ช่องคลอดไม่กระชับ ช่องคลอดแห้ง ปัสสาวะเล็ด มีเพศสัมพันธ์แล้วไม่มีความสุข ปัญหาเหล่านี้ล้วนเป็นปัญหากวนใจของสาวๆ หลายคน แต่รู้หรือไม่ว่าปัจจุบันมีเทคโนโลยีที่เข้ามาช่วยแก้ไขปัญหาเหล่านี้ให้ดีขึ้นได้!
HDmall.co.th ร่วมกับ นายแพทย์ วันฉัตร โกมล หรือหมอเบิร์ด สูตินรีแพทย์เฉพาะทางสาขาเวชศาสตร์เชิงกรานสตรีและศัลยกรรมซ่อมเสริม จากโรงพยาบาลพญาไท 2 จะมาแนะนำให้สาว ๆ ทุกคนได้รู้จักกับสาขาเวชศาสตร์เชิงกรานสตรีและศัลยกรรมซ่อมเสริมให้มากขึ้น พร้อมทั้งแนะนำเทคโนโลยีที่ช่วยฟื้นฟูปัญหาน้องสาวกวนใจให้หมดไป
สารบัญ
- ทำความรู้จักคุณหมอ
- เวชศาสตร์เชิงกรานสตรีและศัลยกรรมซ่อมเสริม รักษาอะไรบ้าง?
- คนไข้มารักษากับคุณหมอด้วยอาการอะไรมากที่สุด
- การฟื้นฟูน้องสาวคืออะไร?
- ปัญหาน้องสาวแบบไหนที่ควรได้รับการฟื้นฟูรักษา
- ปัญหาน้องสาวสามารถฟื้นฟูรักษาด้วยตัวเองได้ไหม?
- การฟื้นฟูรักษาน้องสาวด้วยเลเซอร์มีอะไรบ้าง?
- Vagina Tight & Firm Lift Laser คืออะไร?
- Vagina Tight & Firm Lift Laser เหมาะกับใคร?
- ข้อดีและข้อจำกัดของการใช้เครื่อง Vagina Tight & Firm Lift Laser
- ขั้นตอนการรับบริการโปรแกรม Vagina Tight & Firm Lift Laser
- ต้องทำ Vagina Tight & Firm Lift Laser กี่ครั้งถึงจะเห็นผล
ทำความรู้จักคุณหมอ
สวัสดีครับ ผมหมอเบิร์ด หรือนายแพทย์ วันฉัตร โกมล สูตินรีแพทย์เฉพาะทางสาขาเวชศาสตร์เชิงกรานสตรีและศัลยกรรมซ่อมเสริม ประจำโรงพยาบาลพญาไท 2 ครับ
ผมเรียนจบจากคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร และได้ศึกษาต่อเฉพาะทางในหลายๆ ด้าน ได้แก่ ด้านสูติศาสตร์-นรีเวชวิทยา คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี, ด้านเวชศาสตร์เชิงกรานสตรีและศัลยกรรมซ่อมเสริม คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี, ด้านการผ่าตัดผ่านกล้องทางนรีเวช คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลเจริญกรุงประชารักษ์ รวมถึงศึกษาต่อในด้านเพศวิทยาคลินิกและเวชศาสตร์ทางเพศ โรงพยาบาลธรรมศาสตร์
โดยจุดเริ่มต้นของการเป็นหมอเฉพาะทางเวชศาสตร์เชิงกรานสตรีและศัลยกรรมซ่อมเสริม มาจากการที่ผมได้พบกับคนไข้จำนวนมากที่มีปัญหาเกี่ยวกับอุ้งเชิงกราน เช่น ปัสสาวะเล็ดหรือรู้สึกเจ็บปวดระหว่างมีเพศสัมพันธ์
ซึ่งในตอนนั้นปัญหาเหล่านี้ยังถูกมองว่าเป็นเรื่องส่วนตัวและไม่ค่อยมีใครกล้าเข้ามาปรึกษาแพทย์สักเท่าไหร่ ทำให้ผู้หญิงหลายคนต้องทนเก็บปัญหานี้ไว้อยู่คนเดียวและหาทางออกของปัญหาไม่ได้
ผมเลยเล็งเห็นว่าปัญหาเหล่านี้ส่งผลกระทบอย่างมากต่อคุณภาพชีวิตและความสุขของคนไข้ รวมถึงในช่วงเวลานั้นยังมีแพทย์เฉพาะทางสาขานี้น้อยมาก ผมเลยมุ่งมั่นที่จะศึกษาต่อทางด้านนี้เพื่อนำวิชาความรู้มาช่วยเหลือคนไข้ให้กลับมามีชีวิตที่ดีและมีความสุขมากขึ้นครับ
เวชศาสตร์เชิงกรานสตรีและศัลยกรรมซ่อมเสริม รักษาอะไรบ้าง?
