กินยาคุมแล้วประจำเดือนมาน้อยลงจริงหรือไม่ รักษาอย่างไร

ผู้ที่รับประทานยาคุมชนิดฮอร์โมนรวม หากใช้ได้ถูกต้องและไม่มีการตั้งครรภ์ ก็ควรจะมีประจำเดือนมาตามรอบปกติทุก ๆ เดือน แต่ก็พบได้เช่นกันว่าผู้ใช้บางราย โดยเฉพาะถ้ารับประทานยาคุมต่อเนื่องกันเป็นเวลานาน ที่จะมีประจำเดือนมาน้อยลง หรือขาดหายไปในบางเดือน กินยาคุมแล้วประจำเดือนมาน้อยควรจะแก้ไขอย่างไร

มีคำถามเกี่ยวกับ ประจำเดือนมาน้อย? สอบถามฟรีทาง LINE รับคำตอบได้ทันที ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อความสบายใจของคุณ

กลไกของประจำเดือน

เมื่อระดับฮอร์โมนเอสโตรเจนต่ำลงสุดขีดในช่วงที่มีประจำเดือน ต่อมใต้สมองส่วนหน้าก็จะหลั่งฮอร์โมน FSH มากระตุ้นให้ไข่โตขึ้น และโพรงไข่ก็จะหลั่งฮอร์โมนเอสโตรเจนออกมาและทำให้เยื่อบุมดลูกหนาตัวขึ้น

เมื่อไข่เจริญเติบโตเต็มที่ ต่อมใต้สมองส่วนหน้าก็จะหลั่งฮอร์โมน LH ออกมาเพื่อกระตุ้นให้ไข่ตก

หลังจากที่มีไข่ตก โพรงไข่ก็จะพัฒนาเป็นคอร์พัสลูเทียม และหลั่งฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนออกมาเปลี่ยนแปลงหลอดเลือดและต่อมต่าง ๆ ในเยื่อบุมดลูก เพื่อให้พร้อมรับการฝังตัวของไข่ที่อาจจะได้ผสมกับอสุจิ

คอร์พัสลูเทียมยังหลั่งฮอร์โมนเอสโตรเจนออกมาด้วย แต่ปริมาณไม่มากเท่ากับที่หลั่งจากโพรงไข่ในช่วงก่อนไข่ตก ฮอร์โมนจากคอร์พัสลูเทียมจะไปยับยั้งต่อมใต้สมองส่วนหน้าไม่ให้หลั่งฮอร์โมน FSH และ LH ออกมา เพื่อจะได้ไม่มีการเลี้ยงไข่ใบใหม่และตกไข่ซ้ำซ้อนกัน

หากไม่มีการฝังตัว ไม่ว่าจะเป็นเพราะไข่ไม่ได้ผสมกับอสุจิ หรือผสมกันแล้วแต่ฝังตัวไม่สำเร็จก็ตาม คอร์พัสลูเทียมจะฝ่อและสลายตัวไป ระดับฮอร์โมนเอสโตรเจนและโปรเจสเตอโรนที่เคยหลั่งมาจากคอร์พัสลูเทียมก็จะลดลง ซึ่งการที่ระดับฮอร์โมนโปรเจสตินลดต่ำลงมากจะส่งผลให้เกิดการหลุดลอกของเยื่อบุมดลูกออกมา เมื่อเกิดการฉีกขาดของเยื่อบุและหลอดเลือดบริเวณเยื่อบุ ก็จะทำให้มีเลือดออกมาเป็นประจำเดือน

ดังนั้น หากมีปริมาณฮอร์โมนเอสโตรเจนมาก โดยเฉพาะในช่วงก่อนไข่ตก เยื่อบุมดลูกก็จะมีการหนาตัวมาก ทำให้เมื่อถึงเวลาที่มีการหลุดลอก ก็จะมีการฉีกขาดของเยื่อบุและหลอดเลือดบริเวณเยื่อบุมาก ทำให้มีประจำเดือนมามาก

