dilation curettage treatment faq

10 เรื่องที่คนอยากรู้เกี่ยวกับการขูดมดลูก

ขูดมดลูกเจ็บไหม พักฟื้นกี่วัน จะท้องได้อีกมั้ย อันตรายหรือเปล่า มีผลข้างเคียงหรือไม่ บทความนี้รวบรวมข้อสงสัยและเรื่องเข้าใจผิดเกี่ยวกับการขูดมดลูกมาฝาก มาดูกันว่า สิ่งที่คุณกำลังกังวลนั้น ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร

1. การขูดมดลูกช่วยเรื่องอะไร

ตอบ: การขูดมดลูก (Dilation And Curettage: D&C) สามารถใช้เพื่อวินิจฉัย รวมทั้งรักษาความผิดปกติได้หลายอย่าง ดังนี้

    • การวินิจฉัยโรค การขูดมดลูกสามารถนำมาใช้ในการเก็บตัวอย่างเนื้อเยื่อจากมดลูก เพื่อตรวจสอบภาวะที่ผิดปกติ เช่น มะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูก (Endometrial Cancer) หรือการติดเชื้อในมดลูก โดยการวิเคราะห์ตัวอย่างเนื้อเยื่อสามารถช่วยในการวินิจฉัยและวางแผนการรักษาต่อไปได้อย่างแม่นยำ
    • การรักษาความผิดปกติ การขูดมดลูกช่วยรักษาความผิดปกติได้หลายประการ ดังนี้
    • รักษาอาการเลือดออกผิดปกติ การขูดมดลูกสามารถช่วยวินิจฉัยสาเหตุของการเลือดออกผิดปกติจากช่องคลอดและทำความสะอาดมดลูก เพื่อลดหรือหยุดการเลือดออกที่ผิดปกติ โดยการกำจัดเนื้อเยื่อที่อาจเป็นสาเหตุของอาการออกไป
    • ทำความสะอาดมดลูกหลังการแท้งบุตร การขูดมดลูกเป็นวิธีที่ใช้ทำความสะอาดเนื้อเยื่อที่หลงเหลือในมดลูกหลังจากการแท้งบุตร เพื่อลดความเสี่ยงในการติดเชื้อและปัญหาสุขภาพอื่นๆ
    • การยุติการตั้งครรภ์ ในบางกรณีแพทย์อาจใช้การขูดมดลูกร่วมกับกระบวนการยุติการตั้งครรภ์ เพื่อกำจัดเนื้อเยื่อจากการตั้งครรภ์ที่หลงเหลือจากมดลูก
    • กำจัดเนื้องอก การขูดมดลูกสามารถใช้ในการกำจัดเนื้องอกที่มีลักษณะไม่ซับซ้อน เช่น โพลิป (Polyp) หรือเนื้องอกขนาดเล็กที่สามารถเข้าถึงและกำจัดได้ด้วยวิธีการขูดมดลูก

2. ขูดมดลูกเจ็บไหม

ตอบ: ระหว่างการขูดมดลูก หากใช้ยาชาเพื่อช่วยระงับความรู้สึกเจ็บปวด อาจทำให้รู้สึกไม่สบายตัวหรือเจ็บปวดเล็กน้อย ความรู้สึกคล้ายกับการปวดประจำเดือน แต่หากได้รับยาสลบ จะทำให้ไม่รู้สึกเจ็บเลย

ส่วนภายหลังการขูดมดลูกนั้น อาจมีอาการปวดท้องหรืออาการเจ็บแปลบเล็กน้อย สามารถบรรเทาได้ด้วยการใช้ยาแก้ปวดที่แพทย์แนะนำ

3. การขูดมดลูกใช้เวลานานไหม

ตอบ: การขูดมดลูกมักใช้เวลาไม่นาน ประมาณ 15-30 นาที ขึ้นอยู่กับความยากง่ายในการเข้าถึงและขูดเนื้อเยื่อภายในมดลูก นอกจากนี้การขูดมดลูกอาจใช้เวลานานขึ้น หากต้องขจัดเนื้อเยื่อที่หลงเหลือหลังการแท้งบุตรหรือการยุติการตั้งครรภ์

