หากทานยาคุมกำเนิดแบบ 28 เม็ดถูกต้องและต่อเนื่อง โอกาสตั้งครรภ์ถือว่าน้อยมาก แม้จะมีการหลั่งใน อย่างไรก็ตามเรื่องการกินยาคุมกำเนิดยังคงเป็นข้อสงสัยที่ถูกถามเข้ามาบ่อยมาก ถึงประสิทธิภาพในการป้องกันการคุมกำเนิดและวิธีการทานอย่างถูกต้อง ซึ่งสามารถถามได้โดยตรงที่ร้านขายยาที่มีเภสัชกร หากต้องการถามแบบส่วนตัวสามารถถามผ่านช่องทางต่างๆ ของ HDmall ได้ค่ะ
คำถามจากผู้ใช้บริการ HDmall
ถ้ากินยาคุม 28 เม็ดแล้วมีการหลั่งในจะท้องไหมค่ะ ?
หากมีเพศสัมพันธ์หลั่งในเมื่อมีผลคุมกำเนิดจากยา ก็มีโอกาสน้อยมากที่จะท้องค่ะ
ผลคุมกำเนิดจากยาจะมี ดังนี้
- เริ่มใช้ยาคุมแผงแรกภายใน 5 วันแรกของการมีประจำเดือน ถือว่ามีผลคุมกำเนิดตั้งแต่เม็ดแรกที่รับประทาน สามารถมีเพศสัมพันธ์หลั่งในได้เลย
- หากไม่ได้เริ่มใช้ยาคุมแผงแรกภายใน 5 วันแรกของการมีประจำเดือน (ใช้เฉพาะกรณีที่ไม่มีการตั้งครรภ์อยู่ก่อนใช้ยาแน่นอน) จะต้องใช้ยาคุมชนิดฮอร์โมนรวมติดต่อกันให้ครบ 7 วันก่อนจึงจะมีผลคุมกำเนิดได้ ดังนั้น ใน 7 วันแรกของการรับประทานยา จะต้องใช้ถุงยางร่วมด้วยค่ะ
- มีการรับประทานต่อเนื่องตรงเวลาสม่ำเสมอ ไม่ลืมรับประทานจนทำให้หมดฤทธิ์ในการคุมกำเนิด (ระยะเวลาที่ยืดหยุ่นให้รับประทานช้ากว่าเวลาปกติ หรือลืมรับประทานยา จะขึ้นกับชนิดและปริมาณของฮอร์โมนในยาคุมยี่ห้อที่ใช้ค่ะ)
- ในกรณีที่ใช้ต่อเนื่องมาหลายแผง ถ้ามีการต่อแผงยาอย่างถูกต้อง นั่นคือเมื่อใช้ยาคุมชนิด 28 เม็ดหมดแล้ว วันถัดมาให้ต่อแผงใหม่ได้เลย ก็จะมีผลคุมกำเนิดต่อเนื่องค่ะ
ตอบโดย ภกญ. จินตนา แสงโพธิ์
ถ้าเริ่มกินยาคุม 28 เม็ดครั้งแรกแต่ไม่ได้กินใน 5 วันแรกของการมีประจำเดือนแต่กินตอนที่ประจำเดือนหายแล้ว แล้วเริ่มกิน แล้วมีอะไรกันแฟนแล้วหลั่งในจะท้องไหมคะ ? แล้วต้องเริ่มกินยาคุมแผงใหม่ตอนไหนค่ะ ยาคุมแบบ 28 เม็ดค่ะ ?
