การฉีดโบท็อกซ์เป็นหัตถการที่ได้รับความนิยมมากในการดูแลความสวยงามของใบหน้าและร่างกาย เพราะคุณสมบัติของโบท็อกซ์คือ การคลายกล้ามเนื้อใบหน้า ส่งผลให้ริ้วรอยลดเลือน กระชับผิวที่หย่อนคล้อย ทำให้ดูอ่อนวัยกว่าเดิม และยังช่วยปรับโครงหน้าให้เรียวขึ้นได้
แม้โบท็อกซ์จะนิยมใช้อย่างแพร่หลาย แต่ก็ยังมีความเข้าใจผิดมากมายเกี่ยวกับหัตถการนี้อยู่ ซึ่งการฉีดโบท็อกซ์อย่างขาดความรู้และความเข้าใจ อาจเพิ่มความเสี่ยงให้เกิดปัญหาตามมา ทั้งเรื่องความสวยงามและสุขภาพ
มาดูกันว่าจะมีเรื่องอะไรบ้าง แล้วความจริงเป็นอย่างไร พร้อมคำแนะนำในการฉีดโบท็อกซ์อย่างถูกต้อง เพื่อผลลัพธ์ตรงใจ แก้ไขปัญหาตรงจุด และไม่เสี่ยงอันตรายกัน
7 เรื่องเข้าใจผิดเกี่ยวกับการฉีดโบท็อกซ์
ปัจจุบันมีหลากหลายความเข้าใจผิดเกี่ยวกับโบท็อกซ์ ทั้งเรื่องประโยชน์ จำนวนยูนิตในการฉีด ขั้นตอนการทำ และเรื่องอื่นอีกมากมาย
ฉีดโบท็อกซ์ ยิ่งยูนิตเยอะ ยิ่งดี?
ยูนิต (Unit) เป็นหน่วยในการฉีดโบท็อกซ์ หลายคนอาจเข้าใจว่า การยิ่งโบท็อกซ์หลายยูนิตเท่าไหร่ยิ่งดี จริง ๆ แล้ว กล้ามเนื้อแต่ละจุดสามารถรองรับโบท็อกซ์ได้ในจำนวนยูนิตที่ต่างกัน
การฉีดน้อยเกินไปก็อาจทำให้ไม่เห็นผล แต่การฉีดโบท็อกซ์มากเกินไปอาจทำให้เกิดปัญหา อย่างใบหน้าดูไม่เป็นธรรมชาติ หรือใบหน้าดูแปลกไปเมื่อแสดงความรู้สึก โดยปกติแล้ว คุณหมอจะช่วยประเมินจำนวนยูนิตตามปัญหาผิวที่ต้องการแก้ไข และจุดที่อยากฉีด
โดยคร่าว ๆ แต่ละจุดใบหน้าอาจใช้จำนวนยูนิตในการฉีด ดังนี้
- ลดริ้วรอยที่หน้าผาก 30 ยูนิต
- ลดรอยตีนกาที่หางตา 25 ยูนิต
- ลดรอยย่นระหว่างคิ้ว 25 ยูนิต
- รัดแกน/ลดปีกจมูก 25 ยูนิต
อย่างไรก็ตาม ก็ขึ้นอยู่กับความต้องการของแต่ละคนด้วย ก่อนฉีดโบท็อกซ์จำเป็นต้องพูดคุยและปรึกษากับคุณหมอก่อนถึงผลลัพธ์ที่ต้องการ และตรวจดูสภาพผิวเบื้องต้น
โบท็อกซ์ทำได้แค่แก้รอยย่นและริ้วรอยเท่านั้น?
ข้อดีของการฉีดโบท็อกซ์ที่คนส่วนใหญ่รับรู้ คือ การแก้ไขปัญหาริ้วรอยและรอยย่นบนใบหน้า ในความเป็นจริงแล้ว โบท็อกซ์ยังใช้เพื่อจุดประสงค์อื่น ทั้งความสวยงามและปัญหาสุขภาพ เช่น
- ปรับโครงหน้า กรอบหน้าให้ดูชัดเจน หรือเรียวเป็นวีเชฟ (V-shape) มากขึ้น
- ใช้ยับยั้บการทำงานของต่อมเหงื่อในคนที่มีปัญหาเหงื่อออกมาก หรือมีกลิ่นตัว
- ใช้รักษาโรคกล้ามเนื้อต่าง ๆ เช่น การบิดเกร็ง ตากระตุก หรือปวดกล้ามเนื้อ
- ช่วยลดหรือบรรเทาอาการปวดหัวไมเกรน
โบท็อกซ์ฉีดได้แค่เฉพาะที่หน้า?