4. ก่อนขูดมดลูกต้องเตรียมตัวอย่างไร

ตอบ: หลังจากปรึกษาแพทย์และนัดหมายขูดมดลูกแล้ว แพทย์มักจะแนะนำให้เตรียมตัว ดังนี้

  • แจ้งแพทย์เกี่ยวกับการใช้ยาหรืออาหารเสริมที่รับประทานอยู่ เนื่องจากยาบางชนิดอาจทำให้เลือดออกมากขึ้น
  • หากมีอาการติดเชื้อในช่องคลอด หรือปัญหาสุขภาพอื่นๆ ควรแจ้งแพทย์ก่อนการขูดมดลูก
  • ในกรณีที่ใช้ยาสลบ แพทย์อาจให้งดอาหารและน้ำก่อนการขูดมดลูก ประมาณ 6-8 ชั่วโมง เพื่อป้องกันการสำลักอาหารและน้ำ
  • นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ
  • งดการแต่งหน้า ทาปาก และทาเล็บ เพื่อให้แพทย์สามารถตรวจสอบการไหลเวียนของเลือดและสังเกตสีของปากและเล็บได้อย่างชัดเจน
  • ควรเดินทางมาถึงโรงพยาบาลก่อนเวลานัดอย่างน้อย 3-4 ชั่วโมง เพื่อตรวจเช็กร่างกาย เช่น เอกซเรย์ปอด ตรวจคลื่นหัวใจ และวัดความดันโลหิต
  • ควรมีญาติมารับหลังจากขูดมดลูกเสร็จแล้ว เนื่องจากยาสลบอาจส่งผลต่อความสามารถในการขับขี่

5. หลังขูดมดลูกควรดูแลตัวเองอย่างไร

ตอบ: การดูแลตัวเองอย่างถูกวิธี จะช่วยให้ฟื้นตัวได้เร็ว และลดความเสี่ยงในการเกิดภาวะแทรกซ้อน โดยแพทย์มักจะแนะนำวิธีการดูแลตัวเองหลังจากขูดมดลูก ดังนี้

  • พักผ่อนให้เพียงพอในช่วง 1-2 วันแรก รับประทานอาหารที่มีสารอาหารครบถ้วน และดื่มน้ำให้เพียงพอ
  • รับประทานยาตามแพทย์สั่งอย่างเคร่งครัด
  • งดการทำกิจกรรมที่ต้องใช้แรงมาก เช่น การยกของหนัก หรือการออกกำลังกายหนักๆ ในช่วงแรก
  • ควรใช้ผ้าอนามัยแบบแผ่นแทนแบบสอด เพื่อรักษาความสะอาดและลดความเสี่ยงในการติดเชื้อ
  • สังเกตอาการผิดปกติต่างๆ เช่น หากมีเลือดออกมากเกินไป จนชุ่มผ้าอนามัย 1 แผ่นใน 30 นาทีถึง 1 ชั่วโมง มีอาการปวดท้องรุนแรง หรือมีอาการไข้ ควรรีบพบแพทย์ทันที
  • หลีกเลี่ยงการมีเพศสัมพันธ์อย่างน้อย 2 สัปดาห์ เพื่อลดความเสี่ยงในการติดเชื้อ

6. หลังขูดมดลูกต้องพักฟื้นกี่วัน

ตอบ: หลังการขูดมดลูก ผู้ป่วยต้องพักฟื้นในโรงพยาบาล เพื่อเฝ้าระวังอาการประมาณ 1-2 ชั่วโมง หากไม่พบอาการผิดปกติ ก็สามารถกลับบ้านได้ และต้องพักผ่อนที่บ้านอย่างน้อย 1-2 วัน เพื่อให้ร่างกายได้ฟื้นตัว

อย่างไรก็ตาม การฟื้นตัวเต็มที่อาจใช้เวลาประมาณ 1-2 สัปดาห์ ในช่วงเวลานี้ควรหลีกเลี่ยงกิจกรรมที่ต้องออกแรงมาก และงดการมีเพศสัมพันธ์

