การใช้ถุงยางอนามัยเป็นหนึ่งในวิธีป้องกันการตั้งครรภ์ที่มีประสิทธิภาพสูง แต่ไม่มีวิธีใดที่ปลอดภัย 100% ถุงยางอนามัยเมื่อใช้อย่างถูกต้องมีประสิทธิภาพสูงถึง 98% แต่หากใช้อย่างไม่ถูกต้อง ประสิทธิภาพอาจลดลงเหลือประมาณ 85% ทำให้ยังมีโอกาสตั้งครรภ์อยู่เล็กน้อย มาทำความเข้าใจปัจจัยที่อาจส่งผลต่อความเสี่ยงนี้เพื่อเพิ่มความมั่นใจในการใช้งานอย่างถูกต้อง
สารบัญ
การถุงยางโอกาสท้องกี่เปอร์เซ็นต์
การใช้ถุงยางอย่างถูกต้องทุกขั้นตอนช่วยลดโอกาสตั้งครรภ์ได้สูงสุด แต่ความเสี่ยง 2-15% อาจมาจากการสวมใส่ผิดวิธี ถุงยางรั่ว หรือหลุดระหว่างใช้งาน ดังนั้น ควรตรวจสอบก่อนและหลังใช้งาน รวมถึงเก็บรักษาในที่เหมาะสม
โอกาสพลาด 2% เพราะอะไร ทำไมถึงไม่ 100% ?
ตัวเลขเฉลี่ยมาจากสถิติจากการทดลอง ซึ่งมีโอกาสพลาด 2%-15% จากความผิดพลาดในกลุ่มผู้ร่วมทดลอง เช่น ผู้ร่วมเก็บสถิติ 100 คน มี 2 คนที่เกิดข้อผิดพลาดจากถุงยางหรือใช้ผิดวิธี
สำหรับคนใช้ถุงยางอนามัยทุกวันเป็นประจำ มีโอกาสที่จะใช้ผิดวิธี หรือประมาทจากความเคยชิน ทำให้เป็นข้อผิดพลาดได้
ข้อผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้น
- ถุงยางรั่วหรือแตก ถุงยางอนามัยอาจรั่วหรือแตกได้ หากใช้อย่างไม่ระมัดระวัง เช่น ใช้เล็บขูด ทำตกหล่น หรือใช้ถุงยางที่หมดอายุ
- ถุงยางหลุดขณะใช้งาน หากถุงยางหลุดระหว่างการมีเพศสัมพันธ์ อสุจิอาจเล็ดลอดเข้าสู่ช่องคลอดได้
- การใช้งานผิดวิธี เช่น การใส่ถุงยางกลับด้านแล้วพลิกกลับมาใช้ใหม่ การไม่บีบปลายถุงยางเพื่อไล่อากาศ หรือใส่ถุงยางไม่แนบสนิทกับอวัยวะเพศ
- การเลือกถุงยางที่ไม่เหมาะสม หากเลือกถุงยางที่ขนาดไม่พอดีกับอวัยวะเพศ อาจทำให้เกิดการรั่วซึมหรือหลุดได้ง่าย
- การเก็บรักษาที่ไม่เหมาะสม ถุงยางที่เก็บในที่ร้อนหรือโดนแสงแดดอาจเสื่อมสภาพ ทำให้ความทนทานลดลง
ดังนั้น หากใช้ถุงยางอย่างถูกต้อง ไม่มีปัญหาถุงรั่ว ถุงแตก ไม่ใช้ผิดวิธี มั่นใจได้ว่าโอกาสตั้งท้องระหว่างสวมถุงยางแทบเป็นศูนย์
อย่างไรก็ตาม การมีเพศสัมพันธ์ถือเป็นเรื่องปกติของคู่รัก ทำให้หลายคนประมาทเมื่อเวลาผ่านไป น้อยคนที่จะปฎิบัติตามขั้นตอนเสมอ ทำให้ยังมีโอกาสพลาดได้บ้าง
คำถามจากผู้ใช้บริการ HDmall
ถุงยาง ถ้าเกิด ฉีกขาด แตก รั่วซึม ระหว่างใช้งาน โอกาสตั้งครรภ์คือ 18% หรือครับ กรณีผมคือ ระหว่างมีsex ผมเอาออกมาดู เห็นว่ามันแตก ฉีกขาด (เหมือนไม่ได้ใส่เลย หัวก็โผล่ โผล่หมดทั้งลำ) ตั้งแต่เมื่อไรไม่รู้ (ตอนเห็นว่ามันแตกขาดยังไม่ได้ถึงจุดสุดยอด ไม่ได้ใกล้เลย) พอเห็นก็รีบเปลี่ยนถุงยางอันใหม่ครับ (แต่ก่อนหน้านี้มีถึงจุดสุดยอด หลั่งไปแล้วครั้งนึง แต่ครั้งนั้น ถุงยางไม่มีปัญหา พอหลั่งเสร็จก็พักแปปนึงแล้วมามีครั้งนี้ต่อเลย) ยังงี้โอกาสตั้งครรภ์ คือ 18% หรือครับ (มารู้ทีหลังว่าใช้ถุงยางไซส์ใหญ่ไปหน่อย ใช้ 49 แต่จริงๆต้องประมาณ 46 แต่ตอนสวมใส่ ไม่ได้รู้สึกหลวมเลยสักนิด รู้สึกพอดี) ?
