มะเร็งเต้านม (Breast Cancer) เป็นโรคมะเร็งที่ผู้หญิงเราพบได้บ่อยที่สุด แต่ก็พบในผู้ชายได้เช่นกัน โรคนี้อาจสังเกตอาการได้ยากในช่วงเริ่มแรก แต่ถ้าตรวจเจอได้เร็วก็สามารถรักษาและมีโอกาสหายได้มากตามไปด้วย การหมั่นสังเกตความผิดปกติของเต้านมอยู่เสมอ จึงเป็นกุญแจสำคัญที่ช่วยลดความรุนแรงและโอกาสเสียชีวิตได้ มาดูกันดีกว่าว่า อาการมะเร็งเต้านมจะมีอะไรบ้าง
สารบัญ
มะเร็งเต้านมเกิดจากอะไร?
สาเหตุของมะเร็งเต้านมยังไม่ทราบแน่ชัด แต่คาดว่ามีหลายปัจจัยที่ทำให้เซลล์บริเวณเต้านมกลายพันธุ์ เกิดการเจริญเติบโตอย่างผิดปกติจนควบคุมไม่ได้กลายเป็นก้อนเนื้อมะเร็งในที่สุด เช่น อายุที่มากขึ้น ฮอร์โมน กรรมพันธุ์ โรคเกี่ยวกับเต้านม ไปจนถึงวิถีชีวิตของแต่ละคน ในแต่ละปีจะมีผู้ป่วยเสียชีวิตจากมะเร็งชนิดนี้จำนวนมาก เรียกได้ว่าเป็นอันดับหนึ่งของมะเร็งในผู้หญิง และติดท็อป 3 โรคมะเร็งที่คร่าชีวิตคนมากที่สุด เป็นรองเพียงมะเร็งปอดเท่านั้นเอง
รวม 6 อาการมะเร็งเต้านมที่ควรสังเกต
ผู้ป่วยมะเร็งเต้านมในช่วงระยะเริ่มต้นอาจไม่แสดงอาการออกมา เนื่องจากก้อนเนื้อยังมีขนาดเล็กและยังไม่แพร่ไปยังอวัยวะโดยรอบหรืออาจแพร่ไปเพียงเล็กน้อย ทำให้ผู้ป่วยหลายคนไม่สังเกตว่ากำลังป่วยเป็นโรคมะเร็งเต้านม และละเลยการรักษาไป
1.คลำพบก้อนใต้เต้านมหรือรักแร้
อาการหลักของมะเร็งเต้านม คือ มีก้อนใต้เต้านมหรือรักแร้ มักเป็นก้อนแข็ง ไม่เรียบ และไม่เจ็บปวด โดยก้อนเนื้อที่คลำเจอจะไม่หายไปแม้หมดประจำเดือนไปแล้ว แต่บางรายอาจเจอก้อนเนื้อที่นิ่ม เรียบ และเจ็บปวดได้เช่นกัน แต่จะพบได้น้อยกว่า
2.รูปร่าง ขนาด และผิวหนังของเต้านมเปลี่ยนไป
รูปร่างหรือขนาดของเต้านมหรือหัวนม ข้างใดข้างหนึ่งหรือทั้งสองข้างเปลี่ยนไปจากเดิม หน้าอกอาจจะใหญ่ เล็ก หรือไม่เท่ากัน ผิวหนังบริเวณเต้านมจะบุ๋มคล้ายลักยิ้ม ผิวย่นคล้ายเปลือกส้ม หัวนมบุ๋มลงไปหรือหัวนมบอด เต้านมทั้งเต้าหรือบางส่วนบวม ผิวหนังจุดที่มีเซลล์มะเร็งอาจหนาขึ้นผิดกับบริเวณโดยรอบ
3.มีของเหลวไหลจากหัวนม
มีของเหลวที่ไม่ใช่น้ำนม เช่น เลือด หนอง หรือน้ำเหลือง ไหลออกมาจากหัวนม โดยอาจจะเกิดกับเต้านมเพียงข้างเดียว
4.เกิดผื่นแดงคันที่เต้านม
เกิดผื่นแดง แสบ ๆ คัน ๆ บริเวณเต้านมหรือหัวนม ทำให้เต้านมหรือหัวนมแดง แห้ง ลอกเป็นขุย ตกสะเก็ด หรือเป็นแผล แม้รักษาแล้วอาการก็ยังไม่ดีขึ้นหรืออาการไม่หายไป
