อยากมีฟันสวยและมีสีขาวสว่าง แค่แปรงฟันให้สะอาดอย่างเดียวนั้นไม่พอ แต่จะเลี่ยงไม่กินอาหารหรือเครื่องดื่มที่ไม่มีสีเลยก็คงจะทรมานตัวเองจนเกินไป หลายคนจึงมองหาวิธีการช่วยให้ฟันแลดูกระจ่างขึ้น
วิธีการทำให้ฟันขาวกระจ่างขึ้นก็มีด้วยกันหลายวิธี เช่น การทำวีเนียร์ การใช้ยาสีฟันที่ช่วยปรับสีฟัน การฟอกสีฟัน Zoom และวิธีที่จะพูดถึงในบทความนี้ นั่นก็คือการฟอกสีฟัน Cool Light
สารบัญ
- ฟอกสีฟัน Cool Light คืออะไร?
- ฟอกสีฟัน Cool Light กี่ครั้งเห็นผล?
- ฟอกสีฟัน Cool Light อยู่ได้นานไหม?
- ฟอกสีฟัน Cool Light เจ็บไหม?
- ฟอกสีฟัน Cool Light ใช้เวลานานไหม?
- ข้อดีของการฟอกสีฟัน Cool Light
- ข้อเสียของการฟอกสีฟัน Cool Light
- ฟอกสีฟัน Cool Light เหมาะกับใคร?
- ฟอกสีฟัน Cool Light ไม่เหมาะกับใคร?
- การเตรียมตัวก่อนฟอกสีฟัน Cool Light
- ขั้นตอนการฟอกสีฟัน Cool Light
- การดูแลตัวเองหลังฟอกสีฟัน Cool Light
- ผลข้างเคียงของการฟอกสีฟัน Cool Light
ฟอกสีฟัน Cool Light คืออะไร?
การฟอกสีฟัน Cool Light (Cool Light Teeth Whitening) คือ แนวทางการปรับเนื้อฟันที่ดูเหลืองหรือหมองคล้ำให้ดูขาวสว่างขึ้น ผ่านการทาน้ำยาที่มีส่วนผสมของไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ (Hydrogen Peroxide)
จากนั้นยิงพลังงานแสงสีฟ้าเข้มข้น (Blue LED Light) หรือที่เรียกได้อีกชื่อว่า “แสงเย็น” ลงไปที่เนื้อฟัน เพื่อกระตุ้นให้น้ำยาขจัดคราบฝังแน่นที่ทำให้สีฟันหมองคล้ำออกไปจนหมด
ฟอกสีฟัน Cool Light กี่ครั้งเห็นผล?
ส่วนมากการฟอกสีฟัน Cool Light จะเห็นผลลัพธ์ตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำ โดยหลังจากทันตแพทย์ลงน้ำยาและยิงพลังงานแสงสีฟ้าลงไปที่เนื้อฟันครบจำนวนครั้งแล้ว ก็จะสังเกตเห็นสีของฟันที่ขาวขึ้นได้โดยทันที
อย่างไรก็ตาม ผลลัพธ์การฟอกสีฟัน Cool Light ขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆ ด้วย เช่น สภาพฟันดั้งเดิมของผู้รับบริการ ซึ่งทันตแพทย์จะเป็นผู้ประเมินและพูดคุยถึงผลลัพธ์ที่เหมาะสมตามแต่ละคนไป
ฟอกสีฟัน Cool Light อยู่ได้นานไหม?
