ปวดนิ้วมือมาก อักเสบ บวมแดง คลำเจอก้อน ต้องหาหมอไหม

โรคปลอกหุ้มเอ็นข้อมืออักเสบ เป็นโรคยอดฮิตของคนวัยทำงานที่เจอได้บ่อย หากอาการรุนแรงและเรื้อรัง อาจต้องผ่าตัดเพื่อรักษาให้หาย…แล้วอาการแบบไหน ที่บ่งบอกว่าเป็นโรคปลอกหุ้มเอ็นข้อมืออักเสบ บทความนี้จะพามาทำความเข้าใจอาการต่างๆ ที่ควรระวัง เพื่อให้คุณสามารถสังเกตอาการเบื้องต้น และเข้ารับการรักษาได้อย่างทันท่วงที

เช็กลิสต์อาการปวดนิ้วมือที่ต้องรีบพบแพทย์ สัญญาณเตือนโรคปลอกหุ้มเอ็นข้อมืออักเสบ

โรคปลอกหุ้มเอ็นข้อมืออักเสบ (De Quervain’s Tenosynovitis) เกิดจากการอักเสบของปลอกหุ้มเอ็นที่ช่วยในการเคลื่อนไหวของนิ้วหัวแม่มือและข้อมือ ซึ่งอาจทำให้เกิดอาการปวดและใช้ชีวิตได้อย่างลำบากมากยิ่งขึ้น

หากคุณมีอาการเหล่านี้ อย่าละเลย เพราะอาจเป็นสัญญาณเตือนของโรคที่ควรพบแพทย์ เพื่อรับการรักษาให้ทันเวลา

1. ปวดและบวมบริเวณโคนนิ้วหัวแม่มือและข้อมือด้านข้าง

หนึ่งในอาการที่พบได้บ่อยคือ การปวดและบวมบริเวณโคนนิ้วหัวแม่มือและข้อมือด้านข้าง โดยอาการปวดนี้อาจมีระดับตั้งแต่เล็กน้อยจนถึงรุนแรงมาก และมักจะเพิ่มขึ้นเมื่อมีการเคลื่อนไหวหรือใช้งานข้อมือและนิ้วหัวแม่มือ

การบวมบริเวณดังกล่าวเป็นผลจากการอักเสบของปลอกหุ้มเอ็นที่ถูกใช้งานอย่างมากและบ่อยครั้ง ซึ่งทำให้เกิดอาการปวดตลอดเวลา โดยเฉพาะในช่วงที่มีการขยับหรือหยิบจับสิ่งของต่างๆ รวมถึงการกำมือแน่นๆ ทำให้เกิดการบาดเจ็บหรือตึงในบริเวณดังกล่าว

2. ปวดมากขึ้นเมื่อขยับข้อมือ หยิบจับสิ่งของ หรือกำมือแน่นๆ

อาการปวดสามารถเพิ่มขึ้นได้เมื่อขยับข้อมือหรือขยับนิ้วหัวแม่มือ โดยเฉพาะเมื่อทำกิจกรรมที่ต้องใช้การเคลื่อนไหวของข้อมือและนิ้วหัวแม่มือ เช่น การหยิบจับสิ่งของ การขยับข้อมือ หรือการใช้แรงกดจากการกำมือแน่นๆ ซึ่งสามารถกระตุ้นให้เกิดอาการปวดมากขึ้น เนื่องจากการเคลื่อนไหวที่ใช้กล้ามเนื้อและเอ็นในบริเวณนี้มากเกินไป

3. มีเสียงดังกึก (Crepitus) เวลาขยับข้อมือหรือนิ้วหัวแม่มือ

อีกหนึ่งอาการที่ผู้ป่วยอาจพบคือเสียงดังกึกๆ (Crepitus) เวลาขยับข้อมือหรือนิ้วหัวแม่มือ ซึ่งเกิดจากการเสียดสีหรือกระแทกกันภายในปลอกหุ้มเอ็นที่อักเสบ 

เสียงนี้มักเกิดขึ้นขณะเคลื่อนไหวข้อมือหรือนิ้วหัวแม่มือ และเป็นสัญญาณของการเสียดสีที่เกิดจากเอ็นที่อักเสบ ซึ่งอาจทำให้เกิดความรู้สึกไม่สบายและรำคาญ

