ขาหนีบเสียดสี ขาหนีบดำ มีวิธีแก้ไขอย่างไร ?

ขาหนีบเป็นส่วนหนึ่งของร่างกายที่มีโอกาสเกิดการเสียดสีกันได้ง่าย จนกลายเป็นแผลและมีการอาการแทรกซ้อนได้

ขาหนีบเสียดสี คล้ำ แสบ เพราะอ้วน

สวัสดีค่ะ เป็นคนอ้วนค่ะ ปกตินานๆจะขาหนีบเสียดสีกันจนแสบค่ะ แต่ครั้งนี้ไม่รู้เป็นเพราะเหงื่อออกเยอะรึเปล่า มันเสียดสีกันจนแสบมากๆค่ะ เดินลำบาก ลองดูๆ มันคล้ายผิวแตกเลยค่ะ มันเจ็บมากและแสบมาก อยากรู้ว่าควรใช้อะไรทาให้หายแสบคะ แล้วทาตอนไหนบ้าง ตอนเริ่มแสบแรกๆ ทาแค่แป้งค่ะ ช่วยได้นิดนึงค่ะ ขอบคุณค่ะ

บริเวณดังกล่าวสุ่มเสี่ยงต่อการติดเชื้อรา หรือเป็นเเผลเเล้วมีการติดเชื้อเเบคทีเรียเเทรกซ้อน เบื้อนต้นถ้าเเดงๆ เป็นๆขุยๆเเนะนำปรึกษาเภสัชกรเรื่องยา เช่น Clotrimazole cream ครับ หรือถ้าเป็นแผล หนองซึม อาจเป็นพวก Fucidin cream เเล้วหาเวลาพบเเพทย์  พยายามดูเเลไม่ให้อับชื้นนะครับ

ตอบโดย นพ. วชิรวิทย์ สุทธิศักดิ์

กกน. เสียดสีขาหนีบ แดงคล้ำแสบ

เมื่อ 2 วันที่แล้วรู้สึกแสบที่ขาหนีบ เพราะว่ากกน. เสียดสี วันนี้วันที่ 3 ก็เป็บแบบรูปยังคงแดงแสบ เดินเสียดสีไม่ได้ แก้ไขอย่างไร และเป็นได้ไหมค่ะ ที่จะเป็นเริมหรืองูสวัด ไฟรามทุ่ง หรือเป็นแผลที่เกิดจากการเสียดสีหรือโดนแมลง

(1) รอยที่มีการเสียดสีนั้นมีการบวมแดงค่อนข้างมากแล้วซึ่งก็เป็นการบ่งบอกถึงการอักเสบที่ผิวหนังครับ และในกรณีนี้ก็มักต้องมีการรักษาด้วยยาฆ่าเชื้อเพิ่มเติม

ในกรณีนี้หมอแนะนำว่าควรไปพบแพทย์ผิวหนังเพื่อตรวจประเมินอาการเพิ่มเติมยืนยันสาเหตุให้แน่ชัดก่อนเพื่อที่จะได้ให้การรักษาได้อย่างเหมาะสมครับ

(2) จากรูปลักษณะที่ส่งมาให้หมอดู ยังไม่ดูรุนแรงถึงขนาดที่จะเป็นงูสวัดหรือไฟลามทุ่งครับ และถ้าหากอาการนี้เกิดหลังจากมีการเสียดสีกับกางเกงในอย่างชัดเจนแนวโน้มก็มีมักเป็นรอยที่เกิดจากการเสียดสีมากกว่า เพียงแต่ว่าในกรณีนี้เริ่มจะมีการอักเสบของผิวหนังที่มากกง่าปกติแล้วเท่านั้นจึงจำเป็นต้องได้รับการรักษาครับ

ตอบโดย นพ. กันตณัฏฐ์ อยู่ตรีรักษ์

รอยแดงดำ เจ็บแสบที่ขาหนีบ

สวัสดีค่ะ หนูมีอาการเจ็บแสบบริเวณขาหนีบค่ะ สองส่องกระจกดูแร่วมันมีรอยดำและรอยแดงรอมรอบค่ะ เวลาเอามือไปโดนรึใส่กางเกงแร่วเดินจะรุ้สึกเจบค่ะ ตอนแรกคิดว่าเกิดจากกางเกงชั้นในบาดแต่มันมีรอยดำด้วยอ่ค่ะ พึ่งรุ้สึกเจ็บแสบเมื่อตอนเที่ยงนี่ค่ะ ไม่มีอาการคันค่ะ แบบนี่เป็นอะไร (ปกติจะไม่ใส่ชุดขั้นในนอนค่ะ)