การฟอกสีฟัน Cool Light จะให้ผลลัพธ์อยู่ได้นานประมาณ 6 เดือนถึง 1 ปีครึ่ง หลังจากนั้นสีฟันก็จะค่อยๆ ลดความขาวลง ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสีฟันเดิมของผู้เข้ารับบริการ รวมถึงปัจจัยอื่นๆ ที่ทำให้สีฟันหมองคล้ำลงได้อีก เช่น ช่วงอายุ ยาประจำตัว โรคประจำตัว
นอกจากนี้หากผู้เข้ารับบริการเป็นผู้ที่สูบบุหรี่ บริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และกินอาหารหรือดื่มเครื่องดื่มที่มีสีอยู่เป็นประจำ สีของฟันก็อาจลดความขาวลงเร็วกว่านั้นได้เช่นกัน
ดังนั้น หากต้องการให้สีฟันหลังฟอกคงอยู่ต่อไปนานๆ อาจต้องปรับวิธีการใช้ชีวิต หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่ รวมถึงเลี่ยงอาหารที่มีสีจัด เช่น ชา กาแฟ ซอสสีเข้มต่างๆ เป็นต้น
ฟอกสีฟัน Cool Light เจ็บไหม?
การฟอกสีฟัน Cool Light ไม่สร้างความรู้สึกเจ็บต่อผู้เข้ารับบริการแต่อย่างใด แต่มักสร้างความรู้สึกเสียวฟันให้กับผู้เข้ารับบริการระหว่างการฟอกสีฟัน และหลังจากฟอกสีฟันไปแล้วประมาณ 24-48 ชั่วโมง
ฟอกสีฟัน Cool Light ใช้เวลานานไหม?
การฟอกสีฟัน Cool Light มักใช้ระยะเวลาประมาณ 45-60 นาที ขึ้นอยู่กับแต่ละสถานที่ให้บริการ นอกจากนี้ในบางกรณีทันตแพทย์อาจแนะนำให้ขูดหินปูน หรือตรวจฟันก่อนรับบริการด้วย
ข้อดีของการฟอกสีฟัน Cool Light
อย่างที่กล่าวไปข้างต้นว่าการฟอกสีฟันมีด้วยกันหลายวิธี แต่ละวิธีก็มีข้อดีแตกต่างกันออกไป ต่อไปนี้จะเป็นข้อดีของการฟอกสีฟันแบบ Cool Light
- เห็นผลลัพธ์ได้เร็วกว่าการฟอกสีฟันด้วยชุดฟอกเองที่บ้าน
- ใช้เวลาทำไม่นาน เพียงประมาณไม่เกิน 1 ชั่วโมงก็เสร็จ
- กลับมาทำซ้ำได้อีก เมื่อฟันเริ่มมีสีหมองคล้ำอีกครั้ง
- ไม่ทำให้รู้สึกเจ็บแต่อย่างใด
- เป็นการฟอกสีฟันกับทันตแพทย์ จึงมีความปลอดภัยต่อช่องปาก
ข้อเสียของการฟอกสีฟัน Cool Light
ข้อเสียของการฟอกสีฟัน Cool Light ที่ควรพิจารณาก่อนตัดสินใจ อาจมีดังต่อไปนี้
- อาจมีอาการเสียวฟันเกิดขึ้นระหว่างฟอกสีฟัน และหลังฟอกสีฟันประมาณ 24-48 ชั่วโมง
- ผลลัพธ์ไม่คงอยู่ตลอดไป
ฟอกสีฟัน Cool Light เหมาะกับใคร?
สำหรับผู้ที่กำลังหาข้อมูลว่าตนเองเหมาะกับการฟอกสีฟัน Cool Light หรือไม่ สามารถพิจารณาเบื้องต้นได้จากข้อดังต่อไปนี้
- ผู้ที่อยากให้ฟันขาวขึ้นภายในเวลาอันรวดเร็ว
- ผู้ที่รู้สึกไม่มั่นใจในสีฟันเดิม และอยากให้ฟันขาวขึ้น
- ผู้ที่ฟันหมองคล้ำหรือเหลืองจากการกินยาบางชนิด และอยากปรับให้สีฟันกลับมาดูขาวอีกครั้ง
- ผู้ที่ต้องใช้รอยยิ้มในการประกอบอาชีพเป็นประจำ เช่น ดารา นักแสดง พนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน
- ผู้ที่ต้องการให้ฟันขาวขึ้นในระยะเวลาหนึ่ง และมีเวลากลับมาฟอกสีฟันซ้ำในอนาคตเมื่อฟันเริ่มลดความขาวลง
ฟอกสีฟัน Cool Light ไม่เหมาะกับใคร?