“เวชศาสตร์เชิงกรานสตรีและศัลยกรรมซ่อมเสริม” อาจเป็นคำที่ไม่คุ้นหูสำหรับใครหลายคน เนื่องจากเป็นสาขาที่เพิ่งได้รับความนิยมในไทยได้ไม่นาน
โดยสาขาเวชศาสตร์เชิงกรานสตรีและศัลยกรรมซ่อมเสริมจะเน้นการดูแลรักษาและฟื้นฟูปัญหาที่เกี่ยวข้องกับอุ้งเชิงกรานในผู้หญิงเป็นหลัก ไม่ว่าจะเป็นระบบสืบพันธุ์ ระบบทางเดินปัสสาวะส่วนล่าง หรือระบบทางเดินอาหารส่วนล่าง
ซึ่งปัญหาที่พบบ่อย ได้แก่ กะบังลมหย่อน, ปัสสาวะเล็ด, อุจจาระเล็ด, อวัยวะในอุ้งเชิงกรานหดเกร็งผิดปกติ หรือที่เรียกว่า “น้องสาวล็อก” รวมถึงการมีความรู้สึกเจ็บขณะมีเพศสัมพันธ์และความผิดปกติอื่นๆ ที่เกิดขึ้นหลังวัยหมดประจำเดือน
นอกจากนี้ ในปัจจุบันยังมีคนไข้อีกหลายคนที่เข้ามาเพราะความกังวลในด้านความสวยงามของน้องสาวมากขึ้นด้วย เช่น ช่องคลอดไม่สวยงาม, รูปร่างไม่ดี หรือน้องสาวมีสีผิวที่ไม่สม่ำเสมอกัน โดยปัญหาเหล่านี้ แพทย์ในสาขาเวชศาสตร์เชิงกรานสตรีและศัลยกรรมซ่อมเสริมก็สามารถดูแลรักษาได้เช่นกัน แต่ส่วนมาก จะเน้นการรักษาและฟื้นฟูปัญหาที่เกี่ยวข้องกับอุ้งเชิงกรานมากกว่า
คนไข้มารักษากับคุณหมอด้วยอาการอะไรมากที่สุด
ส่วนมากคนไข้ที่เข้ามารับบริการในแผนกเวชศาสตร์เชิงกรานสตรีและศัลยกรรมซ่อมเสริมจะแบ่งเป็น 2 กลุ่มหลักๆ คือ ผู้หญิงวัยหมดประจำเดือนและผู้หญิงวัยเจริญพันธุ์หรือคนที่มีประจำเดือนอยู่
สำหรับคนไข้กลุ่มวัยหมดประจำเดือน ส่วนมากมักจะเข้ามารักษาด้วยอาการอุ้งเชิงกรานหย่อนคล้อยและปัสสาวะเล็ด ซึ่งเป็นกลุ่มอาการที่เกิดจากการขาดฮอร์โมนเป็นหลัก
ส่วนกลุ่มของผู้หญิงวัยเจริญพันธุ์ที่ยังไม่หมดประจำเดือน มักจะเข้ามารักษาด้วยอาการที่เกิดขึ้นขณะมีเพศสัมพันธ์ เช่น ความรู้สึกทางเพศลดน้อยลง, รู้สึกเจ็บขณะมีเพศสัมพันธ์ หรือการไปไม่ถึงจุดสุดยอด
โดยแนวทางการรักษาของคนไข้ทั้งสองกลุ่มนี้จะเน้นไปที่การฟื้นฟูอุ้งเชิงกราน เพื่อทำให้สุขภาพภายในอุ้งเชิงกรานดีขึ้นและคนไข้สามารถกลับไปใช้น้องสาวได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
การฟื้นฟูน้องสาวคืออะไร?