4. ปวดร้าวไปถึงแขนหรือปลายนิ้ว

ในผู้ป่วยบางราย อาการปวดอาจลามไปถึงแขนหรือปลายนิ้ว อาการนี้เกิดจากการกดทับเส้นประสาทที่เชื่อมโยงกับนิ้วมือและแขน การกระตุ้นเส้นประสาทในบริเวณนี้อาจทำให้มีอาการปวดร้าวหรือชา ซึ่งบางครั้งอาจเกิดอาการชาไปยังปลายนิ้วหรือแม้แต่ข้อศอกได้

อาการปวดร้าวนี้มักเกิดจากการเคลื่อนไหวที่ผิดปกติหรือการใช้งานข้อมือมากเกินไป การกระตุ้นเส้นประสาทจากการใช้งานซ้ำๆ อาจทำให้เกิดอาการที่ลามไปยังส่วนต่างๆ ของแขน เช่น จากข้อมือไปยังแขน หรือไปถึงปลายนิ้ว ทำให้เคลื่อนไหวลำบากมากขึ้น

5. ข้อมือรู้สึกแข็งตึง หรือเคลื่อนไหวลำบาก

เมื่อการอักเสบมีลักษณะเรื้อรัง ข้อมืออาจเริ่มมีอาการตึงหรือแข็ง การเคลื่อนไหวของข้อมืออาจถูกจำกัด ทำให้ผู้ป่วยไม่สามารถหมุนข้อมือหรือจับสิ่งของได้ตามปกติ การเคลื่อนไหวที่จำกัดนี้ทำให้เกิดอาการปวดเพิ่มขึ้นจากการใช้งานข้อมือที่ยากขึ้น

อาการตึงหรือแข็งนี้อาจส่งผลต่อกิจกรรมประจำวันที่ต้องใช้ข้อมือ เช่น การหมุนข้อมือหรือการทำกิจกรรมที่ต้องใช้มือมาก การเคลื่อนไหวที่ลำบากจะเพิ่มความยากในการทำงานและอาจทำให้ผู้ป่วยรู้สึกไม่สะดวกในชีวิตประจำวัน

6. คลำเจอก้อน หรือถุงน้ำ

ผู้ป่วยบางรายอาจคลำเจอก้อนหรือถุงน้ำบริเวณที่อักเสบ ซึ่งเกิดจากการสะสมของเหลวในปลอกหุ้มเอ็น การสะสมของน้ำหรือของเหลวในบริเวณที่อักเสบ อาจทำให้เกิดก้อนหรือถุงน้ำที่สามารถคลำได้จากภายนอก

ก้อนหรือถุงน้ำนี้มักเกิดจากการบวมและการอักเสบในบริเวณที่มีการเคลื่อนไหวของเอ็น ซึ่งจะเพิ่มอาการปวดมากขึ้น โดยเฉพาะเมื่อมีการใช้งานข้อมือมาก การคลำเจอก้อนหรือถุงน้ำอาจเป็นสัญญาณที่บ่งบอกถึงการอักเสบในระยะยาว

หากพบว่าอาการต่างๆ ที่เกิดขึ้นกับข้อมือและนิ้วหัวแม่มือของคุณเริ่มรุนแรง หรือมีผลกระทบต่อการทำกิจกรรมประจำวัน ควรไปพบแพทย์เพื่อวินิจฉัยและรักษาทันท่วงที การไปพบแพทย์ตั้งแต่เนิ่นๆ จะช่วยลดความเสี่ยงของภาวะแทรกซ้อนในอนาคตได้

สัญญาณมาครบ สงสัยว่าจะเป็นโรคปลอกหุ้มเอ็นข้อมือักเสบ อยากตรวจให้แน่ชัด ปรึกษาทีม HDcare ได้เลย เราพร้อมเป็นผู้ช่วยส่วนตัวดูแลสุขภาพคุณ สอบถามข้อมูลเบื้องต้นกับคุณหมอเฉพาะทาง ทำนัดปรึกษาคุณหมอได้รวดเร็ว หรือค้นหาแพ็กเกจตรวจและรักษาโรคปลอกหุ้มเอ็นข้อมืออักเสบ จาก รพ. หรือคลินิกใกล้คุณได้ทันที คลิกที่นี่เลย