โบท็อกซ์ฉีดได้หลายส่วนในร่างกาย ขึ้นอยู่กับจุดประสงค์ที่ต้องการทำ ส่วนใหญ่จะนิยมฉีดที่ใบหน้า ระหว่างคิ้ว หางตา ร่องแก้ม จมูก และลำคอ เพื่อช่วยลดริ้วรอยร่องลึก และยกกระชับผิวที่หย่อนคล้อย
รวมไปถึงการฉีดตรงสันกราม ช่วยเพิ่มความคมชัดของใบหน้า และน่องขา เพื่อให้กล้ามเนื้อมีขนาดเล็กลง ขาดูเรียวขึ้น น่องปูดน้อยลง
นอกจากนี้ ยังใช้ฉีดตามส่วนอื่นในร่างกาย แล้วแต่จุดประสงค์ด้วย เช่น ฉีดโบท็อกซ์ที่ฝ่าเท้าและรักแร้ เพื่อระงับเหงื่อและกลิ่น หรือฉีดเข้ากล้ามเนื้อส่วนอื่นเพื่อรักษาโรคกล้ามเนื้อ
โบท็อกซ์ผสมน้ำเกลือคือ ของปลอม?
ปัจจุบันมีโบท็อกซ์ออกมาหลายยี่ห้อ ทั้งที่เป็นของแท้และของปลอม แน่นอนว่าคนไม่ต้องการฉีดโบท็อกซ์ของปลอมเข้าไปในร่างกาย ซึ่งหนึ่งในความเชื่อเกี่ยวกับโบท็อกซ์ปลอม คือ โบท็อกซ์ที่ผสมน้ำเกลือเป็นโบท็อกซ์ปลอม
ความเป็นจริงแล้ว รูปแบบของสารโบท็อกซ์ก่อนใช้ จะเป็นผลึกคล้ายกับผงที่บรรจุในขวด จึงจำเป็นต้องใช้น้ำเกลือเพื่อช่วยละลายโบท็อกซ์ในปริมาณที่เหมาะสมก่อนใช้งาน หรือฉีดเข้าร่างกายเรานั่นเอง
โบท็อกซ์ฉีดได้เรื่อย ๆ ไม่ดื้อยา ไม่ดื้อโบฯ ?
ภาวะดื้อโบท็อกซ์ หรือที่เรียกกันว่าดื้อโบ เกิดจากการที่ร่างกายปรับตัวแล้ว สร้างสารเข้ามาทำลายตัวยาโบท็อกซ์ ทำให้ประสิทธิภาพและการออกฤทธิ์ของโบท็อกซ์ลดลง ซึ่งเกิดได้จากหลายปัจจัย เช่น ฉีดโบท็อกซ์บ่อยเกินไป โบท็อกซ์ปลอม ไม่ได้มาตรฐาน
อธิบายง่าย ๆ คือฉีดโบท็อกซ์แล้วไม่เห็นผล แต่ละคนอาจดื้อโบท็อกซ์มากน้อยไม่เท่ากัน อาจใช้ยูนิตของโบท็อกซ์เท่าเดิมแล้วเห็นผลน้อยลง หรือใช้ยูนิตของโบท็อกซ์เพิ่มแล้ว แต่ไม่เห็นการเปลี่ยนแปลง
เพื่อความปลอดภัย และลดโอกาสที่จะดื้อโบท็อกซ์ การฉีดโบท็อกซ์ควรเว้นระยะการฉีดอย่างน้อย 3 เดือนจากครั้งล่าสุด แต่ไม่ควรนานเกิน 6 เดือน เพราะกล้ามเนื้อจะกลับมาทำงานตามปกติ ทำให้ต้องใช้ยูนิตของโบท็อกซ์เยอะขึ้น แม้จะเป็นโบท็อกซ์แท้ ได้มาตรฐานก็ตาม
ฉีดโบท็อกซ์อันตราย มีพิษสะสม?
