อะโวคาโด ผลไม้เพื่อคนรักสุขภาพ ประโยชน์ ข้อควรระวัง

พูดถึงผลไม้เพื่อสุขภาพ หลายวงการต่างยกให้ “อะโวคาโด” เป็นอันดับต้นๆ ของผลไม้ยอดเยี่ยม ระดับซูเปอร์ฟู๊ด ถึงแม้จะรสชาติสู้ผลไม้ไทยหลายชนิดไม่ได้ก็ตาม แถมไขมันก็สูงจนบางคนไม่ชอบ แต่คุณค่าทางโภชนาการสูงมากชนิดที่ว่าแทบไม่ต้องทางผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเพิ่ม ทำให้มีคนนิยมทานอะโวคาโดมากขึ้นเรื่อยๆ จนเห็นผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวกับอะโวคาโดมากขึ้น ทั้งในตลาดและห้างสรรพสินค้า รวมถึงสั่งออนไลน์ช่องทางต่างๆ สรรพคุณของอะโวคาโด มีประโยชน์ทั้งในด้านสุขภาพและความงาม มีอะไรบ้าง มาติดตามกันเลย

มีคำถามเกี่ยวกับ อะโวคาโด? สอบถามฟรีทาง LINE รับคำตอบได้ทันที ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อความสบายใจของคุณ

สารอาหารใน อะโวคาโด (100 กรัม)

  • Calories: 160
  • Fat: 14.7 กรัม
  • Sodium: 7 มก.
  • Carbohydrates: 8.5 กรัม
  • Fiber: 6.7 กรัม
  • Sugars: 0.7 กรัม
  • Protein: 2 กรัม
  • Vitamin C: 10 มก.
  • Vitamin E: 2.1 มก.
  • Vitamin K: 21 มคก.
  • Magnesium: 29 มก.
  • Potassium: 485 มก.

ประโยชน์ของอะโวคาโดด้านสุขภาพ

เนื่องจากผลอะโวคาโด อุดมไปด้วยสารอาหารและวิตามินที่มีประโยชน์มากมาย เมื่อทานบ่อยๆ จึงสามารถบำรุงและเสริมสร้างสุขภาพร่างกายให้แข็งแรงได้ดี แถมยังสามารถป้องกันโรคร้ายบางโรคได้อีกด้วย โดยประโยชน์ด้านสุขภาพของอะโวคาโดก็มีดังนี้

1ลดความอ้วน

แม้ว่าผลอะโวคาโดจะมีแคลอรีสูงที่ทำให้หลายๆ คนกลัวว่าทานแล้วจะอ้วน แต่ความจริงประโยชน์ที่ได้รับจากอะโวคาโด มีความตรงกันข้ามกับที่หลายคนกังวลมากทีเดียว เพราะอะโวคาโดนั้นมีคาร์โบไฮเดรตและน้ำตาลต่ำ แถมเต็มไปด้วยไฟเบอร์และกรดโอเลอิก ที่จะช่วยกระตุ้นให้สมองสั่งการให้เรารู้สึกอิ่มเร็วขึ้น จึงลดการกินจุกจิกได้อย่างดีเยี่ยม ซึ่งผลที่ตามมาก็คือน้ำหนักที่ลดลงอย่างเห็นได้ชัด

2โปรตีนสูง

อะโวคาโดเป็นผลไม้ที่มีโปรตีนสูงกว่าผลอื่นๆ หลายชนิด ซึ่งเป็นโปรตีนที่ย่อยง่าย มีเส้นใยสูงจึงสามารถช่วยให้ระบบขับถ่ายทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ลดปัญหาอาการท้องผูกและทำให้รู้สึกอิ่มเร็ว จึงเป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่สามารถทานอะโวคาโดเพื่อลดน้ำหนักได้นั่นเอง

