hemifacial spasm treatment comparison scaled

3 วิธีรักษาโรคใบหน้ากระตุก กินยา ฉีดโบท็อกซ์ ผ่าตัด

วิธีรักษาโรคใบหน้ากระตุกมีหลายวิธี ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของอาการและสาเหตุของโรค ในบทความนี้จะพามาเปรียบเทียบ 3 วิธีการรักษาหลัก ได้แก่ การใช้ยา การฉีดโบท็อกซ์ และการผ่าตัด เพื่อช่วยให้คุณสามารถทราบแนวทางที่เหมาะสมกับอาการได้มากที่สุด

รวมวิธีการรักษาโรคใบหน้ากระตุก

การรักษาโรคใบหน้ากระตุก มีหลายวิธี แต่ละวิธีมีข้อดี ข้อจำกัดแตกต่างกัน ดังต่อไปนี้

1. การรักษาด้วยยา

แพทย์อาจพิจารณาให้ผู้ป่วยใช้ยาเพื่อลดอาการกระตุกของกล้ามเนื้อ ซึ่งมักได้ผลดีในผู้ที่มีอาการไม่รุนแรงมาก ยาที่ใช้สามารถแบ่งออกเป็น 3 กลุ่มหลัก ได้แก่

  1. ยาในกลุ่มคลายกล้ามเนื้อ (Muscle Relaxants) เช่น Baclofen เป็นยาที่ออกฤทธิ์โดยไปกดการทำงานของระบบประสาทส่วนกลาง ช่วยลดการหดเกร็งของกล้ามเนื้อและลดอาการกระตุก
  2. ยาในกลุ่มยากันชัก (Anticonvulsants) เช่น Carbamazepine หรือ Gabapentin โดยยาในกลุ่มนี้ช่วยลดอาการกระตุกของกล้ามเนื้อ โดยลดการส่งสัญญาณประสาทที่ผิดปกติไปยังกล้ามเนื้อ
    • Carbamazepine ออกฤทธิ์โดยลดการทำงานของเส้นประสาทที่ไวต่อการกระตุ้นเกินไป ซึ่งอาจช่วยลดอาการกระตุกของกล้ามเนื้อใบหน้าได้
    • Gabapentin มีฤทธิ์ช่วยลดอาการปวดจากเส้นประสาทและควบคุมการส่งสัญญาณประสาทที่มากเกินไป ซึ่งช่วยลดอาการกระตุกได้ดี
  3. ยาในกลุ่มยาคลายกังวล (Benzodiazepines) เช่น Clonazepam เป็นยาที่ช่วยกดการทำงานของระบบประสาท ทำให้กล้ามเนื้อผ่อนคลายและลดอาการกระตุก

ข้อดี

  • เป็นทางเลือกแรกที่ไม่ต้องมีการทำหัตถการ
  • เหมาะสำหรับผู้ที่มีอาการไม่รุนแรง
  • ค่าใช้จ่ายถูกกว่าวิธีอื่นๆ

ข้อจำกัด

  • อาจไม่ได้ผลในผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรง
  • มีผลข้างเคียง เช่น ง่วงซึม เวียนศีรษะ หรือคลื่นไส้
  • ต้องใช้ยาอย่างต่อเนื่อง และอาการอาจกลับมาเมื่อหยุดยา

2. การรักษาด้วยการฉีดโบท็อกซ์

การรักษาโรคใบหน้ากระตุกด้วยการฉีดโบท็อกซ์เป็นวิธีที่นิยมใช้เพื่อบรรเทาอาการกระตุกที่เกิดจากการหดเกร็งของกล้ามเนื้อบนใบหน้า ซึ่งเกิดจากความผิดปกติในระบบประสาทหรือกล้ามเนื้อที่ทำงานเกินปกติ 

โบท็อกซ์ (Botulinum Toxin) คือสารที่สามารถยับยั้งการทำงานของเส้นประสาท โดยการฉีดเข้าสู่กล้ามเนื้อที่มีอาการกระตุก จะช่วยให้กล้ามเนื้อคลายตัวและลดการหดเกร็ง

แพทย์จะฉีดโบท็อกซ์ในจุดที่มีอาการกระตุก โดยทั่วไปจะใช้เวลา 3-6 เดือนในการรักษา หลังจากนั้นอาการกระตุกอาจกลับมาได้ และจำเป็นต้องฉีดซ้ำ เพื่อให้การรักษามีประสิทธิภาพต่อเนื่อง

การรักษาด้วยโบท็อกซ์ไม่ต้องใช้เวลาฟื้นตัวนาน ส่วนใหญ่ผู้ป่วยสามารถกลับไปทำกิจกรรมต่างๆ ได้ตามปกติหลังการฉีด แต่อาจมีผลข้างเคียงเล็กน้อย เช่น ปวดบริเวณที่ฉีด หรืออาการบวมในช่วงแรก แต่โดยรวมถือว่าเป็นวิธีที่ปลอดภัยในการรักษาโรคใบหน้ากระตุก