ผู้ที่ตรงกับข้อดังต่อไปนี้ อาจต้องปรึกษาทันตแพทย์ก่อนฟอกสีฟัน Cool Light
- สตรีมีครรภ์และกำลังให้นมบุตร
- เด็กอายุต่ำกว่า 16 ปี ซึ่งเป็นช่วงอายุที่เส้นประสาทและโพรงประสาทฟันยังไม่แข็งแรง ซึ่งอาจทำให้เด็กรู้สึกเสียวฟันได้มาก
- ผู้ที่สุขภาพฟันยังมีปัญหา หรือเป็นโรคบางอย่างเกี่ยวกับช่องปาก ควรรักษาให้หายเสียก่อน เช่น โรคเหงือกอักเสบ ฟันผุ มีปัญหาเกี่ยวกับรากฟัน
- ผู้ที่ครอบฟัน รักษารากฟัน หรือใส่วีเนียร์ ในกรณีที่รับบริการฟอกสีฟัน สีของวัสดุบูรณะฟันในส่วนนี้จะไม่มีสีที่เปลี่ยนแปลงไปด้วย
- ผู้ที่ฟันคล้ำเข้มมากๆ การฟอกสีฟันอาจให้ผลลัพธ์ของฟันที่ขาวขึ้นได้ไม่มากพอ แพทย์อาจแนะนำให้เปลี่ยนไปใช้วิธีใส่วีเนียร์ที่ผิวฟันแทน
การเตรียมตัวก่อนฟอกสีฟัน Cool Light
- แจ้งประวัติสุขภาพ โรคประจำตัว ประวัติยาประจำตัว ประวัติแพ้ยาต่างๆ อาหารเสริม วิตามินเสริม สมุนไพรเสริมสุขภาพที่กำลังกินอยู่ ณ ปัจจุบัน
- ควรงดบริโภคอาหารและเครื่องดื่มที่มีสี 24 ชั่วโมงล่วงหน้า ก่อนเดินทางมาฟอกสีฟัน
- ควรตรวจฟัน ขูดหินปูน เคลียร์ช่องปากให้เรียบร้อยก่อน
- ในกรณีที่ตรวจฟับโรคปริทันต์ ฟันผุ หรือความผิดปกติอื่นๆ ในช่องปาก ควรรักษาให้หายเรียบร้อยก่อนแล้วค่อยฟอกสีฟัน
- แปรงฟันให้สะอาดก่อนเดินทางมาศูนย์ทันตกรรม
ขั้นตอนการฟอกสีฟัน Cool Light
ขั้นตอนการฟอกสีฟัน Cool Light นั้นเรียบง่าย ไม่ซับซ้อน แต่ก็อาจมีความแตกต่างกันออกไปได้ตามแต่ละสถานที่ให้บริการ โดยขั้นตอนหลักๆ ที่พบได้ อาจมีดังต่อไปนี้
- ทันตแพทย์เคลียร์ช่องปากและตรวจฟันทุกซี่เสียก่อน
- ทันตแพทย์เทียบสีฟันเดิมกับสีฟันใหม่ที่จะเปลี่ยนไปหลังฟอกสีฟันกับอุปกรณ์ตัวอย่างเฉดสีฟัน
- ทันตแพทย์ทาวาสลีนที่ริมฝีปาก ตามด้วยใส่อุปกรณ์ถ่างผยุงช่องปาก เพื่อให้ผู้เข้ารับบริการอ้าปากในระหว่างฟอกสีฟันได้นานๆ
- ทันตแพทย์ถ่ายภาพสีฟันเดิมไว้เป็นข้อมูลการรักษา จากนั้นใส่อุปกรณ์ปิดเหงือกเพื่อป้องกันไม่ให้เหงือกสัมผัสกับน้ำยาฟอกสีฟัน จนเกิดความระคายเคือง
- ทันตแพทย์ทาน้ำยาฟอกสีฟันลงไปที่ผิวฟัน
- ทันตแพทย์ยิงพลังงานแสงเย็นลงไปที่ผิวฟันส่วนที่เคลือบน้ำยา 3 ครั้ง ครั้งละ 15 นาที
การดูแลตัวเองหลังฟอกสีฟัน Cool Light
