หลอดเลือดอัณฑะขอด หรือ มีเส้นเลือดขอดในถุงอัณฑะ เป็นภาวะที่พบได้โดยทั่วไปในผู้ชาย ส่วนมากพบเมื่อเข้าสู่วัยหนุ่ม ภาวะผิดปกตินี้ส่วนใหญ่ไม่ได้ก่อให้เกิดอันตรายร้ายแรงถึงชีวิต และถ้าเป็นไม่มากอาจไม่กระทบกับการใช้ชีวิต และไม่มีผลต่อการมีบุตร บางคนอาจเลือกอยู่กับภาวะนี้ได้โดยไม่ต้องทำอะไรเลย
อย่างไรก็ตาม ถ้าเริ่มมีภาวะนี้เมื่ออายุยังน้อย อัณฑะอาจพัฒนาไม่เต็มที่ หรือถ้าเป็นมากขึ้นเรื่อยๆ อาจเกิดภาวะแทรกซ้อนอื่นๆ ได้ ที่พบได้บ่อยอย่างหนึ่งคือ ภาวะมีบุตรยาก
สารบัญ
หลอดเลือดอัณฑะขอด คืออะไร?
หลอดเลือดอัณฑะขอด (Varicocele) คือ ภาวะผิดปกติที่หลอดเลือดในถุงอัณฑะบริเวณเหนือลูกอัณฑะมีขนาดใหญ่ขึ้น
ส่วนใหญ่คนที่เป็นหลอดเลือดอัณฑะขอดมักเป็นที่อัณฑะข้างซ้าย มีส่วนน้อยที่จะเป็นข้างขวา หรือเป็นทั้ง 2 ข้าง สาเหตุอาจมาจากหลอดเลือดในอัณฑะข้างซ้ายยาวกว่าหลอดเลือดในอัณฑะด้านขวา และมีการต่อเข้ากับหลอดเลือดดำไตซ้ายในมุมฉาก ทำให้มีแรงดันเลือดมากกว่า มีโอกาสเกิดเส้นเลือดขอดได้มากกว่า ในขณะที่หลอดเลือดในอัณฑะด้านขวาสั้นกว่าและต่อเข้ากับหลอดเลือดดำใหญ่ส่วนล่าง (IVC) ในมุมเอียง แรงดันย้อนกลับในหลอดเลือดนี้จึงน้อยกว่า
อาการหลอดเลือดอัณฑะขอด
ผู้ป่วยหลอดเลือดอัณฑะขอดบางรายอาจไม่รู้สึกถึงความผิดปกติใดๆ เลย หรือพบอาการผิดปกติเพียงเล็กน้อย เช่น
- รู้สึกปวดที่อัณฑะแบบเป็นๆ หายๆ เมื่อนอนราบลงแล้วอาการดีขึ้น
- ปวดหน่วงๆ บริเวณอัณฑะ
- รู้สึกหนักๆ ที่อัณฑะ
ถ้าหลอดเลือดที่ขอดมีขนาดใหญ่ ผู้ป่วยอาจสังเกตพบอัณฑะบวม อัณฑะปูด อัณฑะสองข้างมีขนาดไม่เท่ากัน หรือถ้าเป็นมากอาจเห็นถุงอัณฑะด้านบนมีลักษณะคล้ายถุงที่ข้างในบรรจุเส้นสปาเกตตี หรือบางคนอาจคลำพบก้อนเล็กๆ เหนือลูกอัณฑะ
สาเหตุหลอดเลือดอัณฑะขอด
ปัจจุบันยังไม่พบสาเหตุแน่ชัดของภาวะหลอดเลือดอัณฑะขอด แต่มีข้อสันนิษฐานว่าอาจเกิดจากความผิดปกติของลิ้นเปิดปิดภายในหลอดเลือดดำ ที่ทำให้รบกวนการไหลเวียนของเลือด จนมีเลือดค่อยๆ คั่งค้างสะสมในหลอดนั้น เมื่อนานเข้าจึงเกิดเป็นภาวะหลอดเลือดขอด
