ปวดหัว อาจดูเป็นเรื่องธรรมดาที่ใครๆ ก็เคยเจอ แต่หากมีอาการต่อเนื่องหรือมีอาการอื่นร่วมด้วย อาจบ่งบอกถึงปัญหาสุขภาพที่ต้องได้รับการดูแลอย่างเร่งด่วน บทความนี้จะพาคุณไปรู้จักประเภทของอาการปวดหัวและสัญญาณเตือนสำคัญ เพื่อช่วยให้คุณสังเกตตัวเองและตัดสินใจพบแพทย์ได้ทันเวลา
สารบัญ
ปวดหัวมีกี่แบบ?
โดยทั่วไป อาการปวดหัวสามารถแบ่งออกเป็น 2 กลุ่มหลัก ได้แก่
- ปวดหัวจากโรคทางสมอง
เป็นอาการปวดหัวที่เกี่ยวข้องกับความผิดปกติของสมองหรือระบบประสาท โดยอาการเหล่านี้มักมีความรุนแรงและจำเป็นต้องได้รับการวินิจฉัยและรักษาอย่างเร่งด่วน - ปวดหัวที่ไม่ได้เกิดจากโรคทางสมอง
ปวดหัวประเภทนี้เกิดจากปัจจัยทั่วไป เช่น ความเครียด การพักผ่อนไม่เพียงพอ หรือปัญหาทางร่างกายอื่นๆ ซึ่งส่วนใหญ่มักไม่อันตราย แต่หากมีอาการเรื้อรังอาจส่งผลต่อคุณภาพชีวิตได้
อาการปวดหัวจากโรคทางสมอง
โรคที่อาจเกี่ยวข้อง
- เส้นเลือดในสมองตีบ/แตก (Stroke) เกิดจากการไหลเวียนของเลือดไปยังสมองถูกขัดขวาง หรือมีเส้นเลือดในสมองแตก ซึ่งอาจทำให้เกิดอัมพาตหรือเสียชีวิตได้หากไม่ได้รับการรักษา
- เนื้องอกในสมอง การเติบโตผิดปกติของเซลล์ในสมอง อาจกดทับส่วนต่างๆ ของสมอง ทำให้เกิดอาการปวดหัวอย่างรุนแรงและมีอาการทางระบบประสาทร่วมด้วย
- เยื่อหุ้มสมองอักเสบ (Meningitis) เกิดจากการติดเชื้อในเยื่อหุ้มสมอง อาจทำให้เกิดไข้สูง คอแข็ง และปวดหัวอย่างรุนแรง
- สมองอักเสบ (Encephalitis) เป็นภาวะที่สมองอักเสบจากการติดเชื้อไวรัสหรือแบคทีเรีย ซึ่งอาจทำให้เกิดอาการชักและหมดสติ
- ความดันในสมองสูงหรือต่ำผิดปกติ อาจเกิดจากการสะสมของของเหลวในสมองหรือการบาดเจ็บที่ศีรษะ ซึ่งส่งผลต่อสมองและทำให้ปวดหัวอย่างรุนแรง
อาการที่ต้องสังเกต
- ปวดศีรษะรุนแรงฉับพลัน อาการปวดที่มาอย่างกะทันหันและรุนแรงในระดับที่ไม่เคยสัมผัสมาก่อน มักเป็นสัญญาณของโรคร้ายแรง เช่น เส้นเลือดในสมองแตก
- ปวดหัวแบบไม่เคยเป็นมาก่อน หากรู้สึกปวดหัวแบบที่ไม่เคยปวดมาก่อนและรุนแรง ควรรีบไปพบแพทย์ทันที เนื่องจากอาจเป็นสัญญาณของโรคในสมอง
- ปวดหัวที่รุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ไม่ทุเลาด้วยยา หากใช้ยาแก้ปวดแล้วยังไม่ดีขึ้น หรืออาการรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ อาจเป็นสัญญาณของความผิดปกติในสมอง
อาการร่วมที่สำคัญ
- แขนขาอ่อนแรงครึ่งซีก เป็นสัญญาณของโรคหลอดเลือดสมองที่ต้องได้รับการรักษาโดยเร็ว
- หน้าเบี้ยว พูดไม่ชัด หากมีอาการปากเบี้ยวหรือพูดลำบากควรรีบพบแพทย์ทันที
- การมองเห็นผิดปกติ เช่น เห็นภาพซ้อนหรือมองไม่ชัด อาจเป็นสัญญาณของโรคในสมอง
- หมดสติ หากมีอาการหมดสติหรือชัก ร่วมกับการปวดหัว ควรรีบพบแพทย์โดยด่วน
ระยะเวลาที่ต้องรีบไปหาหมอ
