เจ็บสะดือ เกิดจากอะไร แล้วอันตรายไหม

เจ็บสะดืออาจฟังดูเป็นเรื่องแปลก แต่เป็นอาการที่หลายคนเคยประสบ สาเหตุของการเจ็บบริเวณสะดือมีได้หลายอย่าง ตั้งแต่ปัญหาเล็ก ๆ น้อย ๆ อย่างการระคายเคืองผิวหนัง การอักเสบจากแผลหรือการติดเชื้อ ไปจนถึงภาวะที่เกี่ยวข้องกับอวัยวะภายใน เช่น ลำไส้อักเสบ หรือการอุดตันของลำไส้ใหญ่และเล็ก บางกรณีอาจมาจากการมีแผลผ่าตัดหรือไส้เลื่อน ดังนั้นการเจ็บสะดือไม่ควรถูกมองข้าม หากอาการยังคงอยู่ ควรปรึกษาแพทย์เพื่อวินิจฉัยและรับการรักษาที่ถูกต้อง

มีคำถามเกี่ยวกับ เจ็บสะดือ? สอบถามฟรีทาง LINE รับคำตอบได้ทันที ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อความสบายใจของคุณ

สาเหตุของอาการเจ็บสะดือ

แท้จริงแล้วสาเหตุของอาการเจ็บสะดือนั้นมีมากมาย ทั้งที่ไม่อันตราย และเป็นอันตราย เราลองมาดูกันดีกว่าว่ามีอะไรบ้าง

1. เจาะสะดือ

การเจาะสะดืออาจเป็นแฟชันสุดแซ่บ! แต่ก็มีผลเสียกว่าที่คิด เพราะบริเวณที่เจาะนั้นอาจสุ่มเสี่ยงต่อการเกิดแผลติดเชื้อ เนื่องจากดูแลทำความสะอาดไม่ดี หรือใส่จิวที่ไม่สะอาด อีกทั้งการถอดห่วงเจาะออกเองก็เสี่ยงต่อการเกิดแผลอักเสบติดเชื้อได้เหมือนกัน ซึ่งอาการที่มักเกิดขึ้นนอกเหนือจากเจ็บสะดือ คือผิวรอบสะดือบวมแดง มีเลือดและหนองไหลออกมา และอาจรู้สึกแสบคันด้วย

2. เกิดบาดแผล

การแคะ เขี่ย และทำความสะอาดสะดือไม่ถูกวิธี ก็อาจทำให้เกิดแผลที่สะดือได้ ซึ่งเป็นสาเหตุที่พบได้บ่อยๆ และด้วยลักษณะของสะดือที่เว้าลงไปเป็นหลุม ทำให้บางครั้งเรามองไม่เห็นว่ามีบาดแผลเกิดขึ้น ดังนั้น ทางที่ดีควรหลีกเลี่ยงการแคะเขี่ยสะดือจะดีกว่า

3. ผิวหน้าท้องขยาย

ว่าที่คุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์ก็อาจมีอาการเจ็บสะดือได้เหมือนกัน เนื่องจากผิวและกล้ามเนื้อหน้าท้องขยายตัวออก สะดือจึงถูกดึงรั้งจนรู้สึกเจ็บระคายเคืองได้ นอกจากนี้ ยังมักเกิดอาการคันหน้าท้องได้เช่นกัน ซึ่งถือว่าเป็นอาการปกติที่ไม่ต้องกังวล

4. อาการหลังผ่าตัด

หลังการผ่าตัดเนื้อเยื่อจะเกิดการซ่อมแซมตัวเองจนกลายเป็นพังผืด ยิ่งแผลผ่าตัดอยู่ใกล้สะดือมากเท่าไหร่ เวลาขยับตัวพังผืดก็จะดึงรั้งเส้นประสาททำให้เนื้อเยื่อบริเวณข้างเคียงเกิดอาการเจ็บจี๊ดๆ ไปด้วย ซึ่งหากเจ็บรุนแรงมากก็อาจทำให้เรารำคาญใจถึงขั้นทรมานได้

มีคำถามเกี่ยวกับ เจ็บสะดือ? สอบถามฟรีทาง LINE รับคำตอบได้ทันที ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อความสบายใจของคุณ

5. การใช้แรง/ยกของหนัก

การออกกำลังกายหรือยกของหนักจนเกิดแรงกดที่หน้าท้อง อาจทำให้กล้ามเนื้อหน้าท้องหดเกร็งรุนแรงจนเสียหายหรือฉีกขาดได้ และยิ่งถ้าออกแรงแบบเดิมเป็นประจำ อาจทำให้กล้ามเนื้อบริเวณนั้นอักเสบจนกลายเป็นพังผืด เมื่อเราขยับตัวจะมีการดึงรั้งพังผืดจนรู้สึกเจ็บสะดือขึ้นมาเฉยๆ ได้

