกาให้สะเก็ดหลุดเร็วขึ้นเด็ดขาด
  • หลีกเลี่ยงการโดนแสงแดด เพราะอาจทำให้แผลดำคล้ำขึ้นได้ เมื่อแผลหายเป็นปกติแล้วควรป้องกันผิวด้วยการทาครีมกันแดด
  • หลีกเลี่ยงการใช้เครื่องสำอางบริเวณที่ทำเลเซอร์จนกว่าแผลจะหายเป็นปกติ

ผลข้างเคียงจากการจี้ไฝ

การเลเซอร์จี้ไฝและขี้แมลงวันอาจทำให้เกิดผลข้างเคียงแต่พบได้น้อยมาก ดังนี้

  • เกิดแผลเป็นถาวร แผลเป็นนูน และแผลเป็นชนิดคีลอยด์ หากดูแลแผลไม่สะอาดหรือผิดวิธี
  • ไฝและขี้แมลงวันกลับมาขึ้นซ้ำ ของไฝใหญ่ขึ้น หรือลามไปยังผิวหนังใกล้เคียง

จี้ไฝ กี่ครั้งถึงเห็นผล

การจี้ไฝและขี้แมลงวัน หากมีขนาดเล็กจะสามารถเลเซอร์ออกได้ตั้งแต่ครั้งแรกเพียงครั้งเดียว แต่หากไฝและขี้แมลงวันมีขนาดใหญ่ จะต้องมาเลเซอร์ซ้ำเพื่อกำจัดรากออกให้หมดหลายครั้ง จำนวนครั้งขึ้นกับแพทย์พิจารณา

จี้ไฝ ด้วยตัวเองได้ไหม?

แม้ว่าจะมีวิธีการจี้ไฝและขี้แมลงวันด้วยตัวเองอยู่บ้าง แต่มีข้อเสียที่อาจทำให้เสี่ยงติดเชื้อ ดังนั้น วิธีที่ดีที่สุดคือการทำกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ แพทย์จะสามารถจี้ไฝและขี้แมลงวันได้อย่างปลอดภัยและเหมาะสม ช่วยลดความเสี่ยงของการติดเชื้อ รอยแผลเป็น หรือผลข้างเคียงอื่นๆ ได้

นอกจากนี้ แพทย์ยังสามารถวินิจฉัยได้อีกว่าไฝและขี้แมลงวันของเรานั้นมีโอกาสเป็นมะเร็งหรือเปล่า จำเป็นต้องมีการรักษาเพิ่มเติมหรือไม่ ซึ่งดีกว่าการจี้ไฝด้วยตัวเอง

สามารถเช็กราคาจี้ไฝจากคลินิกและโรงพยาบาลชั้นนำได้ที่ HDmall.co.th หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมผ่านทางไลน์ @hdcoth พร้อมบริการเช็กคิวทำนัด ฟรี


บทความที่เกี่ยวข้อง


ที่มาของข้อมูล

ขยาย

ปิด

@‌hdcoth line chat