ทำไมกินยาคุมกำเนิดแล้วถึงมีประจำเดือน

สำหรับผู้ที่ใช้ยาคุมกำเนิด โดยปกติแล้วจะไม่มีไข่ตก การที่มีประจำเดือน เกิดจากการเลียนแบบ “ช่วงปลอดฮอร์โมน” ตามธรรมชาติ นั่นคือ ช่วงที่เว้นว่าง 7 วันสำหรับผู้ที่ใช้ยาคุมแบบ 21 เม็ด หรือช่วงที่รับประทาน “เม็ดแป้ง” สำหรับผู้ที่ใช้ยาคุมแบบ 28 เม็ด เมื่อไม่ได้รับฮอร์โมนต่อ ระดับฮอร์โมนที่ลดลงจนถึงระดับต่ำสุดก็จะทำให้เยื่อบุมดลูกเกิดการหลุดลอก

ยาคุมชนิดฮอร์โมนรวมที่มีจำหน่ายในปัจจุบัน ส่วนใหญ่จะเป็นแบบที่ “เม็ดยาฮอร์โมน” มีปริมาณยาเท่ากันทุกเม็ด (Monophasic combined pills) และมักจะมีปริมาณเอสโตรเจนในระดับต่ำ (Ethinylestradiol < 0.050 มิลลิกรัม/เม็ด)

มีคำถามเกี่ยวกับ ประจำเดือนมาน้อย? สอบถามฟรีทาง LINE รับคำตอบได้ทันที ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อความสบายใจของคุณ

อีกทั้งการที่มีฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนมาตั้งแต่แรก การเปลี่ยนแปลงของเยื่อบุมดลูกจึงเป็นในลักษณะเพิ่มความ “หนาแน่น” มากกว่าเพิ่มความ “หนาตัว” เมื่อเยื่อบุไม่ได้หนาตัวขึ้นมาก เวลาหลุดลอกจึงมีการฉีกขาดและมีประจำเดือนน้อยกว่าปกติ

จะเห็นได้ว่าประจำเดือน ไม่ใช่เลือดเสียที่ค้างอยู่ในมดลูก แต่เป็นเลือดปกติที่มาจากการฉีกขาดของเยื่อบุและหลอดเลือดบริเวณเยื่อบุ ซึ่งเยื่อบุก็จะมีการหลุดลอกและหนาตัวขึ้นใหม่ทุก ๆ เดือน ตามลักษณะของการได้รับฮอร์โมน ดังนั้น แม้จะมีประจำเดือนมาน้อยลง หรือขาดหายไปในบางเดือน หากมั่นใจว่าไม่ได้เกิดจากการตั้งครรภ์อย่างแน่นอน ก็ไม่มีปัญหา เพราะไม่ได้ส่งผลเสียต่อสุขภาพแต่อย่างใด

กินยาคุมแล้วประจำเดือนมาน้อย แก้ไขอย่างไร

ผู้ที่ใช้ยาคุมชนิดฮอร์โมนรวม ถ้าใช้ถูกต้องและไม่ได้ตั้งครรภ์ แต่มีประจำเดือนมาน้อยลง หรือขาดหายไปในบางเดือน หากต้องการแก้ไข ก็มีทางเลือกดังต่อไปนี้

  • ไม่ต้องทำอะไร ปล่อยไปตามธรรมชาติของการใช้ยาคุม
  • เพิ่มปริมาณฮอร์โมนเอสโตรเจนให้มากขึ้น
  • เปลี่ยนไปใช้ยาคุมที่มีระดับของฮอร์โมนในเม็ดยาแตกต่างกัน (Multiphasic combined pills)

ไม่ต้องกังวลใจ หรือแก้ไขอะไรให้วุ่นวาย เพราะการที่มีประจำเดือนมาน้อยลงไม่ได้ส่งผลเสียใด ๆ ต่อสุขภาพ ดีซะอีกที่ไม่ต้องเปลืองค่าผ้าอนามัยเยอะ

