ฟอกสีฟันคืออะไร? ฟันขาวขึ้นจริงไหม? เสียวฟันรึเปล่า?​ ตอบครบโดย CSDC


ฟอกสีฟันคืออะไร? ฟันขาวขึ้นจริงไหม? เสียวฟันรึเปล่า?​ ตอบครบโดย CSDC

สรุปการรีวิว

ขยาย

ปิด

  • หลายคนคงอาจไม่มีความมั่นใจเรื่องรอยยิ้ม เพราะมีปัญหาเรื่องฟันเหลือง ฟันมีคราบ ไม่ขาวสะอาด สดใส
  • การฟอกสีฟันด้วยระบบ Cool Light หรือการฟอกสีฟันด้วยแสงเย็น ใช้แสง LED มากระตุ้นประสิทธิภาพของน้ำยาฟอกสีฟัน ให้สามารถแทรกซึมเข้าไปในผิวฟัน และทำปฏิกิริยาให้เม็ดสีบนเนื้อฟันเกิดการแตกตัวได้ดีขึ้น
  • ข้อดีของการฟอกสีด้วย Cool Light จะไม่ทำลายผิวฟัน และใช้เวลาฟอกสีฟันไม่นาน หลังการฟอกสีจะคงความขาวได้นาน 6 เดือน - 1 ปี (ขึ้นอยู่กับการดูแลของแต่ละคน)
  • บทความนี้ได้รับการสปอนเซอร์จาก CSDC Dental Clinic แพทย์ผู้ให้ข้อมูลไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการโฆษณาหรือการซื้อขายแพ็กเกจ #HDinsight

อีกหนึ่งวิธีที่ช่วยให้ทุกคนยิ้มได้อย่างมั่นใจ และหมดกังวลเรื่องฟันมีคราบเหลือง ฟันไม่สว่าง ขาว สดใส ด้วยการฟอกสีฟันแบบ Cool Light ที่เน้นช่วยทำให้ฟันขาวขึ้น

แล้วระบบการฟอกสีฟันนี้แตกต่างกับการฟอกสีฟันแบบอื่นอย่างไร มีข้อดีแบบไหน HDmall.co.th ร่วมกับ CSDC จะมาให้ความรู้ ความเข้าใจ พร้อมอธิบายครบถ้วนในบทความนี้


เลือกหัวข้อที่สนใจได้ที่นี่

  • การฟอกสีฟันคืออะไร?
  • การฟอกสีฟันแบบ Cool Light เหมาะและไม่เหมาะกับใคร?
  • ก่อนฟอกสีฟันต้องขูดหินปูนก่อนมั้ย?
  • ระหว่างฟอกสีฟันจะรู้สึกยังไง?
  • ฟอกสีฟันแบบ Cool Light ส่วนใหญ่ ฟอกสีรอบละกี่นาที?
  • ฟอกสีฟันแบบ Cool Light ขจัดคราบกาแฟหรือไวน์แดงได้ไหม?
  • ผลลัพธ์หลังฟอกสีฟันแบบ Cool Light จะขาวขึ้นกี่ระดับ
  • วิธีการดูแลตัวเองหลังฟอกสีฟันแบบ Cool Light
  • ฟอกสีฟันแบบ Cool Light ทำได้บ่อยแค่ไหน?
  • ฟอกสีฟันที่ CSDC ฟันขาว ยิ้มมั่นใจ ในราคาสุดคุ้ม
  • บทความที่ HDmall.co.th แนะนำ

  • การฟอกสีฟันคืออะไร?

