16 เรื่องที่คนมักเข้าใจผิดเกี่ยวกับการเสริมหน้าอกกับ นพ. อัครวัฒน์ วงศ์เทพ Vincent Clinic ด้วยบริการจาก HDcare


HDcare สรุปให้

ขยาย

ปิด

  • การเสริมหน้าอกมีเทคนิคการผ่าตัดภายใต้การดมยาสลบ จึงทําให้เจ็บน้อยที่สุด
  • ปัจจุบันซิลิโคนที่ใช้สำหรับการเสริมหน้าอก มีมาตรฐานจึงไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนซิลิโคนทุก 10 ปี
  • หน้าอกจะมีความหย่อนคล้อยตามอายุที่เพิ่มขึ้น มากหรือน้อยแต่ละคนจะแตกต่างกัน
  • เสริมหน้าอกกับหมอแบคด้วยเทคนิค ADPT ที่ Vincent Clinic จะได้หน้าอกที่มีเนินเป็นธรรมชาติ จะช่วยให้หน้าอกที่มีความหย่อนคล้อย ยกกระชับ ซิลิโคนที่มีขนาดใหญ่ไซส์ที่ต้องการ และแผลเล็กเรียบเนียน
  • บทความนี้ได้รับการสปอนเซอร์จาก HDcare ศูนย์รวมการผ่าตัดโดยทีมแพทย์ที่มี่ประสบการณ์ จาก HDmall.co.th แพทย์ผู้ให้ข้อมูลไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการโฆษณา

หลายคนมักจะมีเรื่องที่เข้าใจผิดเกี่ยวกับการเสริมหน้าอก ไม่ว่าจะเป็นความเป็นที่ได้ยินมาว่าเจ็บเหมือนสิบล้อทับ เสริมหน้าอกหัวทำให้หัวนมชา เสริมหน้าอกทําให้ปวดหลัง เสริมหน้าอกต้องเปลี่ยนซิลิโคนทุก 10 ปี เสริมหน้าอกทําให้เป็นมะเร็ง เสริมหน้าอกไม่สามารถตรวจสุขภาพได้ หรืออื่นๆ อีกมากมาย

หากคุณอยากเสริมหน้าอก อยากทำนม หรือทำมาแล้วอยากแก้หน้าอก แต่ยังไม่รู้ว่าจะเลือกศัลยกรรมหน้าอกที่ไหนดี แนะนำให้ทักเข้ามาปรึกษากับ HDcare ที่ไลน์ @HDcare เพื่อประสานนัดหมายทีมแพทย์ให้คำแนะนำแนวทางการรักษาที่เหมาะสมได้

หมอแบค หรือ นายแพทอัครวัฒน์ วงศ์เทพ ศัลยแพทย์ผู้ชำนาญการ เฉพาะทางด้านทรวงอก (Thoracic Surgery) ผู้ช่วยคิดค้นเทคนิค ADPT เทคนิคเฉพาะของ Vincent Clinic และหนึ่งในแพทย์จากบริการของ HDcare จะมาให้ข้อมูลการเสริมหน้าอก อย่างละเอียด อ่านประวัติของหมอแบคได้ที่นี่ [รู้จัก “หมอแบค” เพิ่มความมั่นใจให้หน้าอกผู้หญิงมามากกว่า 1,000 คน]

เลือกหัวข้อที่สนใจได้ที่นี่

1. ผ่าตัดเสริมหน้าอก เจ็บเหมือนสิบล้อทับ จริงไหม?

อันนี้ต้องบอกว่าไม่จริง ปัจจุบันนี้การเสริมหน้าอกมีเทคนิคการผ่าตัดภายใต้การดมยาสลบ จะทําให้เราเจ็บน้อยที่สุดหลังผ่าตัด

2. เสริมหน้าอกแล้ว ทำให้หัวนมชา จริงไหม?

หัวนมชาขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย คือ ขนาดของซิลิโคน ถ้าเราเลือกซิลิโคนที่มีขนาดใหญ่เกินไปตัวซิลิโคนจะไปเบียดแล้วกดทับเส้นประสาท ทําให้เกิดอาการชาบริเวณหัวนมได้

หรือเทคนิคการผ่าตัดที่พยายามทําโพรงใหญ่ๆ ใส่ซิลิโคนที่มีขนาดใหญ่ ทำให้เพิ่มโอกาสความเสี่ยงที่ทําให้หัวนมชา

3. เสริมหน้าอกแล้ว ทําให้ปวดหลัง จริงไหม?

