which hpv vaccine is better for kids disease definition scaled

วัคซีน HPV ชนิด 2, 4, 9 สายพันธุ์ต่างกันตรงไหน เลือกแบบไหนให้ลูกฉีดดี?

ปัจจุบันมีวัคซีน HPV ให้เลือกอยู่ 3 ชนิด คือ ชนิด 2, 4 หรือ 9 สายพันธุ์ ผู้ปกครองที่อยากให้ลูกหลานฉีดวัคซีน HPV ป้องกันมะเร็งปากมดลูกและหูดบริเวณอวัยวะเพศ ควรเลือกวัคซีน HPV ชนิดไหนดี ถึงเหมาะกับเด็กที่สุด บทความนี้มีคำตอบ

วัคซีน HPV คืออะไร ป้องกันโรคอะไรได้

วัคซีน HPV สังเคราะห์จากโปรตีนที่เปลือกหุ้มเชื้อไวรัส HPV โดยไม่มีสารพันธุกรรม (DNA) ของไวรัสอยู่ ซึ่งเพียงพอต่อการกระตุ้นร่างกายให้สร้างภูมิคุ้มกันป้องกันการติดเชื้อ HPV และไม่ได้ก่อให้เกิดโรคขึ้น    

วัคซีน HPV เป็นหนึ่งในวัคซีนแนะนำให้ฉีดในเด็กและผู้หญิงที่ไม่เคยฉีดมาก่อน เพื่อลดความเสี่ยงการติดเชื้อ HPV (Human papillomavirus) สายพันธุ์พบบ่อยที่เป็นต้นเหตุของมะเร็งในผู้หญิงและชาย และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ได้แก่

  • มะเร็งปากมดลูกที่คร่าชีวิตหญิงไทยมากเป็นอันดับต้น ๆ 
  • มะเร็งทวารหนัก 
  • มะเร็งช่องปากและลำคอ 
  • มะเร็งระบบอวัยวะเพศหญิงอื่น ๆ อย่าง มะเร็งช่องคลอด และมะเร็งปากช่องคลอด 
  • มะเร็งระบบอวัยวะเพศชายอย่าง มะเร็งองคชาต
  • หูดที่อวัยวะเพศ 

ปัจจุบันกระทรวงสาธารณสุขของประเทศไทยมีนโยบายฉีดวัคซีน HPV โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายในเด็กผู้หญิงชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ทว่าสิทธิ์อาจไม่ครอบคลุมเด็กผู้หญิงทุกคน 

และไม่รวมเด็กผู้ชายที่ควรฉีดเช่นกัน เพื่อป้องกันหูดหงอนไก่ มะเร็งทวารหนัก มะเร็งองคชาต และมะเร็งหลังคอ รวมถึงการแพร่เชื้อไวรัส HPV ไปสู่ผู้อื่นด้วย

วัคซีน HPV มีกี่ชนิด

วัคซีน HPV มีทั้งหมด 3 ชนิด ต่างกันที่จำนวนของสายพันธุ์ HPV ที่วัคซีนป้องกันได้ นั่นคือ ชนิดป้องกัน 2, 4 และ 9 สายพันธุ์ ยิ่งจำนวนสายพันธุ์มากเท่าไหร่ ก็ยิ่งป้องกันมะเร็งได้ครอบคลุมมากขึ้นเท่านั้น

(1) วัคซีน HPV ชนิด 2 สายพันธุ์
จะครอบคลุมเฉพาะ HPV สายพันธุ์ความเสี่ยงสูง 16 และ 18 ที่ก่อให้เกิดมะเร็งปากมดลูกอย่างเดียว สามารถป้องกันได้ประมาณ 70%  

(2) วัคซีน HPV ชนิด 4 สายพันธุ์
จะครอบคลุมสายพันธุ์เสี่ยงสูง 16 และ 18 ที่ก่อมะเร็งปากมดลูก ประสิทธิภาพป้องกันมะเร็งปากมดลูกอยู่ที่ 70% และยังครอบคลุมสายพันธุ์ความเสี่ยงต่ำ 6 และ 11 ซึ่งก่อให้เกิดหูดหงอนไก่ หรือหูดบริเวณอวัยวะเพศ

(3) วัคซีน HPV ชนิด 9 สายพันธุ์ 
ครอบคลุมสายพันธุ์ HPV มากที่สุด นอกจากสายพันธุ์หลัก 16 และ 18 ที่ก่อมะเร็งปากมดลูก สายพันธุ์ 6 และ 11 ที่ก่อหูดหงอนไก่ ยังครอบคลุมถึงสายพันธุ์รองที่ก่อให้เกิดมะเร็งชนิดอื่น ๆ ด้วย ได้แก่ 31, 33, 45, 52 และ 58 โดยวัคซีน HPV ชนิดนี้จะป้องกันมะเร็งได้ราว 90%  

วัคซีน HPV แต่ละชนิด ฉีดกี่เข็ม 

จำนวนเข็มที่ฉีดนั้นไม่ได้ขึ้นอยู่กับชนิดของวัคซีน HPV แต่ขึ้นอยู่กับช่วงอายุของเด็ก โดยเด็กอายุ 9–14 ปี จะฉีดเพียง 2 เข็ม เว้นระยะห่างระหว่างเข็ม 6–12 เดือน ก็เพียงพอต่อการกระตุ้นภูมิคุ้มกัน 