หากมีอาการของโรคหลอดเลือดสมอง (Stroke) ผู้ป่วยควรได้รับยาละลายลิ่มเลือด (Thrombolytic) ภายใน 4 ชั่วโมง 30 นาที หรือ 270 นาทีหลังจากเริ่มมีอาการ ซึ่งช่วงเวลานี้เรียกว่า Stroke Fast Track หรือ Golden Period เนื่องจากเป็นช่วงเวลาที่การรักษาจะให้ผลดีที่สุดในการลดความเสียหายของสมอง
หากเกิน 4 ชั่วโมง 30 นาที ไปแล้ว การใช้ยาละลายลิ่มเลือดอาจไม่ได้ผลดีและเพิ่มความเสี่ยงต่อภาวะเลือดออกในสมอง อย่างไรก็ตาม แพทย์อาจพิจารณาทำ Thrombectomy หรือหัตถการขยายหลอดเลือด ซึ่งได้ผลดีที่สุดหากดำเนินการภายใน 24 ชั่วโมง โดยเฉพาะในกรณีที่เส้นเลือดขนาดใหญ่อุดตัน
ข้อสำคัญ หากสงสัยว่าอาจเป็นโรคหลอดเลือดสมอง ควรรีบไปโรงพยาบาลทันทีโดยไม่ต้องรอให้ครบ 4 ชั่วโมง 30 นาที เพราะยิ่งได้รับการรักษาเร็วเท่าไร โอกาสฟื้นตัวโดยไม่มีภาวะแทรกซ้อนก็ยิ่งสูงขึ้น
ความเสี่ยงหากไม่ไปพบแพทย์
หากไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที อาจทำให้สมองขาดเลือดเป็นเวลานานจนเนื้อเยื่อสมองเสียหายถาวร ส่งผลให้เกิดอัมพาตถาวร สมองบวม หรือในบางกรณีอาจเสียชีวิต ผู้ป่วยที่ไม่ได้รับการรักษาทันเวลาอาจฟื้นตัวได้ยากและเสี่ยงต่อการสูญเสียความสามารถในการทำกิจวัตรประจำวันอย่างถาวร
อาการปวดหัวที่ไม่ได้เกิดจากโรคทางสมอง
โรคที่อาจเกี่ยวข้อง
- ไมเกรน (Migraine) เกิดจากความผิดปกติของระบบประสาทและหลอดเลือด ทำให้เกิดอาการปวดหัวตุบๆ ข้างเดียว ร่วมกับอาการคลื่นไส้
- ปวดหัวจากความเครียด (Tension Headache) เกิดจากกล้ามเนื้อตึงเครียด ส่งผลให้ปวดศีรษะทั้งสองข้าง
- ปวดหัวจากไซนัสอักเสบ (Sinus Headache) เกิดจากการอักเสบของโพรงไซนัส มักมีอาการคัดจมูกและน้ำมูกไหลร่วมด้วย
- ปวดหัวคลัสเตอร์ (Cluster Headache) อาการปวดหัวข้างเดียวบริเวณรอบดวงตา เกิดขึ้นเป็นชุดและมีความรุนแรง
- ปวดหัวจากการใช้สายตา (Eye Strain) เกิดจากการใช้สายตาเป็นเวลานาน มักเกิดร่วมกับอาการปวดตาและตาล้า
แนวทางการดูแลและป้องกัน
- พักผ่อนให้เพียงพอ
- หลีกเลี่ยงความเครียด
- ดื่มน้ำให้เพียงพอ
- หลีกเลี่ยงอาหารหรือสิ่งกระตุ้นที่ทำให้ปวดหัว เช่น ชา กาแฟ แอลกอฮอล์
- ออกกำลังกายสม่ำเสมอ
ปวดหัวแบบไหนอันตราย ควรไปพบแพทย์
- ปวดหัวรุนแรงและเกิดขึ้นทันที
- ปวดหัวเรื้อรังที่ไม่ตอบสนองต่อยา
- ปวดหัวที่มีอาการทางระบบประสาทร่วมด้วย เช่น แขนขาอ่อนแรง
- ปวดหัวหลังอุบัติเหตุ
- ปวดหัวที่อาการแย่ลงเรื่อยๆ
จะเห็นได้ว่า อาการปวดหัวอาจดูเหมือนเป็นเรื่องธรรมดา แต่ในบางกรณีอาจเป็นสัญญาณของโรคร้ายแรงที่ต้องได้รับการรักษาอย่างเร่งด่วน หากมีอาการผิดปกติควรรีบไปพบแพทย์ เพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น
ปวดหัวแบบนี้ เสี่ยงเป็นโรคทางสมองไหม อยากปรึกษาคุณหมอ ตรวจให้แน่ชัด ทักหาทีม HDcare ได้เลย เราพร้อมเป็นผู้ช่วยส่วนตัวดูแลสุขภาพคุณ สอบถามข้อมูลเบื้องต้นกับคุณหมอเฉพาะทาง ทำนัดปรึกษาคุณหมอได้รวดเร็ว จาก รพ. หรือคลินิกใกล้คุณได้ทันที คลิกที่นี่เลย