การฉีดโบท็อกซ์มีความปลอดภัย แต่ต้องอยู่ภายใต้การดูแลของคุณหมอที่มีความชำนาญ ฉีดในปริมาณและความถี่ที่เหมาะสม ผลข้างเคียงหลังฉีดส่วนใหญ่ไม่อันตราย และหายเองได้ เช่น บวม แดง ช้ำ ตรงบริเวณที่ฉีด ส่วนอาการแพ้อาจเกิดขึ้นได้ในบางคน แต่น้อยมาก
ทั้งนี้ การใช้โบท็อกซ์เถื่อน ของปลอม จัดเก็บไม่ดี หรือไม่ได้มาตรฐาน รวมถึงการใช้บริการจากหมอเถื่อน สามารถทำให้เกิดผลข้างเคียงที่เป็นอันตรายต่อกล้ามเนื้อ ความงาม และสุขภาพได้ จึงควรเลือกโรงพยาบาลหรือคลินิกที่น่าเชื่อถือ โบท็อกซ์เป็นของแท้ มีมาตรฐาน
ฉีดโบท็อกซ์ยี่ห้อไหนก็เหมือนกัน?
โบท็อกซ์มีอยู่หลากหลายยี่ห้อ แต่ละยี่ห้อมีคุณสมบัติและจุดเด่นต่างกัน ขึ้นอยู่กับขั้นตอนการผลิตของแต่ละประเทศ ความบริสุทธิ์ของตัวยา กลไกการออกฤทธิ์ ไปจนถึงการเก็บรักษาตัวยา
การฉีดโบท็อกซ์แต่ละยี่ห้อเลยให้ผลไม่เหมือนกันทั้งหมด ขึ้นอยู่กับพอใจของผู้เข้ารับบริการ ร่วมกับการปรึกษากับคุณหมอที่ดูแล เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ตรงใจ และปลอดภัย
เรื่องที่คุณต้องรู้และต้องเช็กก่อนฉีดโบท็อกซ์
วิธีต่อไปนี้สามารถช่วยเพิ่มความปลอดภัยและความสบายใจในการฉีดโบท็อกซ์ได้
- เลือกโรงพยาบาลหรือคลินิกที่ได้รับการอนุญาตจากกระทรวงสาธารณสุข
- เช็กทะเบียนแพทย์ผู้ให้บริการว่าเป็นแพทย์จริง มีใบประกอบวิชาชีพจากแพทย์สภา สามารถตรวจสอบได้ที่ เว็บไซต์แพทยสภา
- เช็กโบท็อกซ์ว่าเป็นของแท้ มีเลขทะเบียน อย. และเอกสารกำกับภาษาไทย เลขการผลิตหรือเลข Lot. บนขวดโบท็อกซ์และกล่องโบท็อกซ์ตรงกัน
- การฉีดโบท็อกทุกครั้งควรจะเปิดขวดใหม่ ผสมยาต่อหน้า กรณีที่ฉีดโบท็อกซ์น้อย ไม่ถึง 50 ยูนิตหรือ 100 ยูนิต ควรหาคนมาแชร์ยูนิตให้ครบ เพื่อมั่นใจได้ว่าเป็นโบท็อกซ์แท้ ยี่ห้อที่เลือกฉีด ไม่มีการนำโบท็อกซ์ยี่ห้ออื่นหรือของปลอมาใส่ให้
- หลังฉีดควรจะเก็บขวดและกล่องกลับบ้าน หรือถ่ายรูปเก็บไว้ เพื่อไว้ตรวจสอบว่าเป็นโบท็อกซ์แท้ โดยสามารถนำเลข Lot. เช็กกับบริษัทผู้ผลิตหรือนำเข้าโบท็อกซ์ยี่นั้นได้โดยตรง
เพียงแค่นี้ก็สามารถฉีดโบท็อกซ์ เพิ่มความตึงกระชับของใบหน้า และลดริ้วรอยได้อย่างปลอดภัยแล้ว หากคุณมีข้อสงสัยเพิ่มเติม สามารถปรึกษาแพทย์หรือเจ้าหน้าที่ก่อน เพื่อความปลอดภัยและสบายใจได้เลย
สวยไม่เจ็บตัวหนักด้วยการฉีดโบท็อกซ์ ง่ายและปลอดภัยกว่าที่คิด ส่องแพ็กเกจฉีดโบท็อกซ์ บริการดี ราคาโดนจากรพ. และคลินิกที่น่าเชื่อถือได้ที่ HDmall.co.th