รอยแตกลาย (Stretch Mark) เป็นอีกรอยด่างคล้ำบนเนื้อผิวที่เกิดจากการยืดหดอย่างรวดเร็วของผิวหนัง ทำให้คอลลาเจนและอีลาสตินที่ทำหน้าที่สร้างความยืดหยุ่นให้กับผิวเกิดการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างอย่างกะทันหัน จนเนื้อเยื่อชั้นหนังแท้ฉีกขาดออกจากกัน จึงทำให้เกิดรอยแตกลายขึ้นและรอยแตกลายนี้เองก็เป็นอีกตัวแปรสำคัญที่บั่นทอนความมั่นใจให้กับใครหลายคน ไม่ว่าจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย
วิธีการรักษารอยแตกลายนั้นทำได้หลายวิธี ทั้งการทายา ทำทรีตเมนต์ผิว แต่วิธีที่ได้รับความนิยมกันอย่างมากในปัจจุบันก็คือ “การยิงเลเซอร์” หรือที่เรียกในชื่อเต็มว่า “เลเซอร์รอยแตกลาย” ซึ่งเป็นแนวทางการลดเลือนรอยแตกลายให้จางลง ผ่านการยิงคลื่นพลังงานหรือลำแสงพิเศษเพื่อซ่อมแซมผิว แล้วเลเซอร์รอยแตกลายมีกี่แบบ เจ็บหรือไม่ ก่อนยิงและหลังยิงต้องดูแลตนเองอย่างไร
สารบัญ
เลเซอร์รอยแตกลายมีแบบไหนบ้าง?
1. เลเซอร์รอยแตกลายด้วย Picosecond
พลังงานเลเซอร์ Picosecond เป็นพลังงานเลเซอร์ที่มีระดับความเร็วในการยิงพลังงานลงไปใต้ชั้นผิวสั้นและเร็วมากๆ โดยพลังงาน 1 หน่วย Picosecond ที่แพทย์ยิงลงไป จะเท่ากับ 1 ในล้านล้านส่วนของ 1 วินาที ซึ่งจากจุดเด่นด้านความเร็วของยิงพลังงานในส่วนนี้ จึงทำให้เม็ดสีที่มีความผิดปกติใต้ชั้นผิวได้รับการแก้ไขฟื้นฟูจากพลังงานเลเซอร์ได้อย่างรวดเร็ว และละเอียดมากที่สุด
โดยในส่วนของการรักษารอยแตกลาย หลังจากยิงเลเซอร์ลงไปแล้ว พลังงานเลเซอร์ Picosecond จะเข้าไปกระตุ้นการสร้างเนื้อเยื่อคอลลาเจนและอีลาสตินใหม่ตรงผิวส่วนที่มีรอยแตกลาย ซึ่งจะช่วยฟื้นฟูให้รอยแตกลายที่เห็นได้ชัดค่อยๆ ลดเลือนจางลง
นวัตกรรม Picosecond ยังสามารถใช้แก้ปัญหาผิวหน้าและผิวกายอื่นๆ ได้อีกหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการลบรอยสัก การรักษารอยสิว รอยแผลเป็น รอยเม็ดกระ รอยฝ้า หรือจุดด่างดำไม่พึงประสงค์อื่นๆ หลายสถานพยาบาลยังใช้นวัตกรรม Picosecond ร่วมกับการรักษาหลุมสิวผ่านวิธีการ Subcision ด้วย
ข้อดีของการเลเซอร์รอยแตกลายด้วย Picosecond
- มีหน่วยการยิงพลังงานที่รวดเร็วมากๆ จึงจะไม่ทิ้งความร้อนจากพลังงานเลเซอร์เอาไว้ที่ผิวเลย และช่วยลดโอกาสเกิดผิวไหม้ หรือความรู้สึกร้อนจัดบนเนื้อผิวระหว่างรับบริการ
- ผลลัพธ์เห็นได้ค่อนข้างเร็วและละเอียด ซึ่งเป็นผลพลอยได้มาจากพลังงานที่ยิงลงไปยังชั้นผิวได้รวดเร็วมากๆ จึงทำให้ทุกเซลล์ผิวหนังที่มีปัญหาได้รับการรักษาอย่างถ้วนถี่ที่สุด
