“น้องชายไม่แข็ง” เกิดจากอะไร? มีวิธีสังเกตอย่างไรบ้าง?

ปัญหาอวัยวะเพศไม่แข็งตัว เป็นปัญหาที่ผู้ชายหลายคนอาจประสบพบเจอแต่ไม่กล้าพูดถึง แม้ว่าปัญหานี้จะส่งผลต่อความมั่นใจและความสัมพันธ์ แต่ก็สามารถแก้ไขได้หากเข้าใจสาเหตุที่แท้จริง

บทความนี้ HDmall.co.th ร่วมกับนายแพทย์จิรวีร์ จันทรานุกูล แพทย์เฉพาะทางศัลยศาสตร์ยูโรวิทยา (ว. 50941) จาก Men Plus By MediPrime Clinic จะพาทุกคนไปรู้จักกับปัญหาน้องชายไม่แข็งตัวให้มากขึ้น พร้อมบอกวิธีการสังเกตอาการผิดปกติ

น้องชายไม่แข็ง เกิดจากอะไร?

ปัญหา “น้องชายไม่แข็ง” หรือภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศ เป็นหนึ่งปัญหาที่พบได้บ่อยในผู้ชายและอาจส่งผลกระทบต่อความมั่นใจรวมถึงความสัมพันธ์ในชีวิตคู่ได้ 

โดยสาเหตุของปัญหานี้เกิดได้จากองค์ประกอบหลายอย่าง เช่น สภาพจิตใจ, ฮอร์โมน หรือบาดแผลบริเวณองคชาต ซึ่งความรุนแรงของอาการจะแบ่งออกเป็น 3 ระดับ ดังนี้

• อาการไม่รุนแรง คือ อาการที่น้องชายแข็งตัวได้ไม่สุด น้องชายไม่แข็งตัวในตอนเช้า (Morning Erection) รวมถึงในขณะที่มีเพศสัมพันธ์น้องชายอาจแข็งตัวไม่สุดแต่ยังสามารถสอดใส่ได้

• อาการปานกลาง คือ ในขณะที่มีเพศสัมพันธ์และมีอารมณ์ทางเพศมาก แต่น้องชายกลับแข็งตัวน้อยจนไม่สามารถสอดใส่ได้

• อาการรุนแรง คือ อาการที่น้องชายไม่แข็งตัวขึ้นเลย แม้จะมีอารมณ์ทางเพศมากก็ตาม

แต่ปัญหาที่พบบ่อยที่สุดมักจะเป็นปัญหาในระยะเริ่มต้นหรือมีอาการไม่รุนแรง เช่น บางคนอาจเคยมีกิจกรรมได้ทุกวัน แต่ปัจจุบันทำได้น้อยลง รวมถึงมีอาการหลั่งเร็วกว่าปกติจนส่งผลกระทบต่อความพึงพอใจของคู่นอน

ด้วยระดับฮอร์โมนที่ทำให้เพศชายเป็นเพศที่มีแรงขับทางเพศสูง การที่น้องชายไม่แข็งตัวจึงอาจส่งผลต่อจิตใจอย่างมาก เช่น การขาดความมั่นใจ หรือบางคนอาจรุนแรงถึงขั้นเกิดโรคทางจิตเวช อย่างโรคซึมเศร้าได้

ดังนั้นไม่ว่าอาการจะมีความรุนแรงอยู่ที่ระดับไหน หากสังเกตว่าน้องชายอ่อนตัวลง ไม่แข็งเหมือนเมื่อก่อน หรือเริ่มขาดความมั่นใจก็สามารถเข้ามาพบแพทย์เพื่อรับการรักษาได้ทันที โดยเฉพาะผู้ที่มีอาการในระยะเริ่มต้น การเข้ามาพบแพทย์ตั้งแต่เนิ่นๆ จะช่วยให้การรักษาทำได้ง่ายขึ้นและน้องชายสามารถกลับมาใช้งานได้เร็วขึ้น

วิธีสังเกตปัญหาน้องชายไม่แข็งตัว

วิธีสังเกตลักษณะของปัญหาน้องชายไม่แข็งตัว แพทย์มักจะนำผักหรือผลไม้มาเปรียบเทียบกับการแข็งตัวของน้องชายให้เห็นภาพง่ายๆ ดังนี้

• ผู้ที่มีการแข็งตัวปกติ น้องชายจะมีลักษณะแข็งตัว ตึง และตั้งตรงคล้ายกับแตงกวาที่สดใหม่ 
• ผู้ที่มีปัญหาน้องชายไม่แข็งตัวในระดับไม่รุนแรง น้องชายจะมีมีลักษณะคล้ายกับกล้วยหอมที่ไม่ได้ปอกเปลือก ยังคงตั้งตรงได้ แต่สัมผัสแล้วรู้สึกว่าแกนนุ่มคล้ายกับกล้วยที่สุกกำลังดี 
• ผู้ที่มีปัญหาน้องชายไม่แข็งตัวในระดับรุนแรง น้องชายจะมีลักษณะอ่อนนิ่ม ไม่ตั้งตรง คล้ายกล้วยที่ปอกเปลือกและสุกงอมแล้ว

