Default fallback image

10 สัญญาณเตือนช็อกโกแลตซีสต์ ปวดท้องแบบไหนต้องหาหมอ

ช็อกโกแลตซีสต์ เป็นภาวะที่พบได้บ่อยในเพศหญิง ถือเป็นภัยเงียบที่ค่อนข้างรุนแรง เพราะหากช็อกโกแลตซีสต์แตก ก็อาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ ดังนั้นการสังเกตอาการผิดปกติ จึงเป็นสิ่งสำคัญ เพราะถ้ารู้เร็ว รักษาไว ก็มีโอกาสลดความเสี่ยงลงได้

บทความนี้เรารวม 10 สัญญาณเตือนภาวะช็อกโกแลตซีสต์ เอาไว้ให้แล้ว เพื่อให้คุณรู้ว่า อาการแบบใดควรรีบไปพบแพทย์

ทั้งนี้สัญญาณของภาวะช็อกโกแลตซีสต์สามารถแบ่งออกได้เป็น 3 กลุ่มใหญ่ๆ ดังนี้

กลุ่มที่ 1 – อาการที่ควรเฝ้าระวัง

กลุ่มอาการเหล่านี้เป็นอาการที่มักพบได้ทั่วไป แต่ไม่สามารถระบุได้ชัดเจนว่า เป็นอาการของภาวะช็อกโกแลตซีสต์โดยตรง โดยอาการที่ควรเฝ้าระวังภาวะช็อกโกแลตซีสต์ได้แก่

1. ท้องอืด แน่นท้องผิดปกติ

แม้อาการดังกล่าวจะเหมือนดูไม่เกี่ยวข้องกับภาวะช็อกโกแลตชีสต์ของผู้หญิง แต่ก็ถือเป็นสัญญาณเริ่มต้นของช็อกโกแลตซีสต์ได้เช่นกัน

ถ้ารู้สึกว่าเริ่มมีอาการท้องอืดบ่อยขึ้น หรือรู้สึกแน่นท้องแม้รับประทานอาหารน้อย มีอาการจุกเสียดท้องบ่อย ในบางกรณีอาจรู้สึกเหมือนมีก้อนบางอย่างในท้อง หากมีอาการเหล่านี้ควรสังเกตอาการอื่นๆ ร่วม และเฝ้าระวังอาการอื่นๆ เพิ่มเติม

2. ปัสสาวะผิดปกติ

เนื่องจากช็อกโกแลตซีสต์เป็นอาการที่เกิดขึ้นภายในบริเวณอุ้งเชิงกราน จึงอาจส่งผลกระทบต่อระบบปัสสาวะได้ โดยอาจทำให้ ปัสสาวะบ่อยผิดปกติ รู้สึกเจ็บปวดขณะปัสสาวะ มีแรงกดทับกระเพาะปัสสาวะ หรือมีอาการปัสสาวะติดขัดโดยไม่มีสาเหตุ 

3. ปวดท้องน้อย ลามไปที่หลังส่วนล่าง

อาการปวดท้องน้อย ลามไปที่หลังส่วนล่าง หรือบางรายอาจรู้สึกร้าวไปที่ขาและก้น เป็นอีกหนึ่งสัญญาณสำคัญของภาวะช็อกโกแลตซีสต์ เนื่องจากบริเวณหลังส่วนล่าง เป็นตำแหน่งที่ตรงกับอุ้งเชิงกราน มดลูก และรังไข่พอดี ฉะนั้นหากมีช็อกโกแลตซีสต์ อาการปวดอาจลามไปยังบริเวณดังกล่าวได้ และหากปล่อยทิ้งไว้ ไม่รักษา อาการปวดอาจรุนแรงขึ้น

4. มีปัญหาเรื่องการตั้งครรภ์

ผู้หญิงที่วางแผนมีบุตรแล้วยังไม่ประสบความสำเร็จ หรือเคยแท้งบุตรมาก่อนโดยไม่ทราบสาเหตุ อาจเป็นผลมาจากภาวะช็อกโกแลตซีสต์ได้ แต่ก็ต้องมีการสังเกตอาการอื่นๆ ร่วมด้วย หรือ ไปพบแพทย์เพื่อตรวจโดยละเอียด

อย่างไรก็ตาม อาการข้างต้นนั้นแม้จะไม่ใช่อาการที่เร่งด่วน แต่หากเกิดอาการเหล่านี้อย่างน้อย 2 อาการขึ้นไป หรือมีประวัติครอบครัวเป็นภาวะช็อกโกแลตซีสต์ หรือกำลังวางแผนมีบุตรก็ควรพบแพทย์เพื่อทำการตรวจอย่างละเอียด

กลุ่มที่ 2  – อาการที่เฝ้าระวังมากเป็นพิเศษ

กลุ่มอาการเหล่านี้เป็นอาการที่มีความเฉพาะเจาะจงมากขึ้น เนื่องจากเป็นอาการที่เกิดขึ้นกับระบบสืบพันธุ์ ซึ่งถ้าหากมีอาการเหล่านี้ อาจต้องมาการจดบันทึก และสังเกตความผิดปกติอย่างสม่ำเสมอ เพราะอาจเป็นสัญญาณที่บ่งชี้ว่าระบบสืบพันธุ์กำลังมีปัญหา