หลอดเลือดที่ว่านี้อยู่ในสายรั้งอัณฑะ (Spermatic Cord – เนื้อเยื่อซึ่งทำหน้าที่ยึดให้ลูกอัณฑะอยู่ในตำแหน่งปกติ) ตามปกติหลอดเลือดดังกล่าวทำหน้าที่ส่งเลือดจากลูกอัณฑะกลับเข้าสู่ร่างกาย โดยมีลิ้นเปิดปิดอยู่ข้างใน ทำหน้าที่ควบคุมทิศทางไหลของเลือด
กลุ่มเสี่ยงหลอดเลือดอัณฑะขอด
ผู้ชายทุกคน ทุกวัย มีโอกาสเป็นหลอดเลือดอัณฑะขอด ในผู้ชายทั่วไปสามารถพบภาวะนี้ได้ราว 15% และในกลุ่มผู้ชายที่มีบุตรยากสามารถพบภาวะนี้ได้ประมาณ 40%
ในเด็กอายุตำกว่า 10 ปีถือว่าพบภาวะหลอดเลือดอัณฑะขอดได้น้อย จะพบมากขึ้นเมื่อเข้าสู่วัยรุ่น คือประมาณ 15-20% ช่วงวัยที่พบภาวะนี้มากที่สุด (ประมาณ 42 %) คือวัยสูงอายุ
หลอดเลือดอัณฑะขอดกับภาวะมีบุตรยาก
หลอดเลือดอัณฑะขอดไม่ทำให้เกิดภาวะมีบุตรยากเสมอไป ผู้ป่วยบางรายอาจมีภาวะนี้โดยที่มีบุตรได้ตามปกติ
อย่างไรก็ตาม หลอดเลือดอัณฑะขอดถือเป็นสาเหตุของภาวะมีบุตรยากที่แก้ไขได้ที่พบบ่อยที่สุด ความเกี่ยวข้องระหว่างหลอดเลือดอัณฑะขอดกับภาวะมีบุตรยาก มีดังนี้
- การมีหลอดเลือดขอดในอัณฑะอาจทำให้อุณหภูมิในอัณฑะเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งมีผลต่อปริมาณสเปิร์มและการสร้างสเปิร์ม
- ยิ่งหลอดเลือดที่ขอดมีขนาดใหญ่ ยิ่งมีโอกาสสูงขึ้นที่จะเกิดภาวะแทรกซ้อน เช่น
- ฮอร์โมนเพศชาย (Testosterone) ลดต่ำลง นำไปสู่ปัญหาลูกอัณฑะหดตัว ความต้องการทางเพศลดลง มวลกล้ามเนื้อลดลง ไปจนถึงมีผลต่อภาวะซึมเศร้า
- ภาวะ Azoospermia คือ ภาวะที่ไม่มีตัวสเปิร์มในน้ำเชื้อ
กรณีที่มีภาวะหลอดเลือดอัณฑะขอดตั้งแต่อายุยังน้อย มีโอกาสที่ภาวะนี้จะไปขัดขวางการเจริญเติบโตของลูกอัณฑะ ทำให้สเปิร์มมีปริมาณน้อย เป็นอีกสาเหตุที่ทำให้เกิดภาวะมีบุตรยากได้เช่นกัน
วิธีรักษาหลอดเลือดอัณฑะขอด
เนื่องจากหลอดเลือดอัณฑะขอดมักไม่ก่อให้เกิดความเจ็บปวด หรือเจ็บปวดบ้างเล็กน้อย ไม่ได้เป็นอันตรายถึงแก่ชีวิต ผู้ป่วยจึงอาจอยู่ร่วมกับโรคนี้โดยไม่ต้องรักษา อย่างไรก็ตาม กรณีที่ผู้ป่วยรู้สึกเจ็บปวดมาก หรืออัณฑะบวมมากจนทำให้เกิดการเสียดสีขณะเคลื่อนไหวร่างกายจนรบกวนการใช้ชีวิตประจำวัน หรือมีภาวะนี้ร่วมกับมีบุตรยาก อาจพิจารณาหัตถการรักษาหลอดเลือดอัณฑะขอด โดยปัจจุบันมีหลายเทคนิค ดังนี้