การฟื้นฟูน้องสาว คือ การใช้เทคโนโลยีต่างๆ เข้าไปช่วยกระตุ้นให้ช่องคลอดสร้างคอลลาเจนและกระตุ้นระบบไหลเวียนเลือดบริเวณนั้นให้ทำงานได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
เมื่อเลือดไหลเวียนได้ดีและคอลลาเจนมีการจัดเรียงตัวใหม่อย่างเหมาะสม ผิวบริเวณนั้นจะมีความชุ่มชื้นและมีสารคัดหลั่งเพิ่มขึ้น จึงช่วยลดโอกาสในการเกิดความผิดปกติบริเวณน้องสาวได้
โดยวิธีการฟื้นฟูน้องสาวที่ได้รับความนิยมจะแบ่งเป็น 2 วิธีหลักๆ ได้แก่
- ใช้ยาและสารหล่อลื่น: วิธีนี้จะเน้นไปที่การเพิ่มความหนาของเนื้อเยื่อและความยืดหยุ่นของช่องคลอด ช่วยกระตุ้นการผลิตคอลลาเจนและทำให้เนื้อเยื่อในช่องคลอดชุ่มชื้นรวมถึงยืดหยุ่นมากขึ้น
- ใช้เลเซอร์ในการฟื้นฟูน้องสาว: วิธีนี้จะเป็นการส่งความร้อนจากพลังงานเลเซอร์เข้าไปบริเวณใต้ผิวหนังเพื่อกระตุ้นให้ระบบไหลเวียนเลือดดีขึ้น เมื่อระบบไหลเวียนเลือดดีขึ้น คอลลาเจนก็จะมากขึ้นตามไปด้วย ทำให้ช่องคลอดมีความชุ่มชื้นและมีสารคัดหลั่งออกมามากกว่าเดิม
สำหรับคนไข้ที่กำลังเผชิญกับปัญหาบริเวณน้องสาว การฟื้นฟูรักษาน้องสาวถือว่าเป็นสิ่งสำคัญ เนื่องจากเมื่อไหร่ก็ตามที่น้องสาวแห้งหรือมีสารคัดหลั่งน้อยเกินไป อาจทำให้คนไข้เกิดอาการแสบร้อนบริเวณน้องสาวขึ้นได้
ปัญหาน้องสาวแบบไหนที่ควรได้รับการฟื้นฟูรักษา
ปัญหาน้องสาวที่ควรได้รับการฟื้นฟูรักษามีหลากหลาย โดยทั่วไปสามารถแบ่งออกได้เป็น 2 กลุ่มหลักๆ ดังนี้
- กลุ่มที่โครงสร้างหรือรูปร่างน้องสาวผิดปกติ: กลุ่มนี้มักจะมีปัญหาเรื่องแคมใหญ่เกินไป ทำให้เมื่อใส่เสื้อผ้าที่รัดรูปแล้วรู้สึกไม่มั่นใจ เกิดความรู้สึกไม่สบายตัว และอาจรู้สึกเจ็บได้ในบางครั้ง
- กลุ่มที่มีปัญหาช่องคลอด: กลุ่มนี้มักจะมีปัญหาบริเวณช่องคลอดขณะมีเพศสัมพันธ์ เช่น รู้สึกเจ็บปวดขณะมีเพศสัมพันธ์จนไม่สามารถมีเพศสัมพันธ์ได้
ปัญหาน้องสาวสามารถฟื้นฟูรักษาด้วยตัวเองได้ไหม?
โดยทั่วไปแล้ว ปัญหาเกี่ยวกับอุ้งเชิงกรานของผู้หญิงโดยเฉพาะภายในช่องคลอด เช่น ช่องคลอดหลวมหรือช่องคลอดไม่กระชับ สามารถฟื้นฟูรักษาด้วยตัวเองได้
ซึ่งวิธีการฟื้นฟูรักษาน้องสาวด้วยตัวเองก็คือการขมิบ หากคนไข้มีการขมิบที่ถูกวิธีและทำติดต่อกันในระยะเวลาที่มากพอ วิธีนี้ก็เป็นอีกตัวเลือกหนึ่งที่สามารถช่วยให้น้องสาวกระชับขึ้นได้โดยไม่ต้องเข้ารับการรักษา
ส่วนกลุ่มโรคและอาการอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับช่องคลอด เช่น รู้สึกแสบร้อนบริเวณช่องคลอดหรือรู้สึกเจ็บขณะมีเพศสัมพันธ์ การฟื้นฟูน้องสาวด้วยตัวเองอาจเป็นเรื่องที่ยาก เนื่องจากปัญหาเหล่านี้เกิดจากการขาดฮอร์โมนเป็นหลัก คนไข้กลุ่มนี้จึงควรได้รับยาเพื่อกระตุ้นฮอร์โมนหรือรักษาด้วยวิธีอื่นๆ เพื่อกระตุ้นให้บริเวณน้องสาวมีสารหล่อลื่นมากขึ้น
การฟื้นฟูรักษาน้องสาวด้วยเลเซอร์มีอะไรบ้าง?