    หลายคนคงสงสัยว่า การฟอกสีฟัน มีความสำคัญกับการดูแลสุขภาพช่องปากของเราอย่างไรได้บ้าง ซึ่งการฟอกสีฟันคือการเปลี่ยนแปลงสีฟันที่ดูขุ่นหมองให้กลับมาขาวสดใส โดยใช้สาร ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ (Hydrogen Peroxide) ที่เป็นสารสำคัญในการฟอกสีฟัน ไปทำปฏิกิริยากับสารเคลือบบนผิวฟันเรือในเนื้อฟันให้แตกตัวออกและทำให้ฟันดูขาวขึ้น

    การฟอกสีฟันมีกี่แบบ

    ในปัจจุบันการฟอกสีฟันที่นิยมส่วนใหญ่ คือ การฟอกสีฟันที่บ้าน และฟอกสีฟันที่คลินิก ซึ่งเราสามารถฟอกสีฟันที่บ้านได้โดยใช้ผลิตภัณฑ์ที่มักมีส่วนผสมของไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ มีความเข้มข้นไม่เกิน 3% เท่านั้น แต่ข้อเสียที่เห็นได้ชัดนั่นคือการใช้เวลานานกว่าจะเห็นผลลัพธ์

    ทำให้การฟอกสีฟันที่คลินิกทันตกรรมที่เชื่อถือได้เป็นอีกทางเลือกที่สะดวกและรวดเร็ว ที่สำคัญยังให้ความปลอดภัย และเห็นผลทันทีหลังทำเสร็จ ส่วนโปรแกรมฟอกสีฟันที่นิยมตามคลินิก ได้แก่

    1. การฟอกสีฟันแบบ Cool Light
      วิธีการฟอกสีฟันจะใช้แสง LED ส่องเข้าไปบนฟันที่ทาสารฟอกขาว เพื่อกระตุ้นการแตกตัวของสีได้ดีขึ้น แต่หลังจากฟอกสีฟันเสร็จ อาจมีอาการเสียวฟันเล็กน้อย เพราะปลายประสาทจะไวต่อความรู้สึกมากขึ้น แต่อาการจะค่อยๆ ดีขึ้นจนหายไปเอง
    2. การฟอกสีฟันระบบ Zoom
      เป็นการใช้แสงสีฟ้าช่วยกระตุ้นการทำงานของสารที่ใช้ฟอกสีฟัน เช่นกัน แต่ความพิเศษของการฟอกสีฟันระบบ Zoom คือ จะเกิดอาการเสียวฟันน้อยกว่าการฟอกสีฟันแบบอื่น

    อย่างไรก็ตามกระแสการฟอกสีฟัน Cool Light กำลังมาแรง เพราะช่วยให้สีฟันนั้นขาวสว่างได้อย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ยังมีข้อดีอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็น

    • ไม่ทำลายผิวฟัน
    • ใช้เวลาฟอกสีฟันไม่นาน และปลอดภัยไม่มีอันตราย
    • คงความขาวได้นาน 6 เดือน - 1 ปี (ขึ้นอยู่กับการดูแลของแต่ละคน)
    • ราคาย่อมเยา

    การฟอกสีฟันแบบ Cool Light เหมาะและไม่เหมาะกับใคร?

    สำหรับการฟอกสีฟัน Cool Light เหมาะกับ

    • ผู้ที่อยากให้ฟันขาวขึ้นภายในเวลาที่รวดเร็ว เพราะการฟอกสีฟันแบบ Cool Light ช่วยให้ฟันขาวสว่างขึ้นได้ไว
    • คนที่รู้สึกไม่มั่นใจในสีฟันแบบเดิม และอยากให้ฟันขาวขึ้น
    • คนที่ฟันหมองคล้ำ หรือฟันเหลืองจากการรับประทานยาบางชนิด
    • คนที่ต้องใช้รอยยิ้มในการทำงานเป็นประจำ เช่น อาชีพดารา นักแสดง พนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน

    ส่วนคนที่ไม่เหมาะกับการฟอกสีฟันแบบ Cool Light มีดังนี้

    • สตรีมีครรภ์และกำลังให้นมบุตร
    • เด็กที่อายุต่ำกว่า 16 ปี เพราะเป็นช่วงอายุที่เส้นประสาท และโพรงประสาทฟันยังไม่แข็งแรง ซึ่งอาจทำให้เด็กรู้สึกเสียวฟันได้มาก
    • คนที่สุขภาพฟันยังมีปัญหา หรือเป็นโรคบางอย่างเกี่ยวกับช่องปาก หากต้องการฟอกสีฟัน จำเป็นต้องรักษาให้หายเสียก่อน เช่น โรคเหงือกอักเสบ ฟันผุ มีปัญหาเกี่ยวกับรากฟัน
    • คนที่ครอบฟัน รักษารากฟัน หรือใส่วีเนียร์ ในกรณีที่รับบริการฟอกสีฟัน สีของวัสดุบูรณะฟันในส่วนนี้จะไม่มีสีที่เปลี่ยนแปลงไปด้วย
    • คนที่ฟันคล้ำเข้มมากๆ การฟอกสีฟันอาจให้ผลลัพธ์ของฟันที่ขาวขึ้นได้ไม่มากพอ แพทย์อาจแนะนำให้เปลี่ยนไปใช้วิธีใส่วีเนียร์ที่ผิวฟันแทน

    ก่อนฟอกสีฟันต้องขูดหินปูนก่อนมั้ย?

    สำหรับคนที่สงสัยว่าก่อนฟอกสีฟันต้องขูดหินปูนก่อนหรือไม่นั้น สำหรับก่อนการฟอกสีฟัน ควรตรวจสุขภาพช่องปากและฟันเพื่อให้มั่นใจว่าสุขภาพช่องปากให้ดีก่อน เช็กว่าไม่มีปัญหาฟันผุ โรคเหงือก คราบหินปูน และอื่นๆ

    เนื่องจากหากมีปัญหาในช่องปากจะไม่สามารถทำการฟอกสีฟันได้ ซึ่งอาจจะต้องได้รับการรักษาหรือบูรณะฟันด้วยวีที่เหมาะสมก่อนการทำการฟอกสีฟัน

    เสียวฟัน ฟันผุ ฟันคุด ฟันเก เหงื่อกร่น ฟอกสีฟันได้ไหม?

    การฟอกสีฟันเหมาะกับคนไข้ที่มีฟันธรรมชาติ และมีเหงือกและฟันที่เเข็งเเรงอยู่แล้ว แต่ต้องการปรับระดับสีฟันที่หมองคล้ำ ฟันเหลืองให้ดูขาวสว่าง

    ส่วนคนที่ไม่เหมาะกับการฟอกสีฟัน คือ คนไข้ที่ฟันผุ มีเหงือกอักเสบ หรือมีเคลือบฟันไม่สมบูรณ์เพราะยากต่อการป้องกันเหงือก ไม่ให้น้ำยาฟอกสีฟันลงไปทำปฏิกิริยาได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้เกิดการระคายเคืองได้ จะต้องรักษาสุขภาพฟันให้สุขภาพดีก่อน

    จัดฟันอยู่ฟอกสีฟันได้ไหม?

    สำหรับใครที่จัดฟัน ถ้าจัดฟันแบบใสไม่ได้ติดเครื่องมือที่ฟัน สามารถฟอกสีฟันได้ โดยสามารถถอดเครื่องมือจัดฟันแบบใสออกมาแล้วทำการฟอกสีฟันได้เลย

    แต่สำหรับท่านที่จัดฟันแบบลวด โดยมีการติดอุปกรณ์ที่บริเวณหน้าฟัน จะไม่สามารถฟอกสีฟันได้ เพราะถ้าหากฟอกไปแล้ว น้ำยาฟอกฟันจะไม่โดนในส่วนหน้าฟันที่มีการติดอุปกรณ์จึงทำให้ฟันสีขาวไม่สม่ำเสมอ ทางที่ดีหากต้องการฟอกสีฟัน ควรรอถอดอุปกรณ์หลังจากจัดฟันเสร็จถึงจะทำได้

    ทำวีเนียร์ หรือทำรากฟันเทียม ฟอกสีฟันได้ไหม?

    น้ำยาฟอกสีฟันไม่มีผลกับอุปกรณ์ทางทันตกรรม เช่น การครอบฟัน (Crowns) หรือการทำวีเนียร์ (Veneers) รวมไปถึงวัสดุที่อุดฟัน หากใครใส่วัสดุดังกล่าวอาจต้องปรึกษาผู้ชำนาญการเพื่อแก้ไขสีของอุปกรณ์

    ระหว่างฟอกสีฟันจะรู้สึกยังไง?