7. การขูดมดลูกอันตรายไหม มีความเสี่ยงอย่างไรบ้าง

ตอบ: การขูดมดลูกเป็นหัตถการที่ปลอดภัย และมีความเสี่ยงต่ำ หากทำโดยแพทย์ผู้ชำนาญการ แม้ว่าจะมีโอกาสเกิดภาวะแทรกซ้อน หรือเกิดความเสี่ยงได้ แต่โอกาสค่อนข้างต่ำ ดังนี้

  1. ติดเชื้อหรือเลือดออกจากช่องคลอด อาจเกิดการติดเชื้อที่ช่องคลอด หรือมดลูก ซึ่งเกิดจากการมีเนื้อเยื่อบุหลงเหลืออยู่ข้างใน บางกรณีอาจต้องขูดมดลูกซ้ำอีกครั้ง เพื่อเอาเนื้อเยื่อบุที่เหลืออยู่ทั้งหมดออกมา
  2. ปากมดลูกฉีกขาดหรือได้รับความเสียหาย การขูดมดลูกอาจทำให้ปากมดลูกฉีกขาดหรือเกิดความเสียหาย ซึ่งอาจทำให้เลือดออกได้ แพทย์จะใช้การกดปากแผลหรือเย็บปิดเพื่อห้ามเลือดและช่วยให้แผลหาย
  3. เกิดภาวะพังผืดในโพรงมดลูก (Asherman’s Syndrome) ในกรณีที่ขูดมดลูกหลังคลอดบุตรหรือแท้งบุตร อาจทำให้เกิดการสร้างพังผืดในโพรงมดลูก ส่งผลให้ประจำเดือนหยุด หรือลดลง อาจรู้สึกเจ็บปวดมากขึ้นขณะมีประจำเดือน หรืออาจทำให้มีบุตรยาก
  4. มดลูกทะลุ (Uterus Perforation) เป็นภาวะแทรกซ้อนที่พบได้ไม่บ่อย มีโอกาสเกิดกับผู้ที่เริ่มตั้งครรภ์หรืออยู่ในวัยหมดประจำเดือน

8. ขูดมดลูกแล้วจะท้องได้อีกไหม

ตอบ: การขูดมดลูกมักไม่ส่งผลกระทบต่อความสามารถในการตั้งครรภ์ในอนาคต ถ้ากระบวนการขูดมดลูกเป็นไปอย่างปลอดภัยและไม่มีภาวะแทรกซ้อน โดยเยื่อบุโพรงมดลูกมักจะฟื้นตัวได้ดี และมดลูกสามารถกลับสู่สภาวะปกติได้ในระยะเวลาไม่นาน

9. มีประจำเดือนขูดมดได้ไหม

ตอบ: หลายคนคิดว่าการขูดมดลูกสามารถทำเมื่อไหร่ก็ได้ แต่ความจริงแล้ว แพทย์มักจะแนะนำให้ทำในช่วงที่ไม่มีประจำเดือน หรือหลังประจำเดือนสิ้นสุดแล้ว เพื่อให้มดลูกอยู่ในสภาวะที่เหมาะสมและลดความเสี่ยงในการเกิดภาวะแทรกซ้อน

10. การขูดมดลูกช่วยลดอาการปวดประจำเดือนได้ไหม

ตอบ: การขูดมดลูกไม่ใช่วิธีการรักษาอาการปวดประจำเดือน การปวดประจำเดือนนั้นเกิดได้จากหลายสาเหตุ และควรได้รับการวินิจฉัยและรักษาตามความเหมาะสม

เชื่อว่าข้อมูลเกี่ยวกับการขูดมดลูกที่นำมาฝากในบทความนี้ น่าจะช่วยให้หลายคนหายคาใจและหมดกังวลเกี่ยวกับการขูดมดลูกแล้ว

ข้อมูลที่เรารู้มาใช่เรื่องจริงไหม? เข้าใจผิดหรือเปล่า? ไม่รู้จะถามใครดี ปรึกษาทีม HDcare ได้เลย เราพร้อมเป็นผู้ช่วยส่วนตัวดูแลสุขภาพคุณ สอบถามข้อมูลเบื้องต้นกับคุณหมอเฉพาะทาง ทำนัดปรึกษาคุณหมอได้รวดเร็ว หรือค้นหาแพ็กเกจขูดมดลูก จาก รพ. หรือคลินิกใกล้คุณได้ทันที คลิกที่นี่เลย

Scroll to Top