อาการปวดหลังหูจี๊ดๆ หรือปวดกกหูด้านซ้าย ด้านขวา อาจเกิดจากปัจจัยหลายอย่าง ตั้งแต่ปัญหากล้ามเนื้อ เช่น กล้ามเนื้ออักเสบหรือตึงเครียด การอักเสบของกระดูกหูชั้นกลาง หรือการติดเชื้อไซนัส หากอาการปวดยังคงรุนแรงหรือมีไข้ร่วม ควรรีบพบแพทย์เพื่อวินิจฉัยและรักษาอย่างเหมาะสม
สารบัญ
อาการปวดหลังหูจี๊ดๆ เพราะเหตุใด ?
สาเหตุของอาการปวดหลังหู หรือ กกหูอาจเกิดจาก
- กล้ามเนื้อตึงเครียด: เช่น จากการนั่งท่าผิดนานๆ
- การติดเชื้อ: เช่น หูชั้นกลางอักเสบ หรือไซนัสอักเสบ
- ปัญหาทางทันตกรรม: เช่น การอักเสบของข้อต่อขากรรไกร
- โรคประสาทอักเสบ: เช่น Neuralgia
ดูแลเบื้องต้นด้วยการประคบร้อน หรือทานยาแก้ปวด หากอาการไม่ดีขึ้นภายใน 2-3 วันควรปรึกษาแพทย์
ปวดกกหู ปวดหลังหู เกิดจากอะไรได้บ้าง ?
สาเหตุที่ทำให้ปวดบริเวณกกหู และ หลังหูได้บ่อย มีดังนี้
- หูอักเสบ การติดเชื้อในหูชั้นกลางหรือชั้นใน
- ข้อต่อขากรรไกรอักเสบ อาการปวดบริเวณขากรรไกรที่ร้าวไปถึงหู
- ต่อมน้ำเหลืองอักเสบ การติดเชื้อที่ทำให้ต่อมน้ำเหลืองหลังหูบวม
- ไซนัสอักเสบ การอักเสบของโพรงไซนัสใกล้หู
- กล้ามเนื้ออักเสบ เกิดจากการเคลื่อนไหวหรือท่าทางผิดปกติ
การดูแลรักษาเบื้องต้น ประคบร้อนหรือเย็น ทานยาแก้ปวด เช่น พาราเซตามอล หากไม่ดีขึ้นหรือมีไข้ ควรพบแพทย์
ปวดหูจี๊ดๆ ข้างเดียว เกิดจากอะไร ?
สาเหตุที่พบบ่อย มีดังนี้
- หูอักเสบ การติดเชื้อในหูชั้นนอกหรือชั้นกลาง อาจมีอาการปวดจี๊ดร่วมกับหูอื้อหรือมีน้ำหนองไหล
- ประสาทหูผิดปกติ เช่น โรค Meniere หรือปัญหาเกี่ยวกับเส้นประสาทในหู
- ข้อต่อขากรรไกร อักเสบหรือเคลื่อน อาจทำให้ปวดร้าวไปถึงหู
- การเปลี่ยนแปลงความดันอากาศ เช่น เวลาขึ้นเครื่องบิน หรือดำน้ำ
- สิ่งแปลกปลอมในหู เช่น ขี้หูอุดตัน หรือแมลงเข้าไปในหู
หากมีอาการรุนแรง เช่น หนองไหล มีไข้ หรือปวดต่อเนื่อง ควรพบแพทย์หู คอ จมูก เพื่อรับการวินิจฉัยและรักษา
คำถามจากผู้ใช้บริการ HDmall
อาการปวดตุบๆ ที่กกหูด้านซ้ายเกิดจากอะไรครับ ?
อาจเกิดได้จากหลายสาเหตุค่ะ ซึ่งอาจเป็นความผิดปกติที่เกิดจากหูโดยตรง เช่น หูติดเชื้อ อักเสบ ขี้หูอุดตัน ฯลฯ หรืออาจเกิดได้จากอวัยวะอื่นๆ ที่อยู่ใกล้ๆ หูหรือเชื่อมโยงถึงกัน เช่น ฟันผุ เป็นหวัด
ความผิดปกติของข้อต่อขากรรไกร คออักเสบ เป็นต้น หากมีอาการปวดก็ควรไปตรวจหาสาเหตุให้แน่ชัดและทำการรักษาพร้อมทั้งดูแลตัวเองตามที่คุณหมอแนะนำค่ะ
ตอบโดย ศิรินทิพย์ ผอมน้อย (นักจิตวิทยาคลินิก)
ปวดหูแปลบๆ ข้างซ้ายข้างเดียว เป็นเวลา 1 อาทิตย์เเล้วค่ะ ลักษณะอาการ คือ ปวดแปลบๆ สักพักหาย และกลับมาเป็นอีกค่ะ ตอนกลืนน้ำลายก็รู้สึกปวดค่ะ ส่วนตอนเขี้ยวอาหาร มีปวดบ้างค่ะ ตรงนี้เข้าข่ายอาการหรือโรคอะไรบ้างคะ ต้องรีบพบแพทย์หรือไม่คะ ?
อาการปวดหู เกิดได้จากหลายสาเหตุค่ะ เช่น
- การติดเชื้อของหู ได้แก่ ติดเชื้อในหูชั้นนอก การติดเชื้อในหูชั้นกลาง อาจมีสาเหตุมาจากการเป็นหวัดนำมาก่อน น้ำเข้าหู หรือการแคะหูบ่อยๆ ไม่สะอาด แล้วมีการติดเชื้อขึ้นไปที่ในชั้นหู อาการจะปวดหู หูอื้อ อาจรู้สึกเหมือนมีเสียงในหูได้ หรือมีน้ำไหลออกมาจากรูหู สามารถรักษาด้วยยาปฏิชีวนะค่ะ
- ข้อต่อกระดูกขากรรไกรอักเสบ เกิดจากมีการอักเสบของข้อต่อที่อยู่บริเวณหน้ากกหู เนื่องจากการเคี้ยวของแข็งหรือเหนียวมากๆ การพูดเยอะ การหาวหรือจามที่ผิดจังหวะ ทำให้ข้อเกิดการอักเสบ การกระทบกระแทก เนื่องจากกระดูกข้อต่อบริเวณอยู่กน้ากกหู เมื่อมีการอักเสบ จึงสามารถทำให้ปวดร้าว หรือรู้สึกเหมือนปวดหูได้ สามารถรักษาได้ด้วยยาแก้ปวดลดอักเสบค่ะ
- เยื่อแก้วหูทะลุ โดยมากมักมีประวัติอุบัติเหตุนำมาก่อน เช่นโดยไม้ปั่นหูกระแทกในรูหู โดนตบบ้องหู เป็นต้นค่ะ สามารถรักษาได้ด้วยการผ่าตัด
แนะนำว่า อาการเป็นมาเวลา 1 สัปดาห์แล้ว ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัย. และทำการรักษาที่ถูกต้องค่ะ
ตอบโดย พญ. สุพิชชา แสงทองพราว
บทความที่เกี่ยวข้อง
- ก้อนหลังใบหู กดแล้วเจ็บ รักษาอย่างไร ?
- สาเหตุที่ทำให้เกิดก้อนหลังหู อันตรายแค่ไหน
- เลือดออกหู เกิดจากอะไร อันตรายไหม รักษาอย่างไร
คำถามสุขภาพที่พบบ่อย