เด็กอายุ 15 ปีขึ้น แนะนำให้ฉีดทั้งหมด 3 เข็ม ให้ครบใน 1 ปี เพื่อเสริมสร้างภูมิคุ้มกันอย่างเต็มประสิทธิภาพ หลังจากฉีดเข็มแรก จะเว้นระยะห่าง 1–2 เดือน แล้วค่อยฉีดเข็มที่ 2 และเว้นไปอีก 6 เดือนถึงฉีดเข็มที่ 3 เป็นเข็มสุดท้าย 

แพทย์จะกำหนดจำนวนเข็มของวัคซีน โดยพิจารณาจากประโยชน์ ความปลอดภัย และประสิทธิภาพของวัคซีน และตัวเด็กเป็นสำคัญ ผู้ปกครองสามารถปรึกษาแพทย์ก่อนฉีดวัคซีน HPV ให้บุตรหลานได้

ฉีดวัคซีน HPV แล้วอยู่ได้นานแค่ไหน  

วัคซีน HPV จะให้ประสิทธิการป้องกันสูงสุดหากร่างกายยังไม่เคยได้รับเชื้อมาก่อน จึงแนะนำให้ฉีดตั้งแต่ก่อนวัยเจริญพันธุ์ ช่วงอายุ 9 ปีขึ้นไป ทั้งเด็กผู้ชายและเด็กผู้หญิง ไปจนถึงอายุ 26 ปี 

เมื่อฉีดวัคซีนครบตามจำนวนเข็มแล้ว วัคซีน HPV จะช่วยป้องกันโรคได้ยาวนานกว่า 10 ปี โดยไม่ต้องฉีดกระตุ้นซ้ำ กรณีที่เคยฉีดวัคซีน HPV ไปแล้ว แต่ต้องการฉีดวัคซีน HPV ชนิด 9 สายพันธุ์ให้ครอบคลุมโรคมากขึ้น สามารถปรึกษาแพทย์แล้วฉีดได้เลย 

ฉีดวัคซีน HPV ชนิดไหนให้ลูกดี

เด็กผู้หญิงสามารถฉีดวัคซีน HPV ชนิดใดก็ได้ ขึ้นอยู่กับงบประมาณและความต้องการของผู้ปกครอง เพราะวัคซีนทั้ง 3 ชนิด ล้วนช่วยป้องกันมะเร็งร้ายสำหรับผู้หญิง หรือหากต้องการปกป้องที่ครอบคลุมมากขึ้น ก็สามารถเลือกฉีดชนิด 4 หรือ 9 สายพันธุ์ได้

กรณีของเด็กชาย แนะนำให้ฉีดวัคซีน HPV ชนิด 4 หรือ 9 สายพันธุ์ เพราะจะช่วยป้องกันสายพันธุ์เสี่ยงสูงก่อมะเร็งทวารหนัก มะเร็งองคชาต รวมถึงสายพันธุ์เสี่ยงต่ำ ต้นตอของหูดหงอนไก่ด้วย

หากเป็นไปได้ ควรฉีดก่อนอายุ 15 ปี เพราะเด็กจะฉีดวัคซีน HPV เพียง 2 เข็ม ทำให้ไม่ต้องเจ็บตัวมาก ช่วยประหยัดค่าใช้จ่าย และประสิทธิภาพไม่ต่างจากการฉีด  3 เข็มอีกด้วย

เนื่องจากวัคซีน HPV เป็นวัคซีนเสริมที่ต้องจ่ายเพิ่มเติมเองให้บุตรหลาน ผู้ปกครองสามารถปรึกษาแพทย์ถึงความเหมาะสม ประสิทธิภาพ และประโยชน์ของชนิดวัคซีนก่อนฉีดได้  

คำแนะนำก่อนพาลูกไปฉีดวัคซีน HPV

วัคซีน HPV มีความปลอดภัยสูง แต่อาจก่อให้เกิดผลข้างเคียงต่อเด็กได้เช่นเดียวกับวัคซีนทั่วไป ส่วนใหญ่ไม่รุนแรง พักผ่อนไม่นานก็หายดี เช่น ปวด บวม แดงตรงจุดที่ฉีดยา มีไข้ต่ำ ๆ ปวดตัว ปวดศีรษะ 

กรณีเด็กมีไข้ หนาวสั่นในวันนัดหมายฉีดวัคซีน HPV แพทย์อาจให้เลื่อนนัดฉีดวัคซีนออกไปก่อนจนกว่าจะหายดี เพราะอาจทำให้อาการป่วยแย่ลงได้

ที่สำคัญ หากเด็กมีประวัติแพ้ยา ส่วนประกอบของวัคซีนอย่างยีสต์ หรืออาการแพ้ใด ๆ ควรแจ้งให้แพทย์ทราบก่อนฉีดวัคซีน เพื่อความปลอดภัยต่อตัวเด็ก 

อย่างที่บอกว่า วัคซีน HPV จะมีประสิทธิภาพมากเมื่อฉีดตั้งแต่อายุยังน้อย ผู้ปกครองจึงควรพาบุตรหลานไปฉีดเมื่ออายุถึงเกณฑ์แนะนำ หากยังไม่แน่ใจว่าควรให้ลูกฉีดวัคซีนชนิดไหนดี สามารถปรึกษาแพทย์ถึงความจำเป็น และความเหมาะสมก่อนฉีดได้ 

สุขภาพของลูกเป็นเรื่องที่ละเลยไม่ได้ ค้นหา แพ็กเกจฉีดวัคซีน HPV 2-4-9 สายพันธุ์ ตั้งแต่วันนี้ HDmall.co.th รวมมาแล้วครบทุกชนิด โปรดีแบบนี้ห้ามพลาด 

Scroll to Top