การใช้ถุงยางอนามัยมีโอกาสตั้งครรภ์ได้ประมาณ 2-18%ค่ะ กรณีถุงยางแตก
แต่ยังไม่ได้มีการหลั่งจะไม่สามารถบอกได้เป๊ะๆ ว่าจะเสี่ยงต่อการตั้งครรภ์กี่เปอร์เซนต์ค่ะ เพราะค่า 2-18% เป็นตัวเลขค่าสถิติเท่านั้น
แต่ถ้าถุงยางแตกสิ่งแรกที่ทำคือให้ฝ่ายหญิงทานยาคุมฉุกเฉินให้เร็วที่สุดหลังมีเพศสัมพันธ์ค่ะ หรืออย่างช้าสุดไม่เกิน 120 ชั่วโมง
ตอบโดย พญ. นิชดา พงษ์ธัญญกรณ์
การมีเพศสัมพันธ์ ถึงแม้ว่าจะสวมถุงยางอนามัยแล้วถุงขาดและมีเพศสัมพันธ์ต่อขณะที่ขาด จนกระทั่งทราบว่ามีการฉีดขาดของถุงยางอนามัย
มีความเสี่ยงในการตั้งครรภ์ได้ครับ คล้ายกรณีมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ใส่ถุงยางอนามัย
ฉะนั้นเพื่อป้องกันการตั้งครรภ์ควรรับประทานยาคุมกำเนิดฉุกเฉิน ถายใน 72 ชั่วโมง ภายหลังมีความเสี่ยงครับ
โดยรับประทาน 2 เม็ดทันที หรือ 1 เม็ดทุก 12 ชั่วโมงตรง รวม 2 เม็ดครับ
ภายหลังทานยาคุมฉุกเฉิน 1-5 วัน อาจมีเลือดออกทางช่องคลอดคล้ายประจำเดือนเป็นผลข้างเคียงของยาคุมฉุกเฉินครับ
ฉะนั้น ควรรอรอบเดือนถัดไปหากมาล่าช้ากว่าปกติเกิน 1 อาทิตย์ หรือถายหลังมีเพศสมัพันธ์นานกว่า14วันิสามารถตรวจสอบการตั้งครรภ์ทางปัสสาวะได้ครับ
ตอบโดย นพ. กอบศักดิ์ ชัยชะแตง
ถ้าจากค่าสถิติที่เก็บมาก็จะไม่สูงไปกว่านั้นค่ะ ยังไงแนะนำให้ทานยาคุมกำเนิดฉุกเฉินป้องกันไว้นะคะ โดยยาคุมฉุกเฉินจะสามารถป้องกันการตั้งครรภ์ได้ 75-85% ค่ะ
ตอบโดย พญ. นิชดา พงษ์ธัญญกรณ์
บทความที่เกี่ยวข้อง
- ใส่ถุงยางอนามัย ไม่รั่ว มีโอกาสท้องไหม ?
- ผู้ชายไม่ใส่ถุงยาง หลั่งนอก มีโอกาสท้องแค่ไหน ?
- มีอะไรกับแฟน แล้วค่อยใส่ถุงยาง มีโอกาสท้องไหม ?
คำถามสุขภาพที่พบบ่อย