ข้อดี

  • เห็นผลเร็วภายใน 1-2 สัปดาห์
  • ไม่ต้องผ่าตัด และมีความเสี่ยงต่ำ
  • เป็นแนวทางที่ใช้ได้ผลในผู้ป่วยส่วนใหญ่

ข้อเสีย

  • ผลลัพธ์อยู่ได้ชั่วคราว ต้องฉีดซ้ำทุก 3-6 เดือน
  • ค่าใช้จ่ายสูงกว่าการใช้ยา
  • อาจมีผลข้างเคียง เช่น หนังตาตก กล้ามเนื้ออ่อนแรง หรือรอยฟกช้ำบริเวณที่ฉีด

3. การรักษาด้วยการผ่าตัด

การรักษาด้วยการผ่าตัดสำหรับโรคใบหน้ากระตุกที่เรียกว่า Microvascular Decompression (MVD) เป็นวิธีการผ่าตัดที่มุ่งเน้นแก้ไขปัญหาที่เกิดจากการกดทับของหลอดเลือดที่ไปกดทับเส้นประสาทใบหน้า ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของอาการกระตุก หรือหดเกร็งของกล้ามเนื้อบนใบหน้า

ขั้นตอนการผ่าตัด MVD เริ่มต้นจากกการเปิดกะโหลกศีรษะในบริเวณที่เส้นประสาทถูกกดทับ จากนั้นแพทย์จะหาตำแหน่งที่หลอดเลือดไปกดทับเส้นประสาทใบหน้า และยกหลอดเลือดนั้นออก หรือตัดการสัมผัสระหว่างหลอดเลือดกับเส้นประสาท โดยมักจะใช้วัสดุพิเศษ เช่น ฟองน้ำพิเศษ หรือแผ่นโลหะ เพื่อช่วยแยกหลอดเลือดออกจากเส้นประสาท

การผ่าตัด Microvascular Decompression เป็นวิธีการรักษาที่มีประสิทธิภาพสูง โดยสามารถลดหรือบรรเทาอาการกระตุกได้อย่างถาวรในหลายกรณี

แม้ว่าจะมีความเสี่ยงจากการผ่าตัด เช่น การติดเชื้อ หรือการบาดเจ็บต่อเส้นประสาทในระหว่างการผ่าตัด แต่โดยรวมถือว่าเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผู้ป่วยที่รักษาด้วยวิธีอื่นไม่ได้ผล หรือกรณีที่มีอาการรุนแรงและต่อเนื่อง

ข้อดี

  • เป็นวิธีรักษาที่สามารถให้ผลแบบถาวร
  • ไม่ต้องพึ่งการฉีดโบท็อกซ์ซ้ำๆ 
  • เหมาะสำหรับผู้ที่มีอาการรุนแรง และรักษาด้วยวิธีอื่นไม่ได้ผล

ข้อเสีย

  • เป็นการผ่าตัดสมองที่มีความเสี่ยงสูง
  • ต้องใช้เวลาพักฟื้นหลายสัปดาห์ถึงเดือน 
  • มีความเสี่ยงต่อผลข้างเคียง เช่น การสูญเสียการได้ยิน การติดเชื้อ หรือเส้นประสาทถูกทำลาย

วิธีไหนเหมาะกับคุณ?

  • หากมีอาการเพียงเล็กน้อย อาจลองเริ่มจากการใช้ยาเพื่อดูผลลัพธ์ก่อน
  • หากมีอาการปานกลางและต้องการผลเร็ว การฉีดโบท็อกซ์เป็นตัวเลือกที่ดี
  • หากมีอาการรุนแรงและต้องการหายขาด การผ่าตัดอาจเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด แต่ควรปรึกษาแพทย์ถึงความเสี่ยง

จะเห็นได้ว่า โรคใบหน้ากระตุกสามารถรักษาได้หลายวิธี ขึ้นอยู่กับระดับความรุนแรงของอาการและปัจจัยของผู้ป่วยเอง วิธีที่ดีที่สุดคือการปรึกษาแพทย์ เพื่อตรวจวินิจฉัยและเลือกแนวทางการรักษาที่เหมาะสม โดยเฉพาะหากคุณมีอาการรุนแรง และเริ่มส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวัน ควรรีบพบแพทย์เพื่อรับคำแนะนำ

ใบหน้ากระตุกเป็นๆ หายๆ ต้องผ่าตัดหรือเปล่า? อยากปรึกษาคุณหมอ เพื่อรักษาด้วยวิธีที่เหมาะสม ทักหาทีม HDcare ได้เลย เราพร้อมเป็นผู้ช่วยส่วนตัวดูแลสุขภาพคุณ สอบถามข้อมูลเบื้องต้นกับคุณหมอเฉพาะทาง ทำนัดปรึกษาคุณหมอได้รวดเร็ว จาก รพ. หรือคลินิกใกล้คุณได้ทันที คลิกที่นี่เลย

Scroll to Top