hemifacial spasm screening get check scaled

เช็กลิสต์อาการเสี่ยง โรคใบหน้ากระตุก อันตรายไหม เมื่อไรต้องหาหมอ

แม้ว่า “โรคใบหน้ากระตุก” จะไม่เป็นอันตรายถึงชีวิต แต่ในบางกรณีอาจเป็นสัญญาณของโรคทางระบบประสาทที่ร้ายแรง ดังนั้น หากมีอาการกระตุกเกิดขึ้นบ่อยครั้ง ควรสังเกตตนเองและปรึกษาแพทย์เพื่อรับการตรวจวินิจฉัยอย่างถูกต้อง…บทความนี้จะพามาดูกันว่า อาการเสี่ยงโรคใบหน้ากระตุกมีอะไรบ้าง และเมื่อไหร่ต้องรีบไปพบแพทย์

โรคใบหน้ากระตุก คืออะไร

โรคใบหน้ากระตุก (Hemifacial Spasm) เป็นภาวะที่กล้ามเนื้อใบหน้ากระตุกโดยไม่สามารถควบคุมได้ มักเกิดขึ้นเพียงด้านใดด้านหนึ่งของใบหน้า อาการเริ่มต้นจากเปลือกตากระตุกเป็นระยะ และอาจลุกลามไปยังแก้ม มุมปาก หรือคาง หากปล่อยทิ้งไว้โดยไม่รักษา อาการอาจรุนแรงขึ้นจนรบกวนการใช้ชีวิตประจำวันได้

เช็กลิสต์อาการเสี่ยงที่ต้องระวัง

หากคุณมีอาการตรงกับข้อใดข้อหนึ่ง ควรเริ่มสังเกตความถี่และความรุนแรงของอาการ และหากพบว่าอาการเกิดบ่อยขึ้นหรือส่งผลต่อการใช้ชีวิตประจำวัน ควรรีบพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัย

  1. เปลือกตากระตุกบ่อยครั้งโดยไม่สามารถควบคุมได้ อาการมักเริ่มต้นจากกล้ามเนื้อรอบดวงตากระตุกเอง อาจเกิดขึ้นชั่วขณะและหายไป แต่กลับมาเป็นใหม่บ่อยขึ้น
  2. อาการกระตุกเริ่มลามไปยังส่วนอื่นของใบหน้า จากเปลือกตา อาการอาจขยายไปยังแก้ม มุมปาก หรือคาง ซึ่งเป็นสัญญาณว่าความผิดปกติอาจส่งผลกระทบต่อเส้นประสาทใบหน้าในระดับที่รุนแรงขึ้น
  3. กล้ามเนื้อใบหน้ากระตุกถี่ขึ้นและรุนแรงขึ้น หากอาการกระตุกมีความถี่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ หรือเกิดขึ้นต่อเนื่องเป็นเวลานาน อาจส่งผลให้กล้ามเนื้อใบหน้ารู้สึกอ่อนแรงร่วมด้วย
  4. ตากระตุกจนทำให้เปลือกตาปิดลงเอง อาการนี้อาจส่งผลต่อการมองเห็น ทำให้ใช้ชีวิตประจำวันได้ลำบากมากขึ้น
  5. มุมปากเบี้ยวหรือขยับผิดปกติ อาจสังเกตเห็นว่า มุมปากกระตุกขึ้นเอง หรือมีอาการปากเบี้ยวโดยไม่สามารถควบคุมได้
  6. รู้สึกตึงหรือเกร็งบริเวณใบหน้า กล้ามเนื้อใบหน้าอาจมีอาการแข็งเกร็งร่วมกับอาการกระตุก ทำให้รู้สึกไม่สบายใบหน้าหรือขยับได้ยากขึ้น
  7. อาการกระตุกเกิดเฉพาะข้างเดียวของใบหน้า โรคใบหน้ากระตุกมักส่งผลกระทบเพียงด้านเดียวของใบหน้า หากพบว่ามีอาการกระตุกทั้งสองข้าง ควรรีบพบแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุที่แท้จริง

โรคใบหน้ากระตุกอันตรายไหม?

โดยทั่วไป โรคใบหน้ากระตุกไม่เป็นอันตรายถึงชีวิต แต่อาจส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิต ทำให้เกิดความรำคาญ ความเครียด และความไม่มั่นใจในตัวเอง โดยเฉพาะหากอาการรุนแรงจนรบกวนการใช้ชีวิตประจำวัน

อย่างไรก็ตาม ในบางกรณี อาการกระตุกอาจเป็นสัญญาณของปัญหาทางสมองได้ เช่น

  • หลอดเลือดกดทับเส้นประสาทใบหน้า
  • โรคทางระบบประสาท เช่น โรคปลอกประสาทเสื่อมแข็ง (Multiple Sclerosis)
  • เนื้องอกที่กดทับเส้นประสาท
  • ผลข้างเคียงจากโรคหลอดเลือดสมอง (Stroke)

หากมีอาการผิดปกติร่วมกับอาการอื่นๆ เช่น ปวดศีรษะเรื้อรัง เวียนศีรษะ หรือแขนขาอ่อนแรง ควรรีบพบแพทย์ทันที

เมื่อไหร่ควรไปหาหมอ?

ควรพบแพทย์ทันทีหากมีอาการดังต่อไปนี้

  1. อาการกระตุกเป็นถี่ขึ้นและไม่ดีขึ้นหลังจากพักผ่อน
  2. มีอาการตาปิดเองจนรบกวนการมองเห็น
  3. อาการกระตุกเริ่มลามไปทั่วใบหน้าและไม่สามารถควบคุมได้
  4. มีอาการปวดศีรษะรุนแรง เวียนศีรษะ หรืออ่อนแรงร่วมด้วย
  5. มีประวัติการบาดเจ็บที่ศีรษะ หรือเคยมีภาวะสมองขาดเลือดชั่วขณะ (TIA)

หากอาการรุนแรงขึ้น จนรบกวนชีวิตประจำวัน แพทย์อาจแนะนำการรักษา เช่น การใช้ยา การฉีดโบท็อกซ์ หรือในบางกรณีอาจต้องผ่าตัด เพื่อลดแรงกดทับของเส้นประสาท

ถ้าคุณกำลังสงสัยว่าตัวเองอาจเป็นโรคใบหน้ากระตุก อย่ารอช้า ควรปรึกษาแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยและรับการรักษาอย่างเหมาะสม เพื่อป้องกันอาการลุกลาม

สัญญาณมาครบ อยากตรวจให้แน่ชัด ปรึกษาทีม HDcare ได้เลย เราพร้อมเป็นผู้ช่วยส่วนตัวดูแลสุขภาพคุณ สอบถามข้อมูลเบื้องต้นกับคุณหมอเฉพาะทาง ทำนัดปรึกษาคุณหมอได้รวดเร็ว หรือค้นหาแพ็กเกจตรวจและรักษาโรคใบหน้ากระตุก จาก รพ. หรือคลินิกใกล้คุณได้ทันที คลิกที่นี่เลย

Scroll to Top