- แก้ปัญหาผิวได้หลากหลาย แทบจะครอบคลุมปัญหาผิวทั้งหมดที่หลายคนเผชิญเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นรอยจุดด่างดำ ความหมองคล้ำบนผิว รอยฝ้าจากแสงแดด รูขุมขนที่กว้าง ก็สามารถใช้พลังงานเลเซอร์ Picosecond แก้ปัญหาได้
ข้อเสียของการเลเซอร์รอยแตกลายด้วย Picosecond
- ราคาสูง เนื่องจากเป็นนวัตกรรมที่ช่วยแก้ปัญหาผิวได้อย่างละเอียดและเห็นผลเร็ว โดยค่าใช้จ่ายมักจะอยู่ที่หลักหมื่นขึ้นไป
- ความรู้สึกเจ็บ โดยผู้เข้ารับบริการอาจเผชิญความรู้สึกเจ็บแสบเหมือนผิวถูกดีดหนังยางอย่างแรงระหว่างยิงเลเซอร์ได้ แต่โดยทั่วไปทางสถานพยาบาลจะมีการทายาชาให้ล่วงหน้าก่อนเริ่มยิงเลเซอร์ และอาจมีประคบเย็นกับเป่าลมเย็นช่วยอีกแรงด้วยในระหว่างรับบริการ
- ยังต้องรักษาหลายครั้งอย่างสม่ำเสมอ จึงจะเห็นผลลัพธ์ได้ชัด การรักษาเพียงครั้งเดียวหรือรักษาหลายครั้งแต่ทิ้งระยะเวลาแต่ละครั้งนานเกินไป อาจไม่ทำให้ผู้เข้ารับบริการเห็นผลลัพธ์จากการรักษาได้
- มีรอยแดงที่เห็นได้ชัด ต่างจากนวัตกรรมเลเซอร์ตัวอื่นที่จะเห็นรอยแดงเพียงเล็กน้อย หรือเห็นเป็นรอยแดงจ้ำที่พอจะอำพรางด้วยการใส่หน้ากากหรือแต่งหน้าได้ แต่รอยแดงจากการยิงพลังงานเลเซอร์ Picosecond บางเครื่องอาจแดงคล้ำเข้มกว่า และจะคงระยะเวลาของรอยนี้อยู่ประมาณ 3-6 สัปดาห์
2. เลเซอร์รอยแตกลายด้วย Fractional CO2
นวัตกรรม Fractional CO2 เป็นพลังงานเลเซอร์ที่มีลักษณะการปล่อยลำแสงเป็นแบบลำตรงเล็กๆ หลายตำแหน่ง เหมือนกับการยิงเลเซอร์หลายลำแสงจากในหัวยิงเดียวลงไปใต้ชั้นผิว หลังจากนั้นพลังงานเลเซอร์ที่มีอยู่หลายลำแสงจะเข้าไปฟื้นฟูรักษาปัญหาผิวในตำแหน่งที่แม่นยำตามที่แพทย์กำหนด
ในส่วนของการรักษารอยแตกลาย นวัตกรรม Fractional CO2 จะมีแนวทางการรักษาโดยการเข้าไปกระตุ้นการผลัดเซลล์คอลลาเจนผิวใหม่ และกำจัดเซลล์ผิวเดิมที่เสียหายออกไป เพื่อให้รอยแตกลายจางลง แต่ก็จะไม่ไปทำลายเซลล์เนื้อเยื่อที่อยู่ข้างเคียงให้เสียหายไปด้วย
ข้อดีของการเลเซอร์รอยแตกลายด้วย Fractional CO2
- ไม่ทำให้รู้สึกเจ็บ และแทบไม่ต้องทายาชาก่อนยิงเลเซอร์เลย จึงเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจในผู้เข้ารับบริการที่กลัวเจ็บในระหว่างรับบริการ
- สามารถกำหนดตำแหน่งในการรักษาได้แม่นยำ เนื่องจากลำแสงของเลเซอร์มีขนาดเล็ก
- ฟื้นฟูปัญหาผิวได้ทั้งรอยดำและรอยแดง
- ราคาย่อมเยากว่า โดยในบางสถานพยาบาลคิดค่าบริการยิงเลเซอร์ด้วยนวัตกรรม Fractional CO2 อยู่ที่หลักพันเท่านั้น