การฟื้นฟูรักษาน้องสาวด้วยเลเซอร์ ปัจจุบันสามารถทำได้ด้วยเครื่องเลเซอร์หลากหลายชนิด เช่น เลเซอร์คาร์บอนไดออกไซด์ (Fractional CO2 Laser), เลเซอร์เออร์เบียม (Erbium: YAG laser) หรือการใช้คลื่นเสียงวิทยุ (Radio Frequency: RF)
โดยส่วนใหญ่เลเซอร์ชนิดต่างๆ มักจะมีหลักการทำงานที่เหมือนกันคือส่งพลังงานความร้อนไปที่ชั้นใต้ผิวหนังของช่องคลอด เพื่อกระตุ้นให้มีการจัดเรียงตัวคอลลาเจนและมีการสร้างเส้นเลือดขึ้นมาใหม่ ทำให้น้องสาวมีสารคัดหลั่งและชุ่มชื้นมากขึ้น
Vagina Tight & Firm Lift Laser คืออะไร?
Vagina Tight & Firm Lift Laser เป็นเครื่องเลเซอร์ที่ใช้หลักการ Fractional CO2 โดยตัวพลังงานจะไปขูดผิวบริเวณเยื่อบุผิวช่องคลอดให้จัดเรียงตัวดีขึ้น ก่อนจะกระตุ้นความร้อนไปที่ชั้นเยื่อบุผิวของช่องคลอด ช่วยให้บริเวณนั้นมีเส้นเลือดมาหล่อเลี้ยงมากขึ้น เกิดการจัดเรียงคอลลาเจนใหม่ที่มีประสิทธิภาพ คนไข้จึงรู้สึกได้ว่าช่องคลอดมีความกระชับมากกว่าเดิม
นอกจากนี้ Vagina Tight & Firm Lift Laser ยังมีหัวปล่อยพลังงานแบบพิเศษที่ถูกคิดค้นขึ้นเพื่อรักษาอาการปัสสาวะเล็ดโดยเฉพาะ ซึ่งจะใช้หลักการเดียวกันกับการกระชับช่องคลอด แต่ตัวพลังงานจะไปกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนบริเวณผิวใต้ชั้นที่รองท่อปัสสาวะ ช่วยให้ผิวบริเวณนั้นแข็งแรงและลดโอกาสเกิดปัญหาปัสสาวะเล็ดได้
Vagina Tight & Firm Lift Laser ถือว่าเป็นหนึ่งในเทคโนโลยีที่มีประสิทธิภาพและได้รับการยอมรับในระดับสากลว่าสามารถช่วยฟื้นฟูและรักษาความผิดปกติของน้องสาวได้ แผนกเวชศาสตร์เชิงกรานสตรีและศัลยกรรมซ่อมเสริม โรงพยาบาลพญาไท 2 จึงเลือกใช้เลเซอร์ชนิดนี้เข้ามาช่วยในการรักษา
Vagina Tight & Firm Lift Laser เหมาะกับใคร?
Vagina Tight & Firm Lift Laser เป็นเครื่องเลเซอร์ที่เหมาะสำหรับผู้หญิงทุกคนที่มีความกังวลเกี่ยวกับปัญหาบริเวณน้องสาว เช่น ช่องคลอดไม่กระชับ, ช่องคลอดแห้ง, รู้สึกแสบร้อน หรือรู้สึกเจ็บขณะมีเพศสัมพันธ์
ข้อดีและข้อจำกัดของการใช้เครื่อง Vagina Tight & Firm Lift Laser
Vagina Tight & Firm Lift Laser เป็นเทคโนโลยีฟื้นฟูและรักษาน้องสาวที่มีประสิทธิภาพ รวมถึงมีข้อดีและข้อจำกัดหลายอย่างที่ควรรู้ ดังนี้
ข้อดีของ Vagina Tight & Firm Lift Laser
- ไม่รู้สึกเจ็บระหว่างทำ: เนื่องจากพลังงานความร้อนจากเครื่องเลเซอร์ไม่สูงมาก รวมถึงในขั้นตอนก่อนรับบริการยังมีการทายาชาเฉพาะที่ ระหว่างทำคนไข้จึงไม่รู้สึกเจ็บแต่อาจจะรู้สึกอุ่นๆ ได้เล็กน้อย
- หลังทำไม่ต้องพักฟื้น: หลังทำ Vagina Tight & Firm Lift Laser คนไข้สามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติทันที ไม่จำเป็นต้องพักฟื้น