นอกจากนี้ การสังเกตบริเวณหัวของน้องชายก็บ่งบอกถึงปัญหาน้องชายไม่แข็งตัวได้เช่นกัน วิธีการสังเกต คือ หากลองใช้มือกดบริเวณหัวขณะที่น้องชายแข็งตัวอยู่ หัวของน้องชายจะต้องแข็งและตึงไปด้วย ถ้าหัวน้องชายไม่ตึงก็อาจเป็นหนึ่งสัญญาณของการเสื่อมสมรรถภาพ

อีกหนึ่งวิธีง่ายๆ ก็คือการสังเกตว่าน้องชายแข็งตัวในตอนเช้าหรือไม่ เพราะการแข็งตัวของน้องชายในตอนเช้าเป็นสัญญาณบ่งบอกว่าฮอร์โมนกำลังทำงานตามปกติ

น้องชายไม่แข็งตัวมีวิธีรักษาอย่างไร?

วิธีรักษาน้องชายไม่แข็งตัว ปัจจุบันมีหลากหลายวิธีขึ้นอยู่กับสาเหตุของการเกิดปัญหาในแต่ละคน เช่น บางคนมีปัญหาน้องชายไม่แข็งตัวจากสภาพจิตใจหรือระดับฮอร์โมน แพทย์มักจะใช้วิธีการรักษาด้วยการให้รับประทานยากระตุ้นการแข็งตัว ยากระตุ้นฮอร์โมน หรือการฉีดยากระตุ้นฮอร์โมน

ส่วนคนที่มีแผลที่เส้นสองสลึง ทำให้เมื่อน้องชายแข็งตัวแล้วรู้สึกเจ็บ ร่างกายเลยพยายามทำให้น้องชายไม่แข็งตัวเพื่อไม่ให้เกิดอาการบาดเจ็บ ปัญหานี้แพทย์มักจะรักษาด้วยการขริบ เพื่อลดการเสียดสีและป้องกันการเกิดแผลซ้ำ

แต่ในผู้ที่เคยประสบอุบัติเหตุ กระดูกสันหลังมีปัญหา หรือเคยผ่าตัดใหญ่ในช่องท้องแล้วเส้นประสาทถูกทำลาย กลุ่มนี้มักจะต้องเจอกับปัญหาน้องชายไม่แข็งตัวระดับรุนแรง แพทย์จึงมักจะเลือกวิธีการรักษาด้วยการผ่าตัดใส่แกนเทียม ซึ่งเป็นการผ่าตัดที่ค่อนข้างซับซ้อนและมีค่าใช้จ่ายสูง

ทั้งนี้ แต่ละคนมักมีสาเหตุการเกิดปัญหาไม่เหมือนกัน การรักษาน้องชายไม่แข็งตัวให้ได้ผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพและตรงจุด ควรเข้ารับคำปรึกษากับแพทย์เฉพาะทาง เพื่อเลือกวิธีการรักษาที่ตรงกับปัญหามากที่สุด

การดูแลตัวเองหลังรักษาน้องชายไม่แข็งตัว

การดูแลตัวเองหลังรักษาน้องชายไม่แข็งตัวขึ้นอยู่กับวิธีการรักษาของแต่ละคน หากใครที่รักษาด้วยการขริบ จะต้องพันแผลเพื่อห้ามเลือดไว้ก่อนในช่วง 3 วันแรกหลังผ่าตัด หลังจากนั้นถึงนำผ้าพันแผลออกและรอให้ไหมหลุดไปเองภายใน 2-4 สัปดาห์

ส่วนคนที่รักษาด้วยการฝังแกนเทียม วิธีนี้อาจมีการดูแลที่ซับซ้อนกว่า เนื่องจากเป็นการผ่าตัดใหญ่ เช่น ทำความสะอาดแผลด้วยน้ำเกลือหรือยาฆ่าเชื้อตามคำแนะนำของแพทย์ หลีกเลี่ยงกิจกรรมหนักหรือการออกกำลังกายที่ใช้แรงมากในช่วง 4-6 สัปดาห์แรก

นอกจากนี้ หลังรักษาปัญหาน้องชายไม่แข็งตัว ผู้ที่เข้ารับการรักษาควรดูแลสุขภาพองค์รวมของตัวเองด้วย เช่น การรับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพ หลอดเลือด และหัวใจ การออกกำลังกายเพื่อเสริมกล้ามเนื้ออุ้งเชิงกราน งดการสูบบุหรี่และหลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์ รวมถึงควรหาวิธีในการจัดการความเครียดและพูดคุยกับคู่รักอย่างเปิดใจ เพื่อสร้างความเข้าใจ ลดความกดดันในการทำกิจกรรมทางเพศ รวมถึงช่วยลดโอกาสการเกิดปัญหาน้องชายไม่แข็งตัวกลับมาอีกครั้ง