ข้อเสียของการเลเซอร์รอยแตกลายด้วย Fractional CO2
การรักษารอยแตกลายด้วย นวัตกรรม Fractional CO2 ต้องทำหลายครั้งจึงจะเห็นผล การยิงเลเซอร์เพียงครั้งเดียวอาจไม่ทำให้รอยแตกลายจางลงได้อย่างที่คาดหวัง
3. เลเซอร์รอยแตกลายด้วย VBeam
วีบีม (VBeam) เป็นนวัตกรรมเลเซอร์ชนิด Pulsed Dye Laser เพื่อรักษารอยแดงบนเนื้อผิวโดยเฉพาะ ไม่ว่าจะเป็นรอยแดงจากสิว รอยเส้นเลือดฝอย ปานแดง หรือรอยแตกลายสีแดงอมม่วง โดยเมื่อยิงพลังงานลงไป พลังงานจากเครื่อง VBeam จะเข้าไปจัดระเบียบเส้นเลือดฝอยเล็กๆ ใต้ผิวที่ทำให้เกิดรอยแดงใหม่ และกระตุ้นการสร้างเซลล์คอลลาเจนเพิ่มใต้ผิว เพื่อปรับสภาพให้ผิวที่คล้ำเป็นรอยแดงค่อยๆ กระจ่างใสขึ้น
ข้อดีของการเลเซอร์รอยแตกลายด้วย VBeam
- เน้นรักษารอยแดงโดยเฉพาะ จึงช่วยแก้ปัญหาเฉพาะด้านให้กับผู้ที่มีรอยหมองคล้ำที่เป็นสีแดงได้อย่างหมดจด
- มีส่วนช่วยกระตุ้นความกระจ่างใสและความเรียบเนียนให้กับผิวร่วมไปกับการรักษารอยแดงได้ด้วย
ข้อเสียของการเลเซอร์รอยแตกลายด้วย VBeam
- ราคาค่อนข้างสูง โดยค่าใช้จ่ายในการยิงเลเซอร์ VBeam 1 ครั้ง โดยเฉลี่ยจะอยู่ที่ประมาณ 3,000 บาทขึ้นไป
- ไม่สามารถรักษารอยดำได้อย่างเห็นผล หากผู้ที่มีปัญหารอยแดงบนผิวปล่อยปัญหารอยแดงทิ้งไว้ระยะหนึ่ง แล้วรอยแดงเปลี่ยนเป็นรอยออกโทนสีดำคล้ำแทน การรักษาด้วย VBeam ก็จะไม่ตอบโจทย์อีกต่อไป และต้องไปรักษาด้วยนวัตกรรมอื่นแทน
- อาจทำให้รู้สึกเจ็บได้บ้าง แต่โดยส่วนมากมักอยู่ในระดับที่ทนได้ และบางสถานพยาบาลจะมีการทายาชาหรือประคบเย็นเพื่อบรรเทาอาการให้
4. การเลเซอร์รอยแตกลายด้วย Dual Yellow Laser
นวัตกรรม Dual Yellow Laser สามารถผลิตพลังงานแสงเลเซอร์ได้ถึง 2 แบบ พลังงานแบบแรก คือ พลังงานเลเซอร์สีเหลือง มีความยาวคลื่น 578 นาโนเมตร และมีคุณสมบัติช่วยลดเลือนรอยแดงบนผิวโดยเฉพาะ รวมถึงช่วยฟื้นฟูโครงสร้างคอลลาเจนใต้ผิวให้มีความยืดหยุ่นอย่างสุขภาพดี ช่วยฆ่าเชื้อโรคบนผิวอันเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดปัญหาสิวอักเสบได้
พลังงานแบบที่สอง คือ พลังงานเลเซอร์สีเขียว มีความยาวคลื่น 511 นาโนเมตร มีคุณสมบัติลดรอยต่างดำต่างๆ ได้แทบทุกรูปแบบ เช่น รอยกระ รอยฝ้า รอยแผลเป็นจากสิว และยังช่วยขับความกระจ่างใสให้กับเนื้อผิวได้อีกด้วย
การรักษารอยแตกลายด้วยนวัตกรรม Dual Yellow Laser จะเป็นการผสานพลังงานเลเซอร์สีเหลืองกับพลังงานเลเซอร์สีเขียวร่วมกัน เพื่อให้รอยแตกลายได้รับการกระตุ้นให้เกิดการสร้างเซลล์คอลลาเจนใหม่อย่างรวดเร็ว และปรับสภาพความยืดหยุ่นที่ผิดปกติของรอยแตกลายให้กลายเป็นชั้นผิวที่สม่ำเสมอและเรียบเนียนทั่วถึงกัน