5. ประจำเดือนผิดปกติ

ประจำเดือนปกติ ก็เป็นอีกสัญญาณสำคัญของภาวะช็อกโกแลตซีสต์ โดยเฉพาะอาการประจำเดือนมาแบบกะปริบกะปรอย มาไม่สม่ำเสมอ มีประจำเดือนมาก หรือนานกว่าปกติ แนะนำให้ปรึกษาแพทย์ เพื่อหาสาเหตุโดยเร็ว

6. ปวดท้องน้อยเรื้อรัง

อาการปวดท้องน้อยอาจถือเป็นอาการทั่วไปที่เกิดขึ้นได้ในช่วงมีประจำเดือน แต่ถ้าหากมีอาการปวดบ่อยๆ แม้ไม่ใช่ช่วงมีประจำเดือน และยิ่งปวดมากขึ้นช่วงมีประจำเดือน บวกกับอาการปวดลึกๆ บริเวณอุ้งเชิงกราน และอาการปวดรบกวนการใช้ชีวิตประจำวัน นั่นอาจจะเป็นสัญญาณของภาวะช็อกโกแลตซีสต์

7. เจ็บขณะมีเพศสัมพันธ์

ช็อกโกแลตซีสต์ที่เกิดขึ้นบริเวณรังไข่ อาจรบกวนการมีเพศสัมพันธ์ได้ โดยหากมีอาการเจ็บลึกๆ ภายในอุ้งเชิงกรานระหว่างมีเพศสัมพันธ์ และมีอาการปวดท้องน้อย หรือมีเลือดออกหลังจากมีเพศสัมพันธ์ ก็ไม่ควรมองว่าเป็นเรื่องปกติ แต่ควรหมั่นสังเกตอาการอื่นๆ ร่วมด้วย เพราะนั่นอาจแปลว่าระบบสืบพันธุ์กำลังผิดปกติ

นอกจากการเฝ้าระวังแล้ว หากมีอาการข้างต้นเกิดขึ้นอย่างน้อย 2 อาการขึ้นไป และเริ่มรบกวนการใช้ชีวิตประจำวัน รวมถึงอาการยิ่งทวีความรุนแรงมากขึ้น ก็ควรเข้ารับการตรวจอย่างละเอียด เพราะหากปล่อยไว้ อาจทำให้รุนแรงจนเป็นอันตรายได้

กลุ่มที่ 3 – อาการที่ต้องรีบพบแพทย์ทันที

กลุ่มอาการเหล่านี้คือสัญญาณที่ชัดเจนของภาวะช็อกโกแลตซีสต์ ซึ่งจำเป็นต้องพบแพทย์อย่างเร่งด่วน เนื่องจากหากปล่อยไว้ อาจเป็นอันตรายต่อระบบสืบพันธุ์ของผู้หญิง และสุขภาพโดยรวม

8. ปวดท้องน้อยรุนแรงเฉียบพลัน

หากมีอาการปวดท้องน้อยแบบเฉียบพลัน รุนแรงมากจนทนไม่ไหว นั่นอาจเป็นสัญญาณของภาวะถุงน้ำของช็อกโกแลตซีสต์ปริ บิดขั้ว หรือแตกได้ ต้องรีบไปโรงพยาบาลทันที เพราะอาจทำให้เกิดภาวะช็อก หมดสติจากการเสียเลือด ติดเชื้อ จนเป็นอันตรายถึงชีวิตได้

9. อาเจียนรุนแรง

อาการอาเจียนอย่างต่อเนื่อง จนไม่สามารถรับประทานอาหารได้ ร่วมกับอาการปวดท้อง อาจไม่ใช่อาการที่เกี่ยวกับระบบย่อยอาหารเพียงอย่างเดียว แต่ยังอาจเป็นสัญญาณอันตรายของภาวะช็อกโกแลตซีสต์ด้วย ดังนี้จึงควรรีบไปพบแพทย์

10. มีไข้สูงร่วมกับปวดท้อง

หากมีไข้สูงเกิน 38.5 องศาเซลเซียส มีอาการหนาวสั่น ร่วมกับอาการปวดท้องน้อยอย่างรุนแรง นั่นอาจเป็นสัญญาณของการติดเชื้อ ควรรีบไปพบแพทย์ทันที เพราะอาจเป็นอันตรายถึงแก่ชีวิตได้

ภาวะช็อกโกแลตซีสต์ มีอาการที่สามารถสังเกตได้ด้วยตัวเอง หากมีอาการใดอาการหนึ่งเกิดขึ้น ควรเฝ้าระวัง จดบันทึกอาการโดยละเอียด และไปพบแพทย์ตรวจอย่างละเอียดเพื่อความปลอดภัย รวมถึงควรตรวจสุขภาพประจำปีอย่างสม่ำเสมอด้วย

ปวดท้องน้อยบ่อยๆ ปวดมากเวลามีประจำเดือน บางครั้งก็ปวดร้าวไปที่หลังล่าง เรากำลังเป็นช็อกโกแลตซีส์หรือเปล่า? อยากตรวจให้แน่ใจ ทักหา HDCare ช่วยคุณนัดคิวตรวจภาวะช็อกโกแลตซีสต์ได้รวดเร็ว คลิกที่นี่เลย

Scroll to Top