ผ่าตัดรักษาหลอดเลือดอัณฑะขอดแบบผ่าตัดเปิด
เทคนิคนี้แพทย์จะผ่าตัดเปิดแผลเข้าสู่ตำแหน่งหลอดเลือดที่ขอดในถุงอัณฑะ จากนั้นทำการผูกปลายสองข้างของหลอดเลือดขอดแล้วตัดหลอดเลือดนั้นทิ้งไป
ผ่าตัดรักษาหลอดเลือดอัณฑะขอดแบบส่องกล้องแผลเล็ก
เทคนิคนี้แพทย์จะเจาะเปิดแผลขนาดประมาณรูกุญแจบริเวณหน้าท้องส่วนล่างของผู้ป่วย กับอีก 2 แผลขนาดประมาณ 1 มิลลิเมตร เพื่อเป็นทางใส่กล้องขยายกำลังสูงและเครื่องมือผ่าตัด จากนั้นใช้อุปกรณ์หนีบหลอดเลือดเพื่อหยุดการไหลเวียนเลือด แล้วตัดหลอดเลือดส่วนที่ขอดออก
ใช้ขดลวดหรือของเหลวเข้าไปอุดหลอดเลือดอัณฑะที่ขอด
เทคนิคเป็นการรักษาโดยไม่ต้องผ่าตัด แต่แพทย์จะใช้การสอดท่อเข้าที่ขาหนีบผู้ป่วย แล้วดันเข้าไปสู่หลอดเลือดดำในถุงอัณฑะส่วนที่มีปัญหา จากนั้นปล่อยขดลวดหรือของเหลวที่จะออกฤทธิ์หยุดการไหลเวียนเลือดออกมา
การตัดหรือปิดทางไหลเวียนเลือดไม่ให้ผ่านบริเวณเส้นเลือดขอด จะทำให้เลือดเปลี่ยนทางไปใช้หลอดเลือดเส้นอื่นที่อยู่ใกล้เคียงกันแทน
หลอดเลือดอัณฑะขอดเป็นภาวะที่เกิดจากเส้นเลือดขอดในถุงอัณฑะ อาจไม่แสดงอาการ หรือมีอาการเล็กน้อย เช่น ปวดอัณฑะ อัณฑะบวม อัณฑะปูด ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของโรค แม้จะเป็นสาเหตุที่พบบ่อยของภาวะมีบุตรยากในผู้ชาย แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าทุกคนที่เป็นจะต้องมีปัญหาดังกล่าว ที่สำคัญคือ ภาวะนี้สามารถรักษาได้ มีทางเลือกให้แผลเล็ก เจ็บตัวน้อย แผลหายไว
อยากมีลูก ไม่เคยสังเกตพบอาการผิดปกติอะไร แต่ไม่มีลูกสักที สาเหตุจะใช้ภาวะหลอดเลือดอัณฑะขอดหรือเปล่า? ปรึกษาทีม HDcare ได้เลย เราพร้อมเป็นผู้ช่วยส่วนตัวดูแลสุขภาพคุณ สอบถามข้อมูลเบื้องต้นกับคุณหมอเฉพาะทาง ทำนัดปรึกษาคุณหมอได้รวดเร็ว หรือค้นหาแพ็กเกจตรวจคัดกรองโรค จาก รพ. หรือคลินิกใกล้คุณได้ทันที คลิกที่นี่