3เต็มไปด้วยแร่ธาตุและสารอาหารจำเป็น

ในอะโวคาโดมีแร่ธาตุและสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกายเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะโฟเลท โซเดียมและโพแทสเซียม โดยสารอาหารเหล่านี้จะทำหน้าที่ในการลดระดับคอเลสเตอรอลให้ต่ำลง จึงลดความเสี่ยงภาวะคอเลสเตอรอลในเลือดสูงได้ดี แถมยังเป็นสารอาหารที่จะช่วยเสริมสร้างการเจริญเติบโตและสร้างเนื้อเยื่อให้กับทารกในครรภ์ได้อีกด้วย จึงเป็นผลไม้ที่นิยมในคนท้องมากที่สุด

4วิตามิน ช่วยลดโอกาสโรคมะเร็ง บำรุงร่างกาย

ในอะโวคาโดประกอบไปด้วยวิตามินมากมายที่จะช่วยบำรุงสุขภาพร่างกายได้เป็นอย่างดี ซึ่งได้แก่

  • วิตามินอี ช่วยป้องกันโรคมะเร็ง โรคหัวใจและมีฤทธิ์ในการต้านสารอนุมูลอิสระ จึงทำให้สุขภาพแข็งแรงห่างไกลอาการเจ็บป่วยมากขึ้น
  • วิตามินซี ป้องกันเลือดออกตามไรฟัน เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ชะลอความแก่ ลดริ้วรอยแห่งวัย ช่วยสร้างคอลลาเจน
  • วิตามินเค ช่วยในการแข็งตัวของเลือด สุขภาพกระดูก ป้องกันโรคหัวใจ

5ป้องกันโรคหัวใจ

การทานอะโวคาโดที่มีวิตามินเคเป็นประจำ สามารถป้องกันความเสี่ยงโรคหัวใจได้และช่วยบำรุงสุขภาพหัวใจให้แข็งแรงยิ่งขึ้น นอกจากนี้ก็จะกระตุ้นให้หัวใจมีการสูบฉีดเลือดไปเลี้ยงส่วนต่างๆ ของร่างกายได้อย่างมีประสิทธิภาพ จึงป้องกันปัญหาสุขภาพอื่นๆ ได้อีกมากมายเลยทีเดียว

6ลดไขมันในเส้นเลือด

อะโวคาโดอาจเป็นผลไม้ที่ขึ้นชื่อว่ามีไขมันสูง แต่ไขมันในอะโวคาโดนั้นเป็น ไขมันชนิดดี (HDL) ที่มีประโยชน์ต่อร่างกายและช่วยลดปริมาณไขมันชนิดเลว (LDL) ได้ จึงนิยมทานเพื่อลดไขมันในเส้นเลือดนั่นเอง ซึ่งก็เป็นอาหารที่แพทย์แนะนำให้ผู้ป่วยด้วยโรคไขมันในเลือดสูงทานมากที่สุด เพราะจะกระตุ้นให้การรักษามีประสิทธิภาพและเห็นผลลัพธ์เร็วทันใจยิ่งขึ้น

มีคำถามเกี่ยวกับ อะโวคาโด? สอบถามฟรีทาง LINE รับคำตอบได้ทันที ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อความสบายใจของคุณ

7ลดน้ำตาลในเลือด

อะโวคาโดมีส่วนช่วยในการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดและลดน้ำตาลในเลือดสำหรับผู้ป่วยเบาหวานได้เป็นอย่างดี จึงนิยมให้ผู้ป่วยทานควบคู่ไปกับการรักษาทางการแพทย์

ประโยชน์ของอะโวคาโดด้านความงาม

นอกจากสรรพคุณดีๆ ด้านสุขภาพ อะโวคาโดก็มีประโยชน์ด้านความงามอีกด้วย ได้แก่

1.เพิ่มความนุ่มชุ่มชื้นให้ผิวและเส้นผม

เพราะอะโวคาโดมีไขมันดีค่อนข้างเยอะจึงสามารถนำมาบำรุงผิวและเส้นผมเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นได้อย่างล้ำลึก โดยให้นำอะโวคาโด ½ ลูก น้ำผึ้ง 1 ช้อนโต๊ะและโยเกิร์ต ½ ถ้วย มาผสมจนเป็นเนื้อเดียวกัน จากนั้นนำส่วนผสมที่ได้มาพอกหน้าและเส้นผมทิ้งไว้สักพัก จากนั้นล้างทำความสะอาด ทำบ่อยๆ จะเห็นผลลัพธ์ที่ดีอย่างแน่นอน