ขึ้นอยู่กับขนาดของซิลิโคน ยิ่งซิลิโคนมีขนาดใหญ่ น้ําหนักเยอะ ทําให้ร่างกายแอ่นสู้กับน้ําหนักจึงเพิ่มความเสี่ยงในการปวดหลังได้ แต่ถ้าซิลิโคนเหมาะสมกับร่างกาย จะทำให้ลดโอกาสในการปวดหลัง

นอกจากนี้อาการปวดหลังยังขึ้นอยู่กับปัจจัยส่วนบุคคล บางรายเสริมหน้าอกแค่ 300 cc ก็สามารถพบอาการปวดหลัง แต่บางรายเสริม 400-500 cc ไม่พบอาการปวดหลัง

4. หลังเสริมหน้าอก ให้นมลูกได้ไหม?

หลังผ่าตัดเสริมหน้าอกสามารถให้นมบุตรได้ แต่อาจจะมีอาการคัดตึงเต้านมมากกว่าปกติ เพราะมีซิลิโคนดันอยู่

ในกรณที่หลังผ่าตัดเสริมหน้าอกวางซิลิโคนไว้เหนือกล้าม หากให้นมบุตรจะยิ่งเพิ่มความเสี่ยงทําให้เกิดการหย่อนคล้อยของหน้าอกมากขึ้น

5. เสริมหน้าอกต้องเปลี่ยนซิลิโคนทุก 10 ปี จริงไหม?

ปัจจุบันซิลิโคนที่ใช้สำหรับการเสริมหน้าอก มีมาตรฐานพอสมควร จึงไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนซิลิโคนซึ่งแตกต่างจากเมื่อก่อนที่มีความจําเป็นจะต้องเปลี่ยนซิลิโคน

6. หลังเสริมหน้าอก สามารถบีบแรงๆ ได้ไหม?

หลังผ่าตัดเสริมหน้าอก 3 เดือนขึ้นไป เมื่อหน้าอกเข้าที่สามารถบีบหรือจับหน้าอกแรงได้

7. หลังเสริมหน้าอก ซิลิโคนแตกทําอย่างไร?

ถ้าซิลิโคนแตกรั่วหลังเสริมหน้าอก จะทำให้หน้าอกมีความผิดรูป แนะนําว่าต้องมาเปลี่ยนซิลิโคนใหม่ หากเลือกซิลิโคนเสริมหน้าอกที่มีมาตรฐาน มักจะไม่มีปัญหาซิลิโคนแตก

8. หลังเสริมหน้าอก ดื่มแอลกอฮอล์หรือสูบบุหรี่เมื่อไหร่?

หลังผ่าตัดเสริมหน้าอกต้องงดดื่มแอลกอฮอล์หรือสูบบุหรี่อย่างน้อย 1 เดือน เมื่อหน้าอกเข้าที่สามารถทำได้

9. อายุมากขึ้น หน้าอกจะหย่อนคล้อยไหม?

หน้าอกจะมีความหย่อนคล้อยอยู่แล้วในทุกคน ตามอายุที่เพิ่มขึ้นและแรงโน้มถ่วง แต่มีความหย่อนคล้อยมากหรือน้อยแต่ละคนจะแตกต่างกัน

10. อายุเท่าไหร่เสริมหน้าอกได้ และไม่ควรเสริมหน้าอกหลังอายุเท่าไหร่?

สําหรับคนไข้ที่ต้องการเสริมหน้าอกหมอแนะนำอายุ 20 ปีขึ้นไป เพื่อให้หน้าอกและร่างกายเจริญเติบโตเต็มที่

ส่วนช่วงอายุที่ไม่ควรเสริมหน้าอกคือไม่ควรเกิน 40 ปี เพราะเมื่ออายุเพิ่มขึ้นมีโอกาสเกิดโรคประจำตัวต่างๆ ซึ่งโรคบางชนิดทำให้ไม่สามารถผ่าตัดเสริมหน้าอกได้

11. มีก้อนซีสต์ที่เต้านม สามารถเสริมหน้าอกได้ไหม?

