การผ่าตัดเสริมหน้าอก นอกจากจะต้องพิจารณาเรื่องขนาดและรูปทรงแล้ว อีกหนึ่งประเด็นสำคัญที่ไม่ควรมองข้ามก็คือ “ผิวของซิลิโคน” เพราะผิวสัมผัสของซิลิโคนมีผลต่อทั้งผลลัพธ์ระยะยาว การเกิดพังผืด และความปลอดภัยในการใช้งาน
บทความนี้จะพาคุณไปรู้จักประเภทของผิวซิลิโคนอย่างละเอียด เปรียบเทียบข้อดีข้อเสียของแต่ละแบบ เพื่อให้คุณสามารถเลือกซิลิโคนที่เหมาะกับตัวเองได้
สารบัญ
ประเภทของผิวซิลิโคนเสริมหน้าอก
โดยทั่วไป ผิวของซิลิโคนสามารถแบ่งได้เป็น 3 ประเภทหลักๆ ดังนี้
1. ซิลิโคนผิวเรียบ (Smooth Implant)
ลักษณะเด่นของซิลิโคนผิวเรียบคือผิวสัมผัสนุ่มลื่น มีความเงาใส คล้ายพลาสติกใสบางๆ จุดเด่นที่หลายคนชื่นชอบคือรูปทรงดูเป็นธรรมชาติเมื่อเสริมเข้าไปในร่างกาย และมีความยืดหยุ่นสูง เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความรู้สึกนิ่มคล้ายเนื้อหน้าอกจริง
จุดเด่นของซิลิโคนผิวเรียบ
- มีผิวสัมผัสที่นิ่ม ดูเป็นธรรมชาติ เพราะบางและยืดหยุ่น
- เคลื่อนไหวได้คล้ายเต้านมจริง เช่น เวลายืนจะมีลักษณะหย่อนเล็กน้อย เวลานอนจะกระจายไปด้านข้าง
- เหมาะกับการวางใต้กล้ามเนื้อ ช่วยเพิ่มความแนบเนียนและลดความเสี่ยงของการคลำเจอขอบซิลิโคน
ข้อควรระวัง
- ต้องนวดหน้าอกอย่างสม่ำเสมอเพื่อป้องกันการเกิดพังผืด
- อาจมีโอกาสที่ซิลิโคนจะเคลื่อนที่ได้ในบางราย
- ผิวเรียบทำให้เนื้อเยื่อของร่างกายไม่สามารถยึดเกาะได้ดีเท่าผิวทราย
2. ซิลิโคนผิวทราย (Textured Implant)
ซิลิโคนชนิดนี้มีผิวสัมผัสที่หยาบเล็กน้อยเมื่อสัมผัส คล้ายเม็ดทรายละเอียด ผิวด้านนอกจะยึดติดกับเนื้อเยื่อรอบๆ ได้ดี จึงช่วยลดการเคลื่อนที่หรือหมุนของซิลิโคนภายในเต้านม นอกจากนี้ยังถูกออกแบบมาเพื่อช่วยลดปัญหาการเกิดพังผืดรัดรอบซิลิโคน ซึ่งเป็นภาวะแทรกซ้อนที่พบได้บ่อยหลังการเสริมหน้าอก
จุดเด่นของซิลิโคนผิวทราย
- ลดการเกิดพังผืดได้ดีกว่าผิวเรียบ จึงไม่จำเป็นต้องนวดหน้าอกบ่อย
- ยึดเกาะกับเนื้อเยื่อได้ดี ลดโอกาสที่ซิลิโคนจะเคลื่อนที่ โดยเฉพาะในกรณีใช้ซิลิโคนทรงหยดน้ำ
ข้อควรระวัง
- หนากว่าและแข็งกว่าแบบผิวเรียบ ทำให้สัมผัสไม่นุ่มเท่าซิลิโคนผิวเรียบ
- มีความเชื่อมโยงกับโรค BIA-ALCL (มะเร็งต่อมน้ำเหลืองชนิดหนึ่ง) แต่พบได้น้อยมาก (ประมาณ 1 ใน 30,000 ราย) และยังไม่มีการยืนยันที่ชัดเจน
- เสี่ยงต่อการเกิดริ้วหรือขอบที่คลำเจอ โดยเฉพาะในผู้ที่มีเนื้อนมน้อยและวางซิลิโคนไว้เหนือกล้ามเนื้อ
3. ซิลิโคนผิวกึ่งเรียบกึ่งทราย (Nano-Textured)
คือทางเลือกใหม่ที่หลายโรงพยาบาลหรือคลินิกเริ่มแนะนำ เพราะผิวสัมผัสอยู่กึ่งกลางระหว่างความเรียบและหยาบ โดยมากจะพบในซิลิโคนแบรนด์ใหม่ๆ
ข้อดีของผิวกึ่งเรียบกึ่งทราย
- ให้ความรู้สึกสัมผัสที่ดูเป็นธรรมชาติ ไม่แข็งหรือหยาบเกินไป
- ลดโอกาสการเกิดพังผืดโดยไม่ต้องนวดมากเหมือนผิวเรียบ
- มีงานวิจัยบางส่วนชี้ว่าปลอดภัยมากขึ้นในระยะยาว
ข้อควรระวัง
- ยังเป็นเทคโนโลยีที่ค่อนข้างใหม่ ข้อมูลระยะยาวยังไม่สมบูรณ์
- ราคาค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับผิวแบบดั้งเดิม
ควรเลือกซิลิโคนแบบไหนดี?
การเลือกซิลิโคนขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ได้แก่
- ปริมาณเนื้อหน้าอกเดิม หากเนื้อหน้าอกน้อย แพทย์มักแนะนำให้วางใต้กล้ามเนื้อร่วมกับซิลิโคนผิวเรียบ เพื่อลดการคลำเจอขอบซิลิโคน
- ตำแหน่งวางซิลิโคน ผิวเรียบเหมาะกับการวางใต้กล้ามเนื้อ ส่วนผิวทรายอาจใช้เมื่อวางเหนือกล้ามเนื้อเพื่อช่วยยึดเกาะ
- ทรงซิลิโคนที่เลือก หากเลือกทรงหยดน้ำ ต้องใช้ซิลิโคนผิวทรายเท่านั้นเพื่อรักษาทรง
- ความกังวลเรื่องพังผืด ซิลิโคนเนื้อทราย เหมาะกับผู้ที่กังวลเรื่องการเกิดพังผืดรัดซิลิโคน
หากคุณยังไม่แน่ใจว่า ควรเลือกซิลิโคนแบบใด ควรปรึกษาศัลยแพทย์ที่มีประสบการณ์ โดยแพทย์จะพิจารณาชนิดของซิลิโคนร่วมกับลักษณะหน้าอกเดิม โครงสร้างร่างกาย จุดประสงค์ของการทำศัลยกรรม รวมทั้งความปลอดภัยระยะยาว เพื่อแนะนำตัวเลือกที่เหมาะสมที่สุดสำหรับคุณ
ไม่อยากเสี่ยงพังผืด ควรเลือกซิลิโคนแบบไหน? ซิลิโคนแบบไหนเหมาะกับรูปร่างของเรา? นัดคุยกับคุณหมอเฉพาะทาง ผ่านทีม HDcare สะดวกรวดเร็ว ทันใจ หรือค้นหาแพ็กเกจผ่าตัดเสริมหน้าอก จาก รพ. หรือคลินิกใกล้คุณได้ทันที คลิกที่นี่เลย