5.มีอาการเจ็บผิดปกติที่เต้านมหรือรักแร้
มีอาการเจ็บปวดที่เต้านม หัวนม หรือใต้รักแร้ มักเจ็บอยู่ข้างเดียว โดยไม่ใช่ช่วงมีประจำเดือน และอาการไม่ยอมหายไป รวมถึงต่อมน้ำเหลืองใต้รักแร้หรือใกล้ไหปลาร้าบวม ซึ่งอาจเป็นสัญญาณของก้อนมะเร็งระยะเริ่มต้นที่ยังมีขนาดเล็ก
6.อาการมะเร็งเต้านมอื่น ๆ
กรณีมะเร็งเต้านมแพร่กระจายไปสู่อวัยวะรอบข้างอยางกระดูก ตับ ปอด หรือสมอง ผู้ป่วยอาจมีอาการเหนื่อยล้า ไม่มีแรง ไม่อยากอาหาร รู้สึกป่วยโดยไม่มีสาเหตุ หรือนอนหลับยากได้ด้วย
อาการที่ยกมาอาจเกิดจากปัญหาสุขภาพอื่น ๆ นอกจากมะเร็งเต้านมได้เช่นกัน หากคลำเต้านมหรือใต้รักแร้แล้วเจอก้อน แม้จะขนาดเล็ก พบอาการปวดหรือความผิดปกติ ทั้งขนาดและรูปร่างของเต้านม หัวนม ควรรีบไปตรวจอย่างละเอียดที่โรงพยาบาลโดยเร็ว
มีอาการเตือนมะเร็งเต้านม ต้องทำยังไง?
เมื่อคลำเต้านมด้วยตัวเองแล้วพบก้อนแปลก ๆ หรือเกิดความผิดปกติที่เต้านม หัวนม หรือใต้รักแร้ สิ่งแรกที่ควรทำคือ ไปตรวจร่างกายอย่างละเอียดกับแพทย์ที่โรงพยาบาล โดยแพทย์มักส่งตรวจแมมโมแกรม (Mammograms) และวิธีอื่น ๆ ประกอบ เช่น การอัลตราซาวด์ (Ultrasound) การตรวจคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า (MRI Scan) หรือการตัดชิ้นเนื้อส่งตรวจ (Biopsy) ซึ่งจะบอกได้ว่า ก้อนเนื้อหรืออาการที่เป็นอยู่ใช่มะเร็งไหม อยู่ในระยะที่เท่าไหร่ และแพร่กระจายหรือไม่ ช่วยให้แพทย์พิจารณาการรักษาที่เหมาะสมกับผู้ป่วยมากที่สุดได้
มะเร็งเต้านมเป็นโรคร้ายแรง แต่ยังมีโอกาสหายขาดได้ โดยเฉพาะผู้ป่วยที่ตรวจเจอโรคได้เร็วและรับการรักษาตั้งแต่เนิ่น ๆ รู้แบบนี้แล้ว คุณผู้หญิงทั้งหลายควรตรวจเต้านมด้วยการคลำเต้านมเป็นประจำทุกเดือน เมื่อพบอาการมะเร็งเต้านมในข้างต้น ควรไปตรวจกับแพทย์ทันที สำหรับผู้หญิงอายุ 25 ปีขึ้นไป ควรตรวจคัดกรองโดยแพทย์ทุก 1-3 ปีร่วมด้วย และผู้หญิงอายุ 40 ปีขึ้นไป ควรเพิ่มการตรวจแมมโมแกรมทุกปี
ปวดเต้านมไม่หาย ก้อนที่คลำเจอใช่มะเร็งไหมก็ไม่รู้ แต่ที่รู้ ๆ อย่าปล่อยทิ้งไว้เลย แอดมินเป็นห่วง… ให้คุณหมอช่วยตรวจอย่างละเอียดดีกว่า หาแพ็กเกจตรวจคัดกรองมะเร็งเต้านม พร้อมเปรียบเทียบราคาได้ที่ HDmall.co.th จองราคาโปรแล้วยังได้ส่วนลดเพิ่มด้วยนะ คลิกดูโปร