6. ลำไส้อักเสบ

การปวดตำแหน่งกึ่งกลางท้องและรอบสะดือนั้นอาจบ่งบอกถึงความผิดปกติของลำไส้ โดยเฉพาะโรคลำไส้อักเสบที่พบได้บ่อย และมักก่ออาการเจ็บท้อง ปวดบิด รวมถึงอาการอื่นๆ เช่น ท้องร่วง ถ่ายเหลวมีมูกเลือด คลื่นไส้ อาเจียน และอาจมีไข้หนาวสั่นด้วย

7. มดลูกกดทับ

ในหญิงตั้งครรภ์ที่หน้าท้องมีขนาดใหญ่ขึ้น มดลูกจะขยายตัวจนไปกดทับกล้ามเนื้อผนังหน้าท้องและเส้นประสาทรอบๆ จนทำให้รู้สึกเจ็บสะดือได้ ซึ่งเป็นอาการที่พบได้บ่อยและไม่อันตราย

8. ไส้เลื่อน

ไส้เลื่อนคือการที่ลำไส้เล็กเคลื่อนที่ไปกองอยู่ผิดตำแหน่ง ซึ่งสามารถเกิดกับบริเวณรอบๆ สะดือได้เหมือนกัน หากสาเหตุเกิดจากไส้เลื่อน มักพบก้อนบวมแถวๆ สะดือ รวมถึงอาจปวดมวนท้อง อาหารไม่ย่อย และคลื่นไส้อาเจียนด้วย

การรักษาอาการเจ็บสะดือ

การรักษานั้นแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการ ซึ่งโดยหลักการแล้วจะมีแนวทางรักษาดังนี้

  • หากสาเหตุมาจากไส้เลื่อน ต้องรักษาด้วยการผ่าตัด หากเป็นโรคลำไส้อักเสบ สิ่งที่ต้องระวังคือภาวะร่างกายขาดน้ำ จึงต้องรักษาโดยการดื่มน้ำเกลือและให้สารน้ำชดเชยเป็นหลัก
  • หากเกิดอาการเจ็บหลังการออกแรงหรือยกของหนัก ให้งดออกแรงกดที่หน้าท้อง เพื่อป้องกันกล้ามเนื้ออักเสบเรื้อรัง
  • หากเกิดบาดแผลอักเสบที่สะดือ ให้ใช้ก้านพันสำลีชุบน้ำยาฆ่าเชื้อหรือแอลกอฮอล์เช็ดทำความสะอาดเบาๆ และหากแผลมีการติดเชื้อแบคทีเรียก็อาจต้องทานยาปฏิชีวนะด้วย

การป้องกันอาการเจ็บสะดือ

สำหรับอาการเจ็บสะดือที่เกิดจากสาเหตุที่หลีกเลี่ยงได้ เราสามารถป้องกันได้ดังนี้

  • หากรักจะเจาะสะดือ ควรดูแลความสะอาดให้ดี เลือกใส่จิวหรือห่วงเจาะที่สะอาด ผ่านการฆ่าเชื้อ และหากต้องการเอาห่วงออก ควรให้แพทย์เอาออกให้
  • หลีกเลี่ยงการใช้เล็บหรือวัตถุปลายแหลมแคะเขี่ยสะดือ การทำความสะอาดควรใช้ก้านพันสำลีชุบน้ำเช็ดเบาๆ เท่านั้น
  • หลีกเลี่ยงการยกของหนัก หรือออกแรงกดที่หน้าท้องอย่างหนักต่อเนื่องเป็นเวลานาน

เปรียบเทียบราคาแพ็กเกจตรวจสุขภาพ

มีคำถามเกี่ยวกับ เจ็บสะดือ? สอบถามฟรีทาง LINE รับคำตอบได้ทันที ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อความสบายใจของคุณ

หากคุณติดตั้ง LINE บนคอมพิวเตอร์ของคุณแล้ว ระบบจะเปิดบัญชีทางการ LINE ของ Jib AI ผู้ช่วยสุขภาพ โดยอัตโนมัติ

หากคุณยังไม่ได้ติดตั้ง LINE บนเดสก์ท็อป โปรดสแกน QR โค้ดด้วย LINE บนโทรศัพท์มือถือของคุณเพื่อเริ่มแชทกับ Jib AI ผู้ช่วยสุขภาพ