2พอกหน้าทำความสะอาดผิวอย่างล้ำลึก

ด้วยวิตามินเป็นจำนวนมากจึงสามารถนำอะโวคาโดมาพอกหน้าเพื่อทำความสะอาดผิวหน้าได้อย่างหมดจด โดยให้ใช้ไข่แดง 1 ฟอง นม ½ ถ้วยและอะโวคาโดบดละเอียด ½ ลูก นำมาตีให้ส่วนผมเข้ากันจนกลายเป็นเนื้อครีมบางๆ จากนั้นใช้สำลีแผ่นชุบเนื้อครีมมาเช็ดให้ทั่วใบหน้า ล้างหน้าให้สะอาดจะให้ความรู้สึกเหมือนใบหน้าสะอาดมากขึ้นและดูสดใสขึ้นมากทีเดียว

3แก้ปัญหารอยคล้ำใต้ตา

ในกรณีที่มีปัญหารอยคล้ำใต้ตา ให้นำอะโวคาโดมาปอกเปลือกเอาเมล็ดออก จากนั้นเฉือนอะโวคาโดให้มีลักษณะเหมือนรูปพระจันทร์เสี้ยวประมาณ 3-4 ชิ้น นำอะโวคาโดที่ได้มาวางไว้บริเวณใต้ตาทิ้งไว้สักพักประมาณ 20 นาที รอยหมองคล้ำใต้ตาจะค่อยๆ จางลงและดวงตามีความสดใสขึ้นอีกด้วย

ปริมาณแนะนำต่อวัน

แนะนำอะโวคาโดประมาณครึ่งลูกต่อวัน หรือ ประมาณ 100 กรัม สามารถทานได้ทุกวัน

การทานมากเกินไป ไม่ถึงกับอันตราย แต่ไม่ได้เพิ่มผลในการลดน้ำหนักหรือลดน้ำตาลให้มากยิ่งขึ้น แล้วยังอาจทำให้ไขมันและแคลอรี่สูงเกินไปจนเพิ่มน้ำหนักแทน จึงควรทานในปริมาณที่ร่างกายรับได้และเหมาะสมจะดีกว่า

ข้อควรระวัง

  • อะโวคาโดมีปริมาณแคลอรีสูง ควรรับประทานในปริมาณที่เหมาะสม
  • ถึงจะมีปริมาณไขมันดีสูง แต่การบริโภคไขมันมากเกินไปก็ไม่ดีต่อสุขภาพ
  • หญิงตั้งครรภ์หรืออยู่ในช่วงให้นมบุตรควรระมัดระวังการรับประทานหรือใช้อะโวคาโดเกินปริมาณที่รับประทานในชีวิตประจำวัน

เห็นได้ว่าอะโวคาโดเป็นผลไม้ที่มากไปด้วยประโยชน์จริงๆ ไม่ว่าจะนำมาทานเพื่อสุขภาพหรือนำมาทำเป็นสูตรหมัก สูตรพอกผิวเพื่อความงามก็ตาม นอกจากนี้อะโวคาโดก็เป็นผลไม้ที่มีราคาไม่แพงและสามารถหาซื้อได้ง่ายอีกด้วย สรรพคุณแจ่มๆ แบบนี้ อย่าพลาดที่จะมาทานเป็นประจำเพื่อสุขภาพที่ดีของตัวคุณและคนในครอบครัว

มีคำถามเกี่ยวกับ อะโวคาโด? สอบถามฟรีทาง LINE รับคำตอบได้ทันที ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อความสบายใจของคุณ

หากคุณติดตั้ง LINE บนคอมพิวเตอร์ของคุณแล้ว ระบบจะเปิดบัญชีทางการ LINE ของ Jib AI ผู้ช่วยสุขภาพ โดยอัตโนมัติ

หากคุณยังไม่ได้ติดตั้ง LINE บนเดสก์ท็อป โปรดสแกน QR โค้ดด้วย LINE บนโทรศัพท์มือถือของคุณเพื่อเริ่มแชทกับ Jib AI ผู้ช่วยสุขภาพ