- เครื่องมือได้มาตรฐาน: Vagina Tight & Firm Lift Laser เป็นเครื่องมือที่ได้มาตรฐานและได้รับการรับรองในระดับสากล
ข้อจำกัดของ Vagina Tight & Firm Lift Laser
การทำ Vagina Tight & Firm Lift Laser มีข้อจำกัดตรงที่ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่มีความผิดปกติเกี่ยวกับช่องคลอด เช่น ผู้ที่มีภาวะเลือดออกผิดปกติ เนื่องจากอาจทำให้ยากต่อการประเมินว่าเลือดที่ออกมาหลังการทำเลเซอร์เกิดจากสาเหตุใด
นอกจากนี้ การทำ Vagina Tight & Firm Lift Laser ยังไม่เหมาะสำหรับผู้ที่กำลังมีประจำเดือนอีกด้วย เนื่องจากอาจส่งผลต่อประสิทธิภาพของการเลเซอร์ หากสนใจฟื้นฟูรักษาน้องสาวด้วยวิธีนี้ ควรรักษาภาวะเลือดออกผิดปกติให้หายดีก่อน และควรทำเลเซอร์หลังจากหมดประจำเดือนไปแล้วสักระยะหนึ่ง
ขั้นตอนการรับบริการโปรแกรม Vagina Tight & Firm Lift Laser
ขั้นตอนการรับบริการโปรแกรม Vagina Tight & Firm Lift Laser เริ่มแรกคนไข้จะต้องเตรียมตัวด้วยการงดสวนล้างช่องคลอดและหลีกเลี่ยงการโกนขนบริเวณจุดซ่อนเร้นก่อน เนื่องจากอาจทำให้ผิวเกิดการระคายเคืองได้ง่าย รวมถึงควรเลือกช่วงเวลาที่ช่องคลอดไม่มีเลือดออกและห่างจากรอบเดือนทั้งก่อนและหลังสักระยะหนึ่ง
ส่วนขั้นตอนระหว่างรับบริการ อันดับแรกพยาบาลจะแปะยาชาบริเวณช่องคลอดทิ้งไว้ประมาณ 30 นาที เพื่อลดความรู้สึกเจ็บระหว่างทำ เมื่อยาชาออกฤทธิ์แล้ว แพทย์จะเริ่มปล่อยพลังงานเลเซอร์ลงไปที่ผิวหนังบริเวณน้องสาวทันที โดยขั้นตอนการทำจะใช้ระยะเวลาประมาณ 10-15 นาทีเท่านั้น หลังจากทำเสร็จแล้ว คนไข้สามารถกลับบ้านและใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติทันทีโดยไม่ต้องพักฟื้น
แต่ทั้งนี้ หลังทำเลเซอร์ก็ควรงดการมีเพศสัมพันธ์ไปก่อนประมาณ 2-3 วัน เนื่องจากผิวหนังบริเวณช่องคลอดอาจบอบบางและระคายเคืองได้ง่ายกว่าปกติ รวมถึงควรหลีกเลี่ยงการสวนล้างช่องคลอดเพื่อป้องกันการรบกวนสภาวะสมดุลของช่องคลอดด้วย
ต้องทำ Vagina Tight & Firm Lift Laser กี่ครั้งถึงจะเห็นผล
การทำ Vagina Tight & Firm Lift Laser เพื่อฟื้นฟูและรักษาน้องสาวให้เห็นผล แนะนำให้ทำเดือนละ 1 ครั้ง ติดต่อกันเป็นระยะเวลา 3 เดือน หลังจากนั้นควรมาตรวจบริเวณน้องสาวเพื่อติดตามผลการรักษาและอาจต้องทำซ้ำทุกๆ 6 เดือนหรือ 1 ปีตามความเหมาะสม
การทำเลเซอร์ตามจำนวนครั้งที่แพทย์แนะนำจะช่วยให้ผลลัพธ์หลังทำคงสภาพได้ยาวนานขึ้น รวมถึงช่วยยืดระยะเวลาในการทำซ้ำให้ไกลออกไปได้
สำหรับใครที่มีปัญหาเกี่ยวกับน้องสาว เช่น ช่องคลอดไม่กระชับ, ช่องคลอดแห้ง, ปัสสาวะเล็ด หรือมีเพศสัมพันธ์แล้วไม่มีความสุข อย่าเพิ่งหมดหวังไป เพราะปัญหาเหล่านี้สามารถทำการรักษาได้!
ผู้ที่สนใจฟื้นฟูและรักษาน้องสาวที่ โรงพยาบาลพญาไท 2 สามารถเข้ามาปรึกษาแพทย์หรือทักจองคิวปรึกษาผ่าน HDmall.co.th ได้เลย