Default fallback image

ตรวจภาวะข้อเข่าเสื่อม มีวิธีไหนบ้าง ขั้นตอนการตรวจเป็นยังไง เจ็บไหม

ปวดเข่า มีอาการเกี่ยวกับข้อเข่า จะรู้ได้อย่างไรว่าเราเป็นโรคข้อเข่าเสื่อมหรือเปล่า? อยากตรวจให้แน่ชัด แต่ไม่รู้ว่าการตรวจเป็นอย่างไร ใช้เวลานานหรือเปล่า เจ็บไหม มาทราบวิธีตรวจวินิจฉัยโรคข้อเข่าเสื่อมพร้อมกันในบทความนี้

กระบวนการตรวจโรคข้อเข่าเสื่อม

ขั้นตอนการตรวจวินิจฉัยโรคข้อเข่าเสื่อมจะประกอบไปด้วยขั้นตอนหลักๆ ดังต่อไปนี้ 

1. การซักประวัติ และการตรวจร่างกาย

แพทย์มักเริ่มต้นการตรวจวินิจฉัยโรคข้อเข่าเสื่อมด้วยการซักประวัติ เพื่อสอบถามวิถีชีวิตประจำวันที่เกี่ยวข้องกับการใช้งานหัวเข่า ประวัติการออกกำลังกาย การเล่นกีฬา การประสบอุบัติเหตุ รวมทั้งประวัติการผ่าตัด ก็อาจเป็นหนึ่งในปัจจัยทำให้เกิดโรคข้อเข่าเสื่อมได้

หลังจากนั้นแพทย์จะตรวจดูลักษณะข้อเข่า ซึ่งจะประกอบไปด้วยวิธีตรวจหลายรูปแบบ เช่น

  • ให้ผู้ป่วยยืน เพื่อดูลักษณะภายนอกของข้อเข่า 
  • การตรวจดูผิวข้อเข่าเพื่อหาอาการบวมแดง 
  • การกดหรือโยกกระดูกสะบ้าเพื่อตรวจของเหลวภายในข้อเข่า
  • การกดกระดูกข้อเข่าหรือกระดูกหน้าแข้งส่วนต้น เพื่อตรวจประสิทธิภาพของเอ็นไขว้เข่าทั้งส่วนหน้าและส่วนหลัง
  • การตรวจดูองศาการขยับ การเหยียด การงอของข้อเข่า 
  • การฟังเสียงที่ลั่นมาจากในข้อเข่า 
  • การกดเพื่อหาตำแหน่งของอาการเจ็บที่ข้อเข่า
  • การตรวจชีพจรที่เท้าและข้อเท้า เพื่อแยกโรคอื่นๆ เช่น โรคเกี่ยวกับระบบไหลเวียนเลือดที่อาจเป็นสาเหตุของอาการที่คล้ายกับเป็นโรคข้อเข่าเสื่อม และทำให้ผู้ป่วยเข้าใจผิดว่า ตนเองเป็นโรคข้อเข่าเสื่อม

การซักประวัติและการตรวจร่างกายสามารถทำในห้องตรวจกับแพทย์ได้เลย ลักษณะท่าในการตรวจมักจะเป็นการยืน นั่ง หรือนอน จากนั้นผู้ป่วยทำท่าหรือปฏิบัติตามตามที่แพทย์บอก 

ระหว่างการตรวจนี้มักจะไม่ทำให้รู้สึกเจ็บ หรือเจ็บเพียงครู่เดียวสั้นๆ เท่านั้น ในระหว่างที่แพทย์จำเป็นต้องตรวจหาตำแหน่งของข้อเข่าที่มีอาการเจ็บ หรืออาการปวด

2. การตรวจเอกซเรย์ข้อเข่า

หลังจากตรวจร่างกายและผู้ป่วยมีโอกาสจะเป็นโรคข้อเข่าเสื่อม แพทย์จะส่งตัวผู้ป่วยไปรับการตรวจเอกซเรย์เพื่อดูโครงสร้างภายในของกระดูกข้อเข่าเพิ่มเติม 