ทันตแพทย์ หรือเจ้าหน้าที่ในคลินิกจะเป็นผู้แนะนำการดูแลตัวเองหลังฟอกสีฟัน Cool Light ให้หลังรับบริการอยู่แล้ว โดยข้อควรรู้หลักๆ อาจมีดังต่อไปนี้
- ใช้ยาสีฟันสูตรลดอาการเสียวฟันประมาณ 1-2 วันแรก อาจปรึกษาทันตแพทย์ถึงความเหมาะสมในการเลือกใช้ด้วย
- ควรงดกินอาหารและเครื่องดื่มที่มีสีประมาณ 24 ชั่วโมงแรกหลังฟอกสีฟัน
- หลังจากนั้นให้พยายามหลีกเลี่ยงการกินอาหารและเครื่องดื่มที่มีสีให้มากที่สุด หากจำเป็นต้องดื่มเครื่องดื่มที่มีสีจัด ใช้ใช้หลอดดูดแทนการดื่ม
- งดสูบบุหรี่และบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้น้อย
- เดินทางไปตรวจฟันกับทันตแพทย์ทุก 6 เดือนอย่างสม่ำเสมอ
ผลข้างเคียงของการฟอกสีฟัน Cool Light
การฟอกสีฟัน Cool Light มักทิ้งผลข้างเคียงเป็นอาการเสียวฟันหลังรับบริการประมาณ 24-28 ชั่วโมง หลังจากนั้นอาการก็จะค่อยๆ บรรเทาหายไป หรือในผู้เข้ารับบริการบางท่านก็ยังอาจพบอาการระคายเคืองเหงือกจากการสัมผัสน้ำยาฟอกสีฟันได้บ้าง
การฟอกสีฟัน Cool Light เป็นการปรับเปลี่ยนสีของฟันที่ทำได้ง่าย ปลอดภัย และเห็นผลลัพธ์ได้ชัดเจนภายในเวลาอันรวดเร็วก็จริง แต่ทั้งนี้ระยะเวลาที่ความขาวสว่างจะอยู่กับสีฟันของผู้เข้ารับบริการก็ขึ้นอยู่กับแนวทางการดูแลรักษาหลังจากฟอกสีฟันด้วย
หากผู้เข้ารับบริการยังคงกินอาหารและดื่มเครื่องดื่มที่มีสีเข้มจัดอยู่เป็นประจำ แนวโน้มที่สีฟันจะกลับมาหมองหรือเป็นสีเหลืองเข้มอยู่เช่นเดิมก็มีสูง ตามปัจจัยที่เร่งให้มีคราบเกาะอยู่บนเนื้อฟันมากขึ้น
ดังนั้นการจะมีฟันที่ขาวดูสะอาดตาจะพึ่งพาแค่การฟอกสีฟันอย่างเดียวไม่ได้ แต่ยังต้องอาศัยการเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวันของผู้เข้ารับบริการด้วย
ที่มาของข้อมูล
- Corey Whelan, How Long Does Teeth Whitening Last? (https://www.healthline.com/health/how-long-does-teeth-whitening-last)
- Jennifer Larson, Can Blue Light Treatment Whiten Teeth? (https://www.healthline.com/health/dental-and-oral-health/blue-light-teeth-whitening)
- WebMD, Teeth Whitening (https://www.webmd.com/oral-health/teeth-whitening#091e9c5e80007b1e-5-11)
- ทพญ.พิรมล เทพมงคล, จะทำอย่างไรให้ฟันขาว (https://www.si.mahidol.ac.th/th/healthdetail.asp?aid=94)