ข้อดีของการเลเซอร์รอยแตกลายด้วย Dual Yellow Laser
- ไม่ทำให้รู้สึกเจ็บ เพราะลักษณะการยิงเลเซอร์จากเครื่อง Dual Yellow Laser จะเป็นแบบการลากถูหัวปล่อยพลังงานเลเซอร์ลงไปที่ผิว ไม่ใช่การยิงเลเซอร์เป็นจังหวะช็อตส์เหมือนวัตกรรมอื่น จึงไม่ทำให้รู้สึกเจ็บแสบผิวแต่อย่างใด เพียงแต่จะมีความรู้สึกร้อนๆ อุ่นๆ เกิดขึ้นเท่านั้น
- รักษาได้ทั้งรอยดำและรอยแดงร่วมกันได้อย่างไม่จำกัด
- ราคาไม่แพงมากนัก โดยเฉลี่ยค่าบริการต่อครั้งจะอยู่ที่ 2,000-4,500 บาท ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขราคาของแต่ละสถานพยาบาล
ข้อเสียของการเลเซอร์รอยแตกลายด้วย Dual Yellow Laser
- ผลลัพธ์เห็นได้ในระยะสั้น จึงไม่เหมาะกับผู้ที่ต้องการเห็นผลลัพธ์ของรอยแตกลายที่จางลงในระยะยาว
- ต้องรับบริการหลายครั้งจึงจะเห็นผล และยังต้องอาศัยความต่อเนื่องในการรับบริการให้ครบจำนวนครั้งตามที่แพทย์แนะนำด้วย
5. ลดรอยแตกลายด้วย IPL
นวัตกรรมพลังงาน IPL เป็นอีกนวัตกรรมรักษาผิวที่มีชื่อเสียงมาอย่างยาวนาน โดยมีชื่อย่อมาจาก “Intense Pulsed Light Laser” เป็นการยกเอาศาสตร์การใช้แสงแฟลชจากกล้องถ่ายรูปมาผลิตเป็นคลื่นพลังงานแสงเข้มข้นหลายความยาวคลื่นสำหรับรักษาปัญหาผิว
นวัตกรรมพลังงาน IPL มีจุดเด่นด้านการฟื้นฟูสุขภาพผิวได้อย่างทั่วถึงครอบคลุมหลายปัญหา ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนเพื่อปรับสภาพผิวที่เป็นร่องลึกอย่างรอยตีนกา ริ้วรอยแห่งวัย รวมถึงรอยแตกลาย และยังช่วยขจัดเม็ดสีเมลานินที่ผิดปกติจนเกิดเป็นรอยหมองคล้ำหรือจุดด่างดำบนเนื้อผิว ทำให้ผิวดูเปล่งประกายกระจ่างใสขึ้น และยังมีรูขุมขนที่กระชับขึ้นอีกด้วย
ข้อดีของการลดรอยแตกลายด้วย IPL
- ราคาบริการต่อครั้งอยู่ที่หลัก 1,000-2,000 บาท จึงจัดเป็นอีกตัวเลือกพลังงานที่ให้ราคาค่าใช้จ่ายย่อมเยา
- ให้ความรู้สึกเจ็บน้อยกว่าเลเซอร์แบบอื่น
- พลังงานเลเซอร์มีความอ่อนโยนต่อผิว และไม่สร้างความเสียหายให้กับเซลล์ผิวโดยรอบ
ข้อเสียของการลดรอยแตกลายด้วย IPL
- ไม่เหมาะกับผู้ที่มีผิวคล้ำ
- ต้องรับบริการหลายครั้งเช่นเดียวกัลเลเซอร์แบบอื่น จึงจะเห็นผลลัพธ์ในการรักษา
เลเซอร์รอยแตกลายจุดไหนได้บ้าง?
โดยทั่วไปการเลเซอร์ลบรอยแตกลายจะทำได้ครอบคลุมทุกบริเวณที่มักเกิดปัญหารอยแตกลาย เช่น น้ำท้อง ต้นขา สะโพก หรือแก้มก้น เพียงแต่จำนวนครั้งที่ทำในแต่ละบริเวณอาจแตกต่างกันไปตามคำแนะนำของแพทย์
เลเซอร์รอยแตกลายเจ็บไหม?
การเลเซอร์ลบรอยแตกลายอาจสร้างความรู้สึกเจ็บหรืออุ่นร้อนที่ผิวในระหว่างรับบริการได้บ้าง แต่โดยทั่วไปจะอยู่ในระดับที่อดทนได้
การเตรียมตัวก่อนเลเซอร์รอยแตกลาย
- ผู้เข้ารับบริการควรมาพบแพทย์เพื่อให้แพทย์ตรวจดูปัญหารอยแตกลายส่วนที่ต้องการรักษาล่วงหน้าก่อนรับบริการจริง
- หลีกเลี่ยงการพาตัวเองไปเผชิญแสงแดดจัดๆ หรือหากจำเป็นต้องออกไปในที่โล่งแจ้ง ให้สวมหมวก ใส่แว่นกันแดด ใส่เสื้อผ้าที่ปกปิดผิวจากแสงแดด และทาครีมกันแดด SPF 50+ ทุกครั้ง
- งดกิจกรรมที่สร้างความร้อน หรือการอยู่ในที่อุณหภูมิสูงๆ ชั่วคราว เช่น การอาบน้ำร้อน การแช่ซาวน่า ออนเซน การทำสปา
- หมั่นทามอยเจอร์ไรเซอร์หรือสารสร้างความชุ่มชื้นให้กับผิวอย่างสม่ำเสมอ
- สามารถแต่งหน้าหรือทาผลิตภัณฑ์บำรุงผิวได้ปกติ
- งดการทำทรีตเมนต์ผิว แวกซ์ขน ถอนขน หรือการเลเซอร์ผิวแบบอื่นๆ ก่อนรับบริการประมาณ 1-2 สัปดาห์
- หากใกล้วันรับบริการมีปัญหาสิวอักเสบ ผิวหนังอักเสบ ผิวติดเชื้อ มีแผลสด ควรเลื่อนนัดหมายออกไปและรักษาให้หายเสียก่อนรับบริการ
ขั้นตอนการเลเซอร์รอยแตกลาย
การเลเซอร์รอยแตกลายมีขั้นตอนที่ไม่ซับซ้อน อันดับแรก ผู้เข้ารับบริการอาจต้องเปลี่ยนชุดไปเป็นชุดเสื้อกล้ามกับกางเกงขาสั้นเพื่อให้ง่ายต่อการเลเซอร์รอยแตกลาย จากนั้นเจ้าหน้าที่ทำความสะอาดผิวส่วนที่ต้องการรักษา มีการทายาชา หรือประคบเย็นเพื่อลดอาการเจ็บแสบผิวระหว่างรับบริการ จากนั้นแพทย์จะเริ่มยิงเลเซอร์รักษารอยแตกลายลงไปทีละส่วนอย่างละเอียด
หลังจากยิงเลเซอร์เสร็จแล้ว เจ้าหน้าที่จะทาครีมลดการระคายเคืองและเพิ่มความชุ่มชื้นให้ จากนั้นผู้เข้ารับบริการเปลี่ยนชุดกลับไปเป็นชุดเดิม แล้วสามารถเดินทางกลับบ้านได้
การดูแลตัวเองหลังเลเซอร์รอยแตกลาย
- หมั่นกลับมาเลเซอร์ตามจำนวนครั้งที่แพทย์แนะนำอย่างสม่ำเสมอ อย่าทิ้งระยะเวลาในแต่ละครั้งนานเกินไป เพื่อให้ผลลัพธ์หลังการรักษาเห็นการเปลี่ยนแปลงตามที่ต้องการ
- ทามอยเจอร์ไรเซอร์หรือครีมเสริมความชุ่มชื้นให้กับผิว เพราะผิวที่เพิ่งผ่านการยิงเลเซอร์มามักเผชิญกับปัญหาแห้งเป็นขุย จนอาจทำให้ผิวตกสะเก็ดหรือสร้างความรู้สึกระคายเคืองได้
- ดื่มน้ำให้เพียงพอ เพื่อกระตุ้นให้ผิวชุ่มชื้นอยู่เสมอ
- งดการออกไปเผชิญแสงแดดจัดๆ ในระยะยาว เพราะจะยิ่งทำให้ผลลัพธ์หลังการยิงเลเซอร์ยิ่งเห็นผลน้อยลง
เลเซอร์รอยแตกลายเป็นกระบวนการที่ช่วยเร่งให้รอยแตกลายจางลงได้ แต่ต้องอาศัยความอดทน และความสม่ำเสมอในการกลับมารับบริการด้วย มิฉะนั้นผลลัพธ์หลังการรักษาอาจไม่เห็นผลการเปลี่ยนแปลงใดๆ
นอกจากนี้ผู้ที่สนใจเลเซอร์รอยแตกลายยังควรปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับนวัตกรรมเลเซอร์ที่เหมาะกับปัญหาผิวของตนเองก่อนรับบริการ อย่าเพิ่งเชื่อคำโฆษณาหรือการอวดอ้างสรรพคุณที่อาจเกินจริงของเลเซอร์แล้วไปรับบริการโดยทันที เพราะนั่นอาจแลกมาด้วยผลลัพธ์ที่ไม่คุ้มค่าต่อเงินที่เสียไป และอาจทำให้รอยแตกลายไม่จางลงอย่างที่คาดหวัง