หากมีก้อนซีสต์ที่เต้านม ต้องตรวจร่างกาย ตรวจอัลตราซาวด์ก่อนเข้ารับการผ่าตัด หากผลตรวจพบเป็นแค่ซีสต์สามารถผ่าตัดเสริมหน้าอกได้

12. เสริมหน้าอกแล้ว ทําให้เป็นมะเร็ง จริงไหม?

การผ่าตัดเสริมหน้าอกในปัจจุบัน ไม่มีความสัมพันธ์กับการเกิดมะเร็งเต้านม จากการศึกษาในอดีตการผ่าตัดเสริมหน้าอกเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งต่อมน้ำเหลืองเนื่องจากซิลิโคนที่ไม่ได้มาตรฐานหรือซิลิโคนที่มีการใช้ในช่วงเวลานั้นปัจจุบันซิลิโคนดังกล่าวถูกงดใช้แล้ว

13. หลังเสริมหน้าอก สามารถตรวจแมมโมแกรม (Mammogram) ได้ไหม?

หลังเสริมหน้าอกสามารถตรวจแมมโมแกรม (Mammogram) ได้ แต่แนะนำเป็นการตรวจอัลตร้าซาวด์เป็นหลักเพราะจะไม่มีการบีบอัดของหน้าอก

14. เสริมหน้าอกแบบซิลิโคนมีชิพ เดินผ่านเครื่องตรวจโลหะได้ไหม?

การผ่าตัดเสริมหน้าอกด้วยซิลิโคนที่มีชิพสามารถผ่านเครื่องสแกนได้ทุกเครื่อง

15. เสริมหน้าอกแล้ว ตรวจ MRI หรือ CT Scan ได้ไหม?

การเสริมหน้าอกด้วยซิลิโคนที่มีชิพ สามารถผ่านเครื่องสแกนได้ไม่ว่าจะเป็น MRI หรือ CT Scan ได้ ไม่มีผลข้างเคียงใดๆ

16. เสริมหน้าอกแล้ว สามารถขึ้นยานอวกาศออกไปนอกโลกได้ไหม?

ในมุมมองคิดว่าได้นะ เผื่ออนาคตเราสามารถที่จะพัฒนาเทคโนโลยีให้สามารถไปในอวกาศหรือนอกโลกได้

เสริมหน้าอกกับหมอแบคด้วยเทคนิค ADPT ดีอย่างไร?

เสริมหน้าอกกับหมอที่ Vincent Clinic ด้วยเทคนิค ADPT มีข้อดีดังนี้

  1. เทคนิค ADPT จะได้หน้าอกที่มีเนินเป็นธรรมชาติ
  2. เทคนิค ADPT จะได้ซิลิโคนที่หน้าอกมีความชิดเป็นธรรมชาติ
  3. เทคนิค ADPT จะได้ซิลิโคนที่มีขนาดใหญ่ไซส์ที่ต้องการ
  4. เทคนิค ADPT จะช่วยให้หน้าอกที่มีความหย่อนคล้อย ยกกระชับได้ระดับนึง
  5. เทคนิค ADPT จะได้แผลที่เล็กเรียบเนียน

เสริมหน้าอก กับ นพ. อัครวัฒน์ ด้วยบริการจาก HDcare

สําหรับใครที่ต้องการเสริมหน้าอกกับหมอด้วยเทคนิค ADPT ที่ Vincent Clinic สามารถที่จะเข้ามาปรึกษาคุณหมอฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย หรือจะส่งรูปผ่าน HDcare มาให้คุณหมอประเมินก่อนได้ หรือสำหรับใครที่พร้อมผ่าตัดเสริมหน้าอกสามารถเข้ามาตรวจร่างกายและวัดไซส์แบบละเอียดได้ที่คลินิก

สามารถสอบถามทุกประเด็นเกี่ยวกับการผ่าตัดที่สงสัยกับทางทีมของ HDcare จนกว่าจะมั่นใจ และหากต้องการผู้ช่วยประสานงานด้านใดในโรงพยาบาล หรืออยากสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับบริการ HDcare สามารถพูดคุยผ่านทางไลน์ @HDcare ได้เลย

บทความที่ HDmall.co.th แนะนำ

@‌hdcoth line chat