สวัสดีครับ ถ้าจากรูปที่นำมาแสดงให้ดู จะพบว่ามีอาการ เป็นรอยไหม้ และมีอาการแสบ ซึ่งสามารถเกิดได้จากการ เสียดสีของขากับกางเกงในได้ครับ ซึ่งจะทำให้มีอาการดังที่เจ้าของกระทู้กล่าวมาครับ สามารถหายได้เองภายใน 5 วันครับ

ตอบโดย นพ. ปวริศ ยืนยง

ขาหนีบเสียดสี มีตุ่มขึ้น

สวัสดีค่าคุณหมอ หนูมีอาการแสบที่ขาหนีบค่ะ ก่อนหน้านี้ซื้อกางเกงในมาใหม่ ลองใส่แล้วแน่นมาก จนเสียดสีและนูนเป็นรอบยาว จนปัจจุบันกลายเป็นว่า มีตุ่มเล็กๆขึ้น ตอนนี้ 3-5 ตุ่ม มีอาการเจ็บ และเริ่มแสบค่ะ ต้องทายาหรือกินยาอะไรได้บ้างคะ

อาการแสบมีตุ่มที่ขาหนีบหลังจากใส่กางเกงในที่รัดแน่นเกินไป อาจเป็นเพียงอาการอักเสบของผิวหนังธรรมดาหรือมีการติดเชื้อแทรกซ้อนก็ได้ครับ ซึ่งการรักษาใน 2 กรณีนี้จะไม่เหมือนกัน

หมอแนะนำว่าในกรณีนี้ควรไปพบแพทย์ผิวหนังเพื่อตรวจประเมินอาการเพิ่มเติมให้ทราบสาเหตุที่แน่ชัดก่อนเพื่อที่จะได้ให้การรักษาได้อย่างเหมาะสมครับ

ตอบโดย นพ. กันตณัฏฐ์ อยู่ตรีรักษ์

เสียดสี คันตรงขาหนีบและบริเวณใกล้เคียง

มีอาการคันตรงขาหนีบ ก้น และอวัยวะเพศ เป็นบางครั้ง พอทายาก็หาย พอหยุดยาก็เป็นอีก มีลักษณะจุดที่คันขยายเป็นวงกว้าง อยากทราบว่าเป็นอาการอะไร ต้องรักษาอย่างไร (โสดค่ะ)

อาการคันที่ขาหนีบ อาจเกิดได้จากหลายสาเหตุค่ะ เช่น

– มีการเสียดสีของขาหนีบ บริเวณขาหนีบจะมีรอยพับของผิวหนัง หากว่ามีการใส่กางเกงที่รัดแน่นเกินไป จะทำให้เกิดการเสียดสีของผิว และเกิดเป็นผื่นขึ้นได้ มักพบมีอาการแสบคัน ปกติแล้วสามารถหายได้เอง แต่ถ้าคันมาก สามารถทายาแก้คันเพื่อบรรเทาอาการได้ค่ะ และสวมใส่เสื้อผ้าที่สบาย ไม่รัดแน่นจนเกินไป

– อาการคันจากการติดเชื้อรา มักจะมีอาการคันมาก เกิดจากความอับชื้น เหงื่อออกมาก หรือมีความอับชื้นของเสื้อผ้า จะก่อให้เกิดโรคเชื้อราที่ผิวหนังได้ อาการจะพบมีผื่นแดงเป็นวงๆ อาจคันมากบริเวณขอบของผื่น วิธีการตรวจวินิจฉัยโดยการนำขุยบริเวณขอบผิวหนังไปตรวจหาเชื้อราค่ะ หากมีอาการคันมากและมีผื่นแดงลักษณะดังกล่าว แนะนำไปพบแพทย์ การรักษาคือการใช้ยาทาฆ่าเขื้อรา

– ผื่นแดงจากการระคายเคือง อาจเกิดจากการแพ้สารเคมีต่างๆได้ เช่น ครีม โลชั่น สบู่อาบน้ำ ผงซักฟอก น้ำยาปรับผ้านุ่ม แพ้ผ้าอนามัย หากมีการเปลี่ยนเครื่องใช้เหล่านี้ในช่วงก่อนมีผื่น เป็นไปได้ว่าอาจเกิดจากการแพ้สารเคมีค่ะ แนะนำให้กลับไปใช้ยี่ห้อเดิม สามารถซื้อยาแก้แพ้แก้คันสำหรับการระคายเคืองมาทาเพื่อบรรเทาอาการได้ค่ะ

อย่างไรก็ดี หากไม่แน่ใจว่าเกิดจากสาเหตุใด แนะนำให้ไปพบแพทย์ เพื่อซักประวัติ และตรวจร่างกายเพิ่มเติมค่ะ

ตอบโดย พญ. สุพิชชา แสงทองพราว


บทความที่เกี่ยวข้อง

คำถามสุขภาพที่พบบ่อย

Scroll to Top