    ระหว่างฟอกสีฟันจะไม่มีอาการเจ็บ แต่ในขณะฟอกสีฟันหรือหลังจากฟอกสีฟันเสร็จแล้ว อาจมีการเสียวฟันเกิดขึ้นได้ แต่อาการเสียวฟันจะหายได้เองภายใน 48 ชั่วโมง

    ฟอกสีฟันแบบ Cool Light ส่วนใหญ่ ฟอกสีรอบละกี่นาที?

    สำหรับการฟอกสีฟันแบบ Cool Light ส่วนใหญ่ จะมีระบบการฟอกสี 3 รอบ รอบละ 10-15 นาที

    ฟอกสีฟันแบบ Cool Light ขจัดคราบกาแฟหรือไวน์แดงได้ไหม?

    การฟอกสีฟันแบบ Cool Light จะช่วยขจัดคราบกาแฟหรือไวน์แดงได้ส่วนหนึ่ง

    คราบฟันแบบไหนที่การฟอกสีฟันไม่ได้ช่วยให้ขาวขึ้น?

    แต่ในผู้ที่มีฟันเป็นคราบสีเข้ม ฟันสีออกน้ำตาล จะมีการตอบสนองต่อการฟอกสีฟันได้น้อย และหากเป็นคราบสีเทาหรือม่วงก็อาจไม่ตอบสนองเลย โดยเฉพาะคราบสีเทาอมฟ้าที่เกิดจากการใช้ยาเตตราไซคลีน (Tetracycline) จะใช้วิธีฟอกสีฟันได้ไม่เห็นผล

    ผลลัพธ์หลังฟอกสีฟันแบบ Cool Light จะขาวขึ้นกี่ระดับ

    สำหรับการฟอกสีฟันแบบ Cool Light เป็นการใช้แสงร่วมกับน้ำยาฟอกสีฟันที่มีความเข้มข้นสูง โดยที่ Cool Light LED จะเข้าไปกระตุ้นน้ำยาฟอกสีฟัน เพื่อให้ตัวน้ำยาที่ใช้เพื่อขจัดเม็ดสีในเนื้อฟันโดยเฉพาะสีเหลืองได้ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น การฟอกสีฟันด้วยวิธีนี้สามารถปรับสีฟันให้ขาวขึ้นได้ 3-5 เฉด ขึ้นอยู่กับสภาพฟันของแต่ละบุคคล

    วิธีการดูแลตัวเองหลังฟอกสีฟันแบบ Cool Light

    หลายคนคงสงสัยว่าหลังฟอกสีด้วยระบบ Cool Light จะต้องดูแลต่ออย่างไรให้ประสิทธิภาพของการฟอกสีฟันนั้นไม่เสื่อมสภาพ

    1. ควรงดสูบบุหรี่อย่างน้อย 24 ชั่วโมงหลังฟอกสีฟันเสร็จ
    2. หลีกเลี่ยงการดื่ม เครื่องดื่มประเภท ชา กาแฟ
    3. บ้วนปากทุกครั้งหลังมื้ออาหาร แปรงฟันอย่างถูกวิธี
    4. หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารที่มีสีจัด เช่น แกงเขียวหวาน, แกงส้ม และแกงกะหรี่
    5. หลีกเลี่ยงการใช้น้ำยาบ้วนปาก หรือน้ำยาที่มีสีเข้ม
    6. ใช้ยาสีฟันสูตรลดอาการเสียวฟันประมาณ 1-2 วันแรก อาจปรึกษาทันตแพทย์ถึงความเหมาะสมในการเลือกใช้ด้วย
    7. มาพบทันตแพทย์ทุก 6 เดือนเพื่อตรวจเช็คช่องปากอยู่เสมอ

    ผลลัพธ์หลังฟอกสีฟันแบบ Cool Light อยู่ได้นานแค่ไหน?