ท่าสำหรับการตรวจเอกซเรย์ข้อเข่ามักจะแบ่งเป็น 2 ท่าด้วยกัน ได้แก่ ท่ายืนตรงปกติ และท่ายืนหันข้างซ้ายกับขวาพร้อมยกขาขึ้นข้างหนึ่ง โดยผลตรวจหลักๆ ที่แพทย์จะดูเพื่อตรวจวินิจฉัย ได้แก่

  • ดูลักษณะของกระดูกข้อเข่า
  • ดูขนาดช่องว่างระหว่างกระดูกข้อเข่าซึ่งบ่งบอกถึงการสึกหรอของกระดูกอ่อนข้อเข่า
  • ดูลักษณะกระดูกสะบ้า
  • ดูกระดูกงอกด้านข้างข้อที่มักเพิ่มขึ้นเมื่อเกิดโรคข้อเข่าเสื่อม

การตรวจเอกซเรย์ข้อเข่ามีขั้นตอนการตรวจที่ไม่ซับซ้อน และไม่ก่ออาการเจ็บแต่อย่างใด เพียงผู้ป่วยเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดสำหรับตรวจเอกซเรย์ จากนั้นเข้าไปยืนทำท่าตามที่เจ้าหน้าที่บอกในห้องตรวจเอกซเรย์ โดยส่วนมากใช้เวลาไม่เกิน 5-10 นาที จากนั้นก็รอฟังผลตรวจกับแพทย์ได้เลย

3. การตรวจเลือด

การตรวจเลือด เป็นการตรวจเพื่อแยกโรคอื่นๆ ที่ไม่ใช่โรคข้อเข่าเสื่อม แต่สามารถก่อให้เกิดอาการที่คล้ายกับโรคข้อเข่าเสื่อมได้ เช่น โรคข้ออักเสบรูมารอยด์ โรคเกาต์ ภาวะต่อมไทรอยด์อักเสบเรื้อรัง

กระบวนการเจาะเลือดเพื่อแยกโรคอื่นจากโรคข้อเข่าเสื่อมจะไม่ต่างจากการตรวจเลือดทั่วไป เพียงผู้ป่วยให้เจ้าหน้าที่เจาะเก็บตัวอย่างเลือด และรอฟังผลตรวจกับแพทย์เท่านั้น ในระหว่างที่เก็บตัวอย่างเลือดจะรู้สึกเจ็บในระหว่างที่เจ้าหน้าที่เจาะเข็มได้ แต่จะไม่อยู่ในระดับที่รุนแรง และเพียงชั่วระยะเวลาสั้นๆ เท่านั้น

ข้อเข่าเสื่อม ต้องตรวจ MRI ไหม?

การตรวจด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า หรือการทำ MRI ไม่ใช่การตรวจหลักสำหรับการวินิจฉัยโรคข้อเข่าเสื่อม เนื่องจากเป็นการตรวจที่ให้ภาพละเอียดในส่วนของเนื้อเยื่อรอบๆ กระดูกข้อเข่า แต่ไม่ใช่ในส่วนของเนื้อกระดูก

ดังนั้นโดยส่วนมากแพทย์จะไม่ได้ให้ผู้ป่วยที่มาตรวจวินิจฉัยโรคข้อเข่าเสื่อมทำ MRI ทุกราย นอกเสียจากต้องการตรวจสอบการบาดเจ็บที่เส้นเอ็น กล้ามเนื้อ หมอนรองกระดูกข้อเข่า หรือการสึกหรอของกระดูกอ่อน ซึ่งการตรวจเอกซเรย์ไม่สามารถให้ภาพรายละเอียดในส่วนนี้ได้ชัดเจน 

มีอาการแปลกๆ ที่เข่า ปวดเข่า เข่าบวม ใช้เข่าได้ไม่เต็มที่ ไม่รู้ว่าเกิดจากอะไร ปรึกษาทีม HDcare ได้เลย เราพร้อมเป็นผู้ช่วยส่วนตัวดูแลสุขภาพคุณ สอบถามข้อมูลเบื้องต้นกับคุณหมอเฉพาะทาง ทำนัดปรึกษาคุณหมอได้รวดเร็ว หรือค้นหาแพ็กเกจตรวจคัดกรองโรคข้อเข่าเสื่อม จาก รพ. หรือคลินิกใกล้คุณได้ทันที คลิกที่นี่เลย

Scroll to Top