ถ้ายังไม่มีผลคุมกำเนิดจากยาคุมรายเดือน ก็จะมีโอกาสตั้งครรภ์ได้ตามปกติค่ะ และหากมีการตั้งครรภ์ขึ้น แม้จะรับประทานยาคุมรายเดือนต่อ ก็ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงอะไรได้นะคะ การตั้งครรภ์ก็จะยังคงอยู่เหมือนเดิมค่ะ
สำหรับยาคุมแผงแรก ถ้าใช้ไม่ทัน 5 วันแรกของการมีประจำเดือน จะต้องรับประทานยาคุมชนิดฮอร์โมนรวมติดต่อกันให้ครบ 7 วันก่อนจึงจะเริ่มคุมกำเนิดได้ค่ะ ในช่วงแรกจึงต้องงดมีเพศสัมพันธ์ หรือต้องใช้ถุงยางอนามัยร่วมด้วยไปก่อนนะคะ
และหากผู้ถามมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ป้องกันไปก่อนที่จะมีผลคุมกำเนิดจากยาคุมรายเดือน ถ้ายังไม่เกิน 120 ชั่วโมงหลังมีเพศสัมพันธ์ก็ควรรับประทานยาคุมฉุกเฉินโดยเร็วที่สุดที่ทำได้ ยิ่งเร็วยิ่งดี อย่างช้าไม่เกิน 120 ชั่วโมงหลังมีเพศสัมพันธ์ เพื่อลดความเสี่ยงดังกล่าวค่ะ
ส่วนคำถามที่ว่า เริ่มกินยาคุมแผงใหม่วันไหน มี 2 ทางเลือกค่ะ
1. รอให้ประจำเดือนมาก่อน แล้วเริ่มใช้ยาคุมภายใน 5 วันแรกของการมีประจำเดือน และจะถือว่ามีผลคุมกำเนิดได้เลยตั้งแต่เม็ดแรกที่รับประทาน จึงมีเพศสัมพันธ์หลั่งในได้เลยโดยไม่ต้องใช้ถุงยางอนามัยร่วมด้วย (แต่ควรรอให้ประจำเดือนหายดีก่อนเพื่อไม่ให้เสี่ยงต่อการติดเชื้อในช่องคลอดและอุ้งเชิงกรานนะคะ)
แต่ต้องเป็นประจำเดือนจริง ๆ นะคะ ไม่ใช่เลือดกะปริบกะปรอยที่เป็นผลข้างเคียงจากการใช้หรือหยุดใช้ยาคุมไม่เหมาะสม ซึ่งประจำเดือนปกติก็ควรจะมีปริมาณมากจนชุ่มผ้าอนามัย 2 – 3 แผ่น/วัน และมาต่อเนื่องกัน 3 – 7 วันค่ะ
2. ถ้ารอนานแล้วไม่มีประจำเดือนมา ให้ตรวจการตั้งครรภ์ด้วยชุดทดสอบทางปัสสาวะ ในตอนเช้าหลังตื่นนอน ห่างจากวันที่มีเพศสัมพันธ์ครั้งล่าสุดอย่างน้อย 14 วัน และหากได้ผลตรวจเป็นไม่ตั้งครรภ์ ก็สามารถเริ่มใช้ยาคุมรายเดือนได้ค่ะ แต่จะต้องงดมีเพศสัมพันธ์ หรือต้องใช้ถุงยางอนามัยร่วมด้วย จนกว่าจะรับประทานยาคุมชนิดฮอร์โมนรวมติดต่อกันให้ครบ 7 วันก่อนนะคะ
ตอบโดย ภกญ. จินตนา แสงโพธิ์
กินยาคุมแบบ 28 เม็ดหลังเป็นประจำเดือนเป็นอะไรไหมค่ะ ไม่ได้กินตอนมีประจำเดือน ?
1. สำหรับยาคุมแผงแรก
จะแนะนำให้ใช้ภายใน 5 วันแรกของการมีประจำเดือน เพื่อให้มั่นใจว่าผู้ใช้ไม่ได้ตั้งครรภ์อยู่นะคะ และการใช้ทันในช่วงเวลานี้ ยาจะมีประสิทธิภาพในการยับยั้งไข่ที่จะตกในรอบเดือนนั้นได้เลย จึงถือว่ามีผลคุมกำเนิดได้ตั้งแต่เม็ดแรกที่รับประทานค่ะ