    การฟอกสีฟัน Cool Light จะให้ผลลัพธ์อยู่ได้นานประมาณ 6 เดือนถึง 1 ปีครึ่ง (หลังจากนั้นสีฟันก็จะค่อยๆ ลดความขาวลง) ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสีฟันเดิมของคนไข้ รวมถึงปัจจัยอื่นๆ ที่ทำให้สีฟันหมองคล้ำลงได้อีก เช่น ช่วงอายุ การรับประทานยา โรคประจำตัว

    หากผู้รับบริการเป็นผู้ที่สูบบุหรี่ บริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และกินอาหารหรือดื่มเครื่องดื่มที่มีสีอยู่เป็นประจำอยู่แล้ว สีของฟันก็อาจลดความขาวลงเร็วกว่านั้นได้เช่นกัน

    ดังนั้น หากต้องการให้สีฟันหลังฟอกคงความขาวอยู่ต่อไปนานๆ อาจต้องปรับวิธีการใช้ชีวิต หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่ รวมถึงเลี่ยงอาหารที่มีสีจัด เช่น ชา กาแฟ ซอสสีเข้มต่างๆ เป็นต้น

    ถ้าอยากกินชาหรือกาแฟ ให้ใช้หลอดช่วยให้ฟันขาวนานขึ้นจริงไหม?

    มีการตั้งคำถามว่าการดื่มโดยใช้หลอดจะช่วยปกป้องฟันของเราได้หรือไม่ คำตอบคือ ใช่ เพราะการดื่มโดยใช้หลอดช่วยลดปริมาณการสัมผัสระหว่างเครื่องดื่มและพื้นผิวด้านนอกของฟัน ซึ่งจะลดการเกิดคราบสีเหลืองบนฟันที่อาจเกิดขึ้นได้

    ฟอกสีฟันแบบ Cool Light ทำได้บ่อยแค่ไหน?

    สำหรับการฟอกสีฟันแบบ Cool Light สามารถฟอกซ้ำได้ทุก 6 เดือน หรือ 1 ปีเลย ขึ้นอยู่กับการดูแลรักษาและอาหารที่รับประทานด้วย

    ฟอกสีฟันที่ CSDC ฟันขาว ยิ้มมั่นใจ ในราคาสุดคุ้ม

    สำหรับใครที่อยากมีฟันขาวเพื่อเพิ่มความมั่นใจให้กับตัวเองแบบเห็นผลได้ชัดเจนและกำลังมองหาการทำฟอกสีฟันในราคาที่ย่อมเยา แนะนำให้มาฟอกสีฟันที่ด้วยระบบแบบ Cool Light ซึ่งตอบโจทย์ในเรื่องของงบประมาณและความต้องการของคนไข้แต่ละคน และทำการฟอกสีฟันโดยทันตแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญ

    อยากมีรอยยิ้มที่สวยสดใส ยิ้มได้อย่างมั่นใจ ให้แนะนำฟอกสีฟันด้วยระบบ Cool Light ที่ CSDC ได้ทุกสาขา มีเครื่องมือที่ทันสมัย นำเข้าอย่างถูกต้อง มีประสบการณ์ในการฟอกสีฟันมากกว่า 1,000 เคส ดังนั้นมั่นใจได้เลยว่าเมื่อมาฟอกสีฟันที่ CSDC Dental Clinic แล้วจะได้ฟันขาวอย่างปลอดภัย

    ใครที่อยากแก้ปัญหาฟันเหลือง เป็นคราบ ให้ดูขาวกระจ่างใส ดูรายละเอียดการฟอกสีฟันแบบ Cool Light ที่ CSDC ทุกสาขา ได้ที่ HDmall.co.th หรือเข้าไปที่สาขาที่ให้บริการทั้ง 8 สาขา ทั้ง 6 สาขาในเชียงใหม่ และ 2 สาขาในกรุงเทพ ใกล้ที่ไหนไปที่นั่นได้เลย รับรองว่าไม่ผิดหวังแน่นอน

    ดูรายละเอียด โปรแกรมการฟอกสีฟัน ด้วยระบบ Cool Light คลิก เช็กราคาและเลือกซื้อโปรแกรมการฟอกสีฟันด้วยระบบ Cool Light ในราคาส่วนลดผ่าน HDmall.co.th สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ไลน์ @HDcoth


    บทความที่ HDmall.co.th แนะนำ

    @‌hdcoth line chat