โดยการรับประทานสมุนไพรที่มีสารไฟโตเอสโตรเจน หรือสารคล้ายฮอร์โมนเอสโตรเจนที่มีในธรรมชาติ ที่รู้จักกันดีก็คือพวกยาสตรี อย่างไรก็ตาม วิธีนี้อาจทำให้เกิดปัญหาเลือดกะปริบกะปรอยได้

วิธีที่ง่ายกว่า คือ เปลี่ยนไปใช้ยาคุมสูตรใหม่ที่มีปริมาณเอสโตรเจนมากขึ้นกว่าเดิม แต่การเพิ่มปริมาณฮอร์โมน ก็ทำให้ผลข้างเคียงหรืออันตรายจากฮอร์โมนเพิ่มขึ้นได้เช่นกัน ผู้ใช้จึงอาจคลื่นไส้, อาเจียน, ปวดศีรษะ, บวมน้ำ หรือเป็นฝ้าได้มากกว่าเดิม โดยเฉพาะถ้าเปลี่ยนไปใช้ยาคุมที่มีฮอร์โมนเอสโตรเจนสูงมาก

อีกวิธีหนึ่งที่ทำได้ก็คือ เปลี่ยนไปใช้ยาคุมที่มีระดับฮอร์โมนในเม็ดยาเลียนแบบการหลั่งฮอร์โมนตามธรรมชาติ ซึ่งยาคุมชนิดนี้จะมีระดับโปรเจสเตอโรนต่ำในช่วงแรก ซึ่งจะทำให้เยื่อบุมดลูกมีโอกาสหนาตัวมากขึ้น

เมื่อเทียบกับยาคุมรุ่นเก่า ๆ ที่มีปริมาณฮอร์โมนสูงมาก ยาคุมชนิดที่มีฮอร์โมนหลายระดับ ถือว่ามีปริมาณฮอร์โมนรวมทั้งแผงน้อยกว่า จึงมีผลข้างเคียงจากฮอร์โมนน้อยกว่า

อย่างไรก็ตาม ยาคุมส่วนใหญ่ที่ใช้ในปัจจุบัน มีปริมาณฮอร์โมนเอสโตรเจนอยู่ในระดับต่ำและต่ำมาก เมื่อเทียบกันแล้ว หลาย ๆ ยี่ห้อมีปริมาณเอสโตรเจนรวมทั้งแผงน้อย แต่ถ้าเทียบฮอร์โมนโปรเจสเตอโรน ก็ยังถือว่ายาคุมแบบฮอร์โมนหลายระดับ มีปริมาณโปรเจสเตอโรนน้อยกว่ายาคุมยี่ห้ออื่นที่มีสูตรใกล้เคียงกัน

แต่ถึงกระนั้น ยาคุมชนิดนี้ก็ไม่ได้รับความนิยมมากนัก เนื่องจากใช้ยาก ต้องรับประทานให้ถูกต้องตามลำดับอย่างเคร่งครัด และอาจพบปัญหาเลือดกะปริบกะปรอยจากการเปลี่ยนระดับของฮอร์โมนที่ต่างกันได้มากกว่ายาคุมทั่วไปที่มีฮอร์โมนเท่ากันทุกเม็ด แต่ถ้ารับได้ และต้องการให้มีประจำเดือนมามากขึ้น วิธีนี้ก็ถือเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ทำได้

มีคำถามเกี่ยวกับ ประจำเดือนมาน้อย? สอบถามฟรีทาง LINE รับคำตอบได้ทันที ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อความสบายใจของคุณ

หากคุณติดตั้ง LINE บนคอมพิวเตอร์ของคุณแล้ว ระบบจะเปิดบัญชีทางการ LINE ของ Jib AI ผู้ช่วยสุขภาพ โดยอัตโนมัติ

หากคุณยังไม่ได้ติดตั้ง LINE บนเดสก์ท็อป โปรดสแกน QR โค้ดด้วย LINE บนโทรศัพท์มือถือของคุณเพื่อเริ่มแชทกับ Jib AI ผู้ช่วยสุขภาพ