แต่ถ้าผู้ถามไม่มีความเสี่ยงที่จะตั้งครรภ์ เช่น นับจากวันแรกที่ประจำเดือนมาในรอบล่าสุด มาจนถึงปัจจุบัน ไม่ได้มีเพศสัมพันธ์เลย หากต้องการจะใช้ยาคุมแผงแรกโดยไม่รอใช้ภายใน 5 วันแรกของการมีประจำเดือน ก็สามารถทำได้ค่ะ แต่ยาอาจยับยั้งไข่ที่จะตกในรอบนั้นไม่ทัน จึงต้องงดมีเพศสัมพันธ์หรือต้องใช้ถุงยางอนามัยร่วมด้วยไปก่อนนะคะ ซึ่งหากยาคุมแบบ 28 เม็ดที่ใช้เป็นยาคุมชนิดฮอร์โมนรวม ก็ต้องรอให้รับประทาน “เม็ดยาฮอร์โมน” ติดต่อกันให้ครบ 7 วันก่อนค่ะ และประจำเดือนในรอบนั้นจะเลื่อนช้าออกไป โดยมาในช่วงที่รับประทาน “เม็ดแป้ง” ของแผงนั่นเอง
2. แต่ถ้าเป็นการใช้ต่อเนื่อง
ยาคุมแบบ 28 เม็ด เมื่อหมดแผงเดิมแล้วจะต้องต่อแผงใหม่ในวันถัดมา ไม่ต้องเว้นว่างเพิ่มอีกค่ะ หากยาคุมที่ใช้เป็นยาคุมชนิดฮอร์โมนรวม ก็ควรจะมีประจำเดือนมาในช่วงที่รับประทาน “เม็ดแป้ง” ของแผงด้วยนะคะ โดยมักจะมาหลังใช้ “เม็ดยาฮอร์โมน” หมดไปแล้ว 2 – 3 วัน หรือคลาดเคลื่อนเล็กน้อยค่ะ
เมื่อประจำเดือนมาแล้วก็ถือว่าไม่มีการตั้งครรภ์นะคะ หากใช้ยาคุมแผงเดิมครบ 28 เม็ดก็ต่อแผงใหม่ได้เลย ไม่ต้องสนใจว่าประจำเดือนจะยังมีอยู่หรือว่าหมดไปแล้วในวันที่เริ่มรับประทานแผงใหม่
เพราะเมื่อต่อยาคุมแผงใหม่ตรงตามกำหนด ก็จะถือว่ามีผลคุมกำเนิดต่อเนื่อง จึงมีเพศสัมพันธ์หลั่งในได้ตามปกติ (แต่ควรรอให้ประจำเดือนหายดีก่อน เพื่อไม่ให้เสี่ยงต่อการติดเชื้อในช่องคลอดและอุ้งเชิงกรานค่ะ)
ตอบโดย ภกญ. จินตนา แสงโพธิ์
กินยาคุมไม่ค่อยตรงเวลา เช่น ห่างสัก 1 ชั่วโมงจากที่เรากินอยู่ปกติ แล้วมีความเพศสัมพันธ์หลั่งในตลอด มีสิทธิ์ท้องไหมคะ ?
หากมีผลคุมกำเนิดจากยาคุมรายเดือน สามารถมีเพศสัมพันธ์หลั่งในได้เลยค่ะ ผู้ใช้จะมีโอกาสตั้งครรภ์ 0.3 – 9% แต่ถ้ารับประทานตรงเวลาสม่ำเสมอ ความเสี่ยงจะค่อนไปทางต่ำ คือ 0.3% ซึ่งถือว่าน้อยมากจนไม่น่าจะกังวล
อย่างไรก็ตาม การรับประทานยาคุมคลาดเคลื่อนไปทางจากเวลาปกติไม่เกิน 1 – 2 ชั่วโมง ไม่น่าจะกระทบกับประสิทธิภาพของยามากนัก โดยเฉพาะหากไม่ได้รับประทานผิดเวลาบ่อย ๆ
แต่ถ้าผู้ถามรับประทานผิดเวลาอยู่เป็นประจำ อาจมีความเสี่ยงที่จะตั้งครรภ์สูงกว่าผู้ที่รับประทานตรงเวลาสม่ำเสมอ ดังนั้น ต่อไปควรจะรับประทานยาคุมให้ตรงเวลา หรือเปลี่ยนไปใช้วิธีคุมกำเนิดอื่น ๆ ที่ไม่ต้องบริหารยาบ่อย ๆ เช่น แผ่นแปะคุมกำเนิด, ยาฉีดคุมกำเนิด, ยาฝังคุมกำเนิด หรือห่วงอนามัยนะคะ
ตอบโดย ภกญ. จินตนา แสงโพธิ์
บทความที่เกี่ยวข้อง
- ฉีดยาคุมกำเนิด ข้อดี ข้อเสีย ขั้นตอนการฉีด ข้อควรระวัง
- เลิกฉีดยาคุมแล้วจะตั้งครรภ์เลยไหม?
- กินยาคุมแล้วประจำเดือนมาน้อยลงจริงหรือไม่ รักษาอย่างไร